-- มุมมองของทัตสึยะ --
ช่วงกลางดึกของวันที่ 19 เดือน 8
ศักราชเอลติซปีที่ 837
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่ผมได้วางเอาไว้อย่างราบรื่น
กองทหารจำนวนมากกว่า 50,000 นายได้เดินทางออกจากเมืองหลวงเซเลสเทียเพื่อไปช่วยเหลือเมืองไอกิลัสซึ่งถูกพวกยูเมะจังโจมตีเมื่อ
5 วันก่อน
กองทัพเรือเหาะเกือบทั้งหมดที่เหลืออยู่ในเมืองหลวงเองก็ถูกส่งออกไปเสริมกำลังให้กับเมืองป้อมปราการเอสต้าซึ่งอยู่ทางเหนือ
ซึ่งการที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนนั้นก็คงจะต้องชมเชยหน่วยข่าวกรองของเอริจังที่เป็นคนจัดการควบคุมข่าวสารของศัตรู
และจากเหตุผลข้างต้นทำให้ในคืนนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่พวกเราจะบุกเข้ายึดปราสาทเซเลสเชีย
แต่เนื่องจากผมจำเป็นจะต้องทิ้งทหารจากกองพันแวร์วูล์ฟ 1,000
นายเอาไว้กับชิซึกุเพื่อป้องกันเมืองป้อมปราการมินิทาริสซึ่งฐานที่มั่น
ดังนั้นจำนวนทหารที่จะใช้ในแผนการบุกยึดจึงมีเพียงแค่
ทหารจากกองพันแวร์วูล์ฟ 500 นาย
ซึ่งนำโดย บารอนโอลอฟ ออร์ โดเลีย หนึ่งในหัวหน้าเผ่าคนแคระ
การต่อสู้ในพื้นที่บ้านเกิดนั้นทำให้พวกคนแคระมีกำลังที่เต็มเปี่ยม
และถึงแม้ผมได้ตกลงกับพวกเค้าเอาไว้แล้วว่าจะมีเพียงแค่พื้นที่รอบๆเมืองป้อมปราการมินิทาริสเท่านั้นที่พวกเราจะมอบให้
แต่พวกเค้าทุกคนก็ยังยินดีที่จะเสี่ยงชีวิตเข้าต่อสู้ตามคำสั่งของผมโดยไม่ได้มีการเรียกร้องสิ่งใดเพิ่มแม้แต่นิดเดียว
นอกจากพวกคนแคระแล้วก็ยังมีเหล่าอัศวินสาวสวยจากกองอัศวินที่
3 นำโดย สเตล่า ซึ่งในตอนนี้มีตำแหน่งเป็นบารอนหญิงจำนวนทั้งหมด 200 คน
สาวๆในกองอัศวินที่ 3 นั้นมีหลายคนที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผมอยู่แล้ว
เพราะงั้นพวกเธอคงจะไม่ทำให้ผมต้องผิดหวังอย่างแน่นอน
สุดท้ายก็คือหน่วยเมดติดอาวุธของมาเรียจังอีก
100 คน สำหรับมาเรียจังและพวกเมดนั้นคงไม่ต้องพูดอะไรมาก
พวกเธอนั้นเป็นกองทหารที่ทรงพลังและไว้วางใจได้ในทุกสถานการณ์
เพราะงั้นสำหรับผมแล้วพวกเธอถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด
ส่วนหนึ่งก็เพราะผมฝึกฝนพวกเธอทุกคนมาด้วยร่างกายของผมเอง
「ทัตสึยะซัง อะ อ้ามม!」
ในขณะที่กำลังเดินทางด้วยเรือเหาะประจัญบาน
Wing Of Dawn
ยูเมะจังที่นั่งอยู่ด้านซ้ายของผมก็ได้ป้อนแอปเปิลกระต่ายให้กับผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หลายเดือนที่ผ่านมานี้ยูเมะจังหักโหมฝึกฝนการต่อสู้อย่างหนัก
ซึ่งเหตุผลนั้นก็เป็นเพราะในสงครามครั้งก่อนที่เธอเกือบที่จะถูกข่มขืน
ตัวเธอไม่สามารถให้อภัยความอ่อนแอของตัวเองได้จึงได้พยายามฝึกฝนการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
ดังนั้นการที่ผมได้กลับมาเห็นรอยยิ้มแสนอ่อนโยนดุจเทพธิดาที่คอยช่วยเยียวยาหัวใจของผู้คนของยูเมะจังอีกครั้งจึงทำให้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ดูเหมือนว่าเธอเริ่มที่จะพึงพอใจกับผลการฝึกฝนเธอในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วล่ะนะ
「อะ อ้ามม!………อร่อยมาก ขออีกชิ้นสิ ยูเมะจัง」
「ช่วยไม่ได้นะคะ อะ อ้ามม!」
ผมทานแอปเปิลกระต่ายที่ยูเมะจังป้อนและพักผ่อนอย่างสบายใจอยู่บนโซฟาหรูหราตัวหนึ่งในสะพานเดินเรือ
แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ทานแอปเปิล
แต่ผมในตอนนี้ก็กำลังสนุกสนานไปกับการลูบคลำส่วนโค้งเว้าตามร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหน้าอกอันนุ่มนิ่มด้านในชุดเมดของฟลอร่า
และก็ไม่ใช่แค่ฟลอร่า
เพราะยังมีเรเน่และโรเซ็ตต้าเมดสาวอายุ 12 ปีแสนน่ารักที่พึ่งรับเข้ามาใหม่อีกสองคนกำลังช่วยกันใช้ริมฝีปากและลิ้นเล็กๆสีแดงระเรื่อของพวกเธอปรนเปรอช่วงล่างที่กำลังมีอารมณ์อย่างเต็มที่ของผมไปพร้อมกันด้วย
การที่มีเด็กที่พึ่งเริ่มจะเข้าวัยสาวถึงสองคนมาดูดเลียช่วงล่างให้นี่มันก็ให้ความรู้สึกที่สุดยอดมากทีเดียว
ฟลอร่าก้มหน้าลงด้วยความเขินอายแต่ก็ไม่คิดจะขัดขืน
ใบหน้าแสนสวยของเธอที่กำลังแดงก่ำนั้นช่างปลุกเร้าอารมณ์ของผมเป็นอย่างมาก ยูเมะจังที่กำลังอมยิ้มอย่างมีความสุขเองก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้
ผมดูดเลียต้นคอของเธอพร้อมกับล้วงเข้าไปลูบไล้ต้นขางามๆของเธอไปพร้อมกัน
แต่เนื่องจากพวกเราใกล้จะถึงเมืองหลวงเซเลสเซียแล้วผมจึงต้องอดทนที่จะไม่จับพวกเธอกดลงไปในตอนนี้
เพราะงั้นหลังจากที่ยึดปราสาทเซเลสเชียได้อย่างสมบูรณ์เมื่อไหร่ ผมจะจัดหนักจนทำให้พวกเธอทุกคนหมดแรงจนลุกจากเตียงไม่ไหวกันเลยคอยดู
「นายท่าน Wing of Dawn กำลังจะเข้าถึงเขตน่านฟ้าของเมืองหลวงเซเลสเชียในอีก
3 นาทีแล้วค่ะ และชั้นก็ได้สั่งการเหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เข้าประจำสถานรบเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ」
มาเรียจังเข้ามารายงานกับผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนดังเช่นเวลาปกติ
เพราะความขี้เกียจผมจึงได้มอบหมายหน้าที่สั่งการเกือบทั้งหมดให้มาเรียจังเป็นคนจัดการ
ซึ่งเธอก็ทำงานได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ติเสมอมา
「ขอบใจมากนะ มาเรียจัง」
ผมพูดพร้อมกับดึงมาเรียจังเข้ามาใกล้ๆก่อนจะแลกริมฝีปากกันเบาๆเพราะพวกเราในตอนนี้ไม่ได้มีเวลามากนัก
ต่อจากมาเรียจังก็เป็นยูเมะจังและฮารุกะจังที่จำเป็นจะต้องรีบไปเตรียมตัว
ส่วนทางฝั่งของพวกมายุจังและเด็กสาวคนอื่นๆที่อยู่บน
Dark Wisp เรือเหาะประจัญบานอีกลำหนึ่งที่จะเข้าทำการโจมตีบริเวณทิศเหนือซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับพวกเราเองนั้น
ผมก็ได้จัดหนักกับพวกเธอไปก่อนล่วงหน้าแล้วจึงไม่มีปัญหาใดๆ
「กำแพงเมืองชั้นนอกของเมืองหลวงเซเลสเทียกำลังจะเข้าถึงระยะยิงปืนใหญ่
Wing of Dawn ในอีก 10
วินาที และ Dark Wisp ในอีก 30 วินาทีค่ะ」
「ออกคำสั่งไปยังหอควบคุมการยิงของทั้งสองลำ
เมื่อเข้าถึงระยะยิงแล้วให้เปิดฉากโจมตีได้ทันที
เน้นทำลายอาวุธหนักทั้งหมดเป็นอันดับแรก
อย่าลืมเตือนไปด้วยว่าให้พยายามหลีกเลี่ยงการเล็งยิงบริเวณที่ใกล้เคียงกับบ้านเรือนของประชาชนทั่วไปให้มากที่สุด」
เมื่อได้รับคำสั่ง
มาเรียจังก็รีบขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้กับตัน
และเริ่มทำการออกคำสั่งเพื่อทำการลดระดับความสูงและความเร็วลงในทันที
「ปืนใหญ่หลักที่ 1 และ 3
เริ่มเปิดฉากโจมตีได้」
จากการสั่งการของมาเรียจัง
ปืนใหญ่เวทมนต์สามลำกล้องที่ 1 และ 3 ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าของ Wing of Dawn ก็ทำการเล็งไปยังเหล่าทหารและบรรดาอาวุธหนักรวมทั้งอาวุธสำหรับต่อต้านอากาศยานทั้งหลายที่ติดตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองชั้นนอก
「ทึง ทึง ทึง ตูมม!!! ตูมม!!! ตูมมมม!!!」「ทึง ทึง ทึง ตูมม!!!
ตูมม!!! ตูมมมม!!!」
เสียงการยิงของปืนใหญ่พลังเวทและเสียงระเบิดของเป้าหมายดังก้องไปทั่วบริเวณอย่างต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เหล่าทหารรักษาการณ์ที่เข้าเวรรอบดึกต่างพากันหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ผู้คนมากมายบนกำแพงเมืองชั้นนอกต่างแตกตื่นและวิ่งกันไปคนละทิศละทางด้วยความสับสน
การระดมยิงของ Wing of Dawn ดำเนินต่อไปร่วม 5 นาที
ทั้งกำแพงเมือง กองบัญชาการของทหารรักษาการณ์
รวมทั้งยุทโธปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกทำลายหายไปราวกับเรื่องโกหก
ซากศพทหารมากมายกระจายเกลื่อนกลาดไปทั่ว
กำแพงเมืองขนาดใหญ่สุดแสนน่าภูมิใจที่เป็นดังโล่คอยปกป้องเมืองหลวงเซเลสเชียมาอย่างยาวนานนั้นได้กลายเป็นเพียงซากเพียงเวลาชั่วอึดใจ
「แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะมาเรียจัง
ได้เวลาไปบุกยึดปราสาทเซเลเชียกันแล้ว」
ผมที่นั่งมองดูภาพทหารศัตรูล้มตายอย่างไร้ความปราณีออกคำสั่งไปยังมาเรียจังที่นั่งประจำอยู่บนเก้าอี้กับตันด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ถึงแม้ผมจะไม่อยากให้มีการสูญเสียมากนัก
แต่มันก็จำเป็นที่จะต้องมอบบทเรียนให้กับผู้คนในจักรวรรดิเลเรียสได้เข้าใจถึงสงครามที่พวกเขาก่อขึ้นมา
「ถึงหอควบคุมการยิง
มีคำสั่งให้ทำการหยุดยิงในทันทีค่ะ」
เมื่อได้ยินคำสั่ง
เสียงของปืนใหญ่เวทมนต์รวมทั้งเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องก่อนหน้านี้ก็หยุดลงโดยสมบูรณ์
จากนั้นเรือเหาะประจัญบาน Wing of Dawn ก็ได้เร่งความเร็วและมุ่งหน้าสู่กำแพงปราสาทเซเลสเชียใจกลางเมืองหลวงเซเลสเชียซึ่งอยู่ห่างจากกำแพงเมืองชั้นนอกราว
20 กิโลเมตร
เมืองหลวงเซเลสเชียนั้นเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของหนึ่งในสี่ผู้กล้าตั้งแต่สมัยหลังสงครามครั้งใหญ่ของ
10 เผ่าพันธุ์ ความใหญ่โตและงดงามของตัวเมืองนั้นเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในโลกนับตั้งแต่ที่เหล่ามนุษย์ได้เริ่มมีการสร้างเมืองขึ้นมา
แต่ในอนาคตนั้นผมคิดว่าเมืองหลวงสเตรเชียของเราคงจะได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 1
แทนเมืองแห่งนี้ที่จะกลายเป็นอดีตไปล่ะนะ
เพียงไม่ถึง 10
นาทีพวกเราก็มาถึงยังใจกลางเมืองเซเลสเชีย และตัวผมที่ได้พวกเมดสาวๆช่วยกันทำความสะอาดและช่วยแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็มายืนต่อหน้าเหล่าทหารทุกนายด้วยชุดเกราะสีดำสนิทเต็มยศ
「เอาล่ะทุกท่าน
เริ่มดำเนินแผนการยึดปราสาทเซเลสเชียได้!!」
「「「「โอ้!!!」」」」
ผมประกาศก้องต่อเหล่าทหารที่มาเข้าแถวยืนเรียงกันบนในห้องโถงบริเวณด้านล่างของเรือเหาะ
พวกทหารเองก็ขานตอบรับกลับมาพร้อมกันด้วยเสียงดังก้อง
โดยที่ยูเมะจังและฮารุกะจังจะเป็นคนนำกองพันแวร์วูล์ฟ 250 นาย
เข้ายึดกำแพงเมืองและประตูทิศใต้ของกำแพงปราสาท
แน่นอนว่า Wing of Dawn เองก็จะคอยสนับสนุนทุกคนอยู่จากบนฟ้า
แต่เนื่องจากในบริเวณนี้เป็นใจกลางเมืองหลวงซึ่งอาจจะมีชาวเมืองและบรรดาผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ค่อนข้างมาก
ผมจึงได้ออกคำสั่งให้ระงับการใช้ปืนใหญ่
และให้หันไปใช้ปืนกลหนักซึ่งมีความแม่นยำกว่าในการสนับสนุน
「ถึงเวลาของพวกเราแล้วเหล่าทหารหนุ่มหล่อผู้กล้าทุกท่าน
วันนี้ก็มาตามท่านฮารุกะสุดสวยคนนี้ไปสนุกกั......วะ วะ ว๊า ยูเมะจัง!!!」
「รีบไปกันได้แล้วนะ ฮารุกะจัง!」
ฮารุกะจังยังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงสนุกสนานเหมือนเช่นเคย
แต่เธอก็ถูกยูเมะจังลากตัวไปยังประตูและกระโดดโรยตัวผ่านเชือกไปยังกำแพงปราสาทในทันที
ถึงจะเป็นภาพที่เห็นกันอยู่เป็นประจำ
แต่ภาพดังกล่าวก็ทำให้บรรยากาศของเหล่าทหารดูสดใสยิ่งขึ้น
การเข้ายึดปราสาทเซเลสเชียในครั้งนี้ไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง
อาจจะมีทหารมากมายที่ต้องเสียสละชีวิตของพวกเค้าไป
แต่ทุกคนในที่นี้ก็ไม่มีแม้เพียงสักคนที่จะหวาดกลัว
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ทหาร 250
นายจากกองพันแวร์วูล์ฟก็โรยตัวลงไปจาก Wing
of Dawn ตามยูเมะจังและฮารุกะจังไปจนหมด ทางด้านมายุจัง
มิฮารุจังและเหล่าทหารจากกองพันแวร์วูล์ฟอีก 250 นายที่มีหน้าที่บุกเข้ายึดประตูทิศเหนือของปราสาทเองก็ดูเหมือนจะจัดการโดยตัวลงไปได้เรียบร้อยดี
ในขณะเดียวกันที่ด้านล่าง
พวกอัศวินและเหล่าราชองค์รักษ์จำนวนที่มาเสริมกำลังให้กับกำแพงปราสาทเองก็เริ่มทำการตอบโต้ด้วยธนูและอาวุธเวท
แต่ถึงพวกนั้นจะมีจำนวนมากกว่าก็ยังยากที่จะต่อกรกับกองทหารของพวกเราที่มียุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า
เหล่าอัศวินที่เข้ามาปะทะกับทหารจากกองพันแวร์วูล์ฟของพวกเราถูกจัดการด้วยพลังที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน
หอกเหล็กกล้าและชุดเกราะเหล็กกล้าของเหล่าอัศวินถูกดาบเวทสั่นสะเทือนของกองพันแวร์วูล์ฟฟันขาดสะบั้นราวกับตัดเนย
พวกที่พยายามจะเข้ามาเสริมกำลังก็ถูกยิงสกัดด้วยปืนกลหนักจาก
Wing of Dawn อย่างต่อเนื่อง
ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วผมคิดว่าพวกเราน่าจะสามารถเอาชนะได้ไม่ยาก
ถึงแม้ในรายงานจากหน่วยข่าวกรองจะบอกมาว่าทางจักรวรรดิเลเรียสได้ซ่อนอาวุธเวททรงอนุภาพเอาไว้เป็นไพ่ตาย
แต่จากการคำนวณแล้วผมคิดว่ายูเมะจังและฮารุกะจังคงจะสามารถหาวิธีจัดการได้ด้วยตัวเอง
เมื่อเป็นแบบนี้
ผมจึงตัดสินใจออกคำสั่งให้กองอัศวินที่ 3 ที่กำลังรออยู่บน Dark Wisp เริ่มทำการบุกเข้าไปยังปราสาทเซเลสเชียได้ในทันที
แน่นอนว่าตัวผมเองก็จะบุกเข้าไปในปราสาทเซเลสเชียเช่นเดียวกัน
「ถ้างั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ ฟลอร่า
มาเรีย พวกเธอสองคนมาด้วยกันกับผมนะ」
「รับทราบค่ะ นายท่าน」「เข้าใจแล้วค่ะ รบกวนด้วยนะคะ ทัตสึยะซามะ」
「Dark Summon: Dark Phoenix!!」
ผมรวบรวมมานาในร่างกายและเปลี่ยนเป็นพลังเวทจนถึงขีดสุดก่อนจะทำการอัญเชิญอสูรรับใช้แห่งความมืด
ตอบรับการอัญเชิญของผม อสูรรับใช้ Dark
Phoenix ได้ปรากฏตัวขึ้นมาจากวงเวทเรืองแสงสีดำขนาดใหญ่
เจ้านกเพลิงสีดำ Dark Phoenix
ตัวนี้ผมได้ตั้งชื่อให้กับมันว่าคุโรโกะ เป็นเวลานานมากที่ผมไม่ได้มีสกิลต่อสู้โกงๆเหมือนกับพวกสาวๆ
แต่ในที่สุดหลังจากใส่ Skill Crystal จำนวนมากเข้าไปในแหวน
ผมก็ได้สกิลโกงๆมาบ้างสักที
ผมกระโดดขึ้นไปขี่บนหลังของเจ้าคุโรโกะโดยที่อุ้มเจ้าหญิงเมดฟลอร่าขึ้นไปพร้อมกันด้วย
จากนั้นผมก็ช่วยดึงมือมาเรียจังขึ้นมาที่ซ้อนท้ายผมที่ด้านหลัง
「เอาล่ะสาวๆ บุกเข้าไปกันเลย!!!」
「「「「โอ้!!!」」」」
ผมและคุโรโกะออกบินจาก Wing of Dawn ไปยังปราสาทเซเลสเชีย
ส่วนพวกเมดทั้งหมดที่ไม่ได้มีหน้าที่บนเรือเหาะก็บินตามพวกผมมาด้วยนกเกรูโด้
「ทุกคนแยกย้ายกันไปนะ
จับกุมเหล่าขุนนางและทุกชีวิตภายในปราสาทอย่าปล่อยให้มีใครหนีไปได้ล่ะ」
「ชั้นจะพยายามอย่างสุดความสามารถ
จะนำตัวสาวสวยทุกคนในปราสาทมามอบให้กับทัตสึยะซามะอย่างแน่นอนค่ะ!!」
「นู๋เองก็จะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน!!
นู๋จะไปจับตัวพวกบุตรสาวขุนนางที่ไม่รู้ดีชั่วเหล่านั้นแก้ผ้า และให้พวกเธอมาคุกเข่าต่อหน้าทัตสึยซามะ
จะให้พวกเธอร้องไห้และขอร้องรับพวกเธอเป็นทาสความใคร่ต่อให้ได้เลยค่ะ!!」
โรเซ็ตต้าและเรเน่เมดสาวที่พึ่งเข้ามาใหม่ตอบรับผมด้วยแววตาเปล่งประกาย
ถึงแม้ผมจะรู้สึกว่าพวกเธอเข้าใจอะไรผิดไปสักหน่อยเกี่ยวกับแผนการบุกยึดปราสาทเซเลเสเชียในครั้งนี้
แต่การจะไปขัดใจลูกน้องที่พยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อผมก็คงไม่ใช่เรื่องดี
เพราะงั้นผมจึงปล่อยให้พวกเธอไปจัดการตามที่พวกเธอต้องการ......
หลังจากนั้นผมและพวกเมดก็แบ่งกำลังและกระจายกันไปตามห้องต่างๆบนปราสาทเซเลเสเชีย
ตัวผม มาเรียจังและฟลอร่าได้เลือกบุกเข้าไปยังห้องของราชินีอัลฟินผ่านทางหน้าต่างห้องนอนของเธอตามแผนผังที่โซเฟียจังที่มอบให้ก่อนหน้านี้
มีโอกาสสูงที่จักรพรรดิเอเลคเต้และราชินีอัลฟินจะอยู่ด้วยกันที่นี่
แต่พอเข้าไปถึงผมกลับเจอเพียงแค่ราชินีอัลฟินและพวกเมดอีกหลายคนที่เข้ากำลังแตกตื่นเพราะการจู่โจมยามค่ำคืนพวกเราเท่านั้น
「ยะ อย่าเข้ามานะ!!!」
เมดสาวคนหนึ่งถือมีดเอาไว้ในมือและออกมายืนบริเวณหน้าเตียงนอนเพื่อปกป้องเจ้านายของเธอ
ความกล้าหาญของเธอที่กล้ามาเผชิญหน้ากับผมนั้นถือว่าน่ายกย่อง
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะตอบรับความกล้าหาญของเธอ
「ถึงกับกล้ามาขวางทางผมแบบนี้คงต้องให้รางวัลหน่อยสินะ」
ผมกระโดดลงจากตัวของคุโรโกะ
พุ่งเข้าใส่และจับเมดสาวที่ถือมีดอยู่กดลงบนเตียง
ผมดึงมีดในมือของเธอออกและบีบมันทิ้งด้วยเกราะจนมีดสั้นกลายเป็นผง
เมดสาวที่เห็นดังนั้นถึงกับหน้าซีดไปด้วยความหวาดกลัว
ดังนั้นเพื่อให้ผ่อนเธอคลายผมจึงประทับริมฝีปากของผมลงบนริมฝีปากของเธอพร้อมทั้งสอดลิ้นเข้าไปเพื่อช่วยให้เธอรู้สึกดียิ่งขึ้น
「ชะ ช่วยปล่อยเธอไปเถอะค่ะ ชะ
ชั้นจะยอมเป็นของเล่นของคุณเอง พะ เพราะงั้นช่วยละเว้นเธอด้วยเถอะนะคะ」
เด็กสาวผมสีฟ้าอมม่วงผู้มีใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย
ตัวเธอที่ยอมสละตัวเองเพื่อเมดซึ่งเป็นเพียงข้ารับใช้ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ตามจริงแล้วผมแค่จะทำให้เมดสาวคนนี้ใจเย็นลงเพียงเท่านั้น
ผมน่ะไม่ได้คิดที่จะขืนใจหรือทำร้ายเธอเลยสักนิด
แต่ดูเหมือนว่าราชินีอัลฟินซึ่งอยู่ใกล้ๆจะเข้าใจผิดไปและพยายามจะยื่นมือเข้ามาช่วย
ซึ่งในเมื่อขอมาแบบนี้ แน่นอนว่าผมไม่มีทางที่จะปฏิเสธสาวสวยอย่างเธออยู่แล้ว
「ในเมื่อเป็นความต้องการของสาวสวย
ถ้าหากผมปฏิเสธก็คงจะเรียกตัวเองว่าผู้ชายไมได้แล้วล่ะนะ อัลฟินจัง」
ผมปล่อยเมดสาวให้ฟลอร่าเป็นคนจัดการ
ถึงแม้ฟลอร่าได้รับการฝึกมาไม่มากแต่เธอก็สามารถใช้กุญแจมือเวทเข้าล็อคและจับกุมตัวเมดสาวผู้ไร้ซึ่งอาวุธได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ส่วนตัวผมก็ค่อยๆเข้าไปใกล้อัลฟินจังช้าๆ
ผมค่อยๆปลดเชือกที่ผูกชุดนอนบางๆของเธอออกช้าๆทีละเส้นๆก่อนจะค่อยๆลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเด็กสาวอย่างอ่อนโยนถะนุถนอม
ร่างกายเพรียวบางและผิวพรรณที่นุ่มละมุนของเธอทำเอาผมควบคุมตัวเองไม่อยู่

จากนั้นตัวผมก็ได้กลายเป็นหมาป่าดุร้ายและกระโดดเข้าขย้ำลูกแกะน้อยอัลฟินด้วยความหื่นกระหาย
ผมปลดปล่อยอารมณ์ความใคร่ใส่อัลฟินและยกหน้าที่อื่นๆให้ฟลอร่ากับมาเรียจังเป็นคนจัดการ
ฟลอร่าได้คอยเฝ้าดูเหล่าเมดสาวภายในห้องและยังช่วยปลอบโยนพวกเธอ
เนื่องจากเจ้าหญิงอย่างฟลอร่าไม่มีประสบการณ์กับเรื่องพวกนี้มากนักนั้น
ดังนั้นผมจึงได้ออกคำสั่งให้คุโรโกะที่ย่อส่วนตัวเองลงมาแล้วคอยช่วยเหลือและคอยปกป้องเธอหากมีเหตุฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้นด้วย
ส่วนมาเรียจังนั้นเธอคอยเฝ้าระวังอยู่บริเวณประตูห้อง
เธอเฝ้ารอและคอยจัดการคนที่พยายามจะเข้ามาขัดจังหวะพวกเราโดยแทบจะไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมาด้วยซ้ำ
เธอช่างเป็นเมดสาวที่มีความสามารถมากจริงๆ
อัลฟิน ไอกิส ลา เลเรียส เด็กสาวอายุ
14
ปีผู้เป็นราชินีแห่งจักรวรรดิเลเรียสนั้นเรียกได้ว่าเป็นเด็กสาวที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
ทั้งๆที่หวาดกลัวแต่เธอกลับตอบรับจังหวะของผมด้วยสะโพกบางๆของเธออย่างต่อเนื่อง
เธอกระซิบบอกกับผมว่าเธอจะทำให้ผมรู้สึกดีสุดๆเองขอเพียงอย่าทำร้ายพวกเมดของเธอ
แต่แล้วในระหว่างที่ผมกำลังเสียวในระดับสุดยอดก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมาจากบริเวณด้านนอก......
ไหงเทพทัตไปเป็นคน ntr แฟนชาวบ้านเองซะงั้นละคับ
ตอบลบก็ตบมาหลายคนแล้วนี่ครับ
ลบตั้งแต่ฮารุกะ ไอโกะ พวกนั้นก็มีเจ้าของอยู่แล้วนะ
ยูฟีน่าก็มีคนรักของตัวเองอยู่นะ เวลน่าก็มีสามีแล้ว
สาวๆคนอื่นอีกมากมายก็แย่งเค้ามาทั้งนั้น -0-
นอกจากนั้นถึงจะยังไม่ได้เขียน
ลบแต่อัลฟินก็แต่งงานการเมืองมา
เธอไม่ได้มีความรักกับสามีเธออยู่แล้วครับ
ที่สำคัญคืออัลฟินเป็น เลสเบี้ยน
น้องเมดคนนั้นก็คนรักของเธอไงล่ะ = w ="
สนุกมากเลยคับ เล่นสะยิ้มไม่หยุดเลยตกลงแต่งอัลฟินไห้เป็นเลสเบี้ยนด้วย
ตอบลบเธอถูกเลี้ยงมาแบบไม่ให้เจอผู้ชายเลยตั้งแต่เด็กน่ะครับ -0-//
ลบไม่น่าเชื่อว่าเทพทัตจะเป็น "สาย" นี้ มิน่าล่ะ ผมถึงได้สนใจนิยายนี้นัก เพราะเทพทัตกับผมมีอะไรที่คล้ายๆ กันนี่เอง
ตอบลบปล.ชีวิตจริงไม่กล้าหรอก คุกกับลูกปืนและคมมีดมันพร้อมจะมาหาได้ทุกเมื่อ ถ้าหากก้าวไปทางนั้นแบบเต็มตัว ขอเป็นแค่ความชอบส่วนตัวก็พอนะเออ T^T
ภาพในตอน แหล่มใช้ได้เลยครับ แฮ่กๆ
ลบเพราะในชีวิตจริงเปนไปไม่ได้ เราถึงต้องมาจัดกันในนิยายไงล่ะครับ
ลบเป็นตัวละครที่ตั้งใจทำมาเต็มที่ เสียดายควบคุมผมให้เปนไปตามที่ต้องการไม่ได้นี่ล่ะ.....