ตอนที่ 26 ผลของสงครามที่ไม่คาดคิด


-- มุมมองของโรเดริก --                                     

วันที่ 14 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 837

นี่ก็มากกว่า 1 เดือนแล้วตั้งแต่เริ่มสงครามมา ข้าและพวกอัศวินทุกนายต่างก็เข้าต่อสู้กับกองทัพกบฏของบารอนวิลเลี่ยมโดยไม่เคยได้หยุดพัก ไม่ว่าในเวลากลางวันหรือกลางคืน หากพอจะมีโอกาสล่ะก็พวกเราจะบุกเข้าโจมตีอยู่เสมอ

ถึงแม้จะเป็นกองทัพกบฏแต่ข้าก็ต้องให้การยอมรับ พวกทหารเหล่านั้นเองก็เข้าต่อสู้โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน พวกเค้าทุกคนร่วมมือกันเข้าต่อสู้และปกป้องเมืองกูสตาฟเอาไว้อย่างกล้าหาญ

และเนื่องจากเสบียงอาหารของกองทัพเราในตอนนี้ใกล้จะหมดลง ดังนั้นการทำสงครามในครั้งนี้ก็คงเรียกได้ว่าพ่ายแพ้

แต่ถึงแม้พวกเราจะพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ ข้าและเหล่าอัศวินทุกคนก็ไม่มีความคิดที่จะท้อถอย เพื่อเกรียติยศ เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อครอบครัว เพื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกแย่งชิงเอาไป พวกเราจะต้องกลับมาทวงมันคืนอีกครั้งในเวลาที่เหมาะสม

ข้าจะต้องกลับมาทวงมันคืน ข้าจะต้องกลับมาทวงเมืองกูสตาฟที่พวกเราตระกูลโรเซนเบิร์กได้ปกป้องเอาไว้รุ่นสู่รุ่นคืนมาให้จงได้ ข้าได้ให้คำปฏิญาณเอาไว้ต่อหน้าหลุมศพของท่านเคานต์เกรฟี่ท่านพ่อของข้า

แล้วสถานการณ์ทางอาณาจักรออร์ฟีน่าล่ะ

ข้าหันไปถามนายทหารคนสนิทในระหว่างเดินทางกลับไปยังค่ายทหาร

ทางอาณาจักรออร์ฟีน่าในตอนนี้ได้เสริมกำลังทหารเข้าป้องกันป้อมปราการชายแดนทุกแห่งอย่างต่อเนื่องเลยครับ พวกอาวุธและชุดเกราะเองก็ถูกสับเปลี่ยนใหม่ให้เป็นเหล็กดำแล้วด้วย นอกจากนั้นยังดูเหมือนว่าจะมีการสร้างอุปกรณ์เวทสำหรับใช้ในการสงครามเพิ่มขึ้นอีกมากด้วยครับ!

ด้วยการสนับสนุนจากทัตสึยะซามะผู้เป็นว่าที่สามี ดูเหมือนว่าน้องสาวทั้งสองของข้าจะทำการเตรียมพร้อมเพื่อรับสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้าอย่างต่อเนื่อง พูดได้ว่าสมแล้วที่พวกเธอมีสายเลือดของตระกูลโรเซนเบิร์ก

ถึงแม้ในตอนนี้พวกเราจะไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกัน แต่ข้าก็ยังคงเป็นห่วงพวกเธอทั้งสองอยู่เสมอ ในสงครามนั้นหากพวกเราพี่น้องจะต้องหันมาเผชิญหน้ากันมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพาะงั้นตัวข้าเองก็คงจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับเวลาแบบนั้นด้วยเช่นกัน

ทะ ท่านโรเดริก!!!

ในระหว่างที่ข้ากำลังปรึกษากับนายทหารคนสนิทเกี่ยวกับการขนย้ายเสบียงและการถอนกำลังอยู่นั้น อัศวินคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาข้าด้วยท่าทางร้อนรน หากดูจากท่าทางแล้วข้าก็จะพอเดาได้ว่าทางเมืองกูสตาฟคงจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น

ทำไมนายต้องตื่นเต้นทุกทีเวลาที่มีเรื่องเกิดขึ้นด้วยนะ เอาเถอะ....ใจเย็นๆแล้วรายงานมา

พะ พวกทหาร พวกทหารรักษาการณ์ที่ปกป้องกำแพงเมืองกูสตาฟประกาศย้อมแพ้แล้วครับ!!!

ยอมแพ้ หืมม......พวกทหารรักษาการณ์ที่เข้าต่อสู้กับพวกเราอย่างเอาเป็นเอาตายตลอดเดือนที่ผ่านมานั้นล้วนแต่ต่อสู้โดยไม่ย่อท้อ ความกล้าหาญของพวกเค้าเป็นที่ประจักษ์แม้แต่กับพวกเราที่เป็นศัตรูกัน แล้วในเวลาที่พวกเรากำลังคิดจะถอยทัพกลับดันมาประกาศยอมแพ้เนี่ยนะ.......มันจะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะนั่น.........

เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า........

ข้าเอ่ยถามกลับไปด้วยความสงสัย เพราะไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ.....ไม่สิ หรือว่าบางทีมันอาจจะเป็นกับดัก.......ใช่แล้วมันต้องเป็นกับดักที่เจ้าบารอนวิลเลี่ยมวางเอาไว้เป็นแน่......

ไม่ผิดแน่นอนครับ! พวกนั้นเปิดประตูเมืองออกพร้อมทั้งปลดธงทั้งหมดลงมาจากกำแพงเมือง แถมยังวางอาวุธและออกมาคุกเข่ารอพวกเราพร้อมกับนำศพของบารอนวิลเลี่ยม.......

แต่แล้วความคิดของข้าก็ต้องพังทลายลงเมื่อได้ยินการรายงาน........

เจ้าว่าไงนะ พวกนั้นนำเอาศพของเจ้าบารอนวิลเลี่ยมออกมาที่นอกเมืองเรอะ!!!

ชะ ใช่แล้วครับ!

เอดก้า!! ลูดรอฟ!! พวกเจ้าสองคนรีบไปตรวจสอบศพเจ้าของบารอนวิลเลี่ยมและยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นเร็วเข้า!!

「「พวกเราจะรีบไปจัดการในทันทีครับ!!」」

ในครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวข้าเองที่แสดงความรู้สึกตื่นเต้นออกมา แต่กับเรืองน่าเหลือเชื่อแบบนี้จะให้เชื่อในทันทีก็เป็นไปได้ยาก เพราะงั้นข้าจึงได้สั่งให้อัศวินสองนายที่เคยพบกับเจ้าบารอนวิลเลี่ยมมาก่อนออกไปทำการตรวจสอบ ถ้าหากศพที่ว่านั้นเป็นศพของเจ้าบารอนวิลเลี่ยมตัวจริงล่ะก็ การยอมแพ้ของพวกทหารรักษาการณ์ในครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าสมเหตุสมผล

โดยทั่วไปแล้วในสงครามนั้นจำเป็นจะต้องมีผู้นำที่คอยสั่งการ ดังนั้นหากขาดผู้นำไปล่ะก็ ถ้าไม่สามารถเลือกผู้นำคนอื่นขึ้นมาแทนได้แล้วก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการยอมแพ้หรือถอยหนี

ดังนั้นสำหรับพวกทหารรักษาการณ์ที่ปกป้องเมืองกูสตาฟในตอนนี้ก็จะเหลือเพียงตัวเลือกเดียวนั่นก็คือการยอมแพ้

นั่นก็เพราะพวกเค้าส่วนใหญ่นั้นเป็นทหารที่มาจากเมืองเวลล่าและเมืองเอเกีย ซึ่งทั้งสองเมืองที่ว่านั้น ในตอนนี้ได้ตกอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรออร์ฟีน่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นสำหรับพวกเค้าแล้วจึงเรียกได้ว่าไม่มีทางเลือกอื่น

เมลานี่ เอเลวีน ไปสั่งการกองอัศวินที่ 2 ให้เตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนทัพเข้าเมืองในทันที!!

「「รับทราบค่ะ!!」」

ยูลูฟ เอวาน พวกนายไปควบคุมพวกกองทหารอาสาและพวกชาวบ้านเอาไว้ อย่าให้พวกนั้นแตกตื่นแล้วทำอะไรลงไปโดยพลการล่ะ!!

「「ให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเองครับ!!」」

ข้ารีบสั่งการให้บรรดาลูกน้องประจำหน่วยต่างๆกลับไปควบคุมดูแลความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นจากรายงานดังกล่าว ส่วนตัวข้าเองก็ได้กลับไปยังที่พักเพื่อเตรียมตัวสำหรับไปตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

กองอัศวินที่ 2 ได้เตรียมตัวพร้อมสำหรับการเคลื่อนทัพแล้วค่ะ!!

หลังเวลาผ่านไปซักครู่หนึ่ง เมลานี่ก็ได้กลับมารายงานว่ากองอัศวินที่ 2 ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนทัพเรียบร้อยแล้ว กองอัศวินที่ 2 นั้นเป็นกลุ่มอัศวินที่หนีรอดมาจากสงครามบุกโจมตีเมืองกูสตาฟเมื่อครั้งก่อน ซึ่งก็เนื่องจากหัวหน้าของพวกนั้นได้สละชีพไปแล้วข้าจึงทำการรวบรวมพวกคนที่เหลือมาเข้าร่วมกับกองทัพของพวกเราแทน

ถึงพวกนั้นจะประกาศยอมแพ้แต่ก็อย่าได้คิดประมาทล่ะ!

「「「รับทราบ!!!」」」

ถ้างั้นก็ออกเดินทางได้!!

「「「โอ้!!!」」」

หลังจากเตรียมการพร้อม พวกเราทุกคนก็กระโดดขึ้นไปบนนกเจลโล่และออกเดินทางไปยังประตูเมืองกูสตาฟฝั่งทิศตะวันตก

ที่บริเวณประตูเมืองนั้นเอดก้าและลูดรอฟได้มารออยู่ก่อนแล้ว และจากการยืนยันของทั้งสองคนก็ทำให้พวกเราเบาใจไปได้เปราะหนึ่ง

ไม่มีอะไรผิดปกติสินะ……

ผมเข้าไปกระซิบถามยังเอดก้าเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

ครับเป็นชายคนนี้เป็นบารอนวิลเลี่ยมตัวจริงแน่นอน ดูจากบาดแผลและสภาพของศพแล้วคาดว่าถูกทรมานและลอบสังหารในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาครับ

ที่บริเวณศพของบารอนวิลเลี่ยมนั้นมีรอยแผลจากอาการบาดเจ็บอยู่หลายแห่ง ซึ่งมันก็เป็นไปได้สูงว่ามือสังหารที่ลอบเข้ามานั้นได้ทำการทรมานเพื่อสอบถามข้อมูลบางอย่าง แต่จากรายงานของพวกทหารรักษาการณ์ที่ไปพบศพในช่วงเช้านั้นกลับมีเรื่องผิดปกติอยู่หลายอย่าง

นั่นก็คือร่องรอยที่เกิดขึ้นบริเวณปราสาทกูสตาฟนั้นแทบจะไม่มีเลย ทั้งๆที่เป็นการบุกเข้าไปลอบสังหารถึงห้องนอนที่อยู่ชั้นบนสุดของปราสาท แต่กลับไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆหลงเหลืออยู่เลย นอกจากนั้นยังดูเหมือนว่าพวกอัศวินคุ้มกันและบรรดาคนสนิททั้งหมดก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกด้วย

ถึงแม้เรื่องในครั้งนี้จะมีจุดน่าสงสัยอยู่มาก แต่อย่างน้อยพวกเราก็สามารถยืนยันได้ถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของพวกทหารรักษาการณ์กว่าร้อยนายที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้านี้ได้

เพราะงั้นพวกเราจึงได้ตอบรับต่อการยอมแพ้ของพวกทหารรักษาการณ์ แต่ถึงอย่างนั้นการปล่อยให้พวกเค้าติดอาวุธก็ยังถือว่าอันตรายเกินไป ข้าจึงได้สั่งให้พวกนั้นทำการเรียกระดมพลเหล่าทหารรวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพทั้งหมดไปพร้อมกันยังอาคารศูนย์บัญชากรกองอัศวิน

เอดก้า ลูดรอฟ พวกนายสองคนตามไปที่ศูนย์บัญชากรกองอัศวินและเริ่มตรวจสอบกำลังพลและข้อมูลสำคัญอื่นๆของพวกทหารในทันที

「「รับทราบ!」」

หลังจากอัศวินทั้งสองนายมุ่งหน้าไปทางศูนย์บัญชากรกองอัศวิน ข้าก็พากองอัศวินที่ 2 มุ่งหน้าไปยังปราสาทกูสตาฟ

หลังจากนี้ยังมีเรื่องที่ข้าจะต้องจัดการสะสางอยู่อีกมาก เพราะงั้นอย่างน้อยข้าก็หวังเอาไว้ว่ามันจะไม่มีเรื่องยุ่งยากอื่นๆตามมาในเร็ววันนี้.......

5 ความคิดเห็น: