ตอนที่ 17 เมืองท่าออร์วิส


-- มุมมองของวาเนซซ่า --

วันที่ 7 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 837 ในระหว่างที่ทัตสึยะกำลังบุกไปช่วยเหลือเรือสินค้าที่ถูกพวกโจรสลัดโจมตี

ตั้งแต่ที่ชั้นถูกทัตสึยะซามะช่วยออกมาจากขุมนรก เวลาก็ผ่านไปกว่า 2 เดือนแล้ว พอได้เริ่มทำงานและเรียนหนังสือทุกวันตัวชั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

จากเด็กสาวบ้านนอกที่เคยรู้เพียงแค่งานบ้านและการเก็บของป่าเพื่อดำรงชีวิต ในตอนนี้ชั้นได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ช่วยของชิซึกุซามะ ถึงแม้ความรู้และทักษะความสามารถของชั้นจะยังเทียบกับพวกท่านจอมเวทไม่ได้ แต่ชั้นก็พอจะช่วยแบ่งเบาภาระของพวกท่านได้บ้างแล้ว

ตัวชั้นในตอนนี้สามารถอ่านเขียนตัวอักษรง่ายและการคำนวณง่ายๆได้ ชิซึกุซามะจึงให้ชั้นคอยติดตามเพื่อจดบันทึกเรื่องต่างๆที่ได้พบเจอในแต่ละวันเอาไว้ นอกจากงานนี้แล้วชั้นก็ยังถูกคัดเลือกให้มาเป็นหัวหน้าเมดในคฤหาสน์ของชิซึกุซามะที่สร้างขึ้นใจกลางเมืองท่าออร์วิส

ตามจริงแล้วเด็กสาวธรรมดาอย่างชั้นนั้น น่าจะเหมาะสมกับการเป็นเมดรับใช้ทั่วไปเสียมากกว่า แต่เอริซังอดีตหัวหน้าของชั้นได้บอกกับชั้นเอาไว้ว่า หากผู้คนไม่คิดจะใฝ่หาความก้าวหน้าล่ะก็ ประเทศก็จะไม่เจริญก้าวหน้าตามไปด้วย

ดังนั้นเมื่อคิดถึงอนาคตของอาณาจักรออร์ธรอสที่ทัตสึยะซามะสร้างขึ้นมาแล้ว ชั้นจึงจะมาหยุดอยู่กับการเป็นเพียงแค่เมดรับใช้ทั่วไปไม่ได้

ดังนั้นพอชั้นได้ข่าวว่าชิซึกุซามะจะสร้างเมืองท่าขึ้นมาใหม่บริเวณใกล้ๆกับหมู่บ้านโอร่า ชั้นจึงได้รีบไปสมัครเข้าเป็นผู้ช่วยของชิซึกุซามะในทันที เท่านี้ก็ถือได้ว่าตัวชั้นได้ทำประโยชน์ให้กับทัตสึยะซามะมากขึ้นอีกนิดแล้ว

ทัตสึยะซามะ.......ถ้าหากวันไหนทัตสึยะซามะแวะมาเยี่ยมเมืองนี้บ้างล่ะก็.........

วาเนซซ่าจัง จะมามัวเหม่ออยู่ไม่ได้แล้วนะคะ พวกเราน่ะต้องรีบไปตรวจเช็คข้อมูลของเรือสินค้าทั้งหมดที่เข้ามาเทียบท่าในวันนี้แล้วนะ

เอ๋! อ่ะ ขะ ขอโทษค่ะ

เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของทัตสึยะซามะชั้นจึงโดนดุเอา ไม่ได้ๆ ชั้นจะให้พวกเค้าที่ยอมให้เด็กสาวบ้านนอกอย่างชั้นได้มีโอกาสทำงานมานึกเสียใจไม่ได้ ชั้นจะต้องตั้งจำงานให้มากกว่านี้

หลังจากนั้นชั้นก็ตามชิซึกุซามะไปยังบริเวณท่าเรือสำหรับขนถ่ายสินค้าบริเวณทิศตะวันตกของเมือง ด้วยเวทมนต์ของพวกท่านจอมเวททำให้ท่าเรือแห่งนี้สามารถรองรับรับใหญ่น้อยได้ไม่ต่ำกว่า 200 ลำ เรียกได้ว่ามากพอจะให้เรือสินค้าทั้งหมดในทวีปนี้มาจอดเทียบท่าพร้อมกันได้เลยทีเดียว

วาเนซซ่าจัง เอาบันทึกข้อมูลสินค้าที่เรือสองลำนี้ต้องการไปคัดลอกทีนะ แล้วก็รีบไปสั่งให้ทางคลังสินค้าของเราดำเนินการจัดเตรียมด้วยนะคะ

ระ รับทราบแล้วค่ะ!

ในระหว่างที่ชิซึกุซามะกำลังเจรจากับพวกพ่อค้า ชั้นก็รีบไปดำเนินการตามคำสั่งในทันที คลังสินค้าของเมืองท่าออร์วิสนั้นมีอยู่มากมายหลายแห่ง ซึ่งภายในคลังสินค้านั้นนอกจากจะมีสินค้าแล้วก็ยังมีอุปกรณ์เวทสำหรับใช้ในการจัดการเอกสารอยู่หลายอย่าง

เนื่องจากเมืองท่าออร์วิสพึ่งจะสร้างเสร็จได้ไม่นาน จึงมีเรือเข้ามาเทียบท่าไม่มากนัก เพราะงั้นแค่เพียงชั้นคนเดียวจึงสามารถดูแลจัดการกับพวกบันทึกรายการสินค้าทั้งหมดได้

แต่สินค้าของอาณาจักรออร์ธรอสนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก ดังนั้นหลังจากนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมืองท่าแห่งนี้จะต้องกลายเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นจะมีคนมาขอสมัครเป็นลูกน้องชั้นเหมือนกับคนอื่นๆบ้างไหมนะ.......

ชั้นคัดลอกเอกสารและนำไปจัดเก็บเอาไว้ในอุปกรณ์เวทเรียบร้อยแล้วค่ะ ทางพนักงานคลังสินค้าก็ตอบรับและเริ่มจัดเตรียมสินค้าตามรายการแล้วเช่นกันค่ะ

ขอโทษที่ต้องให้วิ่งไปวิ่งมาอยู่คนเดียวตลอดเลยนะคะ

เอ๋!!...มะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันเป็นหน้าที่ของชั้นอยู่แล้ว เพราะงั้นมีอะไรก็สั่งมาได้เลยนะคะ

ถ้างั้นต่อไปก็......ไปตะลุยห้องวิจัยของริคคุงกันเลย!!

หลังจากจัดการเรื่องสินค้าทั้งหมดที่พวกพ่อค้าต้องการเรียบร้อยแล้ว ชั้นก็เดินตามชิซึกุซามะไปยังศูนย์วิจัยพืชสมุนไพรต่างโลก เทียบกับงานที่ต้องไปเจรจาต่อรองกับพวกพ่อค้าก่อนหน้านี้แล้วสีหน้าของชิซึกุซามะในตอนนี้น่ะ ดูมีความสุขกว่ามากเลยทีเดียว.....

ที่ศูนย์วิจัยพืชสมุนไพรต่างโลกนั้นมีริคคุงน้องชายของโซเฟียจังเป็นคนดูแลอยู่ ซึ่งถ้าพูดริคคุงแล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าเป็นเด็กที่ฉลาดมากๆ เพราะทั้งๆที่อายุน้อยกว่าชั้นแต่ก็เก่งทั้งด้านการภาษาและการคิดคำนวน

ริคคุงนั้นมักจะใช้เวลาว่างไปกับการค้นว้าเรื่องยาสมุนไพรอยู่ภายในหอสมุดของปราสาท Seirien อยู่เสมอ เพราะเหตุนั้นเองจึงทำให้ริคคุงกลายเป็นจุดสนใจของพวกท่านจอมเวทอย่างมาก และในที่สุดริคคุงก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมาหัวหน้าของศูนย์วิจัยพืชสมุนไพรต่างโลกที่เมืองท่าออร์วิสแห่งนี้

สำหรับพวกท่านจอมเวทแล้วการรักษาด้วยเวทมนต์อาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่กับผู้คนมากมายที่ไม่สามารถใช้เวทมนต์ได้ล่ะ พวกเค้าจะทำอย่างไรเมื่อเจ็บป่วย พวกเค้าจะทำอย่างไรหากอยู่ในที่ห่างไกล

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ท่านเวทหลายคนได้ให้การสนับสนุนในการตั้งศูนย์วิจัยขึ้นมาภายในเมืองแห่งนี้ ในอนาคตอันใกล้เมืองแห่งนี้จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนสินค้า

เมืองแห่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายผลของยารักษาโรคชนิดใหม่ที่ริคคุงและผู้คนในศูนย์วิจัยคิดค้นขึ้นมาได้ และมันก็ไม่ใช่เพียงการรักษาโรคเท่านั้น พวกท่านจอมเวทยังเคยกล่าวเอาไว้ว่า ยาสมุนไพรบางตัวยังสามารถบำรุงผิวพรรณของเหล่าหญิงสาว หรือแต่การเพิ่มเยาว์วัยให้กับพวกเธอได้อีกด้วย

และเมื่อข่าวนี้กระจายออกไปเหล่าเด็กสาวที่มีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรมากมายก็ตื่นเต้นกันมาก พวกเธอล้วนให้การสนับสนุนและยังพากันย้ายถิ่นฐานเพื่อมาสมัครเข้าร่วมทำงานกับทางศูนย์วิจัยจนในตอนนี้แทบจะต้องทำเรื่องขอก่อสร้างอาคารสำหรับวิจัยขึ้นมาเพิ่มอีกแล้ว

ริคคุง ผลงานวิจัยยาสมุนไพรต่างๆคืบหน้าไปถึงไหนแล้วเหรอคะ

เมื่อเข้ามาถึงยังห้องวิจัยชิซึกุซามะก็กล่าวทักทายออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ชะ ชิซึกุซามะ!! ตะ ต้อง ขอโทษที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับครับ!!

เมื่อเห็นชิซึกุซามะริคคุงก็รีบตอบรับกลับมาด้วยท่าทางขวยเขิน ทั้งๆที่ในเวลาปกติริคคุงจะเป็นคนสุขุมเยือกเย็นและฉลาดเฉลียว แต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบทีไรเค้าก็มักจะทำอะไรไม่ถูกอยู่เสมอ ถ้าเป็นไปได้ชั้นเองก็อยากให้ทัตสึยะซามะมาหาบ้างจังเลยน้า.......

หลังจากตรวจดูเอกสารรายและรวมถึงเข้าไปดูการสาธิตผลการทดลองต่างๆจบลงก็ถึงช่วงเวลาพักกลางวัน สำหรับอาณาจักรของเรานั้นเวลาพักถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก

เพราะแม้ถึงการตั้งใจทำงานจะเป็นเรื่องดี แต่หากทำงานหนักจนล้มป่วยลงไปล่ะก็ นอกจากจะทำให้งานล่าช้าแล้ว มันยังจะเป็นการลดทอนกำลังใจของผู้คนมากมายที่กำลังเริ่มต้นสร้างความฝันของตัวเองอยู่ภายในเมืองแห่งอีกด้วย

ในที่สุดก็ถึงเวลาพักซักที!! วันนี้จะทานอะไรดีน้า.......วาเนซซ่าจัง อยากทานอะไรงั้นเป็นอาหารกลางวันงั้นเหรอ

ในระหว่างเดินทางไปยังห้องอาหารสุดหรูของเมืองท่าออร์วิส ชิซึกุซามะก็ถามขึ้นมาด้วยท่าทางร่าเริง หากพูดถึงเรื่องอาหารแล้วล่ะก็ เมืองของเราเองก็เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าเมืองสเตรเชียเลย อีกทั้งด้วยความที่เมืองแห่งนี่เป็นเมืองท่า พวกอาหารทะเลต่างๆจึงเรียกได้ว่าสดใหม่กว่ามากนัก

อ่ะ.....เอ่อ......สะ.......สลัดขาปูทะเลลึก.....

เพียงแค่คิดก็แทบจะอดใจรอไม่ไหว ขาของเจ้าปูทะเลลึกตัวใหญ่นึ่งนั้นมันช่างยั่วยวนใจ ไม่ว่าใครหากได้ลิ้มลองซักครั้งก็คงจะไม่มีทางลืมมันได้ลง แล้วยิ่งได้ทานคู่กับผักและน้ำสลัดสูตรพิเศษที่หาทานได้ยากในฤดูหนาวแล้วด้วยล่ะก็.....

สุดยอดเลยวาเนซซ่าจัง!! ถ้าเป็นเรื่องการคิดเมนูอาหารแล้วเนี่ย ไม่มีใครสู้เธอได้เลยจริงๆนะ

ขะ ขอบคุณมากค่ะ!

ถ้างั้นพวกเราก็ไปถล่มขาปูทะเลลึกกันให้เต็มทีเลยนะ โอ้!!!

อะ โอ้!!

ชิซึกุซามะพูดมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนจะรีบจูงมือชั้นวิ่งไปยังศูนย์อาหารด้วยความรวดเร็ว ถึงในเวลาทำงานจะดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ในเวลาแบบนี้แล้วชิซึกุซามะเองก็แทบไม่ต่างจากเด็กสาวทั่วไปเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากช่วงเวลาแบบนี้สามารถคงอยู่ตลอดไป โดยที่พวกขุนนางสุดละโมบของจักรวรรดิไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวก็คงจะดีไม่น้อย........

ชั้นน่ะอยากจะเห็นรอยยิ้มของชิซึกุซามะมากกว่าการที่ต้องไปเห็นเธอฆ่าฟันศัตรูในสนามรบ ถึงแม้ชิซึกุซามะและพวกท่านจอมเวทจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ในสงครามนั้นก็ยังไม่สามารถบอกสิ่งทีจะเกิดขึ้นได้

ถ้าหากต้องเสียชิซึกุซามะไปล่ะก็.....ไม่ ไม่นะ มาคิดเรื่องอะไรบ้าๆอยู่ได้ล่ะเนี่ย!!

ชั้นตบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อให้เลิกคิดฟุ้งซ่าน......กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ในตอนนี้น่ะยังไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือการทำหน้าที่ในปัจจุบันให้ดีที่สุดนั่นเอง

วาเนซซ่าจาง อะ อ้ามมม!!

เมื่อได้สติกลับมาชั้นก็ถูกชิซึกุซามะป้อนอาหารใส่ปากในทันที......นะ นี่มันเนื้อขาปูทะเลลึกสุดนุ่มนิ่ม เพียงแค่สัมผัสกับลิ้นความอร่อยก็แพร่กระจายฟุ้งไปทั่วทั้งปาก มะ ไม่ใช่สิ ไอ้การที่ปล่อยเจ้านายมาป้อนอาหารใส่ปากลูกน้องเนี่ย มันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า!!

ชะ ชิซึกุซามะ! ทะ ทำอะไรกันคะเนี่ย!!

ก็วาเนซซ่าจังเอาแต่ทำหน้าเป็นกังวลนี่นา ทั้งๆที่พวกเราอยู่ต่อหน้าสลัดขาปูทะเลลึกสุดอร่อย แต่ยังทำหน้ากังวลแบบนั้นเนี่ย มันเสียมารยาทต่อคนที่ตั้งใจทำอาหารมาให้พวกเราทานนะจ๊ะ

……ขะ.....ต้องขอโทษจริงๆค่ะ......

เอาน่า เรื่องแค่นี้เอง แค่ทานอย่างมีความสุขก็พอแล้ว อะ อ้ามมม!!

ทั้งๆที่มันควรจะหน้าที่ของชั้นที่คอยดูแลเอาใจใส่เจ้านายแท้ๆ ใช้ไม่ได้เลยจริงๆนะเนี่ยตัวชั้น คงต้องพยายามให้มากขึ้นกว่านี้อีกสินะ......แต่ถึงอย่างนั้นการได้มีเจ้านายที่แสนดีอย่างชิซึกุซามะมาคอยเอาใจใส่เนี่ย มันก็ทำให้ชั้นดีใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว.....

ทั้งทัตสึยะซามะ ยูเมะซามะ ชิซึกุซามะ เอริซังรวมถึงพวกท่านจอมเวทคนอื่นๆต่างก็ใจดีกับชั้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนพวกเค้าก็ยังยื่นมือเข้าช่วยเหลืออยู่เสมอ.....ทำไมพวกเค้าถึงได้ใจดีกับชั้นที่เป็นเพียงเด็กบ้านนอกมากขนาดนี้กันนะ........

ชะ ชิซึกุซามะ มีเรื่องด่วนค่ะ!! ทะ ท่านหญิงอาเรียส่งข้อความมาแจ้งขอกำลังสนับสนุนในทันทีเลยค่ะ!!

ในขณะที่ชิซึกุซามะกำลังทานอาหารกลางวันอยู่นั้น มิรันด้าเน่จังก็ได้วิ่งเข้ามาแจ้งข่าวด้วยสีหน้าวิตกกังวล ดูจากท่าทางแล้วป้อมปราการที่ 1 ที่ท่านหญิงอาเรียดูแลอยู่คงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างแน่นอน

8 ความคิดเห็น:

  1. พวกไหนบุกป้อม 1 เนี่ย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นั่นสิ เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ

      ลบ
  2. อ้าวริคคุงไปชอบน้องเค้าระวังโดนสอบนะ 55555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โซเฟียไปติดพี่ชาย ริคคุงก็ต้องมาติดกับน้องสาวสิครับ 555

      ลบ
  3. ทำไมพูดเหมือนคุณน้องมีแววจะไปเลยหว่า

    ตอบลบ
  4. ทำไมรู้สึกธงน้องสาวเหมือนจะหัก คงไม่มีอะไรเป็นลางหรอกม้างงงง

    ตอบลบ