ตอนที่ 40 สงครามยึดเมืองกูสตาฟ บทที่ 1


 -- มุมมองของทัตสึยะ --                            


เห้อากิ!! ไปทำอะไรมาถึงได้โทรมกันขนาดนั้นวะนั่น!!

ผมถามออกไปด้วยความประหลาดใจ เพราะเบื้องหน้าของผมในตอนนี้ เจ้าอากิโอะ ริกะจัง คาเอเดะจัง ทั้ง 3 คนอยู่ในสภาพเปรอะเปื้อนเลือดไปทั้งตัว ส่วนเรียสจังกับยูเอล่าจังนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างหนักมาก พวกเธอทั้งสองคนหมดสติอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าอากิ

โทษทีๆ พอดีเอาตอนสู้กันชั้นเอาแต่คิดหาวิธีจับเป็นผู้กล้าพวกนั้น สุดท้ายก็เลยโดนเล่นงานกลับมาซะยับเยินเลยล่ะ เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ยไอ้เจ้าผู้กล้าพวกนั่นน่ะ หุหุ

เจ้าอากิโอะพูดพร้อมกับใช้มือปาดคราบเลือดที่ไหลออกมาจากปาก ถึงแม้จะอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่เจ้าอากิโอะก็ยังทำสีหน้าสบายๆราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร กลับกันดูเหมือนว่าเจ้าอากิโอะจะรู้สึกสนุกกับเรื่องนี้มากเสียกว่าอีก

อเดลจัง รูริจัง ช่วยรักษาอากิกับพวกเธอทีนะ Terrornion ฝากทุกคนด้วยนะ

「「เข้าใจแล้วค่ะ!!」」

ผมพูดออกไปโดยไม่หันไปมอง อเดลจังและรูริจังที่ได้รับคำสั่งก็รีบไปช่วยรักษาพวกอากิ Terrornion อสูรรับใช้ม้าเพลิงทมิฬของผมก็ตามไปคอยช่วยคุ้มกันพวกเธอ ส่วนตัวผมในตอนนี้ยังคงจดจ้องไปยังรูของกำแพงที่เจ้าอากิโอะกระเด็นออกมา ผมตั้งสมาธิและคอยเฝ้าระวังพื้นที่รอบๆ

จากคำพูดของเจ้าอากิโอะนั้น ดูเหมือนก่อนหน้านี้เจ้าอากิโอะได้เข้าปะทะกับกลุ่มผู้กล้าที่มีสามารถสูงหลายคน เพราะงั้นจึงทำให้การจะจับกุมตัวพวกนั้นทั้งหมดโดยไม่คิดจะฆ่านั้นกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก

แกกกกกกก!!! เอาท่านหญิงสเตฟานี่ของผมไปซ่อนไว้ที่ไหน!!!!

พร้อมกันกับเสียงคำรามที่ดังก้อง ชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำทั่วทั้งร่างกายพุ่งเข้ามาทางพวกเราด้วยความเร็วสูงจนแทบจะมองตามไม่ทัน

ท่านหญิงสเตฟานี่ ? นี่นายกำลังพูดถึงผู้หญิงของผมอยู่สินะ ?

ผมพูดพร้อมกับตั้งท่าและพุ่งเข้าไปรับการโจมตีของชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำในทันที

แกกกกกกก!!! เป็นแกสินะ!! ต้องฆ่า!!!! ต้องฆ่าแกให้ได้!!!!!!!!!!!!!!!

ชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำพูดเสียงดังออกมาพร้อมกับฟาดฟันดาบสีดำในมือใส่ผมอย่างรวดเร็ว การโจมตีของเจ้านี่มันเร็วมากจนผมไม่สามารถป้องกันได้หมด นี่ถ้าหากผมไม่ได้สวมชุดเกราะที่เคลือบด้วยโลหะในตำนานโอริฮารุก้อนล่ะก็ บางทีผมคงจะได้แผลไปหลายแผลแล้วแน่ๆ

กำลังลำบากอยู่เลยนี่หว่าทัตสึ!!!

ในจังหวะที่ผมทำได้เพียงแค่ตั้งรับ เจ้าอากิที่ฟื้นสภาพกลับมาก็รีบเข้ามาช่วยโจมตีชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำจากด้านหลัง ด้วยดาบยาวเล่มหนึ่งกับดาบที่หักไปบางส่วนอีกเล่มหนึ่ง เจ้าอากิโอะฟาดฟันใส่โดยไม่มีการยั้งมือแม้แต่น้อย

นี่อากิ! ไอ้เจ้านี่มันเป็นผู้กล้าแน่รึ ? ไม่ใช่ว่ามันพวกสัตว์ประหลาดกระหายเลือดหรืออะไรแปลกๆใช่มั๊ยวะเนี่ย!!?

ผมพูดพร้อมกับปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้เป็นแบบสองมือ กับศัตรูที่รวดเร็วขนาดนี้แล้ว การใช้ค้อนขนาดใหญ่มันไม่ได้ผลดีนัก เพราะงั้นผมจึงเปลี่ยนไปใช้ค่อนด้ามยาวด้วยมือขวา และถือมีดโค้งด้วยมือซ้าย

ผมใช้มีดช่วยรับการโจมตีที่รวดเร็วของมัน และใช้ค้อนในมือขวาควงไปมาพร้อมกับฟาดเข้าใส่เป็นจังหวะเพื่อไม่ให้เจ้านี่สามารถใช้ความเร็วโจมตีพวกเราได้ถนัด แล้วก็ด้วยการโจมตีประสานของอาวุธทั้งสองมือ

หลังจากที่เข้าปะทะอาวุธกันหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดผมและเจ้าอากิโอะก็สามารถที่จะไล่ตามความเร็วของมันได้ทัน ผมง้างค้อนและซัดไอ้เจ้าผู้กล้านี่อย่างเต็มแรง จนทำให้มันกระเด็นทะลุกำแพงออกไปไกล

ถึงชั้นจะไม่ชอบจำหน้าผู้คนเท่าไหร่ แต่ก็จำรูปแบบการต่อสู้ของไอ้หมอนี่ได้ดี และยิ่งดูจากการที่เจ้านี่ได้รับการสนับสนุนจากพลังของผู้กล้าคนอื่นๆด้วยแล้ว คิดว่ายังไงไอ้เจ้านี่ก็ต้องเป็นผู้กล้าที่ชั้นเคยสู้ด้วยแน่ๆ

เอาจริงดิ ? ก็หมายความว่า....ไอ้ออร่าสีดำที่ครอบงำเจ้าหมอนี่อยู่ กับพลังในการฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ผิดปกตินั่น มันเป็นผลมาจากพรผู้กล้าของคนอื่นที่คอยสนับสนุนอยู่......

ทั้งๆที่พวกเราโจมตีเข้าใส่ร่างกายของเจ้าโจมตีชายหนุ่มที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำหลายต่อหลายครั้ง แต่ความเร็วของเจ้านั่นก็ยังไม่ตกลงเลย แถมบาดแผลทั้งหมดนั่นก็ฟื้นฟูกลับไปอย่างรวดเร็วอีก.....

อืมม...มันก็มีความเป็นไปได้สูงล่ะนะ...หรือไม่ก็.....หึ? ดูเหมือนไอ้เจ้าพวกนั้นจะตามมาถึงที่นี่กันแล้วนะ....

แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดจบ เจ้าอากิโอะก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ดูเหมือนเจ้าอากิโอะจะรับรู้ได้ถึงตัวตนของเจ้าพวกนั้น ผมจึงรีบหันไปมองที่รูของกำแพง และเพิ่มความระมัดระวังขึ้นในทันที

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที มันก็เป็นไปตามที่เจ้าอากิโอะคาดการณ์เอาไว้ จากบริเวณรูที่กำแพงนั่น เด็กสาวสองคนที่ถูกครอบงำไปด้วยออร่าสีดำเดินออกมาพร้อมกับจ้องมองพวกเราด้วยแววตาอาฆาตแค้น

แกกกกก ไอ้พวกปีศาจ!!! ต้องฆ่าให้หมด!!!!
พวกแกกกกก ต้องฆ่า ต้องฆ่าให้หมด!!!!

เด็กสาวทั้งสองที่โผล่ออกมาใหม่กู่ร้องคำรามเสียงดังก้อง จากนั้นพวกเธอทั้งสองก็นำของบางอย่างที่คล้ายๆกับเครื่องดนตรีขึ้นมาเล่น และในตอนนั้นเองที่บริเวณรอบๆตัวพวกเธอก็มีเงาดำๆดำตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง แล้วเงาดำๆเหล่านั้นก็พุ่งเข้ามาโจมตีใส่พวกเราด้วยความรวดเร็ว

เห้ เห้ ทั้งๆที่พวกเธอน่าจะเป็นเด็กสาวมัธยมปลายน่ารักแท้ๆ ทำไมพวกเธอถึงได้กลายเป็นสาวโหดแบบนั้นไปได้ล่ะเนี่ย!!!!

ผมพูดพร้อมกับกระโดดหลบการโจมตี และสวนกลับไปด้วยค้อนด้านยาวในมือขวาและมีดโค้งในมือซ้าย แต่ถึงแม้จะโจมตีพวกมันไปเท่าไหร่ ไอ้พวกเงาดำๆนั่นก็ไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมาเลย พวกมันยังคงโจมตีใส่ผมอย่างรวดเร็วเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

บางที.....พวกเธออาจจะถูกคำสาปเหมือนกับคุณหนูรูริโกะ.....

เจ้าอากิโอะพูดพร้อมกับตัดพวกเงาดำๆออกเป็นสองท่อน แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะพวกมันก็จะกลับไปรวมตัวกันขึ้นมาใหม่ ไอ้เจ้าพวกนี้ช่างเป็นศัตรูที่ยุ่งยากจริงๆ

คำสาปงั้นรึ ?

ผมพึมพำออกมา ซึ่งนั่นก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะรูริโกะเองก็เกือบจะถูกไอ้ออร่าสีดำๆที่มีลักษณะคล้ายๆกันครอบงำอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าสิ่งที่ควบคุมพวกเธออยู่นั้นจะเป็นอะไร ในตอนนี้พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่น มีแต่ต้องจัดการพวกเธอทั้งสองคนลงให้ได้ก่อนเท่านั้น

แต่การจะจัดการพวกเธอทั้งสองคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้ง่าย เพราะไอ้พวกเงาดำๆมันคอยขัดขวางอยู่ตลอด ทำให้พวกเราไม่สวามารถจะบุกเข้าไปให้ถึงตัวพวกเธอได้เลย

ทุกหน่วยโจมตี!!!
ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」「ตูมมมมมมม!!!」「ทืดๆๆๆๆๆๆ!!!」「ตูมมมมมมม!!!

และในขณะที่ผมกำลังคิดหาวิธีรับมืออยู่นั้น เสียงของคาโอริจังก็ดังขึ้นมาจากบนท้องฟ้า และในชั่วพริบตานั้นเอง กระสุนเวทมนต์จำนวนมากก็ถูกยิงถล่มลงไปที่เด็กสาวทั้งสองรวมถึงพวกเงาดำๆทั้งหมดที่อยู่รอบๆอย่างต่อเนื่อง

ไม่เป็นไรนะคะทัตสึยะซามะ อากิโอะซังก็ด้วย

จากนั้นพวกทหารของเราก็กระโดดลงมาจากนกเกรูโด้และเข้าปะทะกับพวกเงาดำทั้งหลาย คาโอริจังเองก็กระโดดลงมาจากนกเกรูโด้และรีบโผเข้ามาหาผม คาโอริจังตรวจเช็คไปตามร่างกายของผมด้วยสีหน้ากังวล

ผมไม่เป็นไร ขอบใจมากเลยนะ มาได้จังหวะพอดีเลยล่ะคาโอริจัง

ผมพูดพร้อมกับหอมแก้มคาโอริจังเบาๆ ก่อนจะรีบกลับมาจดจ่ออยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า เด็กสาวสองคนที่คอยควบคุมพวกเงาดำ และเด็กหนุ่มหนึ่งคนที่ถูกอัดกระเด็นไปก่อนหน้านี้

ทั้งสามคนกลับเข้ามาในสนามรบด้วยแววตาอาฆาตแค้นพร้อมกับออร่าสีดำที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งๆที่ทั้งสามคนถูกยิงถล่มด้วยกระสุนเวทไปจำนวนมาก แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ดีอยู่ แถมสภาพร่างกายของพวกนั้นเองก็ไม่ได้แสดงอาการบาดเจ็บอะไรออกมาเลยด้วย

ต่างจากรูริโกะจังที่คำสาปยังไม่แสดงผลเต็มที่ พวกเค้าทั้งสามคนคงจะถูกคำสาปควบคุมเอาไว้ทั้งร่างกายแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงทัตสึยะซามะก็อยากจะช่วยพวกเค้าทุกคนให้ได้ใช่มั๊ยคะ ?

คาโอริจังถามผมออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดูเหมือนคาโอริจังจะแน่ใจแล้วว่าทั้งสามคนในตอนนี้ถูกคำสาปครอบงำไปหมดทั้งร่างกายแล้ว ดังนั้นการจะช่วยเหลือนั้นคงจะต้องยุ่งยากยิ่งกว่าตอนช่วยรูริโกะจังแน่ๆ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น...

ผมน่ะ ไม่ต้องการให้คาโอริจังและพวกทหารของเราต้องมาต่อสู้เสี่ยงชีวิตโดยไม่จำเป็นหรอกนะ แต่ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ ถ้ามันไม่เกินกำลังเกินไปล่ะก็ ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็อยากจะช่วยพวกนั้นเอาไว้.....

ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมน่ะไม่ต้องการเสียสละชีวิตของตัวเองและพวกพ้องเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ดังนั้นถ้าให้เลือกผมก็ยินดีจะทอดทิ้งพวกเธอที่ถูกคำสาปครอบงำไปในทันที

แต่ถ้าหากมีวิธีที่สามารถช่วยได้ล่ะก็ ถ้ามีวิธีที่จะช่วยพวกเธอได้โดยที่ไม่มีใครต้องมาเสียสละล่ะก็ ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็อยากจะช่วย ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากแค่ไหนก็ตามที

เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้นก็ช่วยถ่วงเวลาให้สักหน่อยด้วยนะคะ

หลังพูดจบ คาโอริจังก็ถอยไปรวมกับพวกอาเดลจังที่อยู่ด้านหลังและเริ่มร่ายเวทมนต์ รอบๆบริเวณที่พวกเราอยู่จึงปรากฏวงเวทขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งนั่นทำให้พวกเงาดำทั้งหลายหันเหจากเหล่าทหารที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านหน้าและมุ่งเป้ามาที่คาโอริจังในทันที

คู่ต่อสู้ของพวกแกคือผมต่างหากโว๊ย!!

เห้ เห้ อย่าลืมว่าชั้นเองก็ยังอยู่ที่นี่สิ!!!

ผมและเจ้าอากิโอะเข้าปะทะกับพวกเงาดำจำนวนมาก พวกเราทั้งสองคนซัดเข้าใส่พวกมันอย่างบ้าคลั่ง ผมจะไม่ยอมให้พวกมันหลุดไปถึงคาโอริจังที่กำลังร่ายเวทมนต์อยู่ที่ด้านหลังได้แน่ๆ

และในระหว่างที่พวกเราเข้าต่อสู้กับไอ้พวกเงาดำทั้งหลายกันอย่างดุเดือดนั้น ในที่สุดคาโอริจังก็ได้ร่ายเวทมนต์จนจบ วงเวทที่อยู่รอบๆตัวพวกเราเปล่งประกายสีขาวสว่างวาบขึ้น....

Time magic: Time Stop!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น