-- มุมมองของทัตสึยะ
--
「เห้อากิ!! ไปทำอะไรมาถึงได้โทรมกันขนาดนั้นวะนั่น!!」
ผมถามออกไปด้วยความประหลาดใจ เพราะเบื้องหน้าของผมในตอนนี้
เจ้าอากิโอะ ริกะจัง คาเอเดะจัง ทั้ง 3 คนอยู่ในสภาพเปรอะเปื้อนเลือดไปทั้งตัว
ส่วนเรียสจังกับยูเอล่าจังนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างหนักมาก
พวกเธอทั้งสองคนหมดสติอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าอากิ
「โทษทีๆ พอดีเอาตอนสู้กันชั้นเอาแต่คิดหาวิธีจับเป็นผู้กล้าพวกนั้น
สุดท้ายก็เลยโดนเล่นงานกลับมาซะยับเยินเลยล่ะ เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ยไอ้เจ้าผู้กล้าพวกนั่นน่ะ
หุหุ」
เจ้าอากิโอะพูดพร้อมกับใช้มือปาดคราบเลือดที่ไหลออกมาจากปาก
ถึงแม้จะอยู่ในสภาพแบบนี้
แต่เจ้าอากิโอะก็ยังทำสีหน้าสบายๆราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
กลับกันดูเหมือนว่าเจ้าอากิโอะจะรู้สึกสนุกกับเรื่องนี้มากเสียกว่าอีก
「อเดลจัง รูริจัง
ช่วยรักษาอากิกับพวกเธอทีนะ Terrornion ฝากทุกคนด้วยนะ」
「「เข้าใจแล้วค่ะ!!」」
ผมพูดออกไปโดยไม่หันไปมอง อเดลจังและรูริจังที่ได้รับคำสั่งก็รีบไปช่วยรักษาพวกอากิ
Terrornion อสูรรับใช้ม้าเพลิงทมิฬของผมก็ตามไปคอยช่วยคุ้มกันพวกเธอ
ส่วนตัวผมในตอนนี้ยังคงจดจ้องไปยังรูของกำแพงที่เจ้าอากิโอะกระเด็นออกมา
ผมตั้งสมาธิและคอยเฝ้าระวังพื้นที่รอบๆ
จากคำพูดของเจ้าอากิโอะนั้น ดูเหมือนก่อนหน้านี้เจ้าอากิโอะได้เข้าปะทะกับกลุ่มผู้กล้าที่มีสามารถสูงหลายคน
เพราะงั้นจึงทำให้การจะจับกุมตัวพวกนั้นทั้งหมดโดยไม่คิดจะฆ่านั้นกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก
「แกกกกกกก!!!
เอาท่านหญิงสเตฟานี่ของผมไปซ่อนไว้ที่ไหน!!!!」
พร้อมกันกับเสียงคำรามที่ดังก้อง
ชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำทั่วทั้งร่างกายพุ่งเข้ามาทางพวกเราด้วยความเร็วสูงจนแทบจะมองตามไม่ทัน
「ท่านหญิงสเตฟานี่ ? นี่นายกำลังพูดถึงผู้หญิงของผมอยู่สินะ
?」
ผมพูดพร้อมกับตั้งท่าและพุ่งเข้าไปรับการโจมตีของชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำในทันที
「แกกกกกกก!!!
เป็นแกสินะ!! ต้องฆ่า!!!! ต้องฆ่าแกให้ได้!!!!!!!!!!!!!!!」
ชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำพูดเสียงดังออกมาพร้อมกับฟาดฟันดาบสีดำในมือใส่ผมอย่างรวดเร็ว
การโจมตีของเจ้านี่มันเร็วมากจนผมไม่สามารถป้องกันได้หมด
นี่ถ้าหากผมไม่ได้สวมชุดเกราะที่เคลือบด้วยโลหะในตำนานโอริฮารุก้อนล่ะก็
บางทีผมคงจะได้แผลไปหลายแผลแล้วแน่ๆ
「กำลังลำบากอยู่เลยนี่หว่าทัตสึ!!!」
ในจังหวะที่ผมทำได้เพียงแค่ตั้งรับ
เจ้าอากิที่ฟื้นสภาพกลับมาก็รีบเข้ามาช่วยโจมตีชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำจากด้านหลัง
ด้วยดาบยาวเล่มหนึ่งกับดาบที่หักไปบางส่วนอีกเล่มหนึ่ง เจ้าอากิโอะฟาดฟันใส่โดยไม่มีการยั้งมือแม้แต่น้อย
「นี่อากิ! ไอ้เจ้านี่มันเป็นผู้กล้าแน่รึ ? ไม่ใช่ว่ามันพวกสัตว์ประหลาดกระหายเลือดหรืออะไรแปลกๆใช่มั๊ยวะเนี่ย!!?」
ผมพูดพร้อมกับปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้เป็นแบบสองมือ
กับศัตรูที่รวดเร็วขนาดนี้แล้ว การใช้ค้อนขนาดใหญ่มันไม่ได้ผลดีนัก
เพราะงั้นผมจึงเปลี่ยนไปใช้ค่อนด้ามยาวด้วยมือขวา และถือมีดโค้งด้วยมือซ้าย
ผมใช้มีดช่วยรับการโจมตีที่รวดเร็วของมัน
และใช้ค้อนในมือขวาควงไปมาพร้อมกับฟาดเข้าใส่เป็นจังหวะเพื่อไม่ให้เจ้านี่สามารถใช้ความเร็วโจมตีพวกเราได้ถนัด
แล้วก็ด้วยการโจมตีประสานของอาวุธทั้งสองมือ
หลังจากที่เข้าปะทะอาวุธกันหลายต่อหลายครั้ง
ในที่สุดผมและเจ้าอากิโอะก็สามารถที่จะไล่ตามความเร็วของมันได้ทัน
ผมง้างค้อนและซัดไอ้เจ้าผู้กล้านี่อย่างเต็มแรง จนทำให้มันกระเด็นทะลุกำแพงออกไปไกล
「ถึงชั้นจะไม่ชอบจำหน้าผู้คนเท่าไหร่ แต่ก็จำรูปแบบการต่อสู้ของไอ้หมอนี่ได้ดี
และยิ่งดูจากการที่เจ้านี่ได้รับการสนับสนุนจากพลังของผู้กล้าคนอื่นๆด้วยแล้ว คิดว่ายังไงไอ้เจ้านี่ก็ต้องเป็นผู้กล้าที่ชั้นเคยสู้ด้วยแน่ๆ」
「เอาจริงดิ ? ก็หมายความว่า....ไอ้ออร่าสีดำที่ครอบงำเจ้าหมอนี่อยู่
กับพลังในการฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ผิดปกตินั่น
มันเป็นผลมาจากพรผู้กล้าของคนอื่นที่คอยสนับสนุนอยู่......」
ทั้งๆที่พวกเราโจมตีเข้าใส่ร่างกายของเจ้าโจมตีชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำหลายต่อหลายครั้ง
แต่ความเร็วของเจ้านั่นก็ยังไม่ตกลงเลย
แถมบาดแผลทั้งหมดนั่นก็ฟื้นฟูกลับไปอย่างรวดเร็วอีก.....
「อืมม...มันก็มีความเป็นไปได้สูงล่ะนะ...หรือไม่ก็.....หึ? ดูเหมือนไอ้เจ้าพวกนั้นจะตามมาถึงที่นี่กันแล้วนะ....」
แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดจบ
เจ้าอากิโอะก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
ดูเหมือนเจ้าอากิโอะจะรับรู้ได้ถึงตัวตนของเจ้าพวกนั้น ผมจึงรีบหันไปมองที่รูของกำแพง
และเพิ่มความระมัดระวังขึ้นในทันที
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที มันก็เป็นไปตามที่เจ้าอากิโอะคาดการณ์เอาไว้
จากบริเวณรูที่กำแพงนั่น เด็กสาวสองคนที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำเดินออกมาพร้อมกับจ้องมองพวกเราด้วยแววตาอาฆาตแค้น
「แกกกกก ไอ้พวกปีศาจ!!! ต้องฆ่าให้หมด!!!!」
「พวกแกกกกก ต้องฆ่า ต้องฆ่าให้หมด!!!!」
เด็กสาวทั้งสองที่โผล่ออกมาใหม่กู่ร้องคำรามเสียงดังก้อง
จากนั้นพวกเธอทั้งสองก็นำของบางอย่างที่คล้ายๆกับเครื่องดนตรีขึ้นมาเล่น
และในตอนนั้นเองที่บริเวณรอบๆตัวพวกเธอก็มีเงาดำๆดำตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง แล้วเงาดำๆเหล่านั้นก็พุ่งเข้ามาโจมตีใส่พวกเราด้วยความรวดเร็ว
「เห้ เห้ ทั้งๆที่พวกเธอน่าจะเป็นเด็กสาวมัธยมปลายน่ารักแท้ๆ
ทำไมพวกเธอถึงได้กลายเป็นสาวโหดแบบนั้นไปได้ล่ะเนี่ย!!!!」
ผมพูดพร้อมกับกระโดดหลบการโจมตี
และสวนกลับไปด้วยค้อนด้านยาวในมือขวาและมีดโค้งในมือซ้าย
แต่ถึงแม้จะโจมตีพวกมันไปเท่าไหร่
ไอ้พวกเงาดำๆนั่นก็ไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมาเลย พวกมันยังคงโจมตีใส่ผมอย่างรวดเร็วเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
「บางที.....พวกเธออาจจะถูกคำสาปเหมือนกับคุณหนูรูริโกะ.....」
เจ้าอากิโอะพูดพร้อมกับตัดพวกเงาดำๆออกเป็นสองท่อน
แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะพวกมันก็จะกลับไปรวมตัวกันขึ้นมาใหม่ ไอ้เจ้าพวกนี้ช่างเป็นศัตรูที่ยุ่งยากจริงๆ
「คำสาปงั้นรึ ?」
ผมพึมพำออกมา
ซึ่งนั่นก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะรูริโกะเองก็เกือบจะถูกไอ้ออร่าสีดำๆที่มีลักษณะคล้ายๆกันครอบงำอยู่เหมือนกัน
แต่ไม่ว่าสิ่งที่ควบคุมพวกเธออยู่นั้นจะเป็นอะไร ในตอนนี้พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่น
มีแต่ต้องจัดการพวกเธอทั้งสองคนลงให้ได้ก่อนเท่านั้น
แต่การจะจัดการพวกเธอทั้งสองคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้ง่าย
เพราะไอ้พวกเงาดำๆมันคอยขัดขวางอยู่ตลอด
ทำให้พวกเราไม่สวามารถจะบุกเข้าไปให้ถึงตัวพวกเธอได้เลย
「ทุกหน่วยโจมตี!!!」
「ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」「ตูมมมมมมม!!!」「ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」「ตูมมมมมมม!!!」
และในขณะที่ผมกำลังคิดหาวิธีรับมืออยู่นั้น
เสียงของคาโอริจังก็ดังขึ้นมาจากบนท้องฟ้า และในชั่วพริบตานั้นเอง กระสุนเวทมนต์จำนวนมากก็ถูกยิงถล่มลงไปที่เด็กสาวทั้งสองรวมถึงพวกเงาดำๆทั้งหมดที่อยู่รอบๆอย่างต่อเนื่อง
「ไม่เป็นไรนะคะทัตสึยะซามะ อากิโอะซังก็ด้วย」
จากนั้นพวกทหารของเราก็กระโดดลงมาจากนกเกรูโด้และเข้าปะทะกับพวกเงาดำทั้งหลาย
คาโอริจังเองก็กระโดดลงมาจากนกเกรูโด้และรีบโผเข้ามาหาผม คาโอริจังตรวจเช็คไปตามร่างกายของผมด้วยสีหน้ากังวล
「ผมไม่เป็นไร ขอบใจมากเลยนะ
มาได้จังหวะพอดีเลยล่ะคาโอริจัง」
ผมพูดพร้อมกับหอมแก้มคาโอริจังเบาๆ
ก่อนจะรีบกลับมาจดจ่ออยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า เด็กสาวสองคนที่คอยควบคุมพวกเงาดำ
และเด็กหนุ่มหนึ่งคนที่ถูกอัดกระเด็นไปก่อนหน้านี้
ทั้งสามคนกลับเข้ามาในสนามรบด้วยแววตาอาฆาตแค้นพร้อมกับออร่าสีดำที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งๆที่ทั้งสามคนถูกยิงถล่มด้วยกระสุนเวทไปจำนวนมาก แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ดีอยู่
แถมสภาพร่างกายของพวกนั้นเองก็ไม่ได้แสดงอาการบาดเจ็บอะไรออกมาเลยด้วย
「ต่างจากรูริโกะจังที่คำสาปยังไม่แสดงผลเต็มที่
พวกเค้าทั้งสามคนคงจะถูกคำสาปควบคุมเอาไว้ทั้งร่างกายแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงทัตสึยะซามะก็อยากจะช่วยพวกเค้าทุกคนให้ได้ใช่มั๊ยคะ
?」
คาโอริจังถามผมออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ดูเหมือนคาโอริจังจะแน่ใจแล้วว่าทั้งสามคนในตอนนี้ถูกคำสาปครอบงำไปหมดทั้งร่างกายแล้ว
ดังนั้นการจะช่วยเหลือนั้นคงจะต้องยุ่งยากยิ่งกว่าตอนช่วยรูริโกะจังแน่ๆ
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น...
「ผมน่ะ ไม่ต้องการให้คาโอริจังและพวกทหารของเราต้องมาต่อสู้เสี่ยงชีวิตโดยไม่จำเป็นหรอกนะ
แต่ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ ถ้ามันไม่เกินกำลังเกินไปล่ะก็
ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็อยากจะช่วยพวกนั้นเอาไว้.....」
ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมน่ะไม่ต้องการเสียสละชีวิตของตัวเองและพวกพ้องเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
ดังนั้นถ้าให้เลือกผมก็ยินดีจะทอดทิ้งพวกเธอที่ถูกคำสาปครอบงำไปในทันที
แต่ถ้าหากมีวิธีที่สามารถช่วยได้ล่ะก็
ถ้ามีวิธีที่จะช่วยพวกเธอได้โดยที่ไม่มีใครต้องมาเสียสละล่ะก็
ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็อยากจะช่วย ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากแค่ไหนก็ตามที
「เข้าใจแล้วค่ะ
ถ้างั้นก็ช่วยถ่วงเวลาให้สักหน่อยด้วยนะคะ」
หลังพูดจบ คาโอริจังก็ถอยไปรวมกับพวกอาเดลจังที่อยู่ด้านหลังและเริ่มร่ายเวทมนต์
รอบๆบริเวณที่พวกเราอยู่จึงปรากฏวงเวทขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งนั่นทำให้พวกเงาดำทั้งหลายหันเหจากเหล่าทหารที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านหน้าและมุ่งเป้ามาที่คาโอริจังในทันที
「คู่ต่อสู้ของพวกแกคือผมต่างหากโว๊ย!!」
「เห้ เห้ อย่าลืมว่าชั้นเองก็ยังอยู่ที่นี่สิ!!!」
ผมและเจ้าอากิโอะเข้าปะทะกับพวกเงาดำจำนวนมาก
พวกเราทั้งสองคนซัดเข้าใส่พวกมันอย่างบ้าคลั่ง
ผมจะไม่ยอมให้พวกมันหลุดไปถึงคาโอริจังที่กำลังร่ายเวทมนต์อยู่ที่ด้านหลังได้แน่ๆ
และในระหว่างที่พวกเราเข้าต่อสู้กับไอ้พวกเงาดำทั้งหลายกันอย่างดุเดือดนั้น
ในที่สุดคาโอริจังก็ได้ร่ายเวทมนต์จนจบ วงเวทที่อยู่รอบๆตัวพวกเราเปล่งประกายสีขาวสว่างวาบขึ้น....
「Time magic: Time Stop!!!」
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น