ตอนที่ 11 ล่าโจรสลัด บทที่ 2


 
 -- มุมมองของอาเน็ต --

ช่วงคำของวันที่ 6 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 837

พี่คะ งานครั้งนี้มัน ไม่แปลกไปหน่อยงั้นเหรอคะ......

ชั้น พี่สาว และเพื่อนๆคนอื่นอีกหลายคนในปาร์ตี้ถูกเรียกตัวมายังกิลด์นักผจญภัยเพื่อรับภารกิจด่วนพิเศษ แต่ทั้งๆที่ทางกิลด์บอกว่าเป็นภารกิจด่วนพิเศษ มันกลับกลายเป็นเพียงภารกิจคุ้มกันลูกชายของพ่อค้าที่ร่ำรวยคนหนึ่ง

นอกจากจะเรื่องภารกิจด่วนพิเศษที่น่าสงสัยแล้ว ทั้งจุดหมายปลายทางและจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ก็ยังคงคลุมเครือ แล้วแบบนี้จะพวกเราไปวางแผนรับมือได้ยังไงในเมื่อไม่มีข้อมูลอะไรเลย

ถึงแม้หัวหน้าสาขาเลนต้าจะไม่ใช่คนที่ทำงานเก่งกาจนัก แต่เค้าก็ไม่ใช่คนที่จะรับงานมามั่วๆโดยไม่ตรวจสอบรายละเอียดผู้ว่าจ้างแน่นอน เพราะงั้นพวกเราก็ควรจะต้องทำหน้าที่ให้ได้ที่สุด สมกับที่ทางกิลด์ได้ให้ความไว้วางใจและมอบภารกิจด่วนพิเศษแบบนี้มานะ

พี่สาวของชั้นตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม พี่สาวของชั้นนั้นเป็นนักผจญภัยหญิงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เมื่อปีก่อนหลังทำภารกิจสำเร็จมามากมายก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเป็นระดับซิลเวอร์

สำหรับเมืองโคเรียแห่งนี้ นักผจญภัยที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปถึงระดับซิลเวอร์นั้นมีอยู่เพียงแค่ 5 คน ซึ่งในตอนนี้อีก 4 คนที่เหลือได้ไปสมัครเข้าร่วมเป็นทหารอาสาเพื่อช่วยเหลือตระกูลโรเซนเบิร์กในการทวงเมืองกูสตาฟกลับคืนมา

เพราะเหตุนั้นในตอนนี้บรรดาผู้คนในเมืองจึงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักพี่สาว และบรรดาสมาชิกนักผจญภัยในปาร์ตี้ของพวกเรา

พวกเราได้รับทำภารกิจมากมายในช่วงนี้ ซึ่งพวกเราก็สามารถทำภารกิจจนสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดีอยู่เสมอ และก็คงจะเป็นเพราะชื่อเสียงจากภารกิจที่ว่า พวกเราจึงได้รับเลือกให้มาทำภารกิจด่วนพิเศษนี้ แต่ถึงอย่างนั้นภายในใจของชั้นก็ยังคงรู้สึกกังวลไม่หยุด

เชื่อใจพวกเราสิอาเน็ตจัง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หากพวกเราร่วมแรงร่วมใจกันล่ะก็ ต้องผ่านมันไปได้แน่

ใช่แล้วล่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะก็ชั้นก็คอยปกป้องอาเน็ตจังเองนะ

ขะ ขอบคุณค่ะ

ชั้นยิ้มตอบกลับไป นั่นสินะไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร ถ้าหากพวกเราสามัคคีและคอยช่วยเหลือกันล่ะก็ ยังไงก็ต้องผ่านไปได้แน่ เพราะงั้นเลิกกังวลแล้วไปเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดดีกว่า

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปจัดเตรียมอาวุธ เครื่องป้องกัน ยาสมุนไพร ยาห้ามเลือด และของใช้อื่นๆที่จำเป็น ในครั้งนี้พวกเราต้องออกเดินทางไปในทะเลโดยไม่รู้จุดหมาย ดังนั้นจึงต้องเตรียมของเอาไว้มากเป็นพิเศษ ยังดีที่ทางนายจ้างเป็นฝ่ายเตรียมเสบียงอาหารเอาไว้ให้จึงทำให้พวกเราไม่ต้องกังวลไปเรื่องหนึ่ง

เมื่อมาถึงยังท่าเรือพวกเราก็มุ่งหน้าไปยังเรือสินค้าตามที่นัดกับทางนายจ้างเอาไว้ ท่าเรือของเมืองโคเรียนั้น ในแต่ละวันจะมีเรือสินค้ามากมายเข้ามาจอดเพื่อทำการแลกเปลี่ยนสินค้า ส่วนพวกนักผจญภัยเองก็จะพากันมาแลกเปลี่ยนข้อมูลของการเดินทางในแต่ละเส้นทางเพื่อใช้สำหรับวางแผนรับงานกันต่อไป

อะ อาเน็ตจัง! ดะ ดูนั่นสิ!!

แต่เมื่อพวกเรามาถึงยังเรือสินค้าที่ได้รับแจ้งเอาไว้ พวกเราก็ถึงกับต้องตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น เรือลำนี้แตกต่างจากเรือสินค้าทั่วไปอย่างสิ้นเชิง มันเป็นเรือสินค้าลำใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม

เนื้อไม้ที่ใช้ในการสร้างนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นไม้ชั้นดีที่หาได้ยากยิ่ง ผู้ที่เป็นคนสร้างเรือลำนี้คงจะต้องเป็นช่างต่อเรือฝีมือดีไม่ผิดเป็นแน่ แล้วยิ่งพอคิดถึงเจ้าของเรือผู้เป็นนายจ้างของพวกเราในครั้งนี้ด้วยแล้ว.......

ไม่สิ....เรือลำมันดูหรูหราซะยิ่งกว่าเรือหลวงที่พวกคนในราชวงศ์ของจักรวรรดิใช้กันซะอีก

หรือว่าเรือลำนี้จะเป็นหนึ่งในพาหนะเวทมนต์ที่เค้าล่ำลือกันในช่วงนี้......

หากพูดถึงพาหนะเวทมนต์ล่ะก็ ในตอนนี้มันกำลังเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันที่โด่งดังเป็นอย่างมาก ผู้คนมากมายที่เคยโดยสารด้วยพาหนะเวทมนต์ต่างพากันเอามาเลาต่อๆกันถึงความตื่นเต้นและความรวดเร็วในการเดินทาง

พาหนะเวทมนต์นั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ด้วยกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน กลุ่มของเหล่าจอมเวทที่เก่งกาจ เพียงพวกเค้ามาเยือน ทวีปแห่งนี้ก็ได้เกิดเรื่องต่างๆที่ผู้คนไม่เคยนึกฝันมาก่อนอย่างมากมาย .....

เลิกแตกตื่นกันได้แล้ว!! พวกเราจะปล่อยให้นายจ้างมารอนานๆไม่ได้หรอกนะ

เนื่องจากชั้นเอาแต่จ้องมองเรือสินค้าที่งดงามลำนี้โดยลืมเป้าหมายในครั้งนี้ไป พี่สาวของชั้นจึงรีบพูดขัดขึ้นมาด้วยเสียงอันดังและเคร่งขรึม

แต่ก่อนที่พวกเราจะพวกเราจะขึ้นไปบนเรือนั้น เด็กสาวผมสีแดงสลวยคนหนึ่งในชุดเดรสสุดหรูหราก็ได้เข้ามาทักทาย

นายท่านรออยู่ด้านในแล้ว เชิญตามดิชั้นมาทางนี้ได้เลยค่ะ

จากใบหน้าและผิวพรรณทีงดงามของเธอนั้น หากจะบอกว่าเป็นเพียงข้ารับใช้ทั่วไปก็เห็นทีจะเชื่อได้ยาก และถึงแม้ภายนอกเธอจะดูเป็นเพียงเด็กสาวที่งดงามคนหนึ่ง แต่เมื่อได้อยู่ใกล้ๆชั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นคนที่มีฝีมือไม่เบา

พวกเราเป็นแค่นักผจญภัยทั่วไป ไม่ต้องสุภาพกับพวกเรานักก็ได้ค่ะ

พี่สาวของชั้นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ที่ผ่านมาพวกเราก็เคยรับภารกิจคุ้มกันพวกขุนนางมาไม่น้อย แต่คนที่จะมาปฏิบัติอย่างสุภาพกับพวกเราที่เป็นเพียงนักผจญภัยนั้นเรียกได้ว่าหายาก ถึงอย่างนั้นชั้นก็รู้สึกดีใจที่ในครั้งนี้ได้เจอกับข้ารับใช้ของขุนนางที่อ่อนโยนเช่นเธอ

หลังจากนั้นพวกเราก็ถูกพาไปยังห้องรับรองหรูหราห้องหนึ่งที่อยู่ภายในเรือ ภายในห้องนั้นถูกประดับตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา ทั้งโต๊ะเก้าอี้และเครื่องเรือนต่างๆก็ล้วนแล้วแต่เป้นของชั้นสูง ที่ผนังเองก็เต็มไปด้วยภาพวาดที่งดงามอย่างไร้ที่ติ

นายท่านคะ พวกเธอก็คือกลุ่มนักผจญภัย นางนวลสีคราม ที่มีชื่อเสียงในเมืองแห่งนี้ค่ะ

เด็กสาวผมสีแดงคนนั้นเข้าไปพูดกับนายท่านของเธอด้วยใบหน้ายิ้มแยม รอยยิ้มของเธอในครั้งนี้นั้นแตกต่างจากตอนที่ออกมาพบพวกเราเป็นอย่างมาก มันเป็นรอยยิ้มของเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความรัก

ส่วนนายท่านของเธอก็ยิ้มตอบรับอย่างอ่อนโยน นายท่านของเธอคนนี้เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่พอได้สบตากันชั้นก็รู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด ไม่เพียงแค่เค้า แต่รวมถึงเด็กสาวหลายคนที่อยู่ข้างกายเค้า

พวกเธอทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเด็กสาวสวยที่หาใครเปรียบได้ยาก ทั้งๆที่ดูจากภายนอกแล้วทุกคนน่าจะเป็นเพียงเด็กสาวอ่อนแอ แต่ไม่ว่าชั้นจะทำตัวอย่างไรความรู้สึกกดดันภายในร่างกายก็ไม่จางหายไปซักที

ชั้น เอด้า หัวหน้ากลุ่มนักผจญภัย นางนวลสีคราม ในครั้งนี้พวกเราจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องความปลอดภัยของท่าน ดังนั้นอาจจะเสียมารยาทไปซักหน่อยแต่จะช่วยปฏิบัติตามคำแนะนำของพวกเราได้หรือไม่คะ

พี่สาวของชั้นเดินเข้าไปกล่าวแนะนำตัวพร้อมกับโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ อีกฝ่ายเองก็ยิ้มตอบรับอย่างอ่อนโยนก่อนที่เค้าจะกล่าวคำพูดที่เป็นการท้าทายพวกเราออกมา

เห เธอจะบอกว่า พวกเธอมีประสบการณ์มากกว่าผมอย่างนั้นหรือ......

เพียงแค่คำพูดเดียวก็ทำให้บรรยากาศทั่วห้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไอ้ความกดดันแปลกๆก่อนหน้านี้ กลายเป็นความรู้สึกอึดดัดจนชั้นแทบจะพยุงร่างกายไม่ไหวแล้วล้มลงไปกับพื้น คนอื่นๆนอกจากพี่สาวเองก็ดูเหมือนจะได้รับแรงกดดันเข้าไปพอๆกัน

อย่าไปแกล้งพวกเธอสิคะ!!

แต่แล้วก่อนที่พี่สาวจะได้ตอบกลับไป เด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มก็ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงอันดัง เธอเป็นเด็กสาวผมสีน้ำทะเลที่มีหน้าตาน่ารักสดใส

เธออิจฉางั้นเหรอ นั่นสินะ......จะว่าไป ผมก็ไม่ได้แกล้งเธอมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วสินะ โร น่า จัง

ชั้นไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะ!!

บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดดันเมื่อสักครู่เริ่มจางลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนั้นจะค่อนข้างใส่ใจความรู้สึกของเด็กสาวที่อยู่ข้างกายเป็นอย่างมาก

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่เพียงแค่ชั้น แต่ทั้งพี่สาวและคนอื่นๆต่างก็ดูผ่อนคลายลงเช่นเดียวกัน หลังจากนี้ชั้นคงจะต้องไปขอบคุณเด็กสาวคนนั้นสักหน่อย

นายท่านคะ ให้ชั้นช่วยทดสอบความสามารถของพวกเธอดูก่อนจะดีมั๊ยคะ

เด็กสาวผมสีแดงพูดขึ้นมา ดูเหมือนเธอจะเข้าใจพวกเราเป็นอย่างดี สำหรับนักผจญภัยแปลกหน้าอย่างพวกเราแล้ว หากไม่ได้แสดงความสามารถให้เห็นก็คงจะยอมรับได้ยาก ดังนั้นสิ่งที่เธอพูดออกมาจึงเป็นประโยชน์ต่อพวกเราเป็นอย่างมาก

นั่นสินะ ผมเองก็อยากจะเห็นฝีมือของพวกเธออยู่เหมือนกัน พวกเธอล่ะว่าไง

เข้าใจแล้วค่ะ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ พวกเราพร้อมจะแสดงความสามารถให้ได้เห็นค่ะ

ชั้นลุยเอง!!

ไม่ๆ ให้ชั้นเป็นคนจัดการเอง!!

ชั้นสิ ชั้นเก่งกว่าพวกเธอนะยะ!!

หยุดเสียมารยาทกันได้แล้ว!!!!

พอเรื่องกลายเป็นแบบนี้ทุกคนก็คึกคักขึ้นมากันทันที ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาคงล่ะก็ ชั้นหวังว่าทุกคนจะไม่หมดกำลังใจกันไปก่อนจะได้ออกเรือหรอกนะ.......

6 ความคิดเห็น:

  1. มาไวกว่าที่คิดแหะ นางเอก?คนใหม่มาแล้วว
    รึนางรองกันแน่ รออ่านกันยาวๆครับ

    ตอบลบ
  2. หืม...?เริ่มออกทะเล...แล้วสินะ ฮา
    เป้าหมายคงไม่ใช่วัxพีชหรอกนะ

    ตอบลบ
  3. เทพทัตจะเป็นราชาโจรสลัดสินะ

    ตอบลบ