ตอนที่ 1 การเดินทางของโรน่า บทที่ 1


 
-- มุมมองของโรน่า --                      

ช่วงเช้าของวันที่ 29 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

ตอนนี้ชั้นกำลังอยู่ในระหว่างเดินทางไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรออร์ฟีน่า ด้วยพาหนะเวทมนต์ขนาดใหญ่ ทำให้การเดินทางที่เคยต้องใช้เวลาหลายวันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

และในขณะที่กำลังนั่งมองทิวทัศน์ด้านนอกผ่านทางหน้าต่างกระจก ชั้นก็ได้นึกย้อนไปถึงคำพูดของทัตสึยะซามะในคืนก่อนที่พวกเราจะจากกัน

โรน่าจัง เธอน่ะเป็นพวกไม่ได้เรื่อง ต่อให้อยู่ที่นี่ไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะงั้นมันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้าจะตามผมกลับไปด้วยกันน่ะ

ถึงแม้มันจะเป็นถ้อยคำที่ฟังดูโหดร้าย แต่น้ำเสียงของทัตสึยะซามะก็สื่อให้เห็นถึงความเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งก็น่าเสียดายที่ตัวชั้นในตอนนี้ไม่อาจจะตอบรับความหวังดีของเค้าเอาไว้ได้

เพราะถึงแม้ชั้นจะเป็นพวกไม่ได้เรื่อง ถึงแม้ชั้นจะทำประโยชน์อะไรให้ท่านหญิงไม่ได้มากนัก แต่ชั้นก็ได้สาบานกับตัวเองเอาไว้ ตราบใดที่ท่านหญิงเซลฟีน่ายังต้องการ ชั้นก็จะขออยู่เคียงข้างคอยท่านหญิงตลอดไป

ขอโทษ.......อุ

ยังไม่ทันที่ชั้นจะได้ปฏิเสธ ทัตสึยะซามะก็ดึงตัวชั้นเข้าไปใกล้และประทับริมฝีปากของเค้าลงบนริมฝีปากของชั้น

เนื่องจากเป็นการจูบครั้งแรกชั้นจึงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร แต่สิ่งที่ชั้นรู้สึกได้คือความอบอุ่นที่หลั่งไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายของชั้น นี่น่ะเหรอคือการมอบความรัก นี่น่ะเหรอคือความรู้สึกที่หญิงสาวทุกคนปรารถนา

ผมไม่ยอมให้เธอปฏิเสธหรอกนะ โรน่าจัง

หลังแยกออกจากกันทัตสึยะซามะก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาที่เคยอ่อนโยนของเค้าเปลี่ยนเป็นแววตาดุดัน

เอ๋แต่ว่า.....ชั้นน่ะเป็นแค่......

ต่อให้เธอไม่ได้ชอบผม หรือต่อให้ต้องใช้วิธีสกปรกแค่ไหน ต่อให้ต้องทำให้เธอเกลียดผมก็จะทำให้เธอมาเป็นของผมให้ได้

ไม่มีทางให้หนี ไม่มีทางให้ปฏิเสธ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของชั้นได้พูดมันออกมาอย่างชัดเจน กับความรู้สึกที่จริงจังของเค้าแล้ว ชั้นคงมีแต่ต้องพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา

ชั้นเองก็........ชอบ....

ชั้นชอบคุณค่ะ ทัตสึยะ...ซามะ.......แต่ชั้นเองก็มีคนสำคัญ.......ชั้นเองก็มีคนสำคัญที่ชั้นทิ้งไปไม่ได้เหมือนกัน......น่ะค่ะ......

เมื่อได้ยินคำตอบของชั้น ทัตสึยะซามะก็เริ่มแสดงรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนออกมาอีกครั้งก่อนจะพูดว่า

เข้าใจละ ผมจะรออีกซักหน่อยก็แล้วกัน....

.....จะรอ.......เหรอคะ

ใช้แล้วล่ะ ผมจะให้เวลาเธออีกซักหน่อย..........นั่นสินะ ถ้าเกิดผมรอไม่ไหวเมื่อไหร่ล่ะก็ ผมจะมาลักพาตัวเธอไปก็แล้วกัน

ถึงจะฟังดูเหมือนพูดเล่น แต่คำพูดของเค้าก็ฝังลงลึกไปในหัวใจของชั้น กับเด็กผู้หญิงธรรมดาอย่างชั้น กับเด็กผู้หญิงที่ไม่มีอะไรดีอย่างชั้น เค้าก็ยังให้ความสำคัญมากถึงเพียงนี้

…..ขะ.....ขอบคุณ.....นะคะ

ชั้นพูดขอบคุณออกไปพร้อมทั้งน้ำตาที่ค่อยๆหลั่งไหลออกมาช้าๆ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆที่มอบความรักให้กับชั้น แต่ชั้นน่ะไม่เหมาะกับทัตสึยะซามะหรอกค่ะ ตัวชั้นน่ะไม่เหมาะที่จะได้รับความสุขมากมายขนาดนั้นหรอกค่ะ

ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆนะเธอเนี่ย

ทัตสึยะซามะดึงชั้นเข้าไปโอบกอดและค่อยๆลูบหัวชั้นอย่างอ่อนโยน แต่ทั้งๆที่มันเป็นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุขแต่น้ำตาของชั้นกลับไม่ยอมหยุดไหล

…..ฮือ....ทัตสึยะซามะ.......ฮือ.......

ในอ้อมกอดของเค้านั้นมันช่างอบอุ่นจนไม่อาจจะหาสิ่งใดมาเทียบเคียงได้ เพียงแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเค้าเวลารอบข้างก็ราวกับหยุดนิ่งไป

นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ ในตอนนี้ไม่ว่าเวลาจะได้ผ่านไปหนึ่งนาทีหรือหนึ่งชั่วโมงชั้นก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเค้าก็ยังไม่ปล่อยชั้นออกจากอ้อมกอด ไม่แม้แต่จะเลิกปลอบโยนชั้น

เวลาผ่านไปซักพักจนในที่สุดชั้นก็พอจะสงบใจลงได้

นี่เป็นแหวนต้องสาป และเธอก็จะต้องสวมมันไว้ตลอดเวลา หากเธอคิดจะหนีไปจากผม หรือแม้แต่คิดถึงผู้ชายคนอื่นล่ะก็ คนสำคัญทุกคนที่เธอต้องการปกป้องจะต้องถูกคำสาปเล่นงานจนทุกทรมานไปตลอดทั้งชีวิต

ทัตสึยะซามะหยิบเอากล่องหรูหราใบหนึ่งขึ้นมาและเปิดมันออก ด้านในมีแหวนอัญมณีสีน้ำทะเลที่ดูหรูหราและงดงามเปล่งประกายระยิบระยับอยู่วงหนึ่ง

…..สวย.......จัง.......

ถึงแม้มันจะเป็นแหวนต้องสาป แต่มันก็ช่างงดงามจนชั้นไม่อาจจะละสายตาไปจากมันได้

ทัตสึยะซามะค่อยๆจับมือซ้ายของชั้นขึ้นมาและนำแหวนต้องสาปมาสวมใส่เอาไว้ ความงดงามของมันนั้นยิ่งกว่าแหวนอัญมณีหรูหราของพวกลูกสาวขุนนางที่ชั้นเคยเห็นในงานเต้นรำเสียอีก

ถึงป้อมปราการที่ 2 แล้วค่า!! สำหรับท่านที่ต้องการลงที่นี่ก็ขอให้ลุกขึ้นและตรวจสอบสัมภาระของท่านให้เรียบร้อยก่อนลงไปด้วยนะคะ

เสียงของพนักงานต้อนรับในพาหนะเวทมนต์คันนี้ทำให้ชั้นได้สติกลับคืนมา หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงป้อมปราการที่ 2 แล้ว

ส่วนท่านใดที่มีความต้องการจะทำธุระที่นี่ พวกเราจะจอดพักที่นี่ประมาณ 30 นาที เพราะงั้นก็ช่วยกลับมาก่อนเวลาซักเล็กน้อยด้วยนะคะ

จอดพัก 30 นาทีงั้นเหรอ แบบนี้ชั้นลงไปเดินเที่ยวที่นี่ซักหน่อยดีกว่า

เมื่อตัดสินใจได้ชั้นก็ลงจากพาหนะเวทมนต์ไปที่ด้านล่าง ป้อมปราการที่สองนั้นเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นด้วยเวทมนต์ มันเป็นป้อมปราการหินที่สูงชันและแข็งแกร่ง แต่นอกจากจะเอาไว้ใช้ในการสงครามแล้ว ภายในก็ยังมีร้านอาหารและร้านค้าอื่นๆอีกมากมายด้วย

ภายในร้านค้าต่างๆเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย หลังจากที่พวกเราชนะสงครามและประกาศจัดตั้งอาณาจักรแห่งใหม่ เหล่าหนุ่มสาวมากมายที่เต็มไปด้วยความหวังต่างก็พากันเดินทางมาจากจักรวรรดิ

บ้างก็เดินทางไปหางานทำยังเมืองแห่งใหม่ต่างๆ บ้างก็ไปเข้ารับการฝึกฝนเพื่อเข้าเป็นทหาร บ้างก็เดินทางไปยังโรงเรียนของพวกท่านจอมเวท ไม่ว่าจะเป็นลูกขุนนางหรือลูกของสามัญชน พวกเค้าก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม

เอ่อ...ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าถ้าต้องการจะไปยังปราสาทฟีเรน่าต้องไปขึ้นพาหนะเวทมนต์ที่ตรงไหนเหรอคะ

ต้องการจะไปยังเมืองหลวงสินะคะ พาหนะเวทมนต์ที่จะเดินทางไปเมืองหลวงจะออกจากที่นี่ในอีก 15 นาที ส่วนสถานที่ก็เป็นบริเวณประตูทางออกทิศเหนือที่ 2 นะคะ

ในขณะที่ชั้นกำลังเพลิดเพลินไปกับสินค้ามากมาย เด็กสาวคนหนึ่งในชุดคลุมสีเขียวอ่อนได้เข้าไปคุยกับพนักงานของร้านเพื่อสอบถามวิธีการเดินทางไปยังปราสาทฟีเรน่า

โดยปกติแล้วหากเป็นคนทั่วไปล่ะก็ คงจะไม่คิดที่จะเดินทางไปยังปราสาทของผู้ปกครองอาณาจักรเป็นแน่ ดังนั้นคุณพนักงานร้านจึงเข้าใจว่าเธอต้องการเดินทางไปยังเมืองหลวง

ชั้นเองก็จะแวะที่ปราสาทฟีเรน่าเหมือนกัน หากไม่รังเกียจล่ะก็ เดินทางไปพร้อมกันกับชั้นมั๊ยคะ

ชั้นรีบเดินเข้าไปหาเด็กสาวคนนั้น ถ้าหากเธอต้องการไปยังปราสาทฟีเรน่า พวกเราก็มีจุดหมายเดียวกัน และชั้นก็อยากจะมีเพื่อนร่วมทางไปด้วยเช่นกัน

ส่วนเหตุผลที่ชั้นจะไปที่ปราสาทฟีเรน่านั้น ก็เพ่อจะไปสอบถามเรื่องบางอย่างจากท่านหญิงยูฟีน่า ก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปหาทัตสึยะซามะที่เมืองสเตรเชียของอาณาจักรออร์ธรอส

ถึงแม้ในตอนนี้ชั้นจะไม่ได้เป็นคนของตระกูลโรเซนเบิร์กแล้ว แต่ชั้นก็หวังว่าความเป็นเพื่อนของพวกเราในหลายปีที่ผ่านมานั้นจะยังไม่ถูกทำลายไป

เอ่....เอ่อ.....ถ้าเช่นนั้นก็ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ ดิชั้น ไอเชีย โรสเบล ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

เด็กสาวหน้าตาน่ารักพูดพร้อมกับจับชายกระโปรงและย่อตัวลงทักทาย ดูจากมารยาทแล้ว เธอคงจะไม่ใช่เด็กสาวชาวบ้านทั่วไป แต่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของท่านหญิงที่สร้างอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ชั้นก็ต้องปฏิบัติด้วยอย่างเท่าเทียม

ชั้น โรน่า คลอฟอร์ด ไม่ต้องพูดสุภาพกับชั้นก็ได้ ขอฝากตัวด้วยนะคะ

ชั้นจับชายกระโปรงและย่อตัวลงเพื่อทักทายกลับไป จากนั้นพวกเราก็เดินซื้อขนมหวานกันเล็กน้อยก่อนจะไปขึ้นพาหนะเวทมนต์ และออกเดินทางไปยังปราสาทฟีเรน่า

4 ความคิดเห็น:

  1. โอ้วเย่ ยัยเซ่อโรน่ามาแล้ว เตรียมเปิดทำเนียบเมียเพิ่มได้ ณ บัดนาว

    ตอบลบ
  2. เปิดตัวสนมลำดับที่...เท่าไหร่แล้ววะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ30 เมษายน 2559 เวลา 16:32

    มีเหยื่อหลงมาพร้อมกับโร่น่าจังด้วย

    ตอบลบ