พอเดินเข้าไปด้านในอาคารของกิลด์พ่อค้า
บรรยากาศด้านในนั้นมันเหมือนกับพวกเคาน์เตอร์เซอร์วิสสำหรับจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
โต๊ะเก้าอี้มากมายวางเรียงรายอยู่มุมหนึ่ง คาดว่าคงจะเอาไว้ใช้พักผ่อนหรือเจรจาธุรกิจอะไรแบบนั้นแหละ
อีกมุมหนึ่งเป็นคล้ายๆกับร้านค้า
จากความรู้ของผมที่ได้มาจากพวกไลท์โนเวล
ร้านค้าของกิลด์พวกนี้น่าจะขายอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆเช่นพวกโพชั่นหรือแผนที่ หรือไม่ก็พวกการรับฝากของหรือรับซื้อของอะไรประมาณนั้น
อีกมุมหนึ่งก็เป็นบอร์ดประกาศ
ถ้าหากผมเข้าใจไม่ผิดล่ะก็คงจะเป็นบอร์ดสำหรับรับสมัครงานหรือประกาศหางานทำอะไรทำนองนั้นแหละ
สุดท้ายคือส่วนที่มีคนอยู่มากที่สุด ซึ่งมีเคาน์เตอร์มากมายวางเรียงรายติดกันอยู่
ด้านหลังเคาน์เตอร์ก็เต็มไปด้วยพนักงานสาวสวยในชุดเครื่องแบบ
ส่วนด้านหน้าเคาน์เตอร์ก็มีผู้คนมากมายยืนต่อแถวเข้าคิวกันอยู่
คาดว่าตรงนี้คงจะเป็นส่วนสำหรับยื่นคำรองหรือสอบถามข้อมูลต่างๆ
「คนเยอะจังเลยนะคะ」
「นั่นสินะ
แล้วพวกเราต้องไปเข้าคิวกับเขาด้วยสินะ โร น่า จัง」
「อ่ะ เอ่อ คือ ชั้นจะไปถามให้นะคะ....」
โรน่าจังหยิบเหรียญตราออกมาจากหน้าอกด้านในเสื้อ เห.......สาวๆในโลกนี้มีวัฒนธรรมการเก็บของเอาไว้ที่ตรงนั้นด้วยหรอกเหรอ....
ยังไม่ทันที่โรน่าจะเข้าไปถาม
พวกเราก็ถูกเด็กสาวคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบเข้ามาถามซะก่อน คงเป็นเพราะพวกเราทำตัวแปลกๆสินะ
「ไม่ทราบว่า มีอะไรที่ต้องการให้ช่วยรึเปล่าคะ」
โรน่าจังยื่นเหรียญตราของตระกูลโรเซนเบิร์กให้คุณพนักงานสาวดู
พอได้รับเหรียญไปแล้วคุณพนักงานก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อย
「คนของตระกูลโรเซนเบิร์ก ระ เหรอคะ 」
「คุณชายทางด้านนี้เป็นแขกของตระกูลโรเซนเบิร์ก
พอดีว่าพวกเราต้องการจะมาติดต่อกับทางกิลด์เพื่อเปิดรับสมัครคนงาน ไม่ทราบว่าต้องไปเข้าแถวตรงไหนหรือคะ」
「ขะ เข้าแถว! ไม่สิ ไม่ต้องเข้าแถวค่ะ
เชิญตามดิชั้นมาทางด้านนี้เลยค่ะ 」
ตระกูลโรเซนเบิร์กของเซลฟีน่านั้นเป็นตระกูลขุนนางใหญ่ที่ได้รับสิทธิในการปกครองพื้นที่บนทวีปอากัสเตรียทั้งหมด
เพราะงั้นการที่คุณพนักงานสาวจะทำท่าทางตื่นเต้นแบบนั้นก็คงไม่แปลก
พวกเราถูกพาเข้าไปยังห้องที่อยู่ด้านใน
ผมคิดว่ามันคงจะเป็นห้องรับรองลูกค้า VIP หรืออะไรทำนองนั้น
「กรุณานั่งรอที่นี่ซักครู่นะคะ
เด๋วดิชั้นจะรีบไปตามหัวหน้าสาขามาทันทีเลยค่ะ」
หลังพูดจบคุณพนักงานสาวก็รีบวิ่งออกไปในทันที
「ตราของตระกูลโรเซนเบิร์กเนี่ยมีประโยชน์มากเลยนะคะ」
「นะ แน่นอนค่ะ
ตระกูลโรเซนเบิร์กไม่ใช่แค่เป็นผู้ปกครองเท่านั้น แต่ประชาชนในทุกเมืองต่างให้ความเคารพนับถือ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรทุกคนก็จะให้ความร่วมมือในทันที」
โรน่าพูดพร้อมกับยืดอกขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ
「ดีใจด้วยนะโรน่าจัง เธอมีประโยชน์แล้ว」
พอเห็นท่าทางของเธอแล้วผมก็อดจะเข้าไปลูบหัวเธอไม่ได้จริงๆ ถึงแม้ยัยนี่ชอบทำตัวงี่เง่าแต่ก็เป็นคนที่เชื่อใจได้
「ดีใจด้วยนะโรน่าจัง」
「ขะ ขอบคุณค่ะ」
แค่โดนชมเข้านิดหน่อย โรน่าก็ถึงกับหน้าแดงออกมา
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และประตูก็ค่อยๆเปิดออก
หญิงชราผู้หนึ่งค่อยๆเดินเข้ามาในห้องช้าๆ ด้านหลังของเธอนั้นมีพนักงานสาวที่พาเรามารอที่นี่เดินตามหลังเข้ามาด้วย
「โฮ่
ต้องขออภัยด้วยที่ไม่ได้เตรียมการต้อนรับเอาไว้」
「พวกเรามาโดยไม่ได้นัดเอาไว้
ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ」
หญิงชราผู้นี้คงจะเป็นหัวหน้ากิลด์พ่อค้าสาขาเมืองเวลล่าแห่งนี้ ถึงจะอายุมากแล้วแต่ผมก็รู้สึกได้ถึงแววตาที่เฉียบคมของเธอ
ท่าทางจะเอาเรื่องน่าดู
「บิสเก็ต รีบไปเตรียมน้ำชาเร็วสิ!!」
「ค ค่ะ!!」
พอได้ยินคำสั่งแล้วคุณพนักงานสาวที่ชื่อบิสเก็ตก็รีบวิ่งออกไปจากห้องในทันที
「หัวหน้ากิลด์พ่อค้า สาขาเมืองเวลล่า คิวรี่
ออแกน」
「ผม มาเอคาว่า ทัตสึยะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ」
หลังแนะนำตัวเสร็จหญิงชราก็นั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม
「ข้าเองก็พอได้ยินมาบ้าง ทัตสึยะซามะ
เป็นหัวหน้าของกลุ่มจอมเวทที่มาช่วยเมืองเอาไว้เมื่อตอนเช้าสินะ」
「ก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นล่ะครับ」
ผมตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งๆที่พวกเราพึ่งจะมาถึงเมื่อเช้าแท้ๆ
แต่กลับได้รับข่าวสารรวดเร็วขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นถึงหัวหน้ากิลด์สาขา
「โฮ่ เรื่องบังเอิญงั้นรึ เอาเถอะ
ได้ข่าวว่าจะมารับสมัครคนไปทำงานสินะ」
「พวกเรามาจากต่างประเทศ
เลยไม่ค่อยรู้เรื่องของที่นี่มากนัก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอคำแนะนำจากท่านคิวรี่ซักหน่อย」
「ไม่ต้องฝืนพูดสุภาพนักก็ได้
ข้าเองก็อายุปูนนี้แล้ว ไม่มานั่งสนใจเรื่องของพวกขุนนางแล้วล่ะ」
คิวรี่ซังพูดตัดบทออกมา
ดูท่าจะมองออกสินะว่าผมพยายามฝืนพูดอะไรที่เป็นทางการ
「งานอะไร ให้ไปทำที่ไหน ต้องการคนมากเท่าไหร่」
「ถ้างั้นผมก็ขอพูดตรงๆเลยละกัน
หลังจากนี้ผมจะสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ น่าจะห่างจากที่นี่ไปซัก 40
กิโลเมตรทางทิศตะวันตก
ถึงแม้พวกเราจะมีเวทมนต์แต่มันก็ยังจำเป็นต้องมีแรงงานอีกจำนวนมาก」
ก่อนหน้านี้ไม่นานอากิโอได้ส่งข้อความมาบอก ทางนั้นได้เริ่มสร้างกำแพงชั้นที่
2 ล้อมรอบกำแพงชั้นใน โดยจุดที่สร้างนั้นห่างออกไป 5 กิโลเมตร นอกจากนั้นก็เริ่มสร้างสนามฝึกซ้อมและหอพักสำหรับทหารชายและหญิง
เนื่องจากจำนวนเด็กสาวที่ใช้เวทมนต์หินได้มีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นอีกไม่กี่วันก็คงจะสร้างเสร็จแล้ว
อีกเรื่องหนึ่ง
เนื่องจากพื้นที่ในทวีปนี้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเอลติซ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผมจึงได้คุยเรื่องนี้กับพี่ชายของเซลฟีน่าเอาไว้แล้ว
ถึงแม้จะเป็นเรื่องยุ่งยากแต่ดูเหมือนว่าจะมีกฎหมายเรื่องเกี่ยวกับการทูตอยู่
ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจประกาศให้พื้นที่รอบห้าง Seirien เป็นเขตของสถานทูต
เนื่องจากพื้นที่ในส่วนของป่ามายานั้นทางตระกูลโรเซนเบิร์กไม่สามารถเข้าไปพัฒนาได้เพราะเป็นเขตที่มอนสเตอร์ค่อนข้างเยอะ
ดังนั้นหากมองถึงอนาคตแล้วหากพวกเราพัฒนาพื้นที่แถวนั้นให้กลายเป็นเขตปลอดภัยได้ล่ะก็
ทางตระกูลโรเซนเบิร์กจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ไปเต็มๆ
ทางนั้นจึงตอบรับด้วยความยินดี ซึ่งหลังจากที่เสร็จเรื่องทางนี้แล้ว
พอโรเดริกซังกลับไปถึงเมืองกูสตาฟเค้าจะออกเอกสารยืนยันให้อีกครั้ง
「โฮ่ แผนการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่งั้นเรอะ
ทั้งๆที่ยังเป็นแค่คนหนุ่มสาวแท้ๆ แต่กลับคิดไปได้ไกลถึงขนาดนั้น
ถ้าหากว่ามีอะไรให้ช่วยอีกล่ะก็บอกข้ามาได้เลย」
หลังจากนั้นคิวรี่ซังก็มอบหมายหน้าที่เรื่องการลงทะเบียนรับสมัครและรายละเอียดอื่นๆให้กับทางบิสเก็ตซังช่วยจัดการ
ส่วนคิวรี่ซังนั้นคอยช่วยเสริมเรื่องอื่นๆที่จำเป็นให้อีกเล็กน้อย
การแปะประกาศรับสมัครงานประจำในกิลด์พ่อค้านั้นจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่
500 รีล
ตามจริงแล้วหากพาเป็นการไปทำงานนอกเมืองจะต้องมีการวางเงินค่าประกันความปลอดภัยให้คนทำงานด้วย
แต่เนื่องจากเป็นเรามาในนามตระกูลโรเซนเบิร์กจึงไม่มีความจำเป็นในเรื่องนั้น
ส่วนที่เหลือก็คือค่าเช่าห้องสำหรับการสัมภาษณ์อีกวันละ 100
รีลต่อห้อง ซึ่งหากความคิดของผมถูกต้องล่ะก็น่าจะมีคนมาสมัครเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อความรวดเร็วผมจึงเช่ามาสองห้อง
พวกเราจะเริ่มประกาศรับสมัครตั้งแต่ตอนนี้และเริ่มทำการสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า
รายละเอียดงาน สถานที่ทำงาน เงินเดือน สวัสดิการ
และเงื่อนไขในการรับเข้าทำงานทั้งหมดถูกบันทึกลงในเอกสารของทางกิลด์
หลังจากนั้นบิสเก็ตซังก็ยื่นเอกสารออกมาให้ผมตรวจสอบและลงชื่อ
「เรียบร้อยค่ะ จะรีบไปดำเนินการในทันที」
หลังจากผมลงชื่อและชำระเงินเสร็จบิสเก็ตซังก็ออกไปจัดการให้ในทันที
「ถ้างั้นก็เรื่องต่อไป
ผมอยากจะขายของพวกนี้ซักหน่อยน่ะ」
ผมวางถุงผ้าใบหนึ่งลงบนโต๊ะ และหยิบของด้านในออกมาให้คิวรี่ซังช่วยดูและประเมินราคาให้
พอเห็นของในถุงเข้าสีหน้าของคิวรี่ซังก็เปลี่ยนไปในทันที
เอาอะไรมาขายล่ะนั่น ถึงทำให้แม่เฒ่าอึ้งได้
ตอบลบของดรอปไงคุณ
ลบฝั่งตัวเอกมันตีม่อนของตกเป็นว่าเล่น ไม่เหมือนคนของดินแดนนี้ที่ตีกว่าจะตกสักอันก็ต้องตีซัก10ตัวได้มั้ง(ตามที่คนเขียนบอกไว้ในเนื้อเรื่อง)
แล้วเอาของมาขายแต่ละอย่าง แถมพ่วงด้วยไอเทมจากระดับหัวหน้าน่ะนะ
รอดูกันต่อไปครับ
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเอาของในห้างมาขายรึเปล่าเนี้ย =w= ขอบคุณครับ
ตอบลบรอดูตอนหน้านะครับ
ลบผมสงสัยเรื่องภาษาต่างโลกนี่ พูดคุย อ่านออก เขียนได้กันตอนไหนหรอครับ
ตอบลบเห็นพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องพึ่งสกิลเลย หรือผมข้ามไปหรอครับ
เริ่มพูดคุยกันได้ตั้งแต่ช่วง บทที่ 1 ตอนที่ 41 ครับ
ลบเป็นตอนที่ทัตสึยะรับน้องเมดเอริที่มีสกิลแปลภาษาเข้ามาในปาร์ตี้ครับ
หลังจากนั้นพอถึงตอนที่พูดคุยกันในร้านน้ำชา
ลบทัตสึยะก็ส่งคริสตันเพื่อให้เอริจังอัพเลเวลสกิลแปลภาษา
ซึ่งส่งผลให้ทุกคนที่อยู่ใน Union สามารถพูดคุยภาษาต่างโลกได้ครับ
ครับ เห็นเขียนอยู่ แต่ผมไม่รู้ว่าขอบเขตมันแค่ไหนอะครับ ถึงขั้นอ่านออก เขียนได้เลยใช่ไหมครับ
ลบเรื่องนี้ตอนแรกนึกว่าเป็นของญี่ปุ่น มารู้ที่หลังว่าท่านแต่งเอง สุดยอดมากเลยครับ ทั้งภาษาและท่าทาง เหมือนกำลังอ่านนิยายจากญี่ปุ่นเลย รอตอนต่อไปอยู่นะครับ ขอบคุณครับ
ใช่แล้วครับ สกิลแปลภาษาที่อัพเลเวลแล้วสามารถทำให้ใช้งานภาษาได้เหมือนเจ้าของภาษาเลยครับ
ลบ