ตอนที่ 51 เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีเงิน



-- มุมมองของทัตสึยะ --

เคย์โกะจัง!! ชิโฮะจัง!! ผมจะจัดการกับยัยนี่เอง!! พวกเธอรีบถอยกลับไปรักษาบาดแผลและฟื้นฟูมานาซะ!!

ผมพูดพร้อมกับกระโดดเหวี่ยงค้อนเหล็กด้ามยาวขนาดใหญ่เข้าใส่มากิจังที่กำลังปะทะกับเคย์โกะจังเลยชิโฮะจังอยู่โดยไม่ลังเล มากิจังที่มองเห็นผมก็รีบหันตัวกลับมาและตั้งท่ารับการโจมตีของผมด้วยดาบคาตานะคู่ในทันทีเช่นเดียวกัน

ปฏิกิริยาตอบสนองของมากิจังนั้นเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก การจัดวางเท้าและการเคลื่อนไหวในระยะประชิดเองก็ดูเหมือนจะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี รูปแบบการโจมตีสวนกลับที่ดูอ่อนโยนราวกับกำลังเต้นรำของเธอนั้นก็ให้ความรู้สึกที่งดงามน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก

แต่มันก็มีสิ่งหนึ่งที่ดูไม่เข้ากันอย่างชัดเจน นั่นก็คือแววตาที่แทบจะไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย แววตาที่ดูว่างเปล่านั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับตัวเธอนั้นเป็นเพียงตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต และการที่ต้องมาเห็นเธอในสภาพแบบนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากจริงๆ

เข้าใจแล้วค่ะ!! เด๋วนู๋จะรีบกลับมาช่วยสนับสนุนนะคะ!!
ระวังตัวด้วยนะคะทัตสึยะซัง มากิซังนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกผู้กล้าทุกคนที่เคยมาเจอเลยล่ะค่ะ

เคย์โกะจังที่เต็มไปด้วยบาดแผลตามร่างกายตอบรับผมด้วยสีหน้าโล่งใจ ส่วนชิโฮะจังที่ได้คอยสนับสนุนเคย์โกะด้วยเวทมนต์อย่างต่อเนื่องจนดูอ่อนแรงก็ได้พูดเตือนผมออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง จากนั้นพวกเธอทั้งสองคนก็รีบถอนตัวกลับไปหายูเมะจังที่กำลังช่วยรักษาพวกเมดที่บาดเจ็บอยู่ในทันที

ไอโกะจัง ไอริจัง ช่วยจัดการไม่ให้มีตัวอะไรมาเกะกะการต่อสู้ของผมกับมากิจังทีนะ

「「ไว้ใจพวกเราได้เลยค่ะ!!!!」」

ไอโกะจังและไอริจังตอบรับผมกลับมาโดยไม่ลังเล จากนั้นพวกเธอทั้งสองคนก็กระจายตัวออกไปกันคนละทางและเริ่มจัดการพวกโยวไคทั้งหลายที่กำลังต่อสู้อยู่กับพวกเมดบริเวณรอบๆด้วยความเร็วสูง

ไอริจังใช้ดาบสองมือขนาดใหญ่ฟันเข้าใส่พวกยักษ์และปีศาจจิ้งจอกหายไปพร้อมกันทีเดียวหลายตัว ทั้งพลังและความเร็วของไอริจังนั้นเป็นอับดันที่ 1 ในหมู่พวกเรา ดังนั้นไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครหรือตัวอะไรก็ตาม ผมก็สามารถวางใจให้ไอริจังเป็นคนเข้าไปจัดการได้โดยไม่ต้องเป็นห่วง

ส่วนไอโกะจังนั้นถึงแม้ว่าด้อยกว่าไอริจังในเรื่องพละกำลังและความเร็ว แต่สะโพกขาวๆภายใต้กระโปรงที่ไม่มีชั้นในห่อหุ้มของเธอที่โผล่ออกมาให้เห็นเป็นระยะๆนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกสนุกสนานไปกับการเฝ้ามองดูเธอต่อสู้เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากเวลานี้มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจในเรื่องแบบนั้น ผมจึงได้รีบดึงสติกลับมาและตั้งสมาธิไปกับเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่กำลังปะทะกับผมอยู่ตรงหน้าคนนี้

ไม่เจอกันแค่ปีกว่า นี่เธอหันไปชอบถือคานาตะคู่เหวี่ยงไปมาเหมือนกับไอ้เจ้าอากิโอะมันแล้วเหรอเนี่ย ช่างเป็นอดีตแฟนสาวที่ไม่น่ารักเอาซะเลยนะ มากิจัง!!

และก็เนื่องจากมากิจังนั้นสามารถตั้งรับการโจมตีด้วยพลังอันโจมตีอันหนักหน่วงของผมแบบซึ่งๆหน้าได้โดยที่ไม่มีการแสดงท่าทางเสียเปรียบในด้านพลังออกมาเลย ดังนั้นผมจึงตัดสินใจปรับรูปแบบการต่อสู้จากการใช้แต่พลังมหาศาลซัดเข้าใส่มาเป็นการใช้ความเร็วหลอกล่อและบุกเข้าโจมตีมากิจังจากบริเวณด้านซ้ายที่เธอน่าจะไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นักแทน

หลังจากที่มากิจังถูกผมโจมตีเข้าจากทางด้านซ้ายที่เธอน่าจะไม่ถนัดเข้าไปอย่างต่อเนื่องไปหลายต่อหลายครั้ง มากิจังที่ถูกผมไล่ต้อนอยู่เพียงฝ่ายเดียวก็เริ่มพยายามที่หาช่องทางสวนกลับและเริ่มสร้างระยะห่างออกมา แต่ไม่ว่าพวกเราจะเข้าปะทะกันสักกี่ครั้ง สีหน้าที่ไร้อารมณ์และแววตาที่ว่างเปล่าของเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนแรกเลยแม้แต่นิดเดียว....

ทุกคนที่เข้ามาขัดขวาง...จะต้องหายไปทั้งหมด....

พร้อมๆกันกับน้ำเสียงที่เย็นชาของเธอ มากิจังรวบรวมออร่าสีดำจำนวนมากเข้าไปที่ดาบคาตานะทั้งสองข้างและฟาดมันเข้าโจมตีใส่ผมด้วยรังสีฆ่าฟันอันแสนจะรุนแรงโดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่นิดเดียว

แต่ถึงแม้ผมจะบอกว่าเธอนั้นไม่มีการลังเล ในชั่วเสี้ยววินาทีที่เธอได้ฟาดดาบคทาตานะคู่ในมือทั้งสองออกมานั้น ผมก็สังเกตเห็นถึงน้ำตาหลายหยดที่ค่อยๆไหลปริ่มออกมาจากดวงตาข้างหนึ่งที่ไม่ยังไม่ถูกคำสาปครอบงำของเธอ

และถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่การที่ได้เห็นมากิจังหลั่งน้ำตาออกมามันก็ทำให้ความรู้สึกที่เก็บซ่อนอยู่ภายในหัวใจของผมพุ่งพล่านไปทั่วทั้งตัว ความหวังนั้นยังมีอยู่ โอกาสที่จะสามารถทำให้มากิจังกลับมาเป็นคนเดิมได้นั้นยังคงมีเหลืออยู่

และในเมื่อมันมียังมีความหวังเหลืออยู่ ผมก็ไม่คิดจะละทิ้งมันไปอย่างแน่นอน เพื่อมากิจังและเพื่อตัวผมเองในอนาคต ผมจะต้องทำให้เธอกลับมาเป็นคนเดิมได้ให้ เพราะงั้นในการต่อสู้ครั้งนี้ผมก็จะต้องทุ่มอย่างสุดตัว ผมจะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อจับกุมตัวเธอเอาไว้ให้ได้

ต่อหน้าก็ทำเป็นโจมตีเข้าใส่ แต่ในใจของเธอกลับยังคอยเฝ้าคิดถึงตัวผมอยู่งั้นสินะ.....ไอ้ความคิดที่จะต่อสู้ครึ่งๆกลางๆแบบนั้นน่ะ!!! มันไม่มีทางที่จะเอาชนะผมคนนี้ได้หรอกนะ!! Dark Summon: Dark Phoenix Sacrifice Shield!!

พร้อมๆกันกับที่ออร่าสีดำพุ่งเข้ามาโจมตีใส่ ผมก็เรียกอสูรรับใช้แห่งความมืด Dark Phoenix หรือก็คือเจ้าคุโรโกะออกมาด้วยรูปแบบโล่ป้องกัน และถึงแม้ว่าอสูรรับใช้แห่งความมืดของผมนั้นจะไม่ได้มีความสามารถที่สูงเหมือนกันกับของยูเมะจัง แต่พวกมันก็ถูกทดแทนด้วยความหลากหลายสำหรับการนำออกมาใช้งาน

ฟิฟิฟี่!!!!!!!!

คุโรโกะในรูปแบบโล่ขนาดใหญ่ที่ได้รับการโจมตีจากออร่าสีดำเข้าไปส่งเสียงกรีดร้องออกมาเล็กน้อย และหลังจากที่ได้สลายการโจมตีด้วยออร่าสีดำของมากิจังไปได้ทั้งหมดแล้ว คุโรโกะก็ได้สลายหายไปพร้อมๆกัน ไอ้การที่ทำให้คุโรโกะในรูปแบบโล่สลายไปในครั้งเดียวได้เนี่ย มันก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าการโจมตีเมื่อครู่ของมากิจังนั้นรุนแรงมากเลยทีเดียว

ถึงจะเธอจะเป็นอดีตคนรักของผมก็เถอะ แต่เล่นมาลังแกคุโรโกะของผมจนเจ้านั่นถึงกับต้องร้องไห้ออกมาแบบนี้เนี่ย ยังไงผมก็คงอภัยให้เธอไม่ได้แล้วล่ะนะ!!!

หลังจากที่มากิจังได้ใช้การโจมตีขนาดใหญ่แบบนั้นไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอก็คงจะไม่สามารถรวบรวมออร่าสีดำจำนวนมากไปได้อีกสักพัก ดังนั้นในเวลานี้จึงเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผมจะสามารถจับตัวเธอได้ง่ายขึ้น และเมื่อคิดได้ดังนั้น ผมก็ตัดสินใจเรียกอสูรรับใช้ที่น่ารักน่าชังอีกตัวหนึ่งออกมาในทันที

Dark Summon: Dark Kitten Pleasure Prison!!

「「「「「「อุเนี๊ยววว!!!!!!!!」」」」」」

พร้อมๆกันกับเสียงร้องน่ารักๆของลูกแมวดำจำนวนมากที่ดังก้องไปทั่วบริเวณ มากิจังที่กำลังตั้งท่าเตรียมโจมตีเข้าใส่ผมก็ถูกพวกลูกแมวจำนวนมากกระโดดจู่โจมเข้าใส่จากบริเวณพื้นด้านล่างของเธอ

นี่คิดว่าของเล่นแบบนี้จะทำอะไรชั้นได้........หึ......อุ๊!!!!??

แต่ถึงแม้ว่ามากิจังจะพยายามดิ้นรนด้วยการสะบัดดาบคาตานะฟาดฟันเข้าใส่พวกลูกแมวดำหลายร้อยตัวที่กำลังปีนป่ายเข้าไปภายใต้ชุดเกราะของเธอซ้ำไปซ้ำมาอย่างต่อเนื่องมากสักแค่ไหน

แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่อาจจะอดทนต้านทานต่อฝูงลูกแมวดำหลายร้อยตัว ที่กำลังเข้าไปโลมเลียตามจุดสำคัญต่างๆของร่างกาย เพื่อสร้างเป็นคุกเนี๊ยวๆแห่งความเสียวซ่านไร้ที่สิ้นสุดได้ สีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ราวกับตุ๊กตาก่อนหน้านี้ของเธอเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อยแล้ว

และถึงแม้ภายนอกมันจะฟังดูเหมือนเป็นเวทมนต์จับกุมตัวที่น่าเกรงขาม แต่เจ้าอสูรรับใช้แห่งความมืด Dark Kitten เนี่ย นอกจากทำให้กับพวกสาวๆเสียวซ่านจนเหนื่อยแรงแล้ว พวกมันก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรอื่นๆเลย

เพราะงั้นถึงแม้จะบอกว่ามันมีประโยชน์เวลาใช้จับกุมพวกสาวๆ แต่หากศัตรูเป็นตัวผู้หรือพวกมอนสเตอร์ล่ะก็ เจ้าอสูรรับใช้แห่งความมืด Dark Kitten นี่ก็แทบจะทำอันตรายอะไรกับพวกศัตรูไม่ได้เลย

แต่เรื่องพวกนั้นน่ะช่างมันไปเถอะ เพราะในเวลานี้มันเป็นเวลาสำคัญที่ผมจะได้เห็นมากิจังถึงจุดสุดยอดด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก มันเป็นประสบการณ์สำคัญที่ผมจะไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิตเลยล่ะ

เป็นยังไงล่ะมากิจัง นี่ล่ะคือผลของการที่เธอคิดจะมาเป็นศัตรูของผม กับเด็กสาวน่ารักอย่างเธอเนี่ย มันเหมาะที่นอนร้องครางด้วยความเสียวมากกว่าถือดาบคาตานะวิ่งเข้าฟันใส่ผมมากๆเลยนะ

อุ....เคี๊ยะ!! นี่แกกำลังทำอะไรกับร่างกายของชั้นกัน...!!! อะ เคี๊ยะ!! อุ...อะ อ๊ะ!!! พวกแกจะมุดเข้าไปทำอะไรตรงนั้นกัน....หึ....อุ!!!

ถึงแม้แววตาของมากิจังยังคงไร้ซึ่งความรู้สึกเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่สีหน้าของเธอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมานิดหน่อยเพราะความรู้สึกเขินอายที่ไม่สามารถปิดกั้นกันได้ง่ายๆ

และพอได้มาเห็นสภาพที่น่าอายแบบนี้ของเธอแล้วเนี่ย ไอ้ความรู้สึกเจ็บปวดใจก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนจะหมดไปแล้ว จะว่ายังไงดีล่ะ มันเหมือนกับความตึงเครียดก่อนหน้านี้ได้ถูกปลดเปรื้องออกไปจนหมด ผมรู้สึกได้เลยล่ะว่ามากิจังที่อยู่ตรงหน้าของผมในตอนนี้ยังเป็นมากิจังคนเดิมอยู่

ถ้าเธอชอบเรื่องลามกมากมายขนาดนี้ก็น่าจะบอกผมมาตั้งแต่ตอนแรกนะ เอาเถอะยังไงหลังจากนี้เธอก็จะกลับมาเป็นคนรักของผมเหมือนกับเมื่อสมัยก่อนอยู่แล้วใช่มั๊ยล่ะ ?

ผมพูดพร้อมกับปลดดาบคาตานะคู่ออกจากมือทั้งสองข้างของมากิจัง จากนั้นผมจึงลงไปค่อมร่างของมากิจังและเตรียมตัวที่จะป้อนยาระงับการไหลเวียนของมานาใส่มากิจังผ่านทางปากของเธอ

นี่แกคิดจะทำอะไรกันแน่... อุ...อะ อ๊ะ!!! ออกไปจากร่างกายของ..อุ๊บ!!!

ไม่ปล่อยให้มากิจังพูดออกมาจนจบ ผมใช้มือทั้งสองข้างค่อยๆประคองใบหน้าของเธอขึ้นมา จากนั้นผมก็ดื่มยาระงับการไหลเวียนของมานาเข้าไปอมไว้ในปากและรีบเข้าไปประกบปากกับเธอเพื่อป้อนยาให้กับเธอในทันที

อุ...อื๊อออ!!! อื๊ออออออ!!!!!!!!!!!!!!

และในวินาทีที่ยาระงับการไหลเวียนของมานาไหลผ่านลำคอเข้าไปในร่างกายของเธอ แววตาที่ว่างเปล่าจนถึงก่อนหน้านี้ของเธอก็เริ่มที่จะค่อยๆมีปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นมาเล็กน้อย

ร่างกายที่เย็นเยือกของมากิจังเองก็ค่อยๆอุ่นขึ้น สัมผัสของใบหน้าและริมฝีปากที่ส่งผ่านจากร่างกายของเธอเข้ามาถึงตัวผมนั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปช้าๆ และถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ดี

แต่ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยนที่ผมได้รับกลับมาจากร่างกายของมากิในตอนนี้มันก็ทำให้ผมอยากจะคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่ดี แต่แล้วในขณะที่ริมฝีปากของพวกเราได้แยกออกจากกันนั้น คำพูดแรกที่ผมได้ยินจากปากของมากิจังมันก็ทำให้ผมรู้สึกตกใจจนร่างกายหยุดนิ่งลงไป....

ทัต สึ ทัต สึยะ ซัง....

และก็เป็นในตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆกำลังเกิดขึ้น ร่างกายของผมมันรู้สึกเจ็บแปล๊บแล้วก็เริ่มชาไปทั่วทั้งตัว ความอบอุ่นที่ได้รับจากมากิจังจนถึงก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆเลือนรางหายไป ภาพของมากิจังที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยออร่าสีดำมากกว่าครึ่งตัวที่อยู่ตรงหน้าเองก็ค่อยๆเลือนราง

ทัตสึยะซัง!!!!」「ทัตสึยะซามะ!!」「ทัตสึยะซัง!!」「ทัตสึยะโอนี่จัง!!」「โอนี่ซามะ!!」「นายท่าน!!!!」「ทัตสึยะซาม๊า!!!!

เสียงตะโกนร้องเรียกชื่อของผมดังขึ้นมาจากรอบๆตัวพร้อมๆกันอย่างต่อเนื่อง ภาพของเด็กสาวหลายคนที่กำลังพยายามวิ่งเข้ามาหาผมดูช้าลงไปทีละนิดจนสุดท้ายก็กลายเป็นหยุดนิ่ง ภาพของทิวทัศน์รอบๆที่เป็นสีสันสดใสจนถึงก่อนหน้านี้ค่อยๆจืดจางลงช้าๆจนกลายเป็นสีเทา

แต่ภายในภาพสีเทาที่ได้หยุดนิ่งลงไปนั้น ผมได้เห็นเด็กสาวผมสีเงินคนหนึ่งที่ผมรู้จักเป็นอย่างดียืนอยู่ แต่ถึงจะบอกว่าผมรู้จักเธอเป็นอย่างดี ภาพของเธอในตอนนี้มันก็ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีเงินเป็นประกายงดงามค่อยๆเดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆอย่างสง่างาม ที่ด้านหลังของเธอนั้นมีปีกสีเงินระยิบระยับ 6 ปีกสยายออกไปราวกับพวกเทพธิดาที่ผมได้เคยเห็นในภาพวาด


「ดิชั้นจะเป็นคนจัดการเรื่องของมากิซามะต่อเอง เพราะงั้นทัตสึยะซามะก็พักผ่อนก่อนดีกว่านะคะ

เด็กสาวผมสีเงินที่งดงามราวกับเทพธิดาตัวจริงเข้ามากระซิบที่ข้างหูของผมพร้อมกับค่อยๆประทับริมฝีปากของเธอลงที่บริเวณกลางหน้าผากของผมอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกที่ได้รับจากจูบของเธอนั้นทำให้หัวใจที่ของผมรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขเป็นอย่างมาก

ฝากด้วยนะ.....เอริจัง....

หลังจากตอบรับเอริจังกลับไปด้วยรอยยิ้ม เปลือกตาของผมมันก็ค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆๆ แล้วจากนั้นอีกเพียงแค่ไม่กี่วินาที สติของผมก็ค่อยๆเลือนรางและจางหายไปในทันที....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น