ตอนที่ 28 งานเทศกาลสเตรเชีย บทที่ 6



ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ฮารุกะและชิซึกุเริ่มเปิดระบบป้องกันของคฤหาสน

-- มุมมองของมาเรีย --                            

ชั้นบารอนหญิง มาเรีย ออร์ เอลเรีย เนื่องจากนายท่านของชั้น ทัตสึยะซามะกำลังทุ่มเทให้กับการล้างคำสาปด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยาก นายท่านจึงได้มอบหมายให้ชั้นเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆภายในงานเทศกาลเตรเชีย

แต่ในขณะที่ชั้นกำลังสนุกสนานกับการประกวดวงดนตรีร่วมกับคริสติน่าซามะอยู่นั้น พวกเมดลูกน้องของชั้นที่ยืนคุ้มกันอยู่บริเวณด้านหลังก็ได้ส่งเสียงซุบซิบและแสดงอาการตื่นตระหนกแปลกๆออกมา

เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ?

ชั้นหันไปถามพวกลูกน้องที่ด้านหลังด้วยน้ำเสียงจริงจังเล็กน้อย เนื่องจากในวันนี้ชั้นมาเข้าร่วมงานเพื่อเป็นตัวแทนของนายท่าน ชั้นจึงไม่ได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์เวทสำหรับการสื่อสารเอาไว้ที่ตัว

ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มคนที่มีความสามารถในการต่อสู้สูง พยายามบุกรุกเข้าไปที่คฤหาสน์ แล้วในตอนนี้ชิซึกุซามะก็ได้สั่งเปิดระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดแล้ว แต่ถึงแบบนั้นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้น่ะค่ะ....

เรเน่ เมดสาวอายุ 12 ปี หนึ่งในลูกน้องของชั้นเข้ามาพูดกับชั้นโดยพยายามลดเสียงให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้มีบุคคลอื่นได้ยินเข้า

ผู้บุกรุกที่มีความสามารถในการต่อสู้สูงงั้นเหรอ? หรือว่าจะเป็นพวกพ้องของรูริโกะซามะ? ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็.....

เอริซามะได้บอกกับชั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า พวกคนจากจักรวรรดิเอลติซและพวกผู้กล้าคนอื่นๆนั้นคงไม่ต้องการที่จะปล่อยให้รูริโกะซามะตกอยู่ในมือพวกเราแน่ ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่พวกนั้นจะพยายามคิดหาทางมาชิงตัวคนไป แต่ถึงแบบนั้นชั้นก็ไม่คาดคิดเลยจริงๆว่าพวกนั้นจะลงมือรวดเร็วถึงขนาดนี้

คริสติน่าซามะ ดูเหมือนจะมีพวกงี่เง่าพยายามบุกรุกเข้าไปในเขตคฤหาสน์ เพราะงั้นชั้นจะขอออกไปจัดการสักหน่อนะคะ

เข้าใจแล้วค่ะ ชั้นจะจัดการทางนี้ให้เรียบร้อยเอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ

เรเน่กับโรเซ็ตต้าตามชั้นมา ส่วนที่เหลือคอยคุ้มกันคริสติน่าซามะอยู่ที่นี่ ห้ามละสายตาไปจากเธอเด็จขาด เข้าใจแล้วนะคะ

ชั้นรายงานในคริสติน่าซามะฟังเพียงคร่าวๆ จากนั้นจึงหลบออกไปจากงานประกวดวงดนตรีพร้อมกับเรเน่และโรเซ็ตต้า ซึ่งเป็นเมดระดับโทแปซเพียงแค่ 2 คน ซึ่งนั่นก็เพราะแม้คริสติน่าซามะจะหลงรักนายท่านมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังเป็นเจ้าหญิงของจักรวรรดิเอลติซ ตัวชั้นจึงไม่รู้สึกไว้ใจเธอเท่าไหร่นัก

เรเน่ ติดต่อไปยังกองพันแวร์วูล์ฟให้รีบส่งหน่วยพิเศษมาสนับสนุนที่คฤหาสน์ในทันทีเลยนะคะ

รับทราบค่ะ!!

ในระหว่างวิ่งขึ้นไปยังดาดฟ้าของสเตรเชียบิ๊กไซต์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประกวดวงดนตรี ชั้นออกคำสั่งให้เรเน่รีบติดต่อไปยังกองทัพ และสั่งการไปยังกองพันแวร์วูล์ฟเพื่อขอกำลังสนับสนุน

โดยปกติแล้วกองพันแวร์วูล์ฟจะรับคำสั่งโดยตรงนายท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เนื่องจากนี่เป็นช่วงงานเทศกาลซึ่งพวกคนจากกองอัศวินและหน่วยราชองค์รักษ์ต่างกำลังยุ่งกับการรักษาความปลอดภัย พวกเมดเองก็ถูกจ้างออกไปช่วยคุ้มกันบุคคลสำคัญจากหลายๆประเทศกันหมด

ซึ่งนายท่านของชั้นก็ได้คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะเกิดเรื่องฉุกเฉินที่จำเป็นจะต้องใช้กำลังสนับสนุนในเวลาแบบนี้เกิดขึ้น นายท่านจึงได้มอบอำนาจสั่งการกองพันแวร์วูล์ฟเอาไว้ให้กับชั้นก่อนจะเริ่มงานเทศกาลแล้ว นายท่านของชั้นช่างเป็นคนที่รอบคอบมากจริงๆเลยล่ะค่ะ

ทางกองพันแวร์วูล์ฟตอบรับคำสั่งเรียบร้อยแล้ว พวกเค้าจะส่งหน่วยพิเศษมาสนับสนุนภายในเวลา 15 นาทีค่ะ มาเรียซามะ!

ถึงแม้จะเป็นคำสั่งด่วนแต่การเตรียมยุทโธปกรณ์และเรือเหาะความเร็วสูงนั้นก็ยังจำเป็นจะต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

เข้าใจแล้วค่ะ พวกเราเองก็ต้องไปถึงในเวลาไม่เกิน 10 นาที รีบกันหน่อยนะคะ

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเราทั้ง 3 คนก็ขึ้นมาถึงยังดาดฟ้าของสเตรเชียบิ๊กไซต์ ชั้นจึงรีบนำเรือเหาะความเร็วสูงขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเวทมนต์และเริ่มถ่ายพลังมานาลงไปเพื่อทำการเปิดระบบในทันที

ส่วนเรเน่และโรเซ็ตต้านั้นก็ได้หยิบเอา BeaterAX747 ออกมาจากกระเป๋าเวทมนต์ และเริ่มทำการบรรจุกระสุนเวทอมพาต และเมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ชั้นซึ่งเป็นคนเดียวที่สามารถขับเรือเหาะความเร็วสูงขนาดเล็กได้ก็เริ่มบังคับเรือเหาะให้บินขึ้นและมุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์ในทันที

อุว๊า!! มนุษย์มังกรพวกนั้นเรียกว่าริวจินสินะคะ ชั้นพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกท่าทางพวกมันจะเก่งไม่เบาเลยนะคะ แล้วทำไมพวกมันถึงบุกเข้ามาพร้อมกับพวกผู้บุกรุกกันได้ล่ะนะคะเนี่ย....

เมื่อเห็นภาพที่ปรากฏอยู่บนจอภาพบนเรือเหาะ เรเน่ที่นั่งอยู่ด้านหลังชั้นพูดขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้นกับสิ่งมีชีวิตที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

ริวจินพวกนั้นน่าจะเป็นอสูรรับใช้ที่ถูกเรียกมาด้วยเวทอัญเชิญนะคะ

ชั้นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แน่นอนว่าหากชั้นไม่ได้คุ้นเคยกับเวทอัญเชิญของพวกท่านจอมเวทอยู่เป็นประจำล่ะก็ ตัวชั้นเองก็คงจะรู้สึกตื่นเต้นกับการได้เห็นมนุษย์มังกรสวมชุดเกราะ ที่กำลังพายามปีนป่ายกำแพงเหล็กขึ้นไปบนตัวคฤหาสน์เช่นเดียวกัน

จากจอภาพในขณะนี้นั้น หน่วยเมดติดอาวุธประมาณ 20 คนกำลังยิงถล่มกลุ่มของริวจินสวมเกราะ แต่ไม่ว่าพวกมันจะถูกทำลายไปมากแค่ไหน พวกมันก็ยังคงโผล่ออกมาจากวงเวทอยู่เรื่อยๆ สถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนว่าฝ่ายเราจะค่อนข้างเสียเปรียบ

ศัตรูอีกกลุ่มหนึ่งที่สวมหน้ากากคาบูกิเองก็เข้าต่อสู้กับฮารุกะซามะและชิซึกุซามะอย่างรุนแรง แต่ที่น่าแปลกก็คือความทนทานของพวกมัน เพราะถึงแม้ฝีมือของพวกมันจะเทียบกับฮารุกะซามะไม่ได้ แต่พวกมันที่ถูกซัดกระเด็นไปกลับสามารถลุกกลับขึ้นมาเพื่อต่อสู้อีกครั้งแทบจะทันทีได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก

แต่ถึงแบบนั้น ฮารุกะซามะกลับไม่แสดงความรู้สึกกังวลอะไรออกมาเลย กลับกัน ฮารุกะซามะนั้นดูเหมือนจะกำลังสนุกกับการต่อสู้ที่ไม่รู้จบนี้เสียมากกว่าด้วยซ้ำ ส่วนชิซึกุซามะนั้น เธอกำลังต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 กับฝ่ายศัตรูที่ดูท่าทางน่าจะเป็นหัวหน้า ทั้งสองคนสองเข้าปะทะอาวุธกันอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีใครยอมใคร

เรเน่ โรเซ็ตต้า กระสุนอมพาตคงหยุดศัตรูในครั้งนี้เอาไว้ไม่ได้แน่ๆ รีบเปลี่ยนกระสุนตรวนแห่งความมืด และเตรียมยิงสนับสนุนในทันทีที่พวกเราเข้าไปในระยะหวังผลนะคะ

「「รับทราบค่ะ!!」」

หลังจากมองดูสถานการณ์แล้ว ชั้นคิดว่ากระสุนอมพาตที่ใช้จัดการกับคนทั่วไปนั้นคงไม่สามารถหยุดพวกศัตรูที่มีความทนทานสูงแบบนี้ได้แน่ๆ ซึ่งทั้งสองคนก็ตอนรับชั้นกลับมา และรีบปรับเปลี่ยนกระสุนในทันที


-- มุมมองของมากิ --                              

วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า รู้ฝีมือของท่านฮารุกะคนนี้หรือยัง!!

เด็กสาวไม่สิ จอมเวทสาวตรงหน้าพูดออกมาด้วยท่าทางสนุกสนาน เธอกวัดแกว่งเคียวขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยออร่าสีดำไปมาอย่างรวดเร็วโดยไร้ช่องโหว่ ทั้งพวกริวจิและพวกลูกน้องของชั้นต่างถูกฟาดกระเด็นกระจัดกระจายกันไปคนละทาง แม้แต่ตัวชั้นเองก็ยังยากที่จะเข้าไปใกล้ตัวเธอ

นอกจากนั้นแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็ยังมีพวกเมดที่คอยยิงกระสุนเวทโจมตีสนับสนุนมาจากทางดาดฟ้าของคฤหาสน์อีกอย่างต่อเนื่องอีก ชั้นใตอนนี้แค่พยายามคุ้มกันทุกคนด้วยเกราะเวทก็แทบจะขยับไปไหนไม่ได้แล้ว เรียกได้ว่าพวกเราที่แม้จะมีกำลังเยอะกว่าหลายเท่านั้นเป็นฝ่ายที่กำลังเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

นี่ถ้าหากพวกเราไม่ได้ดื่มยาเสริมพลังสูตรพิเศษของซากุระโกะซังเข้าไปก่อนหน้าแล้วนี้ล่ะก็ พวกลูกน้องของชั้นคงได้สิ้นชีวิตกันไปเกือบทั้งหมดแล้ว ชั้นก็ต้องขอยอมรับเลยว่า อาณาจักรออร์ธรอสนั้นเป็นศัตรูที่ร้ายกาจเกินกว่าที่ชั้นคิดเอาไว้มากจริงๆ

ก่อนหน้านี้ที่ชั้นได้ยินเรื่องราวของเหล่าจอมเวทแห่งอาณาจักรออร์ธรอสนั้น ชั้นบอกได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่บ้าบอมาก แต่พอได้มาเห็นพวกจอมเวทตัวเป็นๆเข้าต่อสู้อยู่ตรงหน้าแบบนี้แล้ว ก็คงมีแต่ต้องเชื่อในสิ่งที่เห็นเท่านั้น

มากิ!! พวกนั้นเรียกกำลังเสริมมาแล้วนะ!!

โคโทริซังที่กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากกับจอมเวทสาวผมสีดำคนหนึ่งตะโกนมาทางชั้น ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่โคโทริซังพูด บนน่านฟ้าของคฤหาสน์ในตอนนี้สามารถมองมองเห็นเรือเหาะลำหนึ่ง และเรือเหาะลำนั้นก็กำลังยิงกระสุนเวทมนต์แห่งความมืดเข้าโจมตีพวกเราอยู่

ฟุเคี๊ย!」「เคี๊ยะ!」「บุกี้!」「เนี๊ยะ!!

เสียงกรีดร้องของเหล่าลูกน้องที่ต่อสู้เคียงข้างกันดังขึ้นมารอบบริเวณ ทุกๆคนในตอนนี้ต่างถูกของเหลวสีดำครอบคลุมร่างกายจนดิ้นไม่หลุด

ชิ!! ซากุระโกะซัง โคโทริซัง ทุกคนถอย!!!

ชั้นพูดพร้อมกับโยนระเบิดยาพิษหลายขวดที่ซากุระโกะซังเตรียมเอาไว้ให้สำหรับใช้หนีใส่จอมเวททั้งสองคนตรงหน้า ด้วยควันพิษเข้มข้นนี้คงจะช่วยถ่วงเวลาให้พวกเราได้มากพอสมควร

นะ!! คิดจะทำอะไรกันเนี่ย!!! อ็อก! แอ็ก! ถ้ารีบหนีกันไปแบบนี้ชั้นก็ต้องกลับไปทำงานเอกสารน่าเบื่ออีกสิคะ!! อ็อก! แอ็ก! กลับมาเป็นเหยื่ออู้งานให้ชั้นก่อนสิคะ!!! อ็อก! แอ็ก!

และในขณะที่กำลังหนีนั้น ชั้นก็ได้ยินเสียงจอมเวทสาวตะโกนไล่หลังมา และถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของเธอสักเท่าไหร่ แต่ชั้นก็พอจะรับรู้ได้เลยว่าจอมเวทสาวคนนั้นกำลังโกรธเป็นอย่างมาก

Summon: Ryujin Guardian!!

ในระหว่างที่พวกเรากำลังวิ่งหนีเพื่อไปรวมตัวกันนั้น โคโทริซังก็ได้เรียกริวจินติดโล่อีกจำนวนมากออกมาเพื่อช่วยถ่วงเวลาให้กับทุกคน และก็เพราะว่าโคโทริซังใช้มานาไปมากกับการอัญเชิญ เธอจึงรีบหยิบยาเติมมานาหลายขวดออกมาดื่มในทันที

Summon: Grey Dragon!! Grey Wyvern!!

หลังจากส่งพวกริวจินออกไปถ่วงเวลาแล้ว โคโทริซังก็รีบอัญเชิญมังกรบินและไวเวิร์นจำนวนมากออกมาเพื่อใช้สำหรับการหลบหนี ชั้นรีบอุ้มซากุระโกะซังที่ดูเหนื่อยแรงและกระโดดตามโคโทริซังขึ้นไปบนมังกรบิน แล้วพวกเราทุกคนก็รีบออกบินขึ้นไปบนฟากฟ้าด้วยความเร็วสูงสุดในทันที

อุ! อุ๊ก!!

ซากุระโกะซังหน้าซีดกระแอมออกมา บริเวณไหล่ซ้ายของเธอมีเลือดซึมออกมาจากเสื้อคลุม อาการของเธอดูท่าทางไม่ดีนัก ชั้นจึงรีบนำยาฟื้นฟูออกมาและพยายามป้อนให้กับเธอในทันที

ฟุเคี๊ยะ!!」「อิเต๊ะ!」「อิต๊ะ!」「ฟุเนี๊ยะ!!

ในขณะนั้นเอง พวกลูกน้องที่ขี่ไวเวิร์นตามหลังต่างก็พากันกรีดร้องออกมา ทั้งๆที่ทุกคนนั้นเปิดใช้อุปกรณ์เวทป้องกัน เพื่อสร้างกำแพงเวทออกมาคุ้มกันแล้วแท้ๆ แต่ทั้งแบบนั้นทุกคนก็ยังถูกยิงและค่อยๆร่วงลงไปที่ด้านล่างพร้อมๆกันกับไวเวิร์นที่โคโทริซังอัญเชิญออกมา

พวกกำลังเสริมของอาณาจักรเวทมนต์ไล่ตามมาแล้ว โคโทริซัง เร่งความเร็วขึ้นอีกได้มั๊ย!!

ชั้นพูดพร้อมกับใช้พรผู้กล้า Enchant Mana Explosion ลงบนผลึกเวทหลายชิ้นและขว้างออกไปเพื่อโจมตีใส่ศัตรูที่กำลังไล่ตามมา อย่างน้อยมันก็น่าจะช่วยถ่วงเวลาให้พวกเราสามารถหนีห่างออกไปได้สักหลายวินาที

นี่ก็เร็วที่สุดแล้วน้า ไม่มีมังกรตัวไหนจะเร็วไปกว่าเรย์คุงแล้วน๊า!!!

โคโทริซังตะโกนตอบกลับมา ซึ่งก็ดูเหมือนว่านี่จะเป็นความเร็วสูงสุดที่พวกเราสามารถทำได้แล้ว ช่วยไม่ได้สินะ แบบนี้ชั้นคงจะคอยต้องคุ้มกันทุกคนตลอดเวลาจนกว่าจะพวกเราจะสามารถหนีออกนอกอาณาเขตของเมืองสเตรเชียได้

เมื่อคิดได้แบบนั้นชั้นก็พยายามลองสังเกตดูรูปแบบการโจมตีของศัตรูที่อุปกรณ์เวทป้องกันของพวกเราไม่สามารถใช้งานได้

จากที่ชั้นได้ทราบข้อมูลมานั้น อาวุธเวทของอาณาจักรเวทมนต์พึ่งจะถูกพัฒนาขึ้นมาได้เพียงไม่นานเท่าไหร่นัก และอาวุธเวทที่ว่านั้นกินมานาของผู้ใช้ไม่มากแต่กลับมีพลังโจมตีและความแม่นยำสูงจนเรียกได้ว่าผิดปกติ

แต่หลังจากการที่ได้ปะทะกันอยู่หลายครั้ง ทางจักรวรรดิก็ได้พัฒนาอุปกรณ์เวทที่ใช้สร้างกำแพงเวทหลายชั้นออกมาเพื่อใช้ป้องกันได้สำเร็จ แต่ในครั้งนี้มันกลับไม่สามารถป้องกันได้ ซึ่งเหตุผลนั้นหลังจากมองดูอยู่ครู่หนึ่งชั้นก็เข้าใจ

กระสุนเวทมนต์จากศัตรูที่กำลังไล่ตามพวกเรามานั้นไม่ใช่กระสุนเวททั่วๆไป ในจังหวะที่ตัวกระสุนปะทะเข้ากับกำแพงเวทนั้น ถ้าเป็นกระสุนเวททั่วไปโดยปกติแล้วมันก็ควรจะแตกสลายไป

แต่สำหรับกระสุนเวทที่พวกศัตรูได้นำเอามาใช้ในครั้งนี้ พอตัวกระสุนปะทะเข้ากับกำแพงเวทแล้ว เวทมนต์ความมืดที่ถูกบรรจุอยู่ในตัวกระสุนกลับแตกออกมา แล้วเจ้าเวทมนต์แห่งความมืดนั่นก็ค่อยๆกระจายออกและเข้าผูกรัดทั้งตัวไวเวิร์นและกำแพงเวทที่คอยป้องกันเอาไว้ไปพร้อมๆกัน ด้วยรูปแบบนี้ต่อให้มีกำแพงเวทมนต์ป้องกันกี่ชั้นมันก็ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง

แบบนี้ก็คงมีแต่ต้อง จัดการกับกระสุนพวกนั้นก่อนที่พวกมันจะกระทบเข้ากับกำแพงเวท ยุ่งยากจริงๆ.....

ฟุเคี๊ยะ!! อะ นี่มันอะไรกันเนี่ย!! อิ อิย๊า!!

แต่ในตอนที่ชั้นกำลังคิดหาวิธีแก้ไขอยู่นั้น ซากุระโกะซังก็กรีดร้องออกมา ในชั่วพริบตานั้นร่างกายของซากุระโกะซังก็ถูกโซ่ที่เกิดจากมานาผูกรัดไปทั่วทั้งร่างกาย และเธอก็ได้ถูกดึงเอาตัวไปจากหลังของ Grey Dragon หรือก็คือเรย์คุงที่พวกเรากำลังขี่อยู่ โดยที่ชั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะคิดทำอะไรได้ทัน....

ซะ ซากุระโกะซัง!!!!!!

เสียงตะโกนของชั้นดังก้องไปทั่วน่านฟ้าของเมืองสเตรเชีย ร่างกายของซากุระโกะซังหายลับไปจากสายตาของชั้น......

5 ความคิดเห็น:

  1. ใกล้จะถึงปีใหม่แล้ว ทางนี้ขอหนีไปเที่ยวละ
    เพราะงั้นตอนต่อไปก็เจอกันปีหน้าเลยนะ ฮา....

    ตอบลบ
  2. เข้มข้นสุดเลยล่ะน๊า~~~
    !=∆=!

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอนหน้าก็พักช่วงละครับ
      กลับมาชิลๆกับงานเทศกาลต่ออีกนิด

      ลบ