-- มุมมองของทูรี่ --
ชั้นชื่อทูรี่
ตัวชั้นนั้นเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาๆคนหนึ่งที่เกิดในหมู่บ้านแถบชนบทภายในประเทศที่มีชื่อว่า
จักรวรรดิเลเรียส
แต่เนื่องจากตัวชั้นนั้นเป็นโรคประหลาดจึงทำให้มีร่างกายอ่อนแอมาก และครอบครัวของเราก็ไม่ได้มีเงินทองมากพอที่จะพาชั้นที่เป็นโรคประหลาดไปหาหมอในเมืองหลวงได้
ตั้งแต่ชั้นเกิดมาจนในกระทั่งอายุครบ
12 ปีนั้น
ชั้นจะได้ออกไปนอกบ้านเพียงแค่ในช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยวในแต่ละปีเพียงเท่านั้น
แต่ถึงแม้ชั้นจะเป็นเด็กสาวที่ไร้ประโยชน์ คุณพ่อคุณแม่และพวกน้องๆของชั้นก็ได้มอบความรักและคอยช่วยดูแลชั้นเสมอมาโดยไม่เคยบ่นเลยสักครั้ง
เพราะงั้นถึงแม้ชั้นจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงไม่นานนัก
แต่ชั้นก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นแห่งนี้
ถ้าหากชั้นสามารถกลับมาเกิดใหม่และมีร่างกายแข็งแรงได้ล่ะก็
ชั้นก็อยากจะกลับมาเกิดในครอบครัวนี้
ชั้นอยากที่จะได้ทดแทนบุญคุณและคอยช่วยเหลือทุกคนในครอบครัว
「ไม่เป็นไรนะลูก ลูกจะต้องดีขึ้นแน่ๆนะจ๊ะ」
วันหนึ่งในช่วงใกล้ฤดูหนาว ตัวชั้นมีไข้สูงมาก
ร่างกายร้อนผ่าวและเจ็บปวดไปทั่ว คุณแม่พูดกับชั้นและกุมมือชั้นเอาไว้ทั้งน้ำตา
ส่วนคุณพ่อนั้นไม่พูดอะไรและฝืนทำตัวเข้มแข็ง
แต่ชั้นก็รู้ดีว่าคุณพ่อนั้นเป็นห่วงชั้นมากกว่าใครๆ
「ผมจะไปหาของกินมาให้เยอะๆ พี่ทูรี่ต้องพยายามให้มากๆนะ」
「พี่คะ พี่ต้องหายดี พี่ต้องมาเล่นกันนู๋อีกนะคะ」
ทาร์ต กับ ทูเร่ น้องชายและน้องสาวของชั้นพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
พวกน้องๆได้พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยเหลืองานบ้านในส่วนของชั้นมาตลอด
ทั้งๆแบบนั้นแต่ตัวชั้นกลับเป็นพี่สาวที่ไม่ได้เรื่อง
ชั้นอยากจะลุกขึ้นและเข้าไปโอบกอดทุกๆคน
ชั้นอยากจะขอบคุณทุกๆคนที่คอยช่วยเหลือตัวชั้นมาตลอด
แต่เพียงแค่จะขยับปากเพื่อพูดตอบกลับทุกคนไปชั้นก็ยังทำไม่ได้
ตาของชั้นเองก็ค่อยๆหนักขึ้นจนแทบจะลืมไม่ขึ้น
ชั้นคงจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของทุกคนที่ชั้นรักได้อีกแล้ว
「ทูรี่ซัง ถ้าหากเลือกได้
คุณต้องการจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่คะ?」
แต่แล้วในขณะที่ชั้นและครอบครัวกำลังสิ้นหวัง
ชั้นก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวคนหนึ่งที่สุดแสนจะไพเราะและอ่อนโยน
เพียงแค่ชั้นได้ฟังเสียงของเธอเท่านั้น
บรรยากาศรอบตัวของชั้นก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ร่างกายที่หนักอึ้งจนแทบจะขยับไม่ได้ของชั้นรู้สึกเบาสบายอย่างชัดเจน
ต่อหน้าเด็กสาวที่ชั้นมองไม่เห็น ทุกคนในครอบครัวดูจะตกตะลึงและทำอะไรไม่ถูก
มีแต่เพียงคุณพ่อของชั้นเท่านั้นที่สามารถตอบกลับไปโดยไม่ลังเล
「ธ เธอสามารถช่วยทูรี่ได้งั้นเหรอ? ได้โปรดล่ะครับ!! ผมจะทำทุกอย่างเพื่อชดใช้ ได้โปรดช่วยทูรี่
ได้โปรดช่วยลูกสาวของผมด้วยเถอะครับ!!」
หากเธอสามารถที่จะช่วยชั้นได้ล่ะก็ ถึงแม้จะต้องแลกด้วยสิ่งของทุกอย่างที่มี
คุณพ่อก็ยินดีจะมอบให้กับเด็กสาว กับคำพูดของคุณพ่อนั้น ชั้นรู้สึกดีใจจริงๆ
「ชั้นต้องการยืนยันจากตัวทูรี่ซังโดยตรงเท่านั้น
ไม่ใช่คนในครอบครัว คุณอยากจะออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน
คุณอยากจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตเหมือนกับเช่นคนทั่วไป
คุณยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่คะ?」
กับคำถามของเด็กสาวนั้น ชั้นฝืนใช้แรงทั้งหมดที่ชั้นมีเพื่อพยักหน้าตอบรับเธอกลับไป
ชั้นยังไม่อยากจะตาย ชั้นอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวของชั้นต่อไป
ชั้นยังอยากที่จะตอบแทนให้กับความรัก ความอบอุ่น
และทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนได้มอบให้กับชั้น
เด็กสาวพอใจกับคำตอบของชั้น และเธอก็ได้มอบยาให้กับชั้น
แต่เนื่องจากโรคที่ชั้นเป็นนั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ดังนั้นชั้นและครอบครัวจึงต้องออกเดินทางและย้ายถิ่นฐานไปยังอาณาจักรออร์ธรอส
ที่นั่นชั้นสามารถจะซื้อยาที่สามารถช่วยระงับอาการกำเริบของโรคที่ชั้นเป็นได้
ในวันนั้นเอง
ชีวิตของทุกคนครอบครัวของชั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง พวกเราได้รับจดหมายแนะนำตัว
เงินสำหรับค่าเดินทาง
และยังได้รับคำแนะนำอีกมากมายจากเด็กสาวที่ได้ช่วยชีวิตของชั้นเอาไว้
ครอบครัวของพวกเราก็ได้ออกเดินทางไปยังอาณาจักรออร์ธรอสด้วยเรือเหาะของอาณาจักรออร์ธรอสตามที่เด็กได้แนะนำเอาไว้
และทางอาณาจักรออร์ธรอสก็ได้ยอมรับครอบครัวของเราเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพลเมือง
แต่ทั้งๆที่ชั้นอยากจะขอบคุณเด็กสาวคนนั้นสักครั้ง
ชั้นก็ไม่ทราบทั้งชื่อและที่อยู่ของเธอ
แต่ชั้นก็เชื่อว่าการพบกันของพวกเรานั้นคงจะต้องเป็นโชคชะตาแน่ๆ เพราะงั้นแล้ว
จนกว่าจะถึงวันที่ได้พบกับเด็กสาวคนนั้นอีกครั้ง ชั้นจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ช่วงสายของวันที่
22 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 837
ในวันนี้เป็นวันงานเทศกาลวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันหยุดของชั้นและคุณแม่ และในตอนนี้ ทั้งชั้น คุณแม่ และน้องสาว ก็ได้มายังสนามแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียนหลวงสเตรเชีย
เพื่อดูการแข่งขันเกมขโมยสมบัติรุ่นอายุไม่เกิน 11 ปีในรอบชิงชนะเลิศ
ซึ่งเจ้าทาร์ต น้องชายของชั้นได้เป็นตัวแทนของทีมสีส้มและยังได้รับเลือกให้เป็นกับตีนทีม
เข้าเพื่อแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศนี้ด้วย
「มีคนมาเชียร์ทีมสีส้มกันเพียบเลยนะจ๊ะเนี่ย!!」
เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่คุณแม่ของชั้นได้มาชมเกมการแข่งขันในสนามกีฬาขนาดใหญ่
คุณแม่ของชั้นจึงแสดงความรู้สึกตื่นเต้นออกมาเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าตัวชั้นเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน
แต่การแสดงออกแบบนั้นมันค่อนข้างจะน่าอาย ชั้นจึงพยายามนั่งอยู่อย่างสงบๆ
「นั่นสินะคะ คนที่เข้ามานั่งเชียร์ฝั่งทีมสีส้ม
ดูจะมากกว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่เยอะเลยล่ะค่ะ」
เป็นไปตามที่คุณแม่พูดออกมา
เพราะที่นั่งในฝั่งกองเชียร์ของทีมสีส้มที่พวกเรานั่งอยู่นั้น
มีผู้คนเข้ามานั่งอยู่มากกว่าทีมสีเขียวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมากกว่าเกือบ 2
เท่าเลยทีเดียว
「เพราะพี่ทาร์ตค่อนข้างจะเป็นที่ชื่นชอบในหมู่สาวๆ
แล้วนี่ก็เป็นรอบชิงอีกด้วยที่พี่ทาร์ตเป็นกับตันทีมด้วย
คนเลยมากันเยอะเป็นพิเศษนะคะ」
เหหห น้องชายของชั้นเป็นที่ชื่นชอบในหมู่พวกสาวๆงั้นเหรอเนี่ย
เพราะเจ้าทาร์ตไม่ค่อยได้เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟังสักเท่าไหร่ ชั้นจึงไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากนัก
ถ้ากลับมาบ้านเมื่อไหร่ล่ะก็ เห็นทีต้องเรียกมาสอบสวนสักหน่อยแล้ว....
「ทาร์ตคูงงงงสู้ๆน๊าค๊า!!!」「ทาร์ตคูงงงง รักที่สุดเลย!!!」「ไอ้ทาร์ตไปตายซะ!!」「ทาร์ตคุง เอาชนะให้ได้น๊า!!!」「ทาร์ตคูงงงงสู้ๆ!!」
อุว๊า ดูเหมือนเจ้าน้องชายของชั้นจะเป็นที่ชื่นชอบในหมู่สาวๆจริงๆด้วยนะเนี่ย
แต่พอได้มาเจอพวกสาวๆส่งเสียงเชียร์กันมากมายแบบนี้แล้ว
มันก็ทำให้ชั้นที่เป็นพี่สาวก็รู้สึกเหงาๆไปเหมือนกันเลยนะคะ
หลังจากทั้งสองทีมลงมาสู่สนามท่ามกลางเสียงเชียร์
การแข่งขันชิงสมบัติก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยแต่ละฝ่ายนั้นจะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทีมละ
20 คน
และทีมที่สามารถชิงเอาสมบัติกลับมาที่ฐานได้ก็จะได้คะแนนไปตามความใหญ่ของสมบัติที่สามารถชิงกลับมาได้
สำหรับการแข่งขั้นนี้จะมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน 2 อย่างก็คือชุดเกราะเวทและไม้คทาเวท
ทั้งสองฝ่ายจะต้องต่อสู้กันโดยการจิ้มไม้คทาเวทใส่กึ่งกลางชุดเกราะเวทของฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งหากใครถูกจิ้มโดนก็จะถูกส่งกลับไปที่ฐาน
และยังทำให้ไม่สามารถออกจากฐานได้นานถึง 30 วินาที
ส่วนเจ้าสมบัติที่ว่านั้นก็เป็นอุปกรณ์เวทที่จะสามารถยกขึ้นได้เมื่อนำไม้คทาเวทเข้าไปจิ้มเท่านั้น
ดังจึงแต่ละคนจึงสามารถจะชิงสมบัติไปได้แค่ครั้งละ 1 ชิ้นเท่านั้น
ซึ่งหากจิ้มเข้าที่สมบัติแล้ว
ชุดเกราะที่ใส่อยู่ก็จะส่งผลทำให้ร่างกายเคลื่อนที่ได้ช้าลงตามแต่ขนาดและคะแนนของสมบัติ
และก็แน่นอนว่า หากไม้คทาเวทยังจิ้มติดอยู่กับสมบัติอยู่ล่ะก็
มันก็จะไม่สามารถนำไปใช้ต่อสู้ได้
เพราะงั้นการคุ้มกันเพื่อนร่วมทีมในระหว่างขนสมบัติกลับมาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก
「อุว๊า!! เจ้าลูกชายของแม่เก่งมากเลยนะเนี่ย จัดการฝ่ายตรงข้ามไปได้ตั้ง
3 คนแล้วล่ะ ดูสิ ทูรี่ น้องชายของลูกเท่มากนะจ๊ะ」
「พี่ทาร์ตไม่มีทางแพ้ทีมสีเขียวง่ายๆอยู่แล้วล่ะค่ะ
ดูนั่นสิคะคุณแม่!! พี่ทาร์ตดักซุ่มโจมตีฝ่ายตรงข้ามตอนเผลอ
และชิงเอาสมบัติกลับมาแล้วด้วยนะคะ!!」
คุณแม่และน้องสาวของชั้นพูดขึ้นมาในระหว่างเกมการแข่งขันด้วยความตื่นเต้น
ชั้นเองก็ต้องขอยอมรับเลยล่ะค่ะ เพราะเกมการแข่งขันแบบนี้ช่างสนุกและน่าตื่นเต้นจริงๆ
มันแตกต่างจากการวิ่งเล่นของพวกเด็กๆในหมู่บ้านชนบท พวกเราเคยอยู่เป็นอย่างมาก
โชคดีจริงๆเลยค่ะที่พวกเราได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศแห่งนี้
「อุว๊า รุ่นพี่ทาร์ตโดนรุมซะแล้ว!!」
「ทาร์ตคุงอัดพวกมันเลย!!」
「ทาร์ตคูงงง อย่ายอมแพ้นะค๊า!!」
เกมการแข่งขันดำเนินไปโดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับอย่างต่อเนื่อง
เจ้าทาร์ตที่เป็นกับตันทีมแสดงความสามารถได้โดนเด่นจนทำให้อีกฝ่ายต้องแบ่งกำลังเข้ามารุมจัดการ
ถึงแม้เจ้าทาร์ตน้องชายของชั้นจะเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว
แต่ก็ไม่อาจจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามที่มีมากกว่าได้และถูกส่งกลับฐานไปอยู่หลายครั้ง แต่เจ้าทาร์ตก็ไม่ยอมแพ้และกลับมาตอบโตฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเฉียบขาด
และในที่สุดเกมก็จบลง ทีมสีส้มสามารถเอาทีมสีเขียวไปได้ด้วยคะแนน 166
ต่อ 128 ซึ่งเรียกว่าได้สูสีกันพอดู
หลังจบเกมผู้เล่นทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้ามาจับมือกัน
จากนั้นเจ้าทาร์ตก็เข้าไปรับถ้วยรางวัลและยกขึ้นเพื่อแสดงถึงชัยชนะ
「คุณแม่ พี่
นู๋ต้องรีบกลับไปช่วยงานที่บูธขายนุนุยากิแล้วนะคะ」
「อะร๊า
ถ้างั้นพวกเราก็ไปลองชิมนุนุยากิกันดีกว่านะ ทูรี่」
「นั่นสินะคะ นู๋เองก็หิวแล้ว
อยากลองชิมฝีมือทูเร่แล้วด้วย」
เมื่อคิดได้ดังนั้น
ชั้นและคุณแม่ก็เดินตามทูเร่ไปที่บริเวณลานกว้างหน้าอาคารเรียน ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับเปิดบูธขายอาหารหลากหลายชนิด
หลังจากส่งทูเร่กลับไปที่บูธแล้ว
ชั้นและคุณแม่ก็ลองซื้อนุนุยากิและขนมอีกหลายชนิดมานั่งทานที่บริเวณม้านั่งใกล้ๆบริเวณนั้น
「ตูมมมมมมมมม!!!!!!!!!」
แต่แล้วในตอนนั้นเอง ตรงหน้าของพวกเราก็ได้มีอะไรบางอย่างตกลงมาจากท้องฟ้าและพุ่งเข้าชมกับพื้นสนามอย่างรุนแรง
「ฟุเนี๊ยะ!!」
ชั้นที่ตกใจกระโดดเข้ากอดคุณแม่อย่างแรง คุณแม่เองที่ตกใจเช่นเดียวกันหันมาโอบกอดชั้นเอาไว้ด้วยแขนทั้งสองอย่างแรง
「ไม่เป็นไรนะลูก?」
「มะ ไม่เป็นไรค่ะ
มันเกิดอะไรขึ้นกันนะคะเนี่ย?」
หลังจากเวลาผ่านไปสักครู่หนึ่ง
ชั้นและคุณแม่ก็พยายามมองลงไปยังหลุมขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาเบื้องหน้า
「อย่าเข้าไปใกล้นะคะ ทูรี่เน่จัง!!」
ในขณะนั้นเอง เมดสาวตัวเล็กสามคนก็โผล่มาที่ตรงหน้า
และห้ามไม่ให้พวกเราเข้าไปใกล้หลุมดังกล่าว แต่ถึงแม้จะไม่ได้เข้าไปใกล้ ชั้นก็สามารถมองเห็นภายในหลุมได้ชัดเจน
ซึ่งภายในหลุมนั้นชั้นก็ได้เห็นเด็กสาวคนหนึ่งถูกมัดด้วยโซ่เวทมนต์ทั่วทั้งตัว
「กะ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอจ๊ะ ฟิลิเน่จัง」
ชั้นพยายามถามออกไปด้วยน้ำเสียงปกติที่สุด
ฟิลิเน่จังนั้นแม้จะเป็นเด็กอายุเพียงแค่ 10 ปี แต่ความสามารถของเธอก็เป็นที่ยอมรับจากกิลด์เมด
และเธอก็ได้รับการเลื่อนระดับให้เป็นเมดระดับรูบี้แล้ว
ซึ่งหากเทียบกับชั้นที่พึ่งเข้าไปสมัครเป็นเมดฝึกหัดได้ไม่นานล่ะก็
ฟิลิเน่จังก็เป็นเหมือนกับรุ่นพี่ของชั้นนั่นเอง
「เธอคนนี้เป็นผู้บุกรุก
ที่บุกเข้ามาโจมตีคฤหาสน์ของทัตสึยะซามะน่ะค่ะ」
ฟิลิเน่จังตอบกลับมาโดยไม่หันกลับไม่มอง เธอและเพื่อนๆอีก 2
คนนำอุปกรณ์เวทรูปร่างคล้ายเสาออกมาแล้วนำมันไปตั้งล้อมรอบหลุมเอาไว้
และเมื่อพวกเธอเปิดใช้งาน ก็มีแสงเปล่งออกมาจากเสามากมายหลายเส้น
จากนั้นแสงเหล่านั้นก็ได้กลายสภาพเป็นบาเรียสีดำบางๆปกคลุมรอบหลุมเอาไว้
「ผะ ผู้บุกรุก!! ละ
แล้วมีใครเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?」
「ฟิลิเน่ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ
เพราะพวกฟิลิเน่ก็แค่มาสะสมแสตมป์จอมเวทอยู่ใกล้ๆแถวนี้พอดี ก็เลยถูกสั่งให้เข้ามาควบคุมสถานการณ์เอาไว้ชั่วคราว
ฟิลิเน่คิดว่าพรุ่งนี้คงจะมีประกาศแจ้งให้ทุกคนในกิลด์ได้ทราบกันแหละค่ะ」
ฟิลิเน่จังตอบกลับมาโดยไม่ละสายตาไปจากเด็กสาวภายในหลุม
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าพวกเธอทั้งสามคนนั้นจะมาไล่สะสมแสตมป์จอมเวทเพื่อใช้แลกของรางวัล
แต่พอมีคำสั่งด่วนเข้ามา พวกเธอทั้งสามคนก็รีบมายังที่เกิดเหตุเพื่อรีบเข้าควบคุมสถานการณ์โดยทันที
ทั้งๆที่ตัวเล็กนิดเดียวแต่พึ่งพาได้มากจริงๆเลยนะคะ
「เป็นงั้นเหรอคะ? ละ
แล้วชั้นต้องทำอะไรบ้างมั๊ยคะ?」
「ปล่อยให้พวกฟิลิเน่จัดการเอง ทูรี่เน่จังก็ไปเที่ยวให้สนุกต่อได้เลยนะคะ」
ฟิลิเน่จังยึดอกตอบรับด้วยความภูมิใจ หลังจากนั้นไม่นานทหารจำนวนมากจากกองพันแวร์วูล์ฟก็ได้เข้ามารับตัวเด็กสาวคนดังกล่าวไป
จากนั้นพวกเด็กนักเรียนและผู้คนที่มามุงดูกันต่างก็พากันแยกย้ายกลับไปทำหน้าที่ของตนเองราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น....
ซึ่งเท่าที่ชั้นได้ลองสอบถามเพื่อนๆของทูเร่ดูนั้น ดูเหมือนว่าทุกๆคนจะค่อนข้างชินกับเหตุการณ์แนวๆนี้กันแล้ว
คงจะมีเพียงแต่ชั้นและครอบครัวที่พึ่งจะย้ายมาจากชนบทเท่านั้นที่ไม่ค่อยทราบเรื่องราวของประเทศนี้เท่าไหร่นัก
ก็นั่นสินะคะ พวกเราพึ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้เพียง 1 เดือนเท่านั้นเองนี่นา....
หลังจากนั้นอีกหลายวัน เนื่องจากเหตุการณ์ที่มีผู้บุกรุกเข้ามาก่อนหน้านี้
ทางกิลด์เมดจึงได้มีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในเมืองระดับสูงขึ้น
และก็เพราะเหตุนั้นเองจึงทำให้เมดในคฤหาสน์ของทัตสึยะซามะมีจำนวนไม่เพียงพอ
ตัวชั้นเองที่เป็นเมดฝึกหัดจึงได้ถูกส่งเข้าไปช่วยทำงานทั่วไปภายในคฤหาสน์
แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันนะคะ
ทั้งๆที่ได้พบหน้ากันครั้งแรก ทัตสึยะซามะก็ชวนให้ชั้นนั่งดื่มไวน์เป็นเพื่อนด้วยล่ะค่ะ.......อุว๊า!! หัวใจเต้นตึกตักไม่ยอมหยุดเลยล่ะค่ะ
นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับชั้นกันแน่นะคะเนี่ย?
สวัสดีปีใหม่นะครับ ไรท์เตอร์ ขอให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยตลอดปีนะครับ แล้วก็แต่งนิยายน่าอ่านแบบนี้ต่อเรื่อยๆ ต่อไปนะครบ
ตอบลบปล.สาวคนใหม่มาอีกแล้วและดูทรงแล้วไม่น่ารอด(ล่ะมั้ง?)
สวัสดีปีใหม่เช่นเดียวกันครับ แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามด้วยครับ
ลบทีตกลงมานี่ผู้อันเชิญสินะคับ
ตอบลบซากุระโกะครับ นักปรุงยา -0-
ลบ