ตอนที่ 13 บุกยึดปราสาทเซเลสเชีย บทที่ 4


-- มุมมองของทัตสึยะ --           

ต่อหน้าโกเลมมังกรสามหัวสีส้มเงินขนาดยักษ์ที่มีความสูงใหญ่มากกว่า 10 เมตร ทั้งตัวผม มาเรียจัง มัลต้าจังและมายุจัง ได้พุ่งเข้าโจมตีใส่มันโดยไม่ลังเล

เกร๊งงงงง!!!

เสียงกระทบของค้อนมิธริลในมือผมที่ฟาดเข้าใส่บริเวณข้อต่อบริเวณเท้าของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์ดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ แต่ทั้งๆที่ฟาดไปอย่างสุดแรงเจ้าโกเลมมังกรยักษ์กลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน กลับกันตัวผมกลับถูกแรงสะท้อนที่รุนแรงสวนกลับมาจนทำให้ชาไปทั้งตัว
                                                        
ไอ้เจ้านี่มันแข็งมากเลยนะเนี่ย ขนาดบริเวณข้อต่อเองก็ยังไม่มีท่าว่าจะสะเทือนเลย

มาเรียจังที่เปลี่ยนอาวุธมายาให้เป็นลูกตุ้มขนาดยักษ์แล้วเหวี่ยงเข้าโจมตีบริเวณส่วนหางของมันเองก็ดูเหมือนว่าจะทำอะไรไม่ได้มากนักเช่นเดียวกัน

เจ้านี่มันยังแรงเยอะมากด้วยนะคะนายท่าน แค่พยายามจะหยุดการเคลื่อนไหวของมันยังทำไมได้เลยค่ะ

มาเรียจังพูดออกมาในขณะที่กระโดดกลับหลังเพื่อหลบการโจมตีจากหางของโกเลมมังกรยักษ์และยังสวนกลับไปด้วยการเหวี่ยงลูกตุ้มเหล็กเข้าใส่ หากเป็นพวกมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ทั่วไปล่ะก็ มันคงจะถูกเธอตรึงการเคลื่อนไหวด้วยโซ่เอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่กับเจ้าโกเลมมังกรยักษ์นี่มันกลับสามารถที่จะสลัดการผูกมัดของโซ่มายาได้อย่างสมบูรณ์

นั่นสินะคะ ทั้งแรงเยอะทั้งทนทานและยังจะตัวใหญ่อีก ขนาดดาบเวทมนต์ที่ตัดเหล็กได้ราวกับเนยเองก็ยังฟันมันไม่เข้าเลยล่ะค่ะ

มัลต้าที่ใช้ดาบเวทมนต์คู่คอยช่วยปกป้องและช่วยการโจมตีสนับสนุนให้กับมาเรียจังเองก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เช่นเดียวกัน

เจ้านี่มันแข็งแกร่งมากจริงๆค่ะ แม้แต่หอกเสริมพลังสายฟ้า LV9 หรือเวทมนต์ของนู๋เองก็ยังสร้างรอยขีดข่วนไม่ได้เลยเหมือนกันค่ะ

มายุจังพูดออกมาด้วยท่าทางกังวล ตัวเธอที่รับหน้าที่หลอกล่อโกเลมมังกรยักษ์จากทางด้านหน้านั้นสามารถป้องกันและหลบการโจมตีทั้ง 3 หัวของมันได้อย่างง่ายดาย แต่ถึงงั้นก็ยังไม่สามารถที่จะสร้างความเสียหายให้กับมันได้เลย

กระสุนเจาะเกราะจาก Beater เองก็ยิงไม่เข้าซะด้วยสิ....!!!

โกร๊ววววว!!!!!!

ผมเหวี่ยงค้อนเพื่อสกัดการโจมตีจากกระสุนหนามแหลมที่พุ่งออกมาจากร่างกายของมัน ก่อนจะกระโดดหลบการโจมตีจากกรงเล็บที่ฟาดใส่ผมไปพร้อมกัน และในจังหวะนั้นเองผมก็ได้หันไปมองบริเวณเพดานที่อยู่ด้านบน

เดลฟีเน่จากเผ่าวิหคขาวสยายปีกสีขาวแสนงดงามของเธอออกและโบยบินไปรอบๆห้อง เธอพยายามโจมตีด้วยกระสุนเจาะเกราะของ BeaterAP700 จากมุมสูงหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ว่าเธอจะยิงไปบริเวณไหน ลูกกระสุนเจาะเกราะก็ไม่สามารถที่จะเจาะทะลวงผ่านผิวโลหะสีส้มเงินของมันได้เลย

พวกคนจากกองอัศวินที่ 3 ที่คอยยิงสนับสนุนพวกเราจากทางด้านหลังเองก็แทบจะเรียกได้ว่าไร้ความหมายไปเลยเช่นเดียวกัน

ทัตสึยะซามะ!!! มายุซามะ!!! ทุกคนรีบถอยออกมาเร็วค่ะ!!!

และในตอนนั้นเอง เมดสาวเผ่าเอล์ฟที่เตรียมการอยู่ด้านหลังก็ตะโกนให้สัญญาณกับพวกเรา ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เวทมนต์ขนาดใหญ่ได้ร่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว

จงจอบรับคำวิงวอนและทำลายเหล่าศัตรูของข้า ราชันแห่งวิหคเพลิงผู้แผดเผาโลกา Fire Magic: Hell Phoenix!!

เมื่อคำร่ายของมิฮารุจังสิ้นสุดลง นกฟินิกซ์สีแดงดำที่ห่อหุ้มร่างกายด้วยเปลวเพลิงสีแดงเข้มขนาดพอๆกับเจ้าโกเลมมังกรยักษ์ก็ปรากฏขึ้น

Hell Phoenix เวทไฟระดับ 9 นั้นเป็นเวทมนต์ที่รุนแรงที่สุดของมิฮารุจัง เนื่องจากจำเป็นต้องมีการร่ายเวทมนต์ที่ยาวนาน ดังนั้นพวกผมที่เป็นแนวหน้าจึงจำเป็นที่จะต้องคอยถ่วงเวลาเอาไว้ให้

กร๊าววววว!!!!!!

Hell Phoenix กรีดร้องและพุ่งเข้าใส่เหยื่อของมันด้วยแววตาที่คมกริบ

ซูมมมมมมมม!!!!!!

เสียงของเปลวไฟที่แผดเผาดังก้องไปทั่ว เจ้าโกเลมมังกรยักษ์ถูกห่อหุ้นไปด้วยเปลวไฟสีแดงเข้มไปทั่วทั้งตัว จากความร้อนที่ละลายได้แม้กระทั่งภูเขาหินนั้นทำเอาอุณหภูมิหายในห้องตอนนี้สูงขึ้นจนผมและคนอื่นๆที่ใส่ชุดป้องกันอุณหภูมิอยู่ตลอดเวลาถึงกับมีเหงื่อไหลรินลงพื้น

โดนเวทไฟระดับ 9 เข้าไปจังๆแบบนี้ ถึงแม้จะไม่ตายแต่ก็คงจะต้องสร้างความเสียหายได้เยอะแน่ๆเลยนะคะ

มายุจังที่กำลังร่ายเวท Wind Shield เพื่อช่วยป้องกันเปลวเพลิงให้กับผมจากด้านหน้าพูดออกมาด้วยความมั่นใจ ไม่บ่อยนักที่พวกเราจะได้เห็นการใช้เวทมนต์ระดับสูงแบบนี้ เพราะงั้นแม้แต่ตัวผมเองก็ยังรู้สึกชื่นชมกับความสวยงามและพลังทำลายอันเหลือล้นของเวทไฟระดับ 9 อย่าง Hell Phoenix เช่นเดียวกัน

แต่แล้วสิ่งพวกเราไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก็เกิดขึ้น.....

โกหกน่า!! นะ นะ นั่นเวทไฟระดับ 9 เลยนะ!!!

มัลต้าเป็นคนแรกที่พูดออกมาด้วยสีหน้าหวาดวิตก หลังจากนั้นพวกอัศวินและคนอื่นๆที่อยู่แนวหลังก็เริ่มที่จะแสดงอาการสิ้นหวังออกมา ซึ่งเหตุผลนั้นก็เพราะเจ้าโกเลมมังกรสามหัวขนาดยักษ์ตัวนี้มันไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว

ถึงจะยังไม่แน่ใจนักเพราะเคยเห็นแต่ในบันทึกเก่าๆก็เถอะ แต่ชั้นคิดว่าเจ้านี่น่าจะถูกสร้างขึ้นมาด้วยโลหะในตำนานโอริฮารูก้อน Oriharukonแน่ๆเลยล่ะค่ะ

มิฮารุจังที่อยู่ด้านหลังของผมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ นั่นสินะ หากดูจากสีและความสามารถในการป้องกันทั้งอาวุธและเวทมนต์อย่างสมบูรณ์แบบแล้วล่ะก็ มันคงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมาด้วยแร่ในตำนานอย่างโอริฮารูก้อน

เจ้าโกเลมมังกรยักษ์ ค่อยๆก้าวเท้าออกมาจากเปลวเพลิงร้อนระอุที่กำลังค่อยๆดับลงอย่างช้าๆ จากนั้นมันก็หันมาทางพวกเราและส่งเสียงคำรามที่น่าหวาดหวั่นดังก้องไปทั่วบริเวณ

โกร๊วววววร๊าวววววว!!!!!!

จากเสียงคำรามที่ดังก้องของมันทำให้สาวๆหลายๆคนถึงกับทรุดลงไปเพราะความกดดันอย่างรุนแรงที่ได้รับเข้าไป แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่สามารถอดทนเอาไว้ได้ แน่นอนว่าตัวผมเองก็รวมอยู่ในนั้นด้วย


อุฟุฟุ ไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่ทำให้ตื่นเต้นแบบนี้มานานแล้ว ดูเหมือนเจ้าจิ้งเหลนสามหัวนี่จะควรค่าให้เอาจริงนะคะ

นั่นสินะคะมายุซามะ การที่มาเสียมารยาทไม่ยอมก้มหัวให้กับนายท่านแบบนี้ เห็นทีชั้นคงจะต้องอบรมให้สักหน่อยแล้วล่ะค่ะ

มายุจังและมาเรียจังที่รู้ว่าเจ้าโกเลมมังกรยักษ์กำลังรวบรวมมานาเพื่อที่จะพ่นลมหายใจเวทออกมานั้น พวกเธอก็ตัดสินใจพุ่งเข้าไปโจมตีเพื่อหยุดยั้งการโจมตีของมันในทันที

มายุจังออกตัววิ่งอย่างรวดเร็ว เธอกระโดดเหยียบเท้าและวิ่งไต่ไปตามเกล็ดของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์อย่างชำนาญ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเธอก็สามารถขึ้นไปยังส่วนหัวของมัน พร้อมทั้งแทงหอกที่ได้เสริมพลังสายฟ้าอย่างเต็มที่เข้าไปที่ตาของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์เข้าไปสุดแรง

มาเรียจังกระโดดกลับตัวกลางอากาศเพื่อหลบกระสุนหนามที่พุ่งออกมาก่อนจะหมุนตัวอีกครั้งเพื่อเหวี่ยงลูกตุ้มมายาขนาดยักษ์เข้าใส่อีกปากหนึ่งของเจ้ามังกรยักษ์

ผมเองก็ขว้างค้อนในมือเข้าใส่อีกหัวหนึ่งอีกสุดแรงเช่นเดียวกัน จากการกระทำของพวกเรานั้นทำให้สามารถหยุดการรวบรวมมานาเพื่อพ่นลมหายใจเวทของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์เอาไว้ได้ แต่ถึงงั้นพวกเราก็ยังไม่มีวิธีที่จะเอาชนะมันอยู่ดี

มาเรียจัง มายุจัง ช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ให้ทีนะ

ถึงแม้การโจมตีจากภายนอกจะไม่ได้ผลเพราะเกราะของมันถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะในตำนานอย่างโอริฮารูก้อน แต่ยังไงเจ้านี่ก็เป็นโกเลม ดังนั้นภายในตัวมันก็จำเป็นจะต้องมีวงเวทสำหรับใช้ควบคุมการทำงานอยู่อย่างแน่นอน

Skill: Clairvoyance!!

ผมเปิดใช้หนึ่งในสกิลใหม่ที่ชื่อว่า Clairvoyance โดยสกิลนี้ทำให้ผมสามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางได้ทุกอย่างไม่ว่าจะจำเป็นกำแพงที่หนาแค่ไหน แต่การใช้สกิลนี้อย่างต่อเนื่องมันก็ต้องแลกกับการใช้มานาจำนวนมากเช่นเดียวกัน

ในเวลาปกติผมจะใช้แค่เวลาที่ต้องการจะแอบดูพวกสาวๆอาบน้ำหรือเวลาที่พวกกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพียงเท่านั้น ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริงๆว่าสกิลที่ผมใช้ถ้ำมองมาตลอดจะมามีประโยชน์ในเวลาแบบนี้

หลังจากมองหาไปจนทั่วทั้งร่างกายของมันโดยที่คอยหลบเลี่ยงการโจมตีจากกรงเล็บและกระสุนหนามแหลมของมันไปด้วย ผมก็พบกับวงเวทที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์ถึง 3 จุดด้วยกัน

มาเรียจัง มายุจัง ผมเจอวงเวทที่อยู่ในร่างกายของเจ้านี่แล้ว ผมจะส่งคุโรโกะเข้าไปทำลายวงเวทของมันจากทางปากของมัน พวกเธอช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ทีนะ

รับทราบค่ะนายท่าน」「ให้เป็นหน้าที่ของนู๋เองค่ะ ทัตสึยะซัง

มาเรียจังและมายุจังตอบรับผมกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

เมริน เธอพาพวกที่ไม่ไหวแล้วถอยออกไปด้านนอกก่อน มิฮารุ มัลต้า ยูลมิส เดลฟีเน่ ช่วยคุ้มกันผมที

รับทราบค่ะ!!」「ไว้ใจได้เลยค่ะ ทัตสึยะซัง」「ชั้นเองก็จะพยายามอย่างเต็มที่เลยค่ะ」「ชั้นจะคอยปกป้องทัตสึยะซามะด้วยชีวิตเองค่ะ

Dark Summon: Dark Phoenix!!

ผมรวบรวมมานาและเปลี่ยนเป็นพลังเวทเพื่อเรียกคุโรโกะออกมา โดยในครั้งนี้ผมใช้มานาน้อยที่สุดเพียงเพื่อคงร่างของคุโรโกะเอาไว้ในขนาดที่เล็กที่สุด

ฝากด้วยนะ คุโรโกะ!!

ฟิฟิฟี่!!

ผมนำขวดน้ำยาเควาลีนออกมาจากกระเป๋าเวทและให้คุโรโกะคาบเอาไว้ คุโรโกะก็ตอบรับด้วยการกระพือปีกเบาๆก่อนที่มันจะบินหลบหลีกกระสุนหนามอย่างคล่องแคล่ว และขึ้นไปยังส่วนหัวของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์

เมื่อเห็นดังนั้น มายุจังที่อยู่ด้านบนก็ใช้หอกง้างปากของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์ในทันทีเพื่อส่งคุโรโกะเข้าไปด้านใน โครงสร้างภายในของเจ้าโกเลมมังกรยักษ์นั้นซับซ้อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงทำให้การควบคุมจำเป็นต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก

เพราะเหตุนั้นผมจึงต้องให้มิฮารุจังและคนอื่นๆคอยช่วยคุ้มกันผมจากการโจมตีต่างๆด้วยโล่เวทมนต์ หลังจากใช้เวลาครู่หนึ่งผมก็พาคุโรโกะไปถึงยังวงเวทอันแรกและเริ่มทำการลบมันออกด้วยน้ำยาเควาลีน ซึ่งมันก็สำเร็จไปด้วยดี

ตัวผมนั้นไม่ใช่สายเวทดังนั้นจึงมีมานาน้อยกว่าพวกสาวๆมาก และในวันนี้ผมก็ได้ใช้มานาไปมากแล้ว แถมการที่จะต้องเปิดใช้สกิล Clairvoyance พร้อมกับส่งมานาให้กับคุโรโกะไปพร้อมกันนั้นก็สิ้นเปรืองมานาเป็นอย่างมาก เพราะเหตุนั้นเองจึงทำให้ผมถึงกับทรุดลงไปกับพื้น

ถ้าเป็นแบบนี้ผมคงจะไม่สามารถควบคุมคุโรโกะให้ไปจัดการกับวงเวทอีก 2 อันที่เหลือได้ทันแน่ เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่น

ฟุเนี๊ยะ ทะ ทะ ทัตสึยะซามะ อุ๊ปป!!!

ผมดึงเดลฟีเน่ที่อยู่ข้างๆเข้ามาใกล้ ถลกชุดเมดของเธอลงมา จากนั้นก็ขโมยริมฝีปากของเธอและสอดลิ้นเข้าไปด้านในพร้อมทั้งขยำขยี้และเคล้าคลึงหน้าอกเปลือยเปล่าขนาดพอดีมือของเธออยางเร่าร้อนไปพร้อมกันด้วย

ถึงมันจะฟังดูแปลกไปสักหน่อย แต่สิ่งที่ผมทำลงไปนั้นก็เพื่อให้สกิล Mana Chaneling ของผมสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้วผมจะใช้สกิลนี้เพื่อถ่ายมานาของผมให้กับเด็กสาวคนอื่นที่สูญเสียมานาไปมากผ่านทางการจูบหรือการสัมผัสไปตามส่วนที่ความรู้สึกไวต่างๆของร่างกาย แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ใช้สกิลนี้เพื่อดึงเอามานาของเด็กสาวมาให้กับตัวเอง

ฟุเนีย.... ฟุฟุ ฟุเนีย....

เดลฟีเน่ที่ถูกลวนลามแถมยังถูกดูดพลังมานาไปนั้นทรุดลงไปกับพื้นอย่างเหนื่อยหอบ ใบหน้าของเธอแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย ถึงแม้เมดทุกคนจะเป็นของของผม แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมทำเรื่องแบบนี้กับเธอเพราะงั้นคงจะช่วยไม่ได้ล่ะนะ.....

ผมที่ได้พลังมานาฟื้นคืนมาก็เริ่มสั่งการคุโรโกะต่อและในที่สุดก็สามารถจัดการวงเวทอันที่สองไปได้ และนั่นก็ทำให้ผมจำเป็นที่จะต้องใช้สกิล Mana Chaneling เพื่อดึงเอามานามาจากเด็กสาวคนอื่นอีกครั้ง

ฮ่า.....ฮ่า.......ทัตสึยะชาม้า........

ซึ่งเหยื่อในครั้งนี้ก็เป็นยูลมิสจังเมดสาวจากเผ่าเอล์ฟ เนื่องจากเธอเป็นเมดส่วนตัวของมายุจังจึงทำให้ผมไม่ค่อยได้เล่นสนุกกับร่างกายอันแสนบอบบางของเธอมากนัก และนั่นก็ทำให้เธอถึงกับหลับไปเลยในทันที.....แต่ถึงจะบอกว่าหลับไป...ตามจริงแล้วผมกลับคิดว่าเธอกำลังเมาอยู่เสียมากกว่า.....

และในที่สุด หลังจากใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก ผมก็สามารถลบวงเวททั้งสามวงของเจ้าโกเลมมังกรสามหัวขนาดยักษ์ออกไปจนหมดได้

เจ้าโกเลมมังกรยักษ์ที่ไร้วงเวทคอยควบคุมหยุดการทำงานลงในทันที แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่หยุดการทำงานเท่านั้น เพราะชิ้นส่วนของเจ้านั่นถึงกับหยุดออกมาเป็นชิ้นๆ ซึ่งเหตุผลนั้นก็คงเป็นเพราะว่ามันรับการโจมตีอย่างหนักหน่วงของพวกเราเข้าไปเป็นจำนวนมากนั่นล่ะนะ

ส่วนตัวผมนั้น......หลังจากที่สามารถปราบมันลงได้......ผมก็สลบไปในทันทีเพราะมานาในร่างกายได้ถูกใช้ไปจนเกือบหมด.....

การต่อสู้ครั้งนี้มันเหนื่อยชะมัด....เพราะงั้นเพื่อให้รางวัลกับตัวเองแล้ว.....ผมคิดว่าจะปลดปล่อยอารมณ์ความใคร่ทั้งหมดด้วยการจัดหนักกับพวกสาวๆสวยๆทุกคนในปราสาทแห่งนี้ตลอดทั้งวันทั้งคืนเลยคอยดูสิ......หึหึ.....หึหึ.....



-- Extra --

บรึ่ยย!!! จู่ๆ ก็รู้สึกหนาววูบไปทั้งตัวเลยล่ะค่ะอัลฟินซามะ....

ในเวลาเดียวกัน เพทโทร่า เมดสาวซึ่งเป็นคนรักลับๆของอัลฟินก็รู้สึกถึงอันตรายบางอย่าง ร่างกายของเธอหนาววูบไปทั้งตัว

ไม่เป็นไรนะจ๊ะ เพทโทร่า ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เค้าก็จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเพทโทร่าเองนะ

ราชินีอัลฟินผู้ที่ได้ชื่อว่าเด็กสาวที่สวยที่สุดในจักรวรรดิเลเรียสเข้าไปโอบกอดเมดสาวของเธออย่างอ่อนโยนโดยไม่สนว่าคนรอบข้างจะรับรู้ความรู้สึกที่มีต่อกันและกันของพวกเธอทั้งสองคน.....

คะ แค่ เพทโทร่าคนเดียวขี้โกงนี่นา!!

พะ พวกเราเองก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่น่ากลัวมากๆเหมือนกันนะคะ อัลฟินซามะ!!

เมดสาวอีกสองคนที่มองดูทั้งสองด้วยความอิจฉา พวกเธอทั้งสองคนเองก็หลงรักในความงดงามหาใดเปรียบของราชินีอัลฟินเองเช่นเดียวกัน

อะร๊า น้อยใจกันหรือจ๊ะ ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะจ๊ะ พวกเธอสองคนเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับเค้าเช่นเดียวกัน เพราะงั้นหลังจากทัตสึยะซามะกลับมาแล้ว เค้าจะขอร้องให้พวกเธอได้ทำงานอยู่ข้างกายเค้าเหมือนเดิมนะจ๊ะ

แน่นอนว่าอัลฟินนั้นแม้จะรักเพทโทร่าเป็นอับดับ 1 แต่เธอเองก็เป็นเด็กสาวที่เรียกได้ว่าเจ้าชู้ เธอนั้นมีความชื่นชอบที่จะได้ร่วมรักกับเด็กสาวแสนสวยหลายๆคนในเวลาเดียวกัน.....

อัลฟินซามะ!! รักที่สุด!!!

ซึ่งก็แน่นอนว่าทัตสึยะนั้นยอมให้พวกเธอทั้ง 4 คนได้อยู่ร่วมกันเหมือนเดิมและยังได้ให้สัญญาว่าจะคอยช่วยเหลือดูแลครอบครัวของพวกเธอทุกคนเป็นอย่างดี

เพียงแต่ในเวลานี้พวกเธอทั้ง 4 คนไม่ได้รับรู้เลยว่า หลังจากที่ได้รับคำสัญญานั้น พวกเธอทั้ง 4 คนจะต้องเจอกับความรู้สึกเสียวซ่านที่ร่างกายของพวกเธอไม่เคยรับรู้ถึงมันมาก่อนไปพร้อมๆกัน.....

7 ความคิดเห็น:

  1. ทั้งปราสาทนี่มันไม่ใช่ปีศาสแล้วแต่เป็นสัปปะหราดชัดๆ (อาจจะมีคำผิดมั่งคงไม่ว่ากันนะคับ)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หมายถึงพวกพระเอกสินะครับ -0-//
      เรื่องนี้ปีศาจเก่งกว่า สัตประหลาดนะครับ 5555

      ลบ
  2. สุดยอดในหลายๆ ความหมายเลยนะ บักทัต

    ปล. อา ทุ่งลิ่ลลี่เบ่งบานดีแท้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หุหุ กำลังหาเอฟเฟคทุ่งลิลลี่ 555+

      ลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. ลงวินโดว์ใหม่ ลิ้งค์ต่างๆที่อยู่ในเบราเซอร์ หายเกลี้ยง(ลืมแบ็คอัพ) กว่าจะหาเจอ ใช้เวลาเดือนกว่าๆ น้ำตาจะไหล

    ตอบลบ