-- มุมมองของอากิโอะ --
ช่วงกลางดึกของวันที่ 13 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 837 ในระหว่างที่ทัตสึยะกำลังไล่ล่ากำจัดพวกมอนสเตอร์จำนวนมากที่ยังหลงเหลืออยู่ในอาณาเขตของเมืองเนอราเซีย
「เอาล่ะ พวกเราจะบุกเข้าไปรวดเดียวให้ถึงปราสาทเลยนะ」
ผมทำการส่งสัญญาณเพื่อบอกทุกคนให้เตรียมพร้อมในการบุกเข้าไปยังปราสาทกูสตาฟ
พวกเราในตอนนี้กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับกำแพงเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ด้วยเวทมนต์พรางตัวของเรเชียจังทำให้ผมและทุกคนในปาร์ตี้สามารถแอบย่องมาถึงจุดลับสายได้โดยง่าย
ส่วนเหตุผลที่ผมแอบย่องมาที่นี่นั่นก็เพราะหน่วยข่าวกรองของเอริจังได้ข้อมูลที่น่าสนใจบางอย่างมา
「Wind Magic: Wind Walk....」
หลังจากชิโอริจังร่ายเวทมนต์ให้กับพวกเราแล้ว
ทุกคนก็รีบปีนข้ามกำแพงเมืองไปในความมืดอย่างเงียบเชียบ
ถึงแม้บริเวณกำแพงเมืองกูสตาฟจะมีคบไฟอยู่มาก
แต่ด้วยความรวดเร็วของพวกเราจึงไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ถูกพวกทหารรักษาการณ์ของศัตรูพบเห็น
「อุ.........!!」
ยูเอล่าจังเด็กสาวเผ่ามังกรที่กำลังวิ่งนำหน้าอยู่ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงพวกศัตรู
ในตอนแรกที่ผมเอาตัวเธอมาน่ะ เธอเป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมเชื่อคำพูดของใครเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะงั้นถึงแม้ผมจะทำอะไรเธอก็เอาแต่นิ่งเฉยไม่เคยแม้แต่จะส่งเสียงร้องจะโต้ตอบเลยซักนิด
แต่การที่เธอเป็นแบบนั้นน่ะมันกลับยิ่งทำให้ผมต้องการเธอมากขึ้นไปอีก
เพราะงั้นตลอดเดือนที่ผ่านมาผมจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลยในการทำให้เธอเชื่อง
และแน่นอนว่าในที่สุดเธอก็ไม่สามารถอดทนต่อแรงกระตุ้นและยอมมาเป็นของผมแต่โดยดี
「คาเอเดะจัง ริกะจัง
อย่าให้พวกมันมีโอกาสได้ส่งเสียงล่ะ」
ผมสั่งให้ริกะจังและคาเอเดะจังขึ้นไปด้านหน้าเพื่อช่วยยูเอล่าในการกำจัดเป้าหมาย
ทั้งสองคนพยักหน้าตอบและรีบกระโดดขึ้นไปยังหลังคาของบ้านหลังหนึ่งเพื่อเตรียมพร้อม
เนื่องจากในครั้งนี้ผมมีเป้าหมายสำคัญอยู่
ดังนั้นหากทำให้พวกมันรู้ตัวก่อนล่ะก็บางทีมันอาจจะทำให้การค้นหาเป้าหมายในครั้งนี้ยากขึ้น
เพราะงั้นเพื่อเป้าหมายสำคัญแล้วผมจึงคิดและวางแผนสำหรับครั้งนี้อย่างรัดกุมที่สุด
「อือ............!!」
หลังเวลาผ่านไปซักพักผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากทางตรอกด้านหน้า
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าพวกเธอจะลงมือไปแล้วเรียบร้อย
ถึงแม้มันจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาบ้างแต่ระดับแค่นี้หากไม่ได้ตั้งใจฟังล่ะก็คงไม่มีทางได้ยินอย่างแน่นอน
「เห......เหลืออยู่คนหนึ่งงั้นเหรอ.....」
หลังจากตามไปถึงยังตรอกด้านหน้าผมก็เห็นศพของทหาร 5
คนถูกวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่ยังมีคนหนึ่งที่รอดชีวิตและถูกจับมัดทั้งมือทั้งขาและปากเอาไว้
และถึงแม้ตัวเธอจะเปรอะเปื้อนไปด้วยคาบเลือด แต่หากดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็สามารถบอกได้ว่าเป็นเด็กสาวอย่างแน่นอน
「คิดว่าเธอน่าจะเป็นพวกชาวเมืองที่ถูกบังคับให้มาเข้าเป็นทหารน่ะค่ะ
เพราะงั้น.....」
ริกะจังพูดขึ้นมาเบาๆด้วยสีหน้าลำบากใจ
ซึ่งเหตุผลนั้นผมเองก็เข้าใจดี เนื่องจากเมืองกูสตาฟในตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะสงคราม
ดังนั้นหากจำนวนทหารลดน้อยลงเรื่อยๆล่ะก็
ซักวันหนึ่งคงได้ถูกกองทัพของโรเดริกโจมตีจนพ่ายแพ้เป็นแน่
จากข้อมูลที่หน่วยข่าวกรองของเอริจังหามาได้นั้น
ดูเหมือนว่าหากครอบครัวไหนไม่ส่งคนเข้าไปเป็นทหารก็จะต้องถูกตัดเสบียง แถมบางบ้านที่ไม่ให้ความร่วมมือนั้นถึงขนาดถูกปล้นเอาสิ่งของทุกอย่างไปเลยทีเดียว
「เอาเถอะ
ถ้ามันไม่ทำให้แผนผิดพลาดก็คงไม่มีปัญหา เพาะงั้นก็ทำให้เธอหลับไปซะนะ」
เมื่อได้ยินคำพูดของผมริกะจังก็ใช้เวทมนต์เพื่อทำให้เธอหลับไปในทันที
ด้วยเวทมนต์ธาตุน้ำระดับสูงของริกะจังนั้น หากเธอตั้งใจจริงล่ะก็
เธอสามารถทำให้คนทั่วไปหลับต่อเนื่องได้ยาวนานถึงหนึ่งเดือนเลยทีเดียว
「นึกว่าจะจับเธอกลับไปซะอีกนะคะ」
ยูเอล่าพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ดูเหมือนเธอจะคิดว่าผมเป็นพวกชอบลักพาตัวเหล่าเด็กสาวมาเป็นทาส
「ผมน่ะไม่ใช่พวกที่สนุกกับเด็กสาวไม่เลือกหน้าหรอกนะ
ต้องเป็นคนที่ผมสนใจเท่านั้นแหละ」
ผมตอบกลับพร้อมกับลูบไล้ไปตามใบหน้าและเรือนผมสีเงินอันงดงามของเธอช้าๆ
เรือนผมสีเงินของเธอเป็นประกายสะท้อนกับแสงจันทร์สีเขียวสดใส มันช่างเป็นภาพที่งดงามหาเปรียบได้ยาก
แต่เนื่องจากผมยังมีเป้าหมายสำคัญอยู่จึงจะมาเสียเวลากับเรื่องอย่างว่าในตอนนี้คงไม่ได้
พวกเรารีบเดินทางกันต่อโดยใช้เส้นทางที่ยูเอล่าเป็นคนเลือก
เนื่องจากเธอเคยเป็นฝ่ายลอบบุกเข้ามาในสมัยที่เมืองกูสตาฟยังเป็นของตระกูลโรเซนเบิร์กอยู่จึงทำให้รู้เส้นทางต่างๆเป็นอย่างดี
ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นพวกเราก็มาถึงยังทางเข้าลับด้านหลังของปราสาทกูสตาฟ
ปราสาทกูสตาฟนั้นเป็นปราสาทสวยงามที่มีขนาดใหญ่มาก
ความสูงโดยคร่าวๆนั้นน่าจะมากกว่า 20 เมตรเสียอีก มันช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายนักที่ปราสาทแห่งนี้ต้องตกไปเป็นของเจ้าบารอนวิลเลี่ยมนั่น
「อุ....!!!」
ยูเอล่าหยุดอยู่กับที่พร้อมกับส่งสัญญาณมาให้ผม จากสัญญาณในครั้งนี้ดูเหมือนภายในจะมีกองอัศวินที่ค่อนข้างมีฝีมืออยู่
ถึงจะเป็นพวกอัศวินแต่หากเทียบกันแล้วฝีมือก็ยังเรียกได้ว่าห่างชั้นกับพวกเราเป็นอย่างมาก
ดังนั้นผมส่งจึงสัญญาณให้ทุกคนเตรียมตัวบุกเข้าโจมตี
「ชิโอริจัง ยุยนะจัง เรเชียจัง
พวกเธอคอยเฝ้าอยู่แถวนี้นะ」
ผมสั่งให้ทั้งสามคนคอยเฝ้าบริเวณทางออกเอาไว้
เพราะหากเกิดอะไรขึ้นล่ะก็ เจ้าบารอนวิลเลี่ยมอาจจะหนีมาทางนี้ก็ได้
「「ดูแลตัวเองด้วยนะคะ」」
ทั้งชิโอริจังและยุยนะจังต่างตอบรับพร้อมกับแสดงความเป็นห่วงออกมา
「ยะ อย่าลืมแบ่งน้ำหวานให้นู๋ด้วย.....นะคะ.....」
ส่วนเรเชียจังนั้น
เนื่องจากผมหลอกเธอว่าที่นี่มีน้ำหวานลึกลับแสนอร่อยอยู่เธอจึงแสดงท่าทางน่ารักไร้เดียงสาออกมา......
「ริกะจัง ฟูมิจัง แยกกันไปที่ทางเดินด้านในทั้งสองด้าน
อย่าปล่อยให้ใครหนีออกไปได้ล่ะ」
ส่วนริกะจังและฟูมิจังนั้นผมให้คอยป้องกันทางเดินทั้งสองด้านที่เป็นทางเชื่อมต่อไปยังชั้นบนเอาไว้
ถ้าหากพวกอัศวินคิดจะหนีไปล่ะก็ให้จับตัวเอาไว้ในทันที หรือถ้าหากมีเรื่องฉุกเฉินก็ให้พวกเธอฆ่าได้โดยไม่ต้องลังเล
「คาเอเดะจัง ยูเอล่า รีบทำลายคบไฟแล้วจัดการพวกมันให้หมด........ไม่สิช่วยเหลือคนที่ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าไว้ซักคนก็แล้วกัน」
สำหรับเผ่ามังกรทมิฬแล้ว
การเคลื่อนและการมองเห็นในที่มืดนั้นเรียกได้ว่าไร้ที่ติ
บางทีอาจจะเหนือกว่าพวกเราที่มีสกิล Night Vision ติดตัวกันมาเสียอีก ดังนั้นหากเป็นการต่อสู้ในที่มืดล่ะก็
คนที่พอจะเอาชนะเธอได้นั้น นอกจากพวกเราที่มีพลังของเผ่าปีศาจแล้วเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอยู่เลย
「「เข้าใจแล้วค่ะ」」
พวกเธอทั้งสองคนตอบรับและเริ่มทำการเตรียมอุปกรณ์สำหรับใช้ในการดับคบไฟ
และเพื่อให้พวกเธอทั้งสองคนสามารถทำงานได้อย่างสะดวกจึงจำเป็นต้องมีตัวล่อ
ซึ่งคนที่จะทำหน้าที่เป็นตัวล่อในครั้งนี้ก็คือผมเอง
「เห้อวันนี้เหนื่อยชะมัด…….เห้ย!! พวกนายมาแอบกินเหล้ากันแบบนี้ทำไมถึงไม่ชวนกันเลยฟระ!!」
ผมแกล้งทำเป็นเหมือนกับพวกทหารแล้วเดินเข้าไปภายในโถงด้านในปราสาทและตะโกนออกไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
เนื่องจากเป็นช่วงกลางดึก
ภายในห้องโถงส่วนใหญ่จึงมีแต่พวกอัศวินที่กำลังสนุกสนานอยู่กับเหล้าและทาสสาวหลายคน
การที่พวกมันกำลังประมาทนั้นนับเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเราที่จะจัดการในครั้งเดียว
แถมการที่พวกมันกำลังสนุกสนานกันเสียงดังก็น่าจะทำให้คนที่อยู่ภายนอกไม่เอะใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น......แต่แล้วก็ดูเหมือนจะยังมีคนที่พอมีสติอยู่บ้าง
「แกเป็นใครวะ!! ไม่เคยเห็นหน้า」
「เอาน่าๆ แกไม่ต้องรู้หรอก
เพราะเด๋วแกก็ต้องตายแล้วนี่นา.....」
ในจังหวะเดียวกับที่พูด แสงจากคบไฟภายในห้องโถงทั้งหมดก็ถูกดับลง
เจ้าอุปกรณ์เวทแบบตั้งเวลาที่เอริจังกับพวกคนแคระช่วยกันสร้างขึ้นมานั้นใช้ได้ผลดีมากเลยทีเดียว
「อุ....!!」
เมื่อไฟถูกดับลงภายในห้องโถงก็ตกลงสู่ความมืด ผมฉวยโอกาสนั้นหยิบดาบทั้งสองขึ้นมาพร้อมกับพุ่งเข้าไปเชือดคออัศวินและนายทหารหลายคนที่อยู่ใกล้ๆด้วยความรวดเร็วและเงียบที่สุด
ที่ต้องพยายามมากขนาดนี้ก็เพื่อจะให้คาเอเดะจังและยูเอล่าจัดการพวกมันได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้การลงมืออย่างตั้งใจมากขนาดนี้มันจะไม่ค่อยเข้ากับตัวผมซักเท่าไหร่
แต่เพื่อเป้าหมายสำคัญแล้วก็นับว่าคุ้มค่า
「เกิดอะไรขึ้นวะ...........อุ!!」
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีทุกอย่างก็จบลงโดยที่พวกนั้นยังไม่ทันรู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ
และคนที่เหลือรอดก็มีเพียงพวกทาสสาวและคนที่ดูแล้วน่าจะมียศสูงสุดเพียงคนเดียวเท่านั้น
ขอบคุณครับ
ตอบลบน้ำหวานเหรอ? ถวนี้มันมีแต่นมข้นหวานด้วยสิ... b(PwP)b
ตอบลบ