ตอนที่ 43 สงครามยึดเมืองกูสตาฟ บทที่ 4



 -- มุมมองของเอลิเซ่ --                            

หลังจากที่กองทัพพันมิตรของอาณาจักรออร์ธรอสได้เข้ายึดพื้นที่บริเวณรอบๆของราชาแห่งพฤกษาทั้งหมด และได้ตั้งกองบัญชาการชั่วคราวขึ้นมาที่บริเวณโคนของราชาแห่งพฤกษาเรียบร้อยแล้ว

ชั้นก็ได้นำเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรแห่งออร์ธรอสมุ่งหน้าออกจากกองบัญชาการเพื่อตรงไปยังโบสถ์ใหญ่ประจำเมืองกูสตาฟ ซึ่งอยู่ห่างจากกองบัญชาการของเราไปทางทิศเหนือไปประมาณ 2 กิโลเมตร

ครั้งนี้ก็ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ ทุกคน!!

ไว้ใจพวกเราได้เลยครับท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์!!!」「ชั้นเองก็ขอติดตามเอลิเซ่ซามะตลอดไปนะคะ!!!」「เพื่อเทพธิดาแห่งความรัก!!!」「เพื่อของศาสนจักรแห่งออร์ธรอส!!!

หน้าที่ของชั้นและเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรแห่งออร์ธรอสนั้นไม่ใช่การทำสงครามหรือการฆ่าฟันศัตรู แต่เป็นการชำระล้างความชั่วร้ายและความสกปรกออกไปจากพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักร กับพวกนักบวชเลวทรามที่แอบอ้างคำสอนของเหล่าเทพธิดามาทำเรื่องชั่วช้านั้นไม่สามารถที่จะให้อภัยได้

เพื่อคืนรอยยิ้มให้แก่ผู้คนที่กำลังเจ็บปวดทรมานจากเหล่านักบวชจอมปลอม เพื่อทำให้ความศรัทธาต่อเหล่าเทพธิดาและศาสนจักรกลับคืนมา เพื่อทำให้ผู้คนได้รับรู้ถึงความหมายของพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอีกครั้ง เพื่อการนั้นชั้นได้ตัดสินใจที่จะต่อสู้ กับตัวชั้นที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับเกียรติให้เป็นร่างทรงของเทพธิดานั้นคงไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยและปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นหน้าที่ของพวกทหารได้

เพราะงั้นก็ช่วยเป็นพลังให้กับชั้นด้วยนะคะ เซฟฟรานซามะ!!

เราจะขอภาวนาให้เส้นทางที่เจ้าได้เลือกนั้นเต็มไปด้วยแสงแห่งความสำเร็จ

ถึงแม้จะไม่แน่ใจนักแต่ชั้นก็พอจะรู้สึกได้ว่าเซฟฟรานซามะกำลังเฝ้ามองดูตัวชั้นด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้มันจะไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้แต่ชั้นก็ยังคงมีความศรัทธาต่อเทพธิดาแห่งความรัก

อุว๊า!!! พื้นที่เต็มไปด้วยหิมะนี่ทำให้เจลโล่ลื่นได้ง่ายจริงๆนะคะ ระวังตัวกันด้วยนะคะทุกคน!!

วิเวียนซัง อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ขี่เจลโล่วิ่งนำอยู่ด้านหน้าสุดตะโกนขึ้นมาเพื่อเตือนทุกคนพร้อมกับพยายามควบคุมเจลโล่ให้กลับมายังกึ่งกลางถนน ดูเหมือนพื้นถนนที่เต็มไปด้วยหิมะนั้นจะทำให้การเคลื่อนที่ของเจลโล่เป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก

แต่ในขณะที่เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์กำลังลำบากอยู่นั้น ไอออนฮาวล์ที่ตัวชั้นนั่งอยู่ รวมถึงเฮลฮาวล์ที่ตามมาทางด้านหลังกลับไม่แสดงอาการผิดปกติเลยแม้สักนิด ซึ่งนั่นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าพาหนะเวทมนต์ของอาณาจักรออร์ธรอสนั้นยอดเยี่ยมมากแค่ไหน

เอลิเซ่ซามะ!! มีกองทหารไม่ทราบฝ่ายขวางอยู่ด้านหน้าค่ะ!!

ใช้กระสุนอมพาตจัดการไปทั้งหมดได้เลยค่ะ พวกเราไม่มีเวลาที่จะมาเจรจาหรือแยกแยะมิตรศัตรูกันในเวลานี้หรอกนะคะ

ได้ยินแล้วใช่มั๊ยทุกคน!! ยิงถล่มเจ้าพวกนั้นด้วยกระสุนอมพาตได้เลย!!


หลังจากที่ได้ยินคำสั่ง เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์บนหลังเจลโล่ก็นำ BeaterII ที่ได้บรรจุกระสุนอมพาตออกมายิงกราดเข้าใส่กองทหารที่กำลังตั้งแนวป้องกันขวางทางพวกเราอยู่ในทันที

ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!

ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น กองทหารไม่ทราบฝ่ายทั้งหมดที่แนวป้องกันขวางอยู่ด้านหน้าก็ถูกจัดการไปจนเรียบ และเมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มีกองทหารดักซุ่มอยู่ในบริเวณนี้อีก วิเวียนซังและเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ก็รีบลงจากเจลโล่เพื่อไปทำการเคลื่อนย้ายกองทหารที่อยู่ในสภาพอมพาตเหล่านั้นออกไปให้พ้นทาง จากนั้นพวกเราก็รีบมุ่งหน้าต่อไปในทันที

เนื่องจากหน้าที่ของพวกเราในครั้งนี้คือการยึดครองโบสถ์ใหญ่และจับตัวพวกนักบวชเอาไว้ ดังนั้นชั้นจึงได้ตัดสินใจปล่อยให้เรื่องยุ่งยากอย่างการสอบสวนกองทหารไม่ทราบฝ่ายพวกนั้นเอาไว้กับพวกหน่วยอื่นๆที่กำลังกระจายกำลังกันอยู่ทั่วเมืองกูสตาฟ ซึ่งทุกๆคนเองก็เห็นด้วยกับชั้นและไม่มีใครถามหรือแสดงความเห็นอื่นๆออกมา

หยุดก่อนค่ะ ทุกคน!!!

แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นานนัก ชั้นก็ได้ออกคำสั่งให้ทุกคนหยุดเคลื่อนที่ก่อน ซึ่งการที่ชั้นต้องออกคำสั่งไปแบบนั่นก็เพราะตรงหน้าของชั้นในตอนนี้มีสิ่งสำคัญที่มากยิ่งกว่าการยึดครองโบสถ์ใหญ่อยู่

เอลิเซ่ซามะ!! มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอคะ ?

ไม่สนใจคำพูดของวิเวียนซัง ชั้นรีบกระโดดลงไปจากด้านบนของไอออนฮาวล์ และรีบวิ่งเข้าไปที่ภายในตรอกแห่งหนึ่งที่หัวมุมอาคารข้างๆนี้ในทันที

อาการแย่มากเลยนะคะ....

และสิ่งที่ทำให้ชั้นต้องวิ่งเข้ามาภายในตรอกแห่งนี้ก็คือชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่ร่างกายได้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ซึ่งหลังจากที่ชั้นได้ลองตรวจอาการดูคร่าวๆแล้ว ก็พบว่าพวกเค้าทั้งสองคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ว่าอาการของทั้งคู่นั้นเรียกได้ว่าเข้าขั้นอันตรายมาก

ข้าขอวิงวอนต่อเทพแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ จงมอบพลังให้แก่ข้าเพื่อเยียวผู้คนที่กำลังสิ้นหวังใต้ความหนาวเหน็บ!! Holy Magic: Cure Frozen!!

ข้าขอวิงวอนต่อเทพแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ จงมอบพลังให้แก่ข้าเพื่อฟื้นฟูผู้คนที่กำลังเหนื่อยล้า!! Holy Magic: Refreshment!!

ข้าขอวิงวอนต่อเทพแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ จงมอบพลังให้แก่ข้าเพื่อรักษาผู้คนที่กำลังเจ็บปวด!! Holy Magic: Regeneration!!

หลังจากร่ายเวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำการรักษาไปถึง 3 บท สีหน้าของทั้งคู่ก็เริ่มดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก ร่างกายที่เย็นเฉียบของทั้งสองเองก็เริ่มอุ่นขึ้นมาแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ชั้นรู้สึกดีใจมาก การที่ได้ช่วยเหลือชีวิตของผู้คนที่กำลังทรมานนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ชั้นรู้สึกมีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใด

สงครามที่ทัตสึยะซามะสามีของชั้นต้องการนั้นไม่ใช่การทำลายล้างชีวิตของศัตรูแต่เป็นการทำสงครามเพื่อช่วยเหลือชีวิตของผู้คน เพราะงั้นสิ่งที่ชั้นกำลังทำอยู่ในตอนนี้จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าการยึดครองโบสถ์ใหญ่หรือการลงโทษพวกนักบวชชั่วร้ายเหล่านั้นมากเลยล่ะค่ะ

หลังจากนี้ให้พวกเราเป็นคนจัดการต่อเองนะคะ เอลิเซ่ซามะ!!!

เข้าใจแล้วค่ะ ฝากด้วยนะคะ ไอล่าซัง!

ชั้นปล่อยให้ไอล่าซัง หนึ่งในอัศวินศักดิ์สิทธิ์รับหน้าที่คอยดูแลอาการของชายหญิงวัยกลางคนและรีบเดินกลับไปยังไอออนฮาวล์เพื่อมุ่งไปหน้าไปยังจุดหมายของพวกเราต่อ

แต่ในระหว่างทางชั้นก็ได้สั่งให้ทุกคนหยุดลงอีกหลายครั้ง นั่นก็เพราะพวกเราได้พบกับผู้คนอีกจำนวนมากเลยที่มีสภาพไม่ต่างไปจากชายหญิงวัยกลางคนก่อนหน้านี้ ซึ่งการที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะพวกเค้าเหล่านั้นได้ถูกแย่งชิงเอาบ้านที่เคยอยู่อาศัยไป

พวกทหารรับจ้างที่ถูกจักรวรรดิเอลติซจ้างมานั้นได้เข้าปล้นชิงและยึดเอาบ้านของพวกเค้าไปเป็นฐานที่มั่น เพราะเหตุนั้นจึงทำให้มีพวกชาวเมืองกูสตาฟจำนวนที่ต้องมาอาศัยอยู่ภายในตรอกซอยต่างๆอย่างอดอยาก และยิ่งเป็นในช่วงฤดูหนาวแบบนี้แล้ว ความเป็นอยู่ของพวกเค้าจึงยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีก

ไม่เป็นอะไรนะคะ! เอลิเซ่ซามะ!!

หลังจากที่ได้เห็นชั้นใช้เวทมนต์ไปหลายต่อหลายครั้ง วิเวียนซังก็พูดขึ้นออกด้วยความเป็นห่วง ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงวิเวียนซังเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะพวกอัศวินศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆเองก็แสดงสีหน้ากังวลออกมาเช่นเดียวกัน

ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เพราะได้พลังของราชาแห่งพฤกษาช่วยสนับสนุน เพราะงั้นอีกไม่นานมานาของชั้นก็คงจะกลับคืนมาทั้งหมดแล้วล่ะค่ะ

ชั้นตอบวิเวียนซังและหันไปยิ้มให้กับทุกคน ซึ่งก็แน่นอนว่าที่ชั้นพูดออกไปนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก ด้วยการสนับสนุนจากราชาแห่งพฤกษานั้นทำให้ชั้นสามารถใช้เวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์ได้ดีขึ้นมาก อัตราการฟื้นฟูมานาเองก็ดูจะสูงขึ้นเป็นอย่างมากด้วย เพราะงั้นต่อให้ต้องใช้เวทมนต์เข้ารักษาผู้คนที่กำลังเจ็บปวดทรมานหลายร้อยคนก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน

ที่นี่ดูจะเงียบสงบผิดปกติ....ทุกคนระวังตัวกันด้วยนะคะ!!

เมื่อพวกเราเดินทางมาถึงยังโบสถ์ใหญ่ วิเวียนซังกะโดดลงไปจากหลังเจลโล่และตะโกนเตือนทุกคนที่ด้านหลังให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะโบสถ์ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าของพวกเราในตอนนี้ดูจะเงียบสงบผิดปกติ ที่หน้าประตูในตอนนี้ไม่มีคนคอยเฝ้าเลยแม้แต่คนเดียว แถมด้านในก็ไม่มีการจุดคบเพลิงที่ตะเกียงให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว

พวกนักบวชชั่วร้ายทั้งหลายนั่นอาจจะหวาดกลัวพวกเราจนหนีไปกันหมดแล้วก็ได้นะคะ อุฟุฟุ

นั่นสินะครับ ไอ้เจ้าพวกนักบวชชั่วคงกลัวว่าความชั่วของพวกมันจะถูกเปิดเผยก็เลยรีบหนีไปกันหมดแล้วแน่ๆ

อัศวินศักดิ์สิทธิ์หลายๆคนเองก็ดูจะมีความคิดใกล้เคียงกับชั้น เนื่องจากพวกเรานั้นใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าที่จะเดินทางมาถึงยังโบสถ์ใหญ่ เพราะงั้นหากเจ้านักบวชชั่วร้ายพวกนั้นคิดจะหนีล่ะก็ พวกมันก็มีเวลาให้เตรียมตัวเป็นอย่างมาก

ศะ ศพ นี่มันศพพวกนักบวชนี่คะ!!!」「สภาพศพพวกนี้เลวร้ายมากเลยนะคะ เหมือนกับถูกตัวอะไรกัดกินไปบางส่วนเลยค่ะ!!

แต่ดูเหมือนว่าความคิดของชั้นจะผิดพลาดไป เพราะหลังจากที่พวกเราเข้าไปถึงด้านใน พวกเราก็ได้พบร่างของนักบวชจำนวนมากที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

มะ มะ มีตัวอะไรไม่รู้อยู่ตรงนั้นด้วยค่ะ!!!」「ระ ระวังนะคะทุกคน!!! 」「ตัวอะไรวะนั่น!!!! 」「รีบคุ้มกันท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์เร็วเข้า!!!」「ฆ่ามันเลย!!!

บุโกร๊ววววว!!! บุโกร๊ววววววววววววววววววว!!!

ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!」「ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!

พร้อมกันกับเสียงคำรามที่ดังก้อง สิ่งมีชีวิตร่างใหญ่ที่มีเขี้ยวขนาดยักษ์ก็วิ่งเข้ามาหาพวกเราด้วยความรวดเร็ว เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทุกคนก็ระดมยิงกระสุนอมพาตเข้าใส่เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นพร้อมกัน แต่เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นกลับวิ่งหลบกระสุนไปซ้ายขวาและตรงเข้ามาทางพวกเราด้วยแววตาของนักล่าที่กำลังจดจ้องเหยื่อโดยไม่ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น