ตอนที่ 19 เหตุร้ายนอกอาณาเขต บทที่ 2


-- มุมมองของไอโกะ –

ช่วงเย็นของวันที่ 7 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 837

เนื่องจากสถานการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้น คุณหนูอาเรียจึงได้แจ้งขอกำลังสนับสนุนมายังเมืองท่าออร์วิสซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 100 กิโลเมตร

จากรายงานที่ได้ฟังมานั้นสถานการณ์ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ดูเหมือนพวกมอนสเตอร์สวะจะบุกเข้าโจมตี ขโมยอาหาร ทำร้ายพวกชาวบ้าน แถมยังจับตัวพวกเด็กสาวจากหมู่บ้านต่างๆไปมากมาย

ตัวชั้นเองที่เคยถูกสวะพวกนั้นขืนใจมาก่อนนั้นเข้าใจความเจ็บปวดพวกนั้นดี ตลอดเวลาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทุกทรมานนั้น ก็ได้แต่เพียงหวังอย่างลมๆแล้งๆว่าจะมีใครซักคนยื่นมือมาเข้ามาช่วยเหลือ.......

เพราะงั้นถึงแม้พวกเค้าจะไม่ได้เป็นประชาชนของอาณาจักรออร์ธรอส ถึงแม้พวกเค้าจะเป็นเพียงคนที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่หากสองมือของชั้นสามารถที่จะยื่นเข้าไปช่วยเหลือพวกเค้าได้ล่ะก็.......

ชั้นจะขอรับหน้าที่ผู้บัญชาการกองทหารในครั้งนี้เองค่ะ

ถึงแม้มันจะเป็นคำพูดที่ฟังดูอวดดีไปซักหน่อย แต่หากทัตสึยะซามะอยู่ด้วยล่ะก็ เค้าเองก็คงจะเห็นด้วยในสิ่งที่ชั้นกำลังจะทำอย่างแน่นอน เพราะหากปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่คิดจะทำอะไรล่ะก็ สักวันหนึ่งชั้นคงจะต้องมานั่งเสียใจที่วันนี้ไม่ได้ยื่นมือออกไปช่วยอย่างแน่นอนยังไงล่ะ

ไอโกะซัง.....

ชิซึกุซังพูดออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแต่เธอก็ไม่คิดจะห้าม ดังนั้นชั้นจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการรบในครั้งนี้และเริ่มจัดเตรียมเสบียงอาหารรวมถึงยุทโธปกรณ์ต่างๆในทันที

เช้าวันถัดมาพวกเราก็เริ่มออกเดือนทางกันด้วยเรือขนส่งหุ้มเกราะ ภายในเรือนั้นนอกจากพวกทหารแล้วก็ยังมีเสบียงอาหาร ยาสมุนไพร อาวุธ ชุดเกราะ รวมถึงเจลโล่หุ้มเกราะถูกนำไปด้วย

แต่เนื่องจากจำนวนของเรือในตอนนี้มีเพียงแค่ 3 ลำ ชั้นจึงสามารถพาอัศวินและพวกทหารติดตามไปได้เพียง 300 นายเท่านั้น แต่ถึงแม้จำนวนจะน้อยพวกเค้าทุกคนก็ล้วนเป็นทหารที่กล้าหาญและสามารถเชื่อใจได้

ทหารทุกนายขึ้นเรือเรียบร้อยแล้วครับ!!

กัสต้าคุง หัวหน้ากองอัศวินที่ 1 วิ่งเข้ามาแจ้งรายงานความเรียบร้อย ทั้งๆที่พึ่งจะผ่านการฝึกกับชั้นไปเพียงแค่เดือนกว่าๆเท่านั้น แต่เค้าในตอนนี้น่ะ ดูสมกับเป็นอัศวินที่แท้จริงแล้วล่ะนะ

คราวนี้ก็ต้องลำบากนายอีกแล้วนะ

ชั้นตอบเค้ากลับไปด้วยรอยยิ้ม นั่นจึงทำให้เค้าแสดงสีหน้ากระวนกระวายออกมา

มะ ไม่ลำบากเลยครับ มะ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ครับ

ถ้าหากไม่นับทัตสึยะซังล่ะก็ เค้าก็ถือได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่น่าสนใจ เพียงแต่ในหัวใจของชั้นน่ะมีแต่ทัตสึยะซังเท่านั้น เพราะงั้นชั้นจึงได้แต่หวังว่าเค้าจะพบใครซักคนที่สามารถตอบรับความรู้สึกของเค้าอย่างจริงใจได้

หลังจากเดินทางไปถึงยังท่าเรือทางทิศใต้ของป้อมปราการที่ 1 พวกเราก็เปลี่ยนไปขี่เจลโล่หุ้มเกราะเพื่อเดินทางกันต่อ แต่เนื่องจากความเร็วของเจลโล่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นกว่าจะไปถึงป้อมปราการที่ 1 ก็เป็นช่วงบ่ายแล้ว

การเคลื่อนย้ายกองทหารเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและค่อนข้างเสียเวลา เพราะถ้าใช้ไอออน ฮาวล์ ก็ไม่สามารถขนย้ายกองทหารจำนวนมากๆได้ การใช้เรือเองก็ไม่สามารถเดินทางไปบนบกได้

ดังนั้นทัตสึยะซังและอากิโอะซังจึงได้เริ่มร่างโครงการให้เอริจังและพวกคนแคระช่วยกันสร้างเรือเหาะขึ้นมาอย่างลับๆ ด้วยความรู้จากพวกคนแคระ รวมถึงเวทมนต์และสกิลปรับแต่งของเอริจัง ชั้นคิดว่าเรือเหาะคงจะถูกสร้างเสร็จในอีกไม่นาน

และถ้าหากเรือเหาะสร้างเสร็จเมื่อไหร่ล่ะก็ การส่งกำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือตามพื้นที่ต่างๆคงจะสะดวกรวดเร็วขึ้นมาก และเมื่อการช่วยเหลือไปถึงเร็ว ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะลดน้อยลงไปด้วย

นะ นั่นมัน กองอัศวินที่ 1!!! รีบเปิดประตูเร็ว!!!

ประตูของป้อมปราการถูกออกในทันทีเมื่อพวกทหารรักษาการณ์ที่อยู่บนกำแพงมองเห็นธงของพวกเรา และในขณะที่ชั้นและกองทัพเคลื่อนผ่านประตู เหล่าทหารรักษาการณ์ก็พากันประดับอาวุธขึ้นและแสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียง

ป้อมปราการที่ 1 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการตั้งรับการโจมตีในหลายรูปแบบ กำแพงของป้อมปราการนั้นทั้งสูงใหญ่และซับซ้อน ตลอดเส้นทางยังต้องผ่านประตูเหล็กอีกหลายบานกว่าจะสามารถเข้าไปถึงยังด้านใน

แต่ถึงแม้มันจะเป็นประโยชน์ในการตั้งรับ มันก็ทำให้พวกเดียวกันที่นำกำลังเข้ามาช่วยเหลือรู้สึกสับสนไปด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าหากไม่ได้ศึกษารูปแบบของเส้นทางมาให้ดีก่อนล่ะก็ มีหวังคงจะได้หลงทางอยู่ในกำแพงสูงใหญ่พวกนี้อย่างแน่นอน

คนพวกนี้..........

กัสต้าคุงถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นสภาพของห้องโถงใหญ่ที่อยู่ด้านในป้อมปราการที่ 1

ถึงแม้พวกเราจะได้ยินมาแล้วว่ามีพวกชาวบ้านที่ถูกมอนสเตอร์สวะจู่โจมจนได้รับบาดเจ็บอยู่มาก แต่จำนวนที่พวกเรากำลังเห็นอยู่ตรงหน้านี้มันก็เกินกว่าที่พวกเราจิตนาการเอาไว้ ผู้คนที่บาดเจ็บนั้นมีจำนวนมากเกินกว่าจะสามารถนับได้หมด

ดูคร่าวๆแล้วน่าจะมากกว่าหลายร้อยคนเลย ไม่ว่าจะเด็กหรือคนแก่เจ้าพวกมอนสเตอร์สวะมันก็ไม่เคยละเว้น และยิ่งถ้าหากเป็นพวกเด็กสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานด้วยแล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าต้องเจอกับความน่ากลัวยิ่งกว่านรกเลยทีเดียว

ยูนิส!! เธอไปสั่งการให้หน่วยพยาบาลเริ่มดำเนินการรักษาในทันที!!

รับทราบค่ะ!!

นอกจากผู้บาดเจ็บที่กำลังรักษาตัวอยู่แล้ว ก็ยังมีพวกเด็กๆและชาวบ้านอีกจำนวนมากที่อพยพหนีเข้ามา แถมยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีมาเพิ่มอีกซักแค่ไหน เพราะงั้นหากไม่รีบแก้ปัญหาล่ะก็ มีหวังพวกเค้าทั้งหมดได้อดตายกันก่อนแน่

หน่วยที่สามกับหน่วยที่สี่รีบไปจัดเตรียมเสบียงอาหารมาแจกจ่ายให้กับพวกชาวบ้าน ให้ความสำคัญกับพวกเด็กๆก่อนล่ะ!!

「「พวกชั้นจะรีบไปเดินเนินในทันทีเลยค่ะ!!!」」

เฮลเมส นายรีบไปสอบถามสถานการณ์ของพวกที่กำลังคุ้มกันชาวบ้านอพยพ หากขาดเหลืออะไรก็นำกำลังส่วนที่เหลือเข้าไปช่วยในทันที!!

「「รับทราบ!!!」」

ชั้นรีบสั่งการพวกลูกน้องให้เริ่มงานในทันที ถึงแม้พวกเค้าจะเหนื่อยล้าจากการเดินทางแต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่สามารถชักช้าได้ พวกเราจำเป็นที่จะต้องทำในสิ่งที่สามารถทำได้ให้ดีที่สุดเสียก่อน

หลังจากพวกทหารทุกคนได้รับคำสั่งและแยกย้ายกันไปแล้ว ชั้นก็รีบมุ่งหน้าไปหาคุณหนูอาเรียที่ห้องทำงานของผู้ปกครองป้อมปราการที่ 1 ในทันที

「「「ไอโกะซามะ!!」」」

เมื่อชั้นเปิดประตูเข้าไป ทั้งคุณหนูอาเรีย พวกทหารและบรรดาข้ารับใช้ต่างก็ลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงความเคารพ ในกลุ่มนั้นมีหลายคนที่ชั้นไม่คุ้นหน้า คาดว่าคงจะเป็นผู้คนจากจักรวรรดิที่อพยพหรือหนีมาขอความช่วยเหลือ

เรื่องพิธีการน่ะเอาไว้ก่อน สถานการณ์ของป้อมปราการและหมู่บ้านด้านนอกในตอนนี้เป็นไงบ้างคะ

จากข้อมูลที่ได้จากกลุ่มของผู้อพยพ ดูเหมือนว่าหมู่บ้านแถบตอนเหนือทั้งหมดจะถูกทำลายไปแล้วนะคะ และจากข้อมูลล่าสุดที่เคย์โกะซามะส่งมา ทหารของเมืองเนอราเชียเองก็ดูเหมือนจะต้านกำลังของพวกมอนสเตอร์ไม่ไหว ตัวเมืองส่วนใหญ่ในตอนนี้ถูกพวกมันยึดครองไปหมดแล้วค่ะ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานปราสาทเนอราเชียเองก็คงจะถูกทำลาย.......

คุณหนูอาเรียพูดพร้อมกับหันไปทางเด็กสาวคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กสาวอายุประมาณ 11 หรือ 12 ปี สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีนัก ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นผลจากการอดนอน เสื้อผ้าของเธอเป็นของชั้นสูงซึ่งบ่งบอกว่าตัวเธอนั้นเป็นลูกขุนนาง

ดะ ได้โปรดเถอะค่ะท่านอัศวิน!! ได้โปรดช่วยท่านพ่อท่านแม่ ได้โปรดช่วยเมืองของพวกเราด้วยเถอะค่ะ

เด็กสาวคุกเข่าลงตรงหน้าของชั้นพร้อมกับพูดออกมาทั้งน้ำตา

อย่าได้พูดเรื่องเห็นแก่ตัวแบบนั้นสิคะท่านหญิง เพียงแค่นี้พวกเค้าก็ได้ให้ความช่วยเหลือกับพวกเรามากแล้วนะคะ

เด็กสาวท่าทางซูบผอมที่อยู่ใกล้ๆเข้ามาช่วยปลอบโยนและค่อยๆประคองตัวเธอขึ้นมา ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเจอเรื่องร้ายๆมามากพอดูเลยทีเดียว

ต้องขอโทษกับคำพูดเอาแต่ใจของท่านหญิงด้วยจริงๆค่ะ

เด็กสาวก้มหัวขอโทษออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ถึงแม้เธอจะเป็นคนออกมาห้ามแต่ลึกๆในใจของเธอก็คงอยากจะพูดคำพูดแบบนั้นออกเช่นเดียวกัน

หน้าที่ของกองอัศวินคือการช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อน ถึงแม้จะไม่สามารถรับปากได้ว่าจะช่วยได้ทั้งหมด แต่พวกเราก็จะให้การช่วยเหลือเมืองของเธออย่างเต็มที่ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะ

ขะ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะท่านอัศวิน

เพียงแค่ชั้นตอบตกลงออกไปใบหน้าของเด็กสาวทั้งสองที่กำลังเศร้าซึมอยู่จนถึงเมื่อครู่ก็เปลี่ยนไปในทันที เพียงแค่คำขอบคุณ รอยยิ้ม และความตั้งใจจริงของพวกเธอที่แสดงออกมาให้เห็นมันก็ทำให้ชั้นรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

ดูเหมือนว่าตัวชั้นเองก็สามารถที่จะช่วยเหลือผู้คนได้เช่นเดียวกับทัตสึยะซังบ้างแล้ว หากในโลกนี้ยังมีผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ล่ะก็ หากพวกเค้าต้องการให้ชั้นยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือล่ะก็......ชั้นเองก็ยินดีที่จะยื่นมือออกไปในทันที......

ถะ ถ้างั้นชั้นเองก็จะออกไป.....

พอได้ยินว่าชั้นและกองอัศวินที่ 1 จะออกไปทำการช่วยเหลือ คุณหนูอาเรียก็เอ่ยปากว่าจะออกไปด้วย แต่ชั้นคงจะปล่อยให้เธอซึ่งเป็นคนโปรดของทัตสึยะซังออกไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้

ปล่อยให้พวกเราเป็นคนจัดการเรื่องนี้เถอะค่ะ ที่นี่ยังมีผู้คนที่ต้องดูแลอยู่อีกมาก เพราะงั้นคุณหนูอาเรียช่วยรออยู่ที่นี่และให้การช่วยเหลือพวกเค้าด้วยนะคะ

ขะ เข้าใจแล้วค่ะ......

คุณหนูอาเรียตอบรับอย่างว่าง่าย จากนั้นพวกเราจึงเริ่มทำการประชุมวางแผนกัน

แต่เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีความเกี่ยวพันถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรออร์ธรอสกับทางจักรวรรดิเอลติซ ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจแจ้งรายละเอียดทั้งหมดไปทางเมืองหลวงสเตรเชีย

แต่ในตอนนี้ทัตสึยะซังไม่อยู่ที่เมือง กว่าจะกลับมาก็คงจะอีกหลายวัน ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจที่จะเริ่มดำเนินการเรื่องต่างๆเท่าที่ทำได้ก่อน

8 ความคิดเห็น:

  1. มีแววว่าจะเป็นกับดับเหมือนที่มอนสเตอร์บุกคราวก่อนเลยแฮะ

    ตอบลบ
  2. รอตอนใหม่คลอดอยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้

    ตอบลบ
  3. ตอนที่20 อ่านไม่ได้อ่ะครับ

    ตอบลบ