-- มุมมองของมากิ --
ช่วงเย็นของวันที่
4 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่
837
ชั้น
ฮารุซาวะ มากิ ด้วยผลกระทบจากพิธีอัญเชิญผู้กล้า
ทำให้ตัวชั้นและเพื่อนๆในกลุ่มผู้กล้าต่างโลกทุกคนสูญเสียความทรงจำในโลกเก่าไปทั้งหมด
และถึงแม้ชั้นจะไม่มีความทรงจำในอดีตแล้ว
แต่ความรักที่องค์จักรพรรดิเลคซิอุสมอบให้ก็ทำให้ชั้นรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่ทุกๆครั้งที่ชั้นคิดถึงเรื่องนี้
น้ำตาของชั้นก็ไหลรินออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นก็คงเป็นเพราะตัวชั้นนั้นรักองค์จักรพรรดิเลคซิอุสมากจนทำให้ชั้นอดที่จะคิดถึงท่านไม่ได้ในเวลาที่พวกเราต้องอยู่ห่างไกลกัน
「ทัต...สึ....ยะซัง......อ่า.......นี่ชั้นกำลังพูดถึงใครกันแน่นะ....」
「มากิจัง!! นี่ไม่ใช่เวลามาเหม่อลอยนะ เจ้าพวกกบฏมันหนีออกไปทางด้านหลังแล้ว!!!」
เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของทัต....องค์จักรพรรดิเลคซิอุส
เพื่อสนิทของชั้น มิคาซึกิ รูริโกะ หนึ่งในผู้กล้าต่างโลก จึงได้เข้ามาเตือนสติ
ชั้นนี่มันแย่ๆจริงๆ ทั้งๆที่พวกเรากำลังอยู่ในระหว่างทำภารกิจไล่ล่าพวกขุนนางกบฏและครอบครัวของมันแต่ชั้นกลับมาเหม่อลอยแบบนี้
ชั้นตบหน้าด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อตั้งสติ
จากนั้นจึงรวบรวมมานาและใช้พรแห่งผู้กล้า Enchant Speed ใส่รองเท้าเพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง ก่อนจะกระโดดลงไปจากระเบียงชั้นสอง
และรีบไล่ตามรถเจลโล่ของครอบครัวพวกกบฏที่กำลังพยายามจะหลบหนีไป
ด้วยพลังของพรแห่งผู้กล้าทำให้ชั้นสามารถวิ่งไล่ตามรถเจลโล่ที่กำลังวิ่งหนีด้วยความเร็วสูงสุดได้ทันในเวลาเพียงไม่กี่นาที
「เจ้าพวกกบฏ พวกแกหนีไม่รอดแล้ว
รีบยอมรับโทษซะ!!!」
กับพวกขุนนางกบฏที่ขัดขืนและต่อต้านองค์จักรพรรดิเลคซิอุสนั้นจะต้องรับโทษประหารชีวิต
โดยไม่มีทางที่จะได้รับการอภัยโทษ
ชั้นกระโดดพุ่งตัวเข้าใส่รถเจลโล่และฟาดดาบข้างหนึ่งเข้าใส่สายลากจูงเพื่อตัดการเชื่อมต่อ
จากนั้นก็กลับตัวกลางอากาศและตวัดดาบในมืออีกข้างหนึ่งเข้าใส่พ่อบ้านชายวัยกลางคนที่ทำหน้าควบคุมรถเจลโล่
คมดาบในมือของชั้นเชือดเฉือนบาดเข้าไปคอของพ่อบ้านชายอย่างแม่นยำ
เลือดสีแดงเข้มสาดกระเซ็นเข้ามาเปรอะเปื้อนใบหน้าของชั้น
「เจ้าพวกกบฏ ยังไม่รีบออกมารับโทษอีกเหรอ!!」
ชั้นเช็ดคาบเลือดที่ติดอยู่บนใบหน้าด้วยผ้าเช็ดผ้าพร้อมกับตะโกนเข้าใส่ผู้ที่นั่งอยู่ด้านในห้องโดยสารของรถเจลโล่ด้วยเสียงดังก้อง
「นายท่าน นายหญิงรีบหนีไปเร็วเข้า
ผมจะต้านมันเอาไว้เอง!!!」
อัศวินหนุ่มนายหนึ่งลงมาจากห้องโดยสาร
ชักดาบและวิ่งเข้ามาหาชั้นด้วยแววตาคมกริบพร้อมกับตวัดดาบยาวในมือเข้าใส่ชั้นอย่างคล่องแคล่ว
ฝีมือของหมอนี่เรียกได้ว่าไม่เลวหากเทียบกับเหล่าอัศวินทั่วไป แต่การที่ต้องมาเจอกับคู่ต่อสู้อย่างชั้นซึ่งเป็นผู้กล้านั้นคงจะเรียกได้ว่าเป็นโชคร้าย
「Enchant High-Speed Vibration!!!」
ชั้นใช้พรแห่งผู้กล้าลงในใบดาบเพื่อเปลี่ยนใบดาบในมือข้างหนึ่งให้กลายเป็นใบดาบที่ห่อหุ้มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนความเร็วสูง
จากนั้นจึงตวัดดาบเข้าไปอัศวินหนุ่มตรงหน้า
ด้วยพรนี้จึงทำให้ดาบของชั้นสามารถตัดผ่านดาบและชุดเกราะเหล็กกล้าของอัศวินหนุ่มผู้นี้ได้อย่างง่ายดาย
ร่างกายที่ขาดสองท่อนของอัศวินหนุ่มล้มลงพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระเซ็นออกมาจากร่างกายทั้งสองส่วน
ซึ่งภาพดังกล่าวก็ทำให้ผู้คนรอบบริเวณที่มองดูเหตุการณ์
รวมถึงขุนนางกบฏและครอบครัวของมันที่ยังคงหลบอยู่ในห้องโดยสารของรถเจลโล่กรีดร้องเสียงดังก้องไปด้วยความหวาดกลัว
ซึ่งก็แน่นอนว่ารายต่อไปก็จะต้องเป็นคราวของพวกเค้าแล้ว
「รีบๆออกมารับโทษได้แล้ว!!」
ชั้นฟาดดาบเข้าใส่ประตูของรถเจลโล่จนทำให้ทั้งประตูและผนังของห้องโดยสารพังทลายหลุดร่วงออกมาเป็นชิ้นๆ
แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นทำให้ชั้นรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
นั่นก็เพราะภายในรถม้ามีเพียงชายแก่และผู้หญิงหลายคนในชุดคนรับใช้เพียงเท่านั้น......
「นี่มันหมายความว่ายังไงกัน!! เจ้าขุนนางกบฏและครอบครัวของมันอยู่ที่ไหน!!?」
ชั้นจ่อดาบเข้าไปที่คอของชายแก่คนหนึ่งและตะคอกถามด้วยเสียงอันดัง
「โฮ่ โฮ่ พวกเราก็แค่คนรับใช้ที่กำลังจะออกไปซื้อเสบียงอาหารเท่านั้น
ไม่ทราบว่าท่านอัศวินหญิงต้องการอะไร.....อั่ก!!」
เพราะเจ้าแก่นี่พยายามบ่ายเบี่ยงกับคำถามของชั้น
ดังนั้นชั้นจึงตวัดดาบเข้าใส่โดยไม่ลังเลและสังหารมันทิ้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆพากันหน้าซีดและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
「พวกแก รีบบอกมาเร็วเข้า!! เจ้าขุนนางกบฏกับครอบครัวของมันหนีไปที่ไหน!!!」
「คะ เคี๊ยะ!! พะ พวกเราไม่รู้เรื่อง พวกเราไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆนะคะท่านอัศวิน!!」
แต่ไม่ว่าจะข่มขู่หรือทำอย่างไร
พวกมันก็ยังไม่ยอมพูด เพราะงั้นชั้นจึงทำการสังหารพวกมันทุกคนทิ้งโดยไม่ลังเล
「มากิจัง!! เป็นยังไงบ้าง จับพวกมันได้รึเปล่า?」
ในระหว่างที่ชั้นกำลังเช็ดคราบเลือดบนดาบอยู่นั้น
รูริโกะซังก็และพวกทหารอีกหลายคนก็ขี่เจลโล่ไล่ตามมาถึง
「พวกมันใช้พวกคนรับใช้เป็นเหยื่อล่อ
แต่ไม่ว่ายังไงพวกมันก็ไม่มีทางหนีรอดออกจากเมืองนี้ไปได้แน่ เลมม่า ออกคำสั่งลงไปยังหน่วยทหารรักษาการณ์ทุกหน่วย
ปิดประตูเข้าออกเมืองทุกช่องทาง และควาญหาตัวพวกมันทุกซอกทุกมุม
ค้นทุกบ้านโดยไม่มีข้อยกเว้น เข้าใจแล้วนะ!!」
「รับทราบ!!!」
อัศวินหนุ่มเลมม่ารับคำสั่งจากชั้น เค้ารีบกระโดดขึ้นขี่หลังเจลโล่
จากนั้นจึงรีบไปปฏิบัติตามทำคำสั่งของชั้นในทันที

แต่ถึงแม้พวกเราจะทำการค้นหาตามบ้านเรือนทุกแห่งอย่างระเอียดถี่ถ้วนแล้ว
พวกเราก็ไม่สามารถหาตัวเจ้าขุนนางกบฏและครอบครัวของมันได้เลย
พวกมันหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่
มันไม่น่าจะมีทางที่พวกมันจะหนีรอดออกไปจากเมืองได้แน่ๆ
ตลอดมาชั้นไม่เคยทำผิดพลาดมาก่อน
ไม่ว่าองค์จักรพรรดิเลคซิอุสจะมอบหมายภารกิจใดๆให้ ไม่ว่าจะทารก
เด็ก คนชราหรือผู้หญิง หากมีคำสั่งลงมาล่ะก็
ชั้นจะตามล่าตัว และคร่าเอาชีวิตพวกมันได้ทุกครั้ง
แต่สุดท้ายชั้นก็ทำภารกิจพลาดจนได้
ความผิดพลาดในครั้งนี้เป็นดั่งตราบาปที่ทำให้ความไว้วางใจในตัวชั้นต้องมัวหมอง สายตาที่เคยอ่อนโยนขององค์จักรพรรดิเลคซิอุสได้เปลี่ยนไปเป็นสายตาที่เย็นชา
ดังนั้นถึงแม้ในครั้งนี้องค์จักรพรรดิจะให้อภัยเพราะความผิดเป็นครั้งแรก
แต่ชั้นก็ยังไม่คิดที่จะให้อภัยตัวเอง เพราะงั้นในภารกิจครั้งต่อไปชั้นจะต้องทำมันให้สำเร็จลุล่วงอย่างหมดจดและสมบูรณ์แบบ......
และภารกิจต่อไปที่องค์จักรพรรดิเลคซิอุสมอบหมายให้กับชั้น
ก็คือการนำตัวเจ้าหญิงฟลอร่า
ซึ่งถูกพวกจอมเวทจากอาณาจักรออร์ธรอสลักพาตัวเอาไปกลับคืนมา
ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร หรือแม้แต่จะต้องทำลายประเทศนั้นทิ้ง
ชั้นก็สัญญากับตัวเองว่าจะนำตัวเจ้าหญิงฟลอร่ากลับมาให้ได้
-- มุมมองของคริสติน่า
--
หลังจากที่มากิได้ออกคำสั่งไล่ล่าคนของตระกูลลุคเนอร์
อดีตเจ้าหญิงอันดับที่ 13 คริสติน่า ลาลาน่า วอน เอลติซ ที่เดินทางมายังจักรวรรดิเอลติซพร้อมกับเอริและคนของหน่วยข่าวกรองเพื่อติดต่อกับตระกูลลุคเนอร์กำลังมองดูสถานการณ์ภายในเมืองจากที่ซ่อนลับ
「เลคซิอุส นี่เจ้าถึงกับสั่งให้มีการตามล่าสังหารทุกคนในตระกูลขุนนางเก่าแก่เพียงเพราะเรื่องที่พวกเค้าพยายามไกล่เกลี่ยและชะลอการขึ้นภาษีเป็น
7 ใน 10 ตามคำสั่งงั้นเหรอ....」
ภายในที่ซ่อนลับที่ถูกติดตั้งอุปกรณ์เวทพรางตา
ชั้นพึมพำออกมาพร้อมกับมองดูเหล่าทหารและอัศวินมากมายที่กำลังเข้าตรวจค้นร้านค้าและบ้านเรือนของผู้คนด้วยความรุนแรง
ไม่มีแม้แต่การพูดคุยหรือการแจ้งขอตรวจค้น ประตูหน้าต่างและข้าวของมากมายของชาวเมืองถูกทำลายกระจัดกระจายเต็มถนน
「แต่ยอดไปเลยจริงๆนะคะ ไอ้เจ้าอุปกรณ์เวทพรางตาเนี่ย
ไม่นึกเลยจริงๆว่าจะซ่อนบ้านทั้งหลังจากสายตาของพวกทหารเอาไว้ได้ง่ายๆแบบนี้」
สิ่งที่เบลตี้พูดมานั้นถูกต้อง
เพราะถ้าหากไม่ได้พลังของอุปกรณ์เวทช่วยเอาไว้ล่ะก็ ที่ซ่อนของพวกเราเองก็คงจะถูกตรวจเจอไปแล้วด้วยเช่นเดียวกัน......และในขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่
ชั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
「คริสติน่าซามะ ท่านไวส์เคานต์เลนิส วอน ลุคเนอร์ และครอบครัวขอเข้าพบค่ะ」
เสียงของเด็กสาวที่สุดแสนจะไพเราะ
หนึ่งในท่านจอมเวทและผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองแห่งอาณาจักรออร์ธรอส เอริซามะ ดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของประตู
「เชิญค่ะ」
ด้วยเวทมนต์ล่องหนของเอริซามะ
พวกเราได้เข้าช่วยเหลือท่านไวส์เคานต์เลนิส และทุกคนในครอบครัวออกมาได้ทัน และในตอนนี้พวกเค้าก็ได้มาคุกเข่าลงอยู่ตรงหน้าของชั้น
「คริสติน่าซามะ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตัวข้าและครอบครัวนั้น
ข้ารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก」
ท่านไวส์เคานต์เลนิสก้มหัวลงจรดพื้นเพื่อแสดงความขอบคุณ
「ลุกขึ้นเถอะค่ะท่านไวส์เคานต์เลนิส จริงอยู่ว่าในครั้งนี้ชั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง
แต่การที่สามารถช่วยเหลือท่านและครอบครัวออกมาได้นั้น คงต้องขอขอบคุณทัตสึยะซามะและผู้คนจากอาณาจักรออร์ธรอสที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ」
「อาณาจักรออร์ธรอส?」
ต่อหน้าท่านไวส์เคานต์เลนิสที่กำลังสงสัยอยู่นั้น
ชั้นก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องที่ชั้นถูกจับกุมตัว เรื่องที่ได้พบและพูดคุยกับพวกท่านจอมเวทและทัตสึยะซามะ
เรื่องที่ทัตสึยะซามะพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ
เรื่องของพลังอำนาจในการทำสงคราม
เรื่องของอาวุธเวทที่ไร้เทียมทาน เรื่องการสังหารจักรพรรดิองค์ก่อนและการแก้แค้น แผนการปกครองและทิศทางในอนาคตของจักรวรรดิเอลติซ
หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
ท่านไวส์เคานต์เลนิสและทุกคนในครอบครัวต่างก็พากันตกตะลึง
แต่สุดท้ายแล้วพวกเค้าก็ได้ให้คำสาบานว่าจะเข้าร่วมกับชั้น
และพวกเราก็จะทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อนำพาจักรวรรดิเอลติซกลับไปยังทิศทางที่ควรจะเป็น
ซึ่งก็แน่นอนว่าพวกเราจะต้องไม่เป็นศัตรูกับอาณาจักรออร์ธรอสอย่างเด็จขาด
งืมมม พึ่งสังเกต..ชื่ออังกฤษเรืองนี้คือ secret book of another world จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับหนังสือที่ทัตเจอมั้ยน้าาา...เอาเป็นว่า ติดตามอยู่ครับท่านมายูมิ
ตอบลบsecret book of another world เป็นชื่อของภาคนี้ซึ่งเป็นภาคหลักครับ
ลบถึงจะไม่ได้มีแผนว่าจะเขียนภาคต่อหรือภาคเสริมแต่ก็คิดชื่อเอาไว้ก่อนน่ะครับ 55555
ส่วนหนังสือที่ทัตเจอเป็นบันทึกที่อดีตผู้กล้าสมัยสงคราม 10 เผ่าเขียนเอาไว้
แต่จะเกี่ยวอะไรมั๊ย ก็รอติดตามกันไปครับ