ตอนที่ 16 คริสติน่า ลาลาน่า วอน เอลติซ


-- มุมมองของคริสติน่า --      
                                                        
ช่วงหัวค่ำของวันที่ 27 เดือน 8 ศักราชเอลติซปีที่ 837 ในขณะที่พวกเมดชั้นสูงที่พักอาศัยอยู่ในหอพักเมล่อนโรลกำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับฟลอร่าและฟิลิเน่อยู่นั้น

ในอีกด้านหนึ่งของคฤหาสน์ทัตสึยะ อดีตเจ้าหญิงอับดับที่ 13 แห่งราชวงศ์เอลติซและราชินีแห่งอาณาจักรออร์ฟีน่า ทั้งสองคนกำลังเฝ้ามองฟลอร่าและพวกเมดเพื่อนๆของเธอ ผ่านทางกล้องรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งเอาไว้ทุกซอกทุกมุมภายในหอพักเมล่อนโรลไปพร้อมกันด้วย

...ฮึก.....ฟิลิเน่น่ะ....ฟิลิเน่น่ะไม่เคยทานเค้กที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยล่ะค่ะ...ฮึก...ฮึก...

ภายในจอภาพที่ปรากฏอยู่นั้น เด็กสาวผมสีเทาอ่อนกำลังทานเค้กที่มีชื่อว่าเมล่อนโรลไปพร้อมทั้งหลั่งน้ำตาแห่งความยินดีออกมาด้วย ซึ่งตามที่ชั้นได้รับทราบมานั้น ดูเหมือนว่าฟลอร่าน้องสาวของชั้นจะถูกใจเด็กคนนี้มาก เธอจึงได้ขอรับตัวเด็กคนนี้ให้มาทำงานเป็นเมดส่วนตัว

ถ้าชอบขนาดนั้นล่ะก็ จะทานส่วนของชั้นด้วยก็ได้นะคะ
ตะ แต่ชั้น มะ ไม่แบ่งให้หรอกนะคะ......
นี่โรน่า เธอมันจะตะกละเกินไปล่ะนะยะ!!       
ตะ แต่นี่มันของโปรด มันเป็นของโปรดของชั้นเลยนะคะ!!
อุฟุฟุ ฟิลิเน่จัง อย่าไปใส่ใจคำพูดของยัยอัศวินซุ่มซ่ามเห็นแก่ตัวคนนั้นเลยนะ ขอเพียงแค่ฟิลิเน่ตั้งใจทำงานล่ะก็ พวกเราจะทำให้ทานบ่อยๆเลยล่ะค่ะ
เสร็จชั้นล่ะ!!!
มะ เมล่อนโรลของชั้น!! ทำอะไรกันคะเนี่ย แย่งของกินจากจานคนอื่นมันเสียมารยาทมากเลยนะคะ!!!                                                      
คนที่ไม่ระวังตัวเองนั่นล่ะค่ะที่เป็นฝ่ายผิดน่ะ!!

เมื่อได้เห็นภาพน้องสาวของชั้นและเพื่อนๆกำลังสนุกสนานไปกับงานเลี้ยงด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแล้ว ตัวชั้นเองก็อดที่จะรู้สึกโล่งใจไม่ได้

เพียงเท่านี้ ถึงแม้ความรู้สึกผิดภายในจิตใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้จะไม่จางหายไป แต่อย่างน้อยชั้นก็รู้สึกสบายใจที่ได้เห็นฟลอร่ากลับมามีสีหน้ายิ้มแย้มและสามารถใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขเหมือนกับกันสมัยก่อน เหมือนกับสมัยที่พวกเราพี่น้องเคยได้อยู่ร่วมกันในปราสาทเอลติซ

เฮ้อ.....

พอได้นึกถึงเรื่องราวในสมัยก่อนแล้วมันก็ทำให้ชั้นเผลอถอนหายใจออกมา ในตอนแรกที่ชั้นได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับฟลอร่าจากพวกคนของหน่วยข่าวกรองของอาณาจักรออร์ธรอสนั้นน่ะ ชั้นรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับว่าหัวใจของชั้นแทบจะแหลกสลาย ตัวชั้นที่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือกับน้องสาวแท้ๆในเวลาที่เธอต้องการได้นั้นช่างเป็นพี่สาวที่ไม่ได้เรื่องอย่างที่สุด และนั่นก็เป็นเพราะเรื่องนี้ที่ทำให้ชั้นรู้สึกผิดอยู่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

จะไม่ไปพบกับน้องสาวจริงๆหรือคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือคะ?

ในระหว่างที่ชั้นกำลังมองดูน้องสาวและเพื่อนๆกำลังสนุกสนานอยู่นั้น ราชินีแห่งอาณาจักรออร์ฟีน่า ยูฟีเนส ออร์แกรม เวล ออร์ฟีน่า ที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับชั้นก็ได้ถามขึ้นมา

ตัวชั้นในตอนนี้คงจะไปพบกับเธอไม่ได้หรอกค่ะ.....และก็สำหรับเรื่องนี้แล้ว....ชั้นต้องขอขอบคุณฝ่าบาทจริงๆนะคะที่ยอมรับฟังคำขอร้องที่เห็นแก่ตัวของผู้ที่เป็นเพียงแค่เชลยอย่างชั้น

ใช่แล้วล่ะ จะให้ตัวชั้นที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ไปพบเธอแล้วทำเป็นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนั้น ชั้นคงจะไม่สามารถทำได้

ในเวลาที่ฟลอร่าต้องเจอเรื่องยากลำบาก ในเวลาที่เธอต้องเจ็บปวดทรมาน ในเวลานั้นชั้นกลับไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย กับตัวชั้นที่ให้ความสนใจแต่กับภารกิจลอบสังหารองค์ราชินียูฟิเนส แถมยังไม่รับรู้เลยสักนิดว่าภารกิจที่ได้รับนั้นไม่ได้มาจากท่านพ่อแต่เป็นเลคซิอุสที่เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่นั่นน่ะ ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปพบกับเธอ....อย่างน้อยก็ในตอนนี้.....

คนที่ตัดสินใจช่วยเจ้าหญิงฟลอร่าไม่ใช่ชั้นแต่เป็นคุณสามี....ทัตสึยะซามะ....เพราะงั้นแล้วแทนที่จะเป็นชั้น....เจ้าหญิงคริสติน่าควรจะไปขอบคุณกับทัตสึยะซามะมากกว่านะคะ

ราชินียูฟีเนสตอบกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งก็เป็นไปตามที่เธอพูด คนที่ตัดสินใจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือฟลอร่าแม้จะรู้ว่าเป็นคำขอจากชั้นก็คือทัตสึยะซามะ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ชั้นก็ยังรู้สึกขอบคุณราชินียูฟีเนสจากจริงใจ ตัวเธอที่ช่วยส่งคำขอร้องจากเชลยอย่างชั้นไปถึงทัตสึยะซามะนั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณอย่างแท้จริง

นอกจากนั้นแล้วชั้นก็ได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะมอบร่างกายนี้ให้กับทัตสึยะซามะเพื่อตอบแทนสำหรับเรื่องในครั้งนี้ กับเค้าที่ชื่นชอบเด็กสาวที่งดงามแล้ว ชั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเค้าจะต้องพึงพอใจในเรือนร่างที่ยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์ของชั้นอย่างแน่นอน...

สำหรับเรื่องนั้นชั้นเองก็ทราบดีและได้เตรียมใจเอาไว้แล้วล่ะค่ะ......แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องในครั้งนี้นั้น หากไม่ได้ฝ่าบาทเป็นคนไปช่วยนำเรื่องนี้ไปพูดให้ล่ะก็ ทัตสึยะซามะอาจจะไม่ยอมช่วยเหลือก็ได้ เพราะงั้นถึงแม้ชั้นจะไม่มีสิ่งใดมามอบให้ในตอนนี้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยรับคำขอบคุณของชั้นเอาไว้ด้วยเถอะค่ะ

ชั้นลุกขึ้นและก้มหัวเพื่อนแสดงการขอบคุณให้กับราชินียูฟีเนสจากก้นบึ้งของหัวใจ ถึงแม้ในตอนนี้ชั้นจะไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนให้กับเธอ แต่ในอนาคตหากชั้นสามารถที่จะแก้แค้นให้กับท่านพ่อท่านแม่ได้แล้วล่ะก็ ชั้นคิดว่าคงจะสามารถหาสิ่งตอบแทนให้กับเธอได้

เข้าใจแล้วล่ะค่ะ ชั้นจะขอรับคำขอบคุณนี้เอาไว้ แต่ไม่ใช่ในฐานะเจ้าหญิงหรือราชินี ชั้นจะขอรับคำขอบคุณนี้ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง เพราะงั้นก็เงยหน้าขึ้นเถอะค่ะ เพราะสำหรับชั้นแล้ว การได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนมันก็เป็นความต้องการของตัวชั้นเองด้วย

ราชินียูฟีเนสตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของเธอนั้นไม่ได้มีการแสดงออกถึงการเสแสร้งเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ชั้นรู้สึกเจ็บปวดเข้าไปอีก....ทำไมกันนะ....ทำไมประเทศของพวกเราถึงต้องเป็นศัตรูกันด้วยนะ....

หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มพูดคุยในเรื่องอื่นๆต่อ โดยประเด็นหลักนั้นคือเรื่องสงครามระหว่างอาณาจักรออร์ธรอสและจักรวรรดิเลเรียส

ในครั้งนี้ถึงแม้ทางอาณาจักรออร์ฟีน่าจะไม่ได้ทำการส่งกำลังทหารเข้าไปร่วมรบในสงคราม แต่สำหรับอาณาจักรออร์ฟีน่าที่เป็นอาณาจักรอาณานิคมแห่งแรกและยังได้รับการสนับสนุนทุกๆด้านนั้น ทั้งอาวุธและยุทโธปกรณ์ต่างๆเองก็เรียกได้ว่าเป็นของชั้นสูงเช่นเดียวกัน

เพราะงั้นจึงสามารถพูดได้เลยว่า หากพวกเค้าร่วมมือกันแล้วล่ะก็ กองทัพของพวกเค้าคงจะต้องเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งจนอาจจะสามารถเรียกได้ว่าไร้คู่ต่อสู้เป็นแน่

พลังทำลายเหลือล้นจริงๆนะคะ เจ้าเรือเหาะประจัญบานเนี่ย

ราชินียูฟีเนสพูดขึ้นในระหว่างที่พวกเรากำลังดูบันทึกการสงการระหว่างอาณาจักรออร์ธรอสและจักรวรรดิเลเรียส

ค่ะ เป็นพลังที่เหมาะสมกับพวกท่านจอมที่ได้รับพรมาจากเหล่าเทพธิดาจริงๆค่ะ

ชั้นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ กับพวกท่านจอมเวทที่ได้รับพรจากเทพธิดานั้น การที่จะสร้างอาวุธทรงพลังขนาดนี้ได้นั้นเรียกได้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในอดีตเองก็มีบันทึกมากมายเกี่ยวกับผู้กล้าที่ถูกเทพธิดาอัญเชิญมาเพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่กำลังจะสูญสิ้น พวกเค้าเหล่านั้นมีพลังที่ไม่อาจจะต้านทานได้

........พอพูดถึงเรื่องของผู้กล้าแล้วก็ทำให้ชั้นนึกขึ้นมาได้

จะว่าไปแล้ว.....ถึงแม้ชั้นจะไม่ได้ยืนยันมาด้วยตาของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าภายในกองกำลังส่วนตัวของจักรพรรดิองค์ใหม่เองก็มีกลุ่มคนที่ได้รับพรจากเทพธิดาอยู่เหมือนกันนะคะ.....เหมือนว่าพวกเค้าจะถูกเรียกว่าผู้กล้าต่างโลกหรืออะไรทำนองนี้........

วะ ว่าไงนะคะ!!!

ในตอนนี้ที่ชั้นกำลังพูดอยู่นั้น ราชินียูฟีเนสได้ลุกขึ้นยืนและตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ แต่นั่นก็เพียงแค่ชั่วครู่ เธอนั่งลงและกลับไปดูเยือกเย็นภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

ต้องขอโทษที่ขึ้นเสียงไปโดยไม่ตั้งใจนะคะ คริสติน่าซังกำลังจะบอกว่า ภายในกลุ่มที่สนับสนุนองค์จักรพรรดิเลคซิอุสนั้น มีกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า ผู้กล้าต่างโลกรวมอยู่ด้วย แบบนั้นสินะคะ

ชะ ใช่แล้วค่ะ! แต่ว่าตัวชั้นเองนั้นไม่เคยได้พบกับพวกเค้าเหล่านั้นโดยตรงจึงไม่สามารถยีนยันอะไรได้ แต่ชั้นคิดว่าคนเหล่านั้นน่าจะมีตัวตนอยู่จริง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว การที่เลคซิอุสจะเอาชนะหน่วยราชองค์รักษ์ของท่านพ่อและเข้ายึดครองราชบัลลังก์นั้นไม่น่าจะเป็นไปได้โดยง่ายแบบนี้.......

ชั้นตอบกลับไปตามตรง ลำพังตัวเลคซิอุสและกองกำลังส่วนตัวนั้นไม่ได้มีกำลังมากขนาดนั้น เพราะงั้นถึงแม้จะได้รับกำลังสนับสนุนจากท่านดยุคมาคัสแต่การที่จะเอาชนะกองทหารภายในปราสาทรวมถึงหน่วยราชองค์รักษ์ฝีมือดีภายในเวลาเพียงวันเดียวนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้

และในตอนที่กำลังพูดอยู่นั้น ประตูของห้องรับรองก็เปิดออกโดยไม่มีการเคาะ ชายหนุ่มท่าทางน่ากลัวผู้มีผมสีดำสนิทและเด็กสาวผู้มีผมสีทองเป็นประกายงดงามในชุดเดรสสีขาวเดินเข้ามาด้านในโดยไม่มีการขออนุญาต

หากเป็นปกติล่ะก็ การกระทำเช่นนี้คงเรียกได้ว่าเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ชั้นจะเป็นเพียงเชลยที่อยู่ในการควบคุมตัวของอาณาจักรออร์ฟีน่า แต่สำหรับองค์ราชินียูฟีเนสนั้นเป็นผู้ที่มีฐานะสูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศนี้

เพียงแต่เรื่องนั้นเหล่านั้นคงไม่สามารถที่จะนำมาใช้กับบุคคลทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าของชั้นในตอนนี้ได้

พวกเธอกำลังพูดถึงผู้กล้าต่างโลกกันสินะ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยนะเนี่ย ผมขอฟังด้วยคนสิ

ชายหนุ่มผมดำนั่งลงบนโซฟาว่างๆตัวหนึ่ง ส่วนเด็กสาวผมทองนั่งลงบนตักของชายหนุ่มโดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย.......

ถึงแม้จะไม่เคยพบหน้ากันตรงๆแต่ชั้นก็เคยเห็นหน้าพวกเค้าหลายครั้งผ่านทางหนังสือพิมพ์และอุปกรณ์เวทมนต์ที่เรียกว่าทีวี.....ใช่แล้วล่ะ....พวกเค้าทั้งสองก็คือบุคคลที่มีฐานะสูงที่สุดในอาณาจักรออร์ธรอส

ชายหนุ่มผู้นี้คือ มาเอคาว่า ทัตสึยะ ผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอสและผู้ที่เป็นหัวหน้าของเหล่าจอมเวท ส่วนเด็กสาวคนนี้ก็คือเด็กสาวที่โด่งดังมาจากเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนหัวใจของผู้คนทั่วโลก ร่างทรงของเทพธิดาเซฟฟราน ท่านสตรีศักดิ์สิทธิเอลิเซ่ ผู้ปกครองศาสนจักรแห่งออร์ธรอส

ชั้นรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบกับทั้งสอง ดิชั้น คริสติน่า ลาลาน่า วอน เอลติซ อดีตเจ้าหญิงอันดับที่ 13 แห่งจักรวรรดิเอติซ แต่เนื่องจากในปัจจุบันดิชั้นได้ตัดสินใจละทิ้งฐานะของราชวงศ์ไปแล้ว ดังนั้นได้โปรดปฏิบัติกับชั้นเหมือนดังเช่นเด็กสาวทั่วไปด้วยนะคะ

ชั้นลุกขึ้นจากโซฟา จับชายกระโปรงทั้งสองขึ้น ก้าวเท้าไปด้านหลังข้างหนึ่งและย่อตัวลงเล็กน้อยและกล่าวทักทายออกไปด้วยรอยยิ้ม สำหรับทัตสึยะซามะที่ชื่นชอบเด็กสาวสวยแล้ว การแนะนำตัวนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นชั้นจึงพยายามฝึกซ้อมอย่างมากเพื่อทำให้ดีที่สุด ชั้นบอกได้เลยว่านี่เป็นการแนะนำตัวที่จริงจังและสง่างามมากที่สุดเท่าที่ชั้นเคยทำมา

1 ความคิดเห็น: