ตอนที่ 42 สงครามยึดเมืองกูสตาฟ บทที่ 3



ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่พวกทัตสึยะจะเดินทางมาถึงยังเมืองกูสตาฟเล็กน้อย

 -- มุมมองของคาลอส --                            

ผมคาลอส เลอิส เด็กหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่งจากครอบครัวที่ยากจน และก็เพราะความยากจนนั้นจึงทำให้ทุกคนในครอบครัวนอกจากตัวผมต้องมาล้มตายไปเพราะไม่มีเงินซื้อยารักษาตอนที่เกิดโรคระบาดขึ้นที่หมู่บ้าน

แต่ด้วยสัญญาที่ให้ไว้กับน้องสาว ด้วยคำสัญญาที่ให้กับเธอเอาไว้ว่าผมจะพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อทดแทนในส่วนของทุกๆคน ด้วยคำสัญญานั้นจึงทำให้ผมตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงในเขตนั้นที่มีชื่อว่าพยัคฆ์สีเลือด

ในตอนแรกนั้นผมไม่รู้มาก่อนเลยว่างานของกองทหารรับจ้างพยัคฆ์สีเลือดนั้นไม่ใช่งานที่มีความน่าภาคภูมิใจอย่างที่ผมคิด ทั้งปล้นฆ่าและข่มขืน ขอเพียงแค่ลูกค้ามีเงินจ่าย ไม่ว่าจะเป็นงานที่โหดร้ายและชั่วช้ามากแค่ไหนก็รับมาทำ

และเพราะเหตุนั้นจึงทำให้มีอยู่หลายครั้งเลยที่ผมอยากจะออก แต่สำหรับเด็กหนุ่มชาวบ้านที่ไม่รู้หนังสืออย่างผมนั้นจะไปหางานอะไรทำได้อีก ? กับคำถามที่ยังคงคาอยู่ในหัวใจผมมาตลอดนั้น แม้วันเวลาจะผ่านไปหลายต่อหลายปีผมก็ยังไม่สามารถจะหาคำตอบได้

และยิ่งวันเวลาผ่านไป ความผิดบาปในหัวใจมันก็เริ่มถูกลืมเลือนหายไป กับคนที่มือทั้งสองได้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของผู้คนบริสุทธิ์มากมายแต่กลับลืมไปว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดบาปนั้น กับคนอย่างผมนั้นจะยังมีโอกาสให้เลือกเดินไปยังเส้นทางอื่นๆได้อีกงั้นหรือ ? กับคำถามนี้เองผมก็ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้

และในวันนี้เองก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กองทหารรับจ้างพยัคฆ์สีเลือดของพวกเราได้รับงานชั่วช้าเหมือนกันกับทุกๆครั้งมา

มันเป็นงานง่ายๆเพียงแค่คอยจัดการควบคุมไม่ให้พวกชาวเมืองกูสตาฟได้มีโอกาสลุกขึ้นมาต่อต้านหรือก่อกบฏต่อผู้ปกครองเมืองคนใหม่ และเนื่องจากทางผู้ว่าจ้างนั้นสนใจที่ผลลัพธ์โดยไม่ได้สนใจว่าจะใช้วิธีรุนแรงสักแค่ไหนก็ตาม

ดังนั้นแบรดซึ่งเป็นหัวหน้าของกองทหารรับจ้างจึงทำชั่วได้ตามใจ และตรงหน้าของผมในตอนนี้ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งที่มีอายุได้ประมาณ 12 ปีถูกแบรดแอบลักพาตัวมาจากเขตยากจนของเมืองกูสตาฟ

อิย๊า!!! ปล่อยชั้นนะ!!! ช่วยด้วยค่า!!! ใครก็ได้ช่วยชั้นด้วย!!!!

เธอพยายามที่จะดิ้นรนและร้องขอความช่วยเหลือ แต่ตัวเธอที่ถูกมัดมือและเท้านั่นไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนมากสักแค่ไหนก็ไม่อาจจะหลุดไปได้ และยิ่งสำหรับพวกเราทุกคนที่ได้ชินชากับเรื่องชั่วๆของแบรดที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆนั้นก็ไม่มีเลยสักคนที่คิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ

แน่นอนว่านั่นก็รวมไปถึงตัวของผมเองด้วย กับตัวผมที่ไร้พลังนั้นไม่อาจจะเข้าไปต่อสู้เอาชนะแบรดซึ่งเป็นหัวหน้าได้ และการเข้าไปขัดขวางความสุขของแบรดนั้นก็มีแต่จะทำให้เจ้านั่นอารมเสีย ซึ่งนั่นก็อาจจะไม่จบลงง่ายๆเพียงแค่การเจ็บตัวเล็กน้อยเพียงเท่านั้น

เพราะเหตุนั้นพวกเราทุกคนจึงทำได้แค่เพียงดื่มเหล้าและหัวเราะกันไปมาอย่างสนุกสนานในขณะที่มองดูเด็กสาวคนนั้นสูญเสียความบริสุทธิ์ หรือไม่ก็เข้าไปร่วมวงในการข่มขืนเธอด้วยเพียงเท่านั้น

โฮ่ โฮ่ แรงเยอะดีนี่น้องสาว แบบนี้น้องคงจะช่วยทำให้พวกพี่ๆได้สนุกสนานกันจนถึงเช้าก็ยังไหวใช่มั๊ยล่ะจ๊ะ!!!

อิย๊า!!! ปล่อยชั้นนะ!!! ก็บอกให้ปล่อยชั้นไงเล่า!!!

โวยวายไปก็ไม่มีใครมาช่วยหรอกนะจ๊ะ เพราะงั้นก็ทำตัวดีดีแล้วถ่างขากว้างๆ จากนั้นก็ช่วยครางเสียงน่ารักดังๆให้พวกพี่ดีใจจะดีกว่านะจ๊ะ น้องสาวสุดสวย ฟุ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!

แบรดและไบรอนน้องชายของมันฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอและเริ่มเล่นสนุกกับหน้าอกและส่วนโค้งเว้าต่างๆบนร่างกายของเธอด้วยความหื่นกาม พวกมันสองพี่น้องนั้นชื่นชอบการลักพาตัวเด็กสาวบริสุทธิ์มาข่มขืนเป็นอย่างยาก เพราะเหตุนั้นไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน พวกมันก็จะต้องทำเรื่องแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่เสมอ

คลื่น!!!! คลื่น!!!! คลื่น!!!! ตูมมม!!!! คลื่น!!!! เคร๊ง!!!!

และในตอนที่ผมกำลังมองดูเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังเจ็บปวดจากการสูญเสียความบริสุทธิ์ด้วยความรู้สึกสงสารเล็กน้อย อยู่ดีดีบ้านร้างแห่งนี้ซึ่งพวกเรากำลังใช้เป็นฐานที่มั่นชั่วคราวก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้น ข้าวของมากมายสั่นสะเทือนจนตกลงไปจากโต๊ะและชั้นวางของต่างๆ

เห้ย!! มันเกิดเรื่องเชี่ยอะไรขึ้นวะ!!! คาลอส ไซอัส พวกแกรีบออกไปดูด้านนอกแล้วมารายงานเร็วเข้า!!

แบรดที่ยังไม่หยุดกระแทกช่วงล่างเข้าใส่เด็กสาวตะโกนมาทางพวกผมด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ ซึ่งก็แน่นอนว่าผมไม่คิดจะโต้แย้งอะไรและรีบวิ่งออกไปด้านนอกบ้านร้างแห่งนี้เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่แล้วสิ่งที่ผมและไซอัสได้เห็นนั้นมันกลับเป็นสิ่งที่เกินกว่าจินตนาการของพวกเป็นอย่างมาก

ต้นไม้ขนาดใหญ่ค่อยๆเติบโตสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนสามารถมองเห็นได้ชัดแม้แต่จะเป็นช่วงกลางดึก กิ่งก้านสาขาของมันแผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้างกินพื้นที่ส่วนต่างๆของตัวเมืองกูสตาฟไปมากมาย

เสียงกรีดร้องจากความตกใจของผู้คนที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นดังก้องไปทั่วบริเวณ แม้แต่บริเวณถนนเส้นๆเล็กด้านหน้าบ้านร้างที่พวกเราอยู่ในตอนนี้เองก็เริ่มจะผู้คนมากมายช่วยกันพาพวกเด็กๆวิ่งหนีเอาตัวรอดกันให้ห่างไปจากบริเวณของต้นไม้ใหญ่ยักษ์ที่ดูน่ากลัวต้นนั้น

คะ คาลอส!! ฝัน...นี่พวกเรากำลังฝันอยู่ใช่ไหม!!!

ไซอัสเข้ามาเขย่าบริเวณไหล่ของผมและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล เนื่องจากภาพที่เราเห็นอยู่ในตอนนี้นั้นยากมากที่จะบอกได้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ และมันคงจะดีกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน

อะ โอ๊ย!!! มันเจ็บนะเฟ้ย!!!

ผมรีบดึงแก้มของไซอัสอย่างแรงเพื่อพิสูจน์ว่าภาพที่พวกเราได้เห็นนั้นไม่ใช่ความฝัน แน่นอนว่าผมก็ได้ลองดึงแก้มตัวเองอย่างแรงดูเช่นเดียวกัน และกับความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้มันคงจะต้องไม่ใช่ความฝันอย่างแน่นอน และในเมื่อมันไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะก็

กับความเจ็บปวดแบบนี้คงต้องไม่ใช่ความฝันแน่ๆ เพราะงั้นคำตอบของเรื่องนี้ก็คงจะมีเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือเจ้าต้นไม้ใหญ่ยักษ์นั่นคงจะต้องเป็นเวทมนต์ของพวกจอมเวทแห่งอาณาจักรเวทมนต์แน่ๆ

บะ บ้าน่า!!! วะ เวทมนต์ของจอมเวททั่วๆไปมันไม่มีทางสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้หรอกน่า

นายไม่เคยได้ยินเรื่องที่เทพธิดาแห่งความรักได้เข้าทรงร่างของสตรีศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรแห่งออร์ธรอสหรือไง ถ้าหากเป็นพวกจอมเวทที่ได้รับพรจากเทพธิดาล่ะก็ การจะใช้เวทมนต์ระดับมันก็น่าจะเป็นไปได้

ผมพยายามทำใจให้สงบและตอบไซอัสกลับไป เพราะถึงแม้ว่าผู้คนมากมายจะบอกว่าเรื่องราวในครั้งนั้นเป็นเพียงภาพมายาที่เผ่าโลลิเทียได้สร้างขึ้น แต่สำหรับผมที่เคยได้ไปเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ภายในเมืองสเตรเชียซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเวทมนต์กับตาตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่งน่ะ ผมคิดว่าเรื่องดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้

แต่ไม่ว่าเรื่องเล่าลือพวกนั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก ผมว่าตอนนี้พวกเราไปรายงานแบรดกันก่อนดีกว่า

เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น พวกเราสองคนก็รีบกลับเข้าไปด้านในบ้านร้างเพื่อรายงานเรื่องของต้นไม้ยักษ์ที่พวกเราได้พบเห็นให้กับแบรด

โอ้วว เสียวซี๊ดดด!!! น้องสาวช่างแน่นถูกใจพี่จริงๆเลยนะจ๊ะ อู๊ววว เสียวจริงๆ ว่าไงคาลอส ไซอัส ข้างนอกมันเกิดเรื่องเกิดอะไรขึ้นกันแน่ฟระ ?

เมื่อกลับเข้าไปยังห้องด้านใน แบรดที่ยังไม่เลิกกระแทกช่วงร่างเข้าใส่เด็กสาวที่ดูเหมือนจะหมดสติไปแล้วได้หันมาถามผม แต่พอผมรายงานเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้ขนาดยักษ์ที่น่าจะเกิดขึ้นเพราะพวกจอมเวทจากอาณาจักรเวทมนต์ เจ้าแบรดก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

ฟุ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!! พวกแกโดนไอ้พวกจอมเวทขายฝันมันหลอกแล้ว ฟุ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!!

นั่นสิ!!! นี่ คาลอส ไซอัส พวกแกแดกเหล้ากันมากไปรึเปล่าวะ!!!! ต่อให้พวกจอมเวทมันเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางสร้างต้นไม้ใหญ่ยักษ์ขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่นาทีได้หรอกน่า พวกแกควรจะเลิกดื่มเหล้าแล้วมาสนุกกับเด็กสาวตัวเล็กๆแบบนี้กับพวกข้าดีกว่านะ ฟุ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!!

ทั้งแบรดและไบรอนนั้นไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเรารายงานเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนพวกคนอื่นๆที่กำลังดื่มเหล้ากันอย่างเอาเป็นเอาตายเองก็ไม่มีใครเชื่อและพากันหัวเราะเยาะพวกเราอย่างสนุกสนานออกมาเช่นเดียวกัน

แต่แล้วในตอนที่พวกเราไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปอยู่นั้นเอง ที่บริเวณหน้าต่างของบ้านร้างที่พวกเราได้ตอกตะปูปิดเอาไว้อย่างแน่นหนาก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น และพร้อมกันนั้นก็ได้มีเงาเล็กๆพุ่งทะลุเข้ามาด้านในด้วยความเร็วสูง


อุ วะ วะ ว๊า!!! ฟิลิเน่ลงจอดได้ไม่ดีเลยล่ะค่ะ!!! แบบนี้ฟิลิเน่คงจะต้องเสียคะแนนประเมินแน่ๆเลยล่ะค่ะ!!!

และหลังจากที่พวกเราทุกคนกำลังมึนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันอยู่นั้น เงาเล็กๆนั่นก็ส่งเสียงพูดออกมาท่ามกลางฝุ่นควันที่คละคลุ้งไปทั่วห้อง

มะ เมด!!! หน่วยเมดติดอาวุธจากอาณาจักรเวทมนต์!!!

หนึ่งในพวกที่นั่งดื่มเหล้ากันอย่างสนุกสนานพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแตกตื่น และจากคำพูดของเจ้านั่นก็ทำให้ผมได้สติกลับคืนมา

ซึ่งภาพที่ปรากฏออกมาให้เห็นตรงหน้าของพวกเราในตอนนี้นั้นก็คือเด็กสาวในชุดเมดอายุประมาณสิบกว่าปีคนหนึ่ง ใบหน้าที่งดงามและเส้นผมยาวสลวยสีเงินที่ทอประกายต้องกับแสงจันทร์นั้นให้ความรู้สึกที่ยั่วยวนและน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก

หน่วยเมดติดอาวุธเรอะ!!! พวกแกรีบจัดการเธอเร็วเข้า!!!! อย่าไปหลงกับหน้าตาและรูปร่างเล็กๆของพวกมันนะโว๊ย!!!

เมื่อเห็นชัดเจนแล้วว่าเธอเป็นคนจากหน่วยเมดติดอาวุธ แบรดก็สั่งให้ทุกคนรีบเข้าไปจัดการกับเธอในทันที ซึ่งก็เนื่องจากพวกเราทุกคนนั้นได้เคยมีประสบการณ์เลวร้ายกับหน่วยเมดติดอาวุธของอาณาจักรเวทมนต์มาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะงั้นจึงไม่มีเลยแม้สักคนที่จะประมาทให้กับรูปลักษณ์ภายนอกของเด็กสาวคนนี้

Original Magic: Filine Magical Shooter!!!

แต่แล้วก่อนที่แบรดและทุกๆคนจะหยิบจับอาวุธและเข้าไปจู่โจมเธอนั้น เด็กสาวจากหน่วยเมดติดอาวุธคนดังกล่าวก็ชักคทาดอกไม้น่ารักๆออกมาและร่ายเวทมนต์บางอย่างเข้าโจมตีใส่ทุกๆคนอย่างรวดเร็ว

แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าแปลก นั่นก็คือลูกบอลแสงสีเงินขนาดประมาณฝ่ามือจำนวนมากที่กำลังพุ่งเข้ากระแทกใส่ใบหน้าของทุกๆคนอย่างรุนแรงอยู่นั้น มันได้มาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าแต่ก็ไม่ได้เข้าโจมตีใส่ผมกับไซอัสเลยแม้แต่นิดเดียว นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ หรือว่าเธอจะยั้งมือเอาไว้เพราะผมกับไซอัสนั้นไม่ได้คิดจะขัดขืนกันแน่ ?

ผมน่ะรู้ถึงพลังของหน่วยเมดติดอาวุธเป็นอย่างดี ดังนั้นหากพวกเราต้องเผชิญหน้ากับพวกเธอที่มีความสามารถในการต่อสู้และเวทมนต์ขั้นสูงนั้น ต่อให้พวกเรามีจำนวนมากกว่าสิบคนผมก็ไม่มีคิดว่าจะเอาชนะพวกเธอได้ ดังนั้นผมจึงไม่ได้คิดจะจับอาวุธและได้ตัดสินใจยอมแพ้ไปตั้งแต่แรก ซึ่งเจ้าไซอัสที่ยืนอยู่ข้างๆผมในตอนนี้เองก็ดูจะมีความคิดเช่นเดียวกัน

คุณลุงสองคนช่วยฟิลิเน่จับกุมพวกคนไม่ดีด้วยนะคะ!!!

หลังจากที่เธอได้จัดการอัดจนทุกคนที่ขัดขืนหมดสติกันไปหมดแล้ว คุณเมดตัวน้อยก็เข้ามาหาพวกเราพร้อมกับยื่นอุปกรณ์เวทสำหรับจับกุมจำนวนหนึ่งให้ และถึงแม้ผมจะไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่เธอทำแบบนี้ แต่พวกเราทั้งสองคนก็คงจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำสั่งของเธอเพียงเท่านั้น

คะ ครับ!!!

ขอบคุณนะคะ คุณลุง!!!

คุณเมดตัวน้อยกล่าวขอบคุณพวกเราออกมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นลูกบอลแสงสีเงินตรงหน้าของพวกเราก็ค่อยๆสลายหายไป ส่วนคุณเมดตัวน้อยนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาเด็กสาวที่หมดสติอยู่ เธอใช้เวทมนต์รักษาแล้วก็ค่อยๆเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้กับเธออย่างเชียวชาญชาญ

ทำไมพวกคุณลุงถึงได้มาอยู่กับพวกคนไม่ดีงั้นเหรอคะ ?

หลังจากที่พวกเราใส่อุปกรณ์เวทที่เรียกว่ากุญแจมือให้กับแบรดและสมาชิกของกองทหารรับจ้างทุกคนเรียบร้อยแล้ว คุณเมดตัวน้อยก็เข้ามาถามพวกเราด้วยใบหน้าไร้เดียงสา ซึ่งหากดูจากน้ำเสียงและสีหน้าของเธอแล้ว ผมก็คิดว่าเธอคงจะรู้สึกสงสัยออกมาจากจริงใจ

ฟิลิเน่จางงงงง!!! ยินดีด้วยน๊า เท่านี้ก็สอบผ่านแล้วน๊า!!

แต่แล้วก่อนที่พวกเราจะตอบอะไรกลับไปนั้น คุณเมดตัวน้อยก็ได้ถูกคุณเมดตัวน้อยอีกคนหนึ่งกระโดดเข้ามากอด พวกเธอสองคนกอดรัดถูไถแก้มกันไปมาอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจพวกเธอที่กำลังมองดูอยู่เลยสักนิด

เอกสารอนุมัติการสอบเลื่อนระดับโทแปซค่ะ ยินดีด้วยนะคะฟิลิเน่ซัง ตั้งแต่วันนี้ก็สามารถรับภารกิจคุ้มกันได้แล้วนะคะ

หลังจากนั้นไม่นานก็มีพวกเมดหลายคนเข้ามาพาตัวแบรดและทุกๆคนที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่ออกไป นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีคุณเมดสุดสวยผมสีน้ำตาลแดงนำเอกสารเข้ามามอบให้กับคุณเมดตัวน้อยอีกด้วย

ขอบคุณมากเลยค่ะ เวลน่าซามะ!!! หลังจากนี้ฟิลิเน่ก็จะพยายามให้มากขึ้นอีกนะคะ!!!

กับการตอบรับของคุณเมดตัวน้อยนั้นคุณเมดสุดสวยผมสีน้ำตาลแดงด้ำการลูบหัวเธอกลับไปอย่างอ่อนโยน แต่แล้วแววตาที่อ่อนโยนของเธอก็เปลี่ยนเป็นแววตาที่เย็นชาในทันทีที่เธอหันมาทางพวกเราสองคน

หลังจากนี้พวกคุณทั้งสองคนจะได้รับการสอบสวน เพราะงั้นขอให้พวกคุณช่วยปฏิบัติตามกฎของอาณาจักรออร์ธรอสอย่างเคร่งครัด ถ้าหากคิดจะหลบหนีพวกเราจะไม่รับรองความปลอดภัย ถ้าเข้าใจแล้วก็ตามมาทางนี้นะคะ

หลังจากคุณเมดสุดสวยผมสีน้ำตาลแดงพูดจบ เธอก็เดินนำพวกเราออกไปที่ด้านนอกโดยไม่แม้แต่จะหันมามองพวกเราอีกเลยแม้แต่นิดเดียว

ไม่เป็นไรหรอกนะคะคุณลุง!! เวลน่าซามะเป็นคนใจดีมากๆ เพราะงั้นถึงพวกคุณลุงจะถูกสอบสวนก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลไปหรอกนะคะ!!

ขะ เข้าใจแล้วครับ!!!

กับคำพูดของคุณเมดตัวน้อยที่ดูไร้เดียงสานั้น ผมและไซอัสพยายามตอบรับเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงธรรมดาที่สุด แต่ก็แน่นอนว่าในใจของพวกเราทั้งสองคนนั้นไม่สามารถที่จะหยุดกังวลตามที่คุณเมดตัวน้อยพูดออกมาได้เลย

ซึ่งมันก็แน่นอนอยู่แล้ว กับพวกเธอที่มีพลังในการต่อสู้ขนาดที่แม้แต่เด็กตัวเล็กๆแบบนั้นยังสามารถจัดการกองทหารรับจ้างซึ่งเป็นผู้ชายร่างใหญ่ทั้งหมด 17 คนได้ในเวลาแค่ชั่วพริบตาแบบนั้นน่ะ มันเป็นไม่ได้เลยที่พวกเราจะสามารถสงบใจลงได้ในขณะที่ถูกพวกเธอสอบสวน.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น