ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่อากิโอะเข้าปะทะกับหนึ่งในผู้กล้า
-- มุมมองของทัตสึยะ
--
ในขณะเดินทางไปยังปราสาทกูสตาฟ ผมก็ได้ฉวยโอกาสลวนลามอเดลจัง
หนึ่งในน้องสาวสุดที่รักของผมแบบตั้งใจไปพร้อมกันด้วย
「ทั้งๆที่บอกว่าไม่ชอบแต่ก็ยังใช้น้ำหอมที่ผมเป็นคนซื้อให้นี่นา?」
ผมพูดออกไปพร้อมกับลูบไล้เส้นผมอ่อนนุ่มสีบรอนซ์ทองของอเดลจังเล่นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
สำหรับอเดลจังนั้นถึงแม้ภายนอกเธอจะค่อนข้างเย็นชากับผมมาก
แต่การที่เธอเป็นแบบนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นเพราะเธอไม่อยากจะแย่งเอาเวลาที่ผมมอบให้กับอาเรียไป
แต่การที่เธอคิดถึงความสุขของพี่สาวมาก่อนเรื่องของตัวเธอเองเนี่ย
มันกลับทำให้ผมรู้สึกสนใจและอยากจะกลั่นแกล้งเธอขึ้นมากกว่าเดิม กับเด็กสาวที่พยายามเล่นตัวด้วยเหตุผลอะไรแบบนี้น่ะ
เป็นอะไรที่ชอบผมสุดๆเลยล่ะ
「กับของขวัญที่พี่เขยอุส่าลำบากนำมามอบให้นี่น่ะ
จะให้ชั้นเอาไปทิ้งหรือมอบให้กับคนอื่นก็คงไม่ได้อยู่แล้วนี่คะ」
อเดลตอบผมกลับมาด้วยคพูดและน้ำเสียงเย็นชาเหมือนดั่งเช่นทุกที
แต่ใบหน้าของเธอในตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเล็กน้อย กับอาการของเธอแบบนี้เนี่ยมันทำให้อารมณ์ของผมพุ่งพล่านไปทั้งตัวเลยทีเดียว
「เหห
เธอกำลังจะบอกว่าถ้าเป็นสิ่งที่ผมมอบให้ล่ะก็
ยังไงเธอก็จะต้องยอมรับมันโดยไม่มีทางเลือกอื่นงั้นสินะ」
ผมเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของอเดลจังเบาๆและตามด้วยการงับที่ใบหูของเธอ
「ฟุเคี๊ยะ!! ทะ ทำอะไรกันคะ!!! พวกเรากำลังอยู่ในสนามรบนะคะ!!!」
อเดลจังสะดุ้งและพยายามผลักผมออกไป
ซึ่งก็แน่นอนว่าแรงของเธอมันไม่พอจะทำให้ผมขยับไปได้เลยแม้แต่นิดเดียว
「หืมม ? นี่เธอยังไม่รู้สินะ
ผมน่ะชอบทำเรื่องลามกกับพวกสาวๆไปพร้อมๆกับทำสงคราม ยิ่งเป็นในสนามรบก็ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น นั่นสินะ...ถ้าให้พูดมันก็คงจะเป็นความรู้สึกที่ผมไม่อาจจะอดทนไหว....แบบนี้ไงล่ะ!!」
ผมตอบอเดลจังพร้อมกับบีบหน้าอกเล็กๆของเธอด้วยมือซ้าย
และล้วงเข้าไปสัมผัสส่วนสำคัญใต้กระโปรงของเธอด้วยมือขวา
「ฟุเคี๊ยะ!! ยะ หยุดเลยนะคะ!!! ชั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำอะไรแบบนี้นะคะ!!!」
อเดลจังพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อหยุดมือแสนซุกซนทั้งสองข้างของผม
ซึ่งก็แน่นอนว่าผมจะไม่มีทางยอมหยุดอย่างแน่นอน
「ถ้าเธอตะโกนเสียงดังแบบนั้นล่ะก็
พวกทหารคนอื่นๆจะหันมามองกันนะ ดูนั่นสิ
พวกนั้นเริ่มชี้มาที่เธอกันใหญ่แล้วนะ...」
ผมพูดพร้อมกับบอกให้อเดลจังมองไปยังกองทหารของพวกเราที่อยู่รอบๆ
พวกนั้นเองก็ดูจะอยากเห็นผมทำเรื่องลามกกับอเดลจังจึงพยายามบังคับให้นกเกรูโด้บินเข้ามาใกล้ๆพวกเราช้าๆโดยไม่ให้เสียรูปขบวน
「ทัตสึยะซามะ
อเดลจังพึ่งจะเคยเข้าร่วมสงครามเป็นครั้งแรก ถ้ายังไงช่วยให้เวลาเธอได้ปรับตัวก่อนสักหน่อยดีกว่านะคะ」
และในจังหวะที่ผมคิดว่าอเดลจังกำลังจะเริ่มมีอารมณ์ร่วม
คาโอริจังหนึ่งในภรรยาสุดที่รักของผมก็ได้เข้ามาขวางเอาไว้ก่อน
แต่ถึงแม้คาโอริจังที่พูดออกมานั้นจะเหมือนกับทำเพื่อปกป้องอเดลจัง
แต่ผมก็สามารถที่จะรับรู้ความหมายจริงๆของเธอได้เป็นอย่างดี
「นั่นสินะ ในเมื่อเป็นครั้งแรกของอเดลจังก็คงจะช่วยไม่ได้
ผมจะให้เวลาเธอเตรียมพร้อมอีกสักหน่อยก็แล้วกัน」
เมื่อผมยอมปล่อยมือออกจากส่วนสำคัญของอเดลจัง
คาโอริก็ส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนมาให้ ใช่แล้วล่ะ
ในเมื่อมันเป็นครั้งแรกแสนสำคัญของอเดลจัง ผมเองก็ควรจะอ่อนโยนกับเธอให้มากกว่านี้
เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้น
ผมก็เริ่มคิดถึงสถานที่ที่จะทำให้ประสบการณ์ครั้งแรกของอเดลจังนั้นกลายเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเธอ
หุหุ ถ้าจะให้ดีก็คงจะต้องเป็นที่นั่นล่ะน่ะ
「เธอก็ได้ยินที่พูดแล้วนะอเดลจัง หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้จบลง ผมจะขอพรากเอาครั้งแรกของเธอไป
เพราะงั้นจนกว่าจะถึงตอนนั้นก็เตรียมใจให้พร้อมด้วยล่ะ」
ผมพูดออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ อเดลจังที่ได้ยินคำพูดของผมก็หลบหน้าไปในทันที
แต่ใบหูที่แดงก่ำของเธอนั้นได้บ่งบอกว่าเธอกำลังอายสุดขีด
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอได้ตอบตกลงกับผมแล้วนั่นเอง
「ตูมมมมมมม!!!」「ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」「ตูมมมมมมม!!!」「ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」
และในขณะที่ผมกำลังกลั่นแกล้งอเดลจังอยู่นั้น
การต่อสู้ของพวกที่อยู่ด้านหน้าสุดก็เริ่มต้นขึ้น
เสียงของบีทเตอร์หลากหลายรุ่นดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
ดูเหมือนว่าพวกทหารในกองพันแวร์วูล์ฟของผมจะอดกลั้นกันมานาน
พวกนั้นก็เลยจัดอาวุธหนักกันใหญ่โตโดยไม่คิดจะลังเลเลยแม้แต่น้อย...
「ไม่คิดจะยั้งมือกันเลยนะเนี่ย....」
ผมพึมพำออกมาพร้อมกับมองดูประตูด้านหน้าของปราสาทกูสตาฟ
ที่ได้ถูกระเบิดจนเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่
ทั้งๆที่พวกเราสามารถบินผ่านข้ามไปจากบนฟ้าได้ง่ายๆ
แต่เจ้าพวกนั้นกลับเลือกที่จะทำลายประตูปราสาททิ้ง
ไอ้เจ้าพวกนั้นมันมีความแค้นอะไรกับประตูปราสาทกันหรือเปล่านะ...
「อเดลจัง
ใช้เวทซัพพอร์ตช่วยสนับสนุนพวกแนวหน้าทีนะ」
ผมสั่งน้องสาวสุดที่รักของผมให้ช่วยใช้เวทมนต์ซัพพอร์ตของเธอเข้าสนับสนุนพวกที่กำลังเข้าไปต่อสู้ในแนวหน้า
เพราะถึงแม้ทหารของพวกเราจะเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แต่จำนวนของศัตรูนั้นมีเยอะกว่า แล้วผมก็ไม่อยากจะให้พวกทหารของผมต้องมาบาดเจ็บล้มตายโดนไม่จำเป็น
ดังนั้นการเข้าสนับสนุนพวกแนวหน้าอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ
「ข้าขอวิงวอนต่อภูติเวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์
จงรังสรรค์ดาบและโล่ที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า จงนำพาพวกพ้องของข้าไปสู่ชัยชนะ Support Magic: War Blessing!!!」
อเดลจังยกไม้เท้าในมือขึ้นสูงและร่ายเวทมนต์ซัพพอร์ตวงเป็นกว้างออกไปเพื่อบัพให้กับทหารของพวกเราในแนวหน้ามากกว่า
100 คนในครั้งเดียว ซึ่งการที่อเดลจังสามารถร่ายเวทมนต์ซัพพอร์ตเป็นวงกว้างแบบนี้ได้นั้นก็เป็นเพราะพลังของสมบัติศักดิ์สิทธิ์รวมกับบัพที่เธอได้มาจากราชาแห่งพฤกษาก่อนหน้านี้
สมบัติศักดิ์สิทธิ์『Moonlight Staff of Eleanor ไม้เท้าแสงจันทร์แห่งเอเลนอร์』ซึ่งพวกยูเมะจังค้นพบหลังจากปราบผู้พิทักษ์ของวิหารร้างแห่งหนึ่ง
นั้นเป็นไม้เท้าที่จะช่วยส่งผลให้เวทมนต์ทุกชนิดมีประสิทธิภาพและระยะที่กว้างมากขึ้น
จึงเรียกได้ว่ามันเป็นไม้เท้าที่ล้ำค่ามากสำหรับเหล่าจอมเวท
ส่วนบัพของราชาแห่งพฤกษานั้นก็จะช่วยลดทั้งจำนวนมานาและภาระของร่างกายลงไปมากกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
「ใช้ได้เลยนี่นา ถึงแม้จะไม่นับพลังของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ แต่เวทมนต์ของเธอก็พัฒนามาจนเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมากเลยนะ」
ผมพูดพร้อมกับลูบผมของอเดลจังช้าๆอย่างอ่อนโยน
ถึงความจริงแล้วผมอยากจะล้วงเข้าไปลูบคลึงหน้าอกเล็กๆด้านในเสื้อของเธอมากกว่า
แต่ในเมื่อให้สัญญาไปแล้ว ผมก็จำเป็นจะต้องรักษาสัญญาและอดทนเอาไว้ก่อนล่ะน่ะ
「ถ้าไม่ได้ไม้เท้าแสงจันทร์แห่งเอเลนอร์ช่วยล่ะก็....คิดว่าชั้นคงจะพอช่วยร่ายเวทซัพพอร์ตให้ได้แค่ไม่ถึงสิบคนเท่านั้น....」
แต่อเดลจังที่ถูกผมชมนั้นกลับไม่ได้แสดงอาการดีใจออกมาเลย
ดูเหมือนว่าเธอจะเอาตัวเองไปเทียบกับไอโกะจังที่สามารถบัพให้กับพวกทหารหลายร้อยคนในครั้งเดียวโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมันก็แน่นอนอยู่แล้วล่ะนะ
เพราะจะให้เอาอเดลจังไปเทียบกับไอโกะจังที่ได้รับพลังมาจากคริสตันแห่งพลังของเผ่าปีศาจนั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
「ถ้าอยากจะไล่ตามไอโกะจังจริงๆล่ะก็
หลังจากครั้งแรกของพวกเราแล้ว เธอก็ต้องเป็นเด็กดีคอยเชื่อฟังทุกอย่างที่ผมพูด.....เธอคิดว่าจะทำแบบนั้นได้รึเปล่าล่ะ
อเดลจัง」
ผมเข้าไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูของอเดลจัง
สำหรับผมนั้นอเดลจังถือเป็นน้องสาวคนสำคัญ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ผมก็ยังมีน้องสาวและผู้หญิงคนอื่นๆอีกมากที่มีความสำคัญต่อผมไม่แพ้กัน
ดังนั้นจะให้ผมมาคอยดูแลเธอที่เอาแต่ทำตัวเย็นชากับผมตลอดเวลานั้นคงจะเป็นไปไม่ได้
「ตูมมมมมมม!!!」「ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」「ตูมมมมมมม!!!」「ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」
เหล่าทหารกองหน้ายังคงบุกเข้าไปเข่นฆ่าสังหารศัตรูที่บนกำแพงปราสาทด้วยพลังที่เหนือกว่า
พวกที่แถวสองก็คอยช่วยยิงถล่มกลุ่มอัศวินและทหารที่วิ่งออกมาจากตัวปราสาทกันอย่างต่อเนื่อง
พวกหน่วยสนับสนุนเองก็ดูจะทนไม่ไหวและเริ่มแบ่งกำลังเพื่อบุกเข้าไปตะลุมบอนกันด้วย....
สงสัยทุกคนจะอดกลั้นกับการกระทำของพวกทหารจักรวรรดิกันมานานมากจริงๆนะเนี่ย.....
「เป็นเรื่องจริงเหรอคะ....ที่การทำ.....จะช่วยให้พลังเวทและมานาในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นได้....」
ในขณะที่มองดูเหล่าทหารของเราบุกเข้าทำลายล้างพวกศัตรู
อเดลจังถามผมออกมาด้วยใบหน้าเขินอายเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเธอจะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาไม่น้อย
「ผมได้ลองพิสูจน์กับมาเรียจังแล้วก็คนอื่นๆมาแล้วล่ะ
ทุกคนที่ได้รับความรักจากผมอย่างต่อเนื่องมากก็จะได้มีพลังเวทและมานาสูงขึ้นมากตามไปด้วย
แต่ถ้าเธอคิดจะไปทำเรื่องลามกกับผู้ชายคนอื่นล่ะก็ ผมไม่คิดจะรับรองผลที่เกิดหรอกนะ….」
「มะ ไม่มีทางหรอกค่ะ!!! ชะ
ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่ไปจะมีความสัมพันธุ์กับผู้ชายพร่ำเพรื่อหรอกนะคะ」
ก่อนที่ผมจะพูดจบ
อเดลจังก็รีบพูดสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจในทันที ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว
เพราะตัวผมเองนั้นก็ไม่ชอบให้ผู้หญิงที่ผมรักไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นเช่นเดียวกัน
「หุหุ ถ้าเธอเลิกเล่นตัวและมาเป็นเด็กดีของผม
มอบความรักและเชื่อฟังผมเพียงคนเดียวล่ะก็
ผมสัญญาเลยว่าจะทำให้เธอกลายเป็นจอมเวท.....」
「ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!」
แต่ในขณะที่ผมกำลังจะเริ่มลวนลามอเดลจังอีกครั้ง
ที่กำแพงปราสาทด้านหนึ่งก็เกิดระเบิดเสียงดังขึ้นมา
แต่ไอ้เสียงระเบิดที่ว่านั้นไม่ได้เกิดจากบีทเตอร์ของกองพันแวร์วูลฟ์
แต่เป็นการระเบิดจากพลังบางอย่าง แล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
เพราะว่ามีร่างของคนหลายคนถูกซัดกระเด็นออกมาพร้อมกับแรงระเบิดนั้นด้วย....
「อากิ!!??」
แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องตกตะลึงก็คือ
ร่างของคนหลายคนดังกล่าวนั้น มีเจ้าอากิโอะ ริกะจัง
และเหล่าฮาเร็มของเจ้าอากิโอะคนอื่นๆรวมอยู่ด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกับเข้านั่นกันแน่นะ
「Terrornion!! รีบไปตรงนั้นเร็วเข้า!!」
ผมสั่งอสูรรับใช้ม้าเพลิงทมิฬ Terrornion รีบเปลี่ยนเส้นทาง
และมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งที่เข้าอากิโอะและพรรคพวกอยู่ในทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น