ตอนที่ 29 ผู้แพ้และการลงโทษ


เห........ข้อเสนองั้นเหรอ........ถ้าเป็นสิ่งที่น่าสนใจล่ะก็น่ะ..........นั่นสินะลองว่ามาสิ

เพื่อที่จะยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อัศวินสาวที่ชื่อซูซี่ต้องการจะยื่นข้อเสนอบางอย่าง ซึ่งสำหรับตัวผมแล้วนั้น ไม่ว่าข้อเสนอจะเป็นเช่นไร หากมันเป็นสิ่งที่ผมพอจะช่วยเหลือได้ล่ะก็ ผมคิดว่ามันก็คงเป็นเรื่องดีที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกเธอที่กำลังเดือนร้อน

เพราะถึงแม้สิ่งที่พวกเธอทำจะทำให้พวกชาวเมืองและพ่อค้าที่ต้องการมาติดต่อค้าขายต้องลำบาก แต่การช่วยเหลือเด็กสาวน่ารักอย่างพวกเธอมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายอย่างผมอยู่แล้ว

แต่ว่านะ ถึงแม้มันจะเป็นอย่างนั้น การที่พวกเธอมาก่อเรื่องจนทำให้การเดทของผมกับยูเมะจังต้องถูกขัดจังหวะเนี่ย มันก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถอภัยได้เช่นกัน

ดังนั้นหากเรื่องทั้งหมดจบลงเมื่อไหร่ล่ะก็ ผมจะต้องเอาคืนพวกเธอทั้ง 5 คนให้สามสมกับความผิดที่พวกเธอได้ก่อเอาไว้อย่างแน่นอน ผมสลักความแค้นมากมายในครั้งนี้เอาไว้ใจใน จากนั้นจึงหันไปสบตากับอัศวินสาวตรงหน้าเพื่อรับฟังข้อเสนอของเธอ

เพื่อให้เรื่องทุกอย่างสามารถยุติลงได้โดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ ดิชั้นขอให้ท่านหญิงอาเรีย เมลริส ผู้ปกครองเมืองอาเมริสและอาณาเขตพื้นที่แถบนี้ ยอมรับการดวลจากพวกเราอัศวินแห่งเมืองท่ากัลน่าทั้ง 5 คนค่ะ

อัศวินสาวพูดข้อเสนอของเธอออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ถึงแม้ว่าช่วงล่างของเธอจะยังคงสั่นระริกไปด้วยความหวาดกลัว เธอก็ยังคงฝืนยืนหยัดและพูดออกมาด้วยความกล้าหาญ กับเด็กสาวที่มีจิตใจเด็จเดี่ยวแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆ

แต่ก็เพราะแบบนั้นมันจึงทำให้นิสัยเสียของผมแสดงออกมา กับเด็กสาวแบบนี้น่ะ ผมจะต้องกลั่นแกล้งจนกว่าจะทำให้เธอแสดงความอ่อนแอออกมาให้ได้

ให้ดวลกับพวกเธอทั้ง 5 คนงั้นเหรอ.........นั่นสินะ.........ถ้ามองจากจุดยืนของพวกเธอที่เป็นอัศวินก็เรียกได้ว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่เลว

หากพูดถึงการดวลแล้วล่ะก็ มันก็เปรียบเสมือนสิ่งที่ใช้ยืนยันถึงศักดิ์ศรีของเหล่าขุนนางและอัศวิน สำหรับพวกขุนนางนั้นหากเกิดข้อพิพาทที่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ล่ะก็ หลายๆครั้งพวกเค้าก็เลือกที่จะทำการดวลแทนที่จะก่อสงคราม

สงครามนั้นมีทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงแถมยังมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างมาก ในบางครั้งถึงจะเป็นฝ่ายชนะก็ยังเรียกได้ว่าขาดทุน ซึ่งหากเป็นการดวลล่ะก็ แค่เพียงสามารถหาตัวแทนที่ทำให้มั่นใจในชัยชนะมาได้ก็เพียงพอแล้ว

แต่สำหรับการดวลในครั้งนี้นั้น อีกฝ่ายได้ยื่นข้อเสนอให้อาเรียจังประลองกับพวกเธอทั้ง 5 คน ซึ่งตามปกติแล้วอาเรียจังก็มีสิทธิที่จะส่งตัวแทนออกไปรับการดวลแทน แต่การทำแบบนั้นก็จะเป็นแสดงออกถึงความไม่พร้อมของตัวอาเรียจังเองด้วยเช่นกัน

ซึ่งนั่นก็คงเป็นเป้าหมายสิ่งที่อีกฝ่ายได้เล็งเอาไว้ หากทำให้ตัวแทนที่ส่งออกมาพ่ายแพ้ได้ล่ะก็ พวกชาวบ้านให้การสนับสนุนอาเรียจังในตอนนี้ก็จะเกิดความครางแคลงใจ เพราะไม่เพียงแค่ตัวเธอไม่มีความสามารถพอเท่านั้น แต่คนที่เธอไว้ใจเองก็ยังไม่สามารถพึ่งพาได้

หรือแม้แต่ตัวแทนที่ลงไปดวลได้รับชัยชนะมาก็ตาม ผู้คนที่คิดว่าอาเรียจังซึ่งเป็นเพียงเด็กสาวอายุ 14 ปียังไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะปกครองพื้นที่ทางแถบนี้ก็คงจะมีมากขึ้น ดังนั้นข้อเสนอในครั้งนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นข้อเสนอที่ชาญฉลาดเป็นอย่างมาก

เพียงแต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเธอไม่ได้คาดการณ์เอาไว้ นั่นก็คือกับพวกเธอทั้ง 5 คนนั้น ผมคิดว่าลำพังแค่อาเรียจังในตอนนี้เพียงคนเดียวก็สามารถที่จะเอาชนะได้อย่างแน่นอนยังไงล่ะ

แต่ว่านะ............ในเมื่อเธอยื่นข้อเสนอให้ทำให้อาเรียจังต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ผมเองก็คงต้องข้อเพิ่มเงื่อนไขให้กับผู้ที่พ่ายแพ้การดวลในครั้งนี้เข้าไปเช่นกัน

อาเรียจังในตอนนี้น่ะฝีมือพัฒนาขึ้นมามาก จากเหตุการณ์ที่พวกมอนสเตอร์บุกมาโจมตีนั้น อาเรียจังไม่ได้เอาแต่คอยดูแลอยู่เบื้องหลังเท่านั้น แต่เธอยังลุกขึ้นมาจับดาบและบุกเข้าโจมตีรังของพวกมอนสเตอร์ด้วยกันกับเหล่าทหาร

นอกจากนั้นเธอก็ยังได้รับการฝึกจากไอโกะจังและสเตล่าแบบตัวต่อตัวมาด้วย สกิลดาบของเธอในตอนนี้ก็พัฒนาขึ้นไปถึง LV 4 แล้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่าอาเรียจังสามารถที่จะเอาชนะพวกเธอทั้ง 5 คนได้แน่ยังไงล่ะ

ถ้าพวกเราพ่ายแพ้..........นั่นสินะคะ........หากท่านหญิงอาเรียยอมรับการดวลที่เสียเปรียบขนาดนี้ล่ะก็...........ไม่ว่าทัตสึยะซามะหรือท่านหญิงจะต้องการสิ่งใดก็ตาม........พวกเราก็ยินดีรับข้อเสนอนั้นโดยไม่มีข้อแม้ค่ะ

ถ้างั้นก็ตกลงตามนั้น......ถ้าอาเรียจังแพ้แม้แต่ครั้งเดียวล่ะก็ พวกเราจะถอนทหารออกจากเมืองและพื้นที่ในแถบนี้ทั้งหมดโดยทันที

ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ในเมื่อพวกเธอยอมแลกด้วยทุกอย่างล่ะก็ ผมเองก็ต้องแสดงความเด็จเดี่ยวออกมาให้ทุกคนได้เห็นเช่นเดียว

จะดีเหรอคะ......ถ้าชั้นแพ้..........

อาเรียจังเดินเข้ามาพูดกับผมเบาๆด้วยท่าทางกังวล เพราะถึงแม้ฝีมือของเธอจะพัฒนาขึ้นมามากจากสมัยที่เคยฝึกฝนอยู่ในโรงเรียนอัศวิน แต่อีกฝ่ายเองก็เป็นอัศวินหญิงที่มีความสามารถ แถมยังต้องเอาชนะพวกเธอทั้งห้าคนอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อาเรียจังจะแสดงความไม่มั่นใจออกมา

อาเรียจัง ยังจำสิ่งที่ผมเคยพูดเอาไว้กับเธอได้หรือเปล่า......

อาเรียจังเงียบลงไปสักครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อตอบคำถาม

หากต้องการที่จะทำให้ความฝันของพวกเราเป็นจริงล่ะก็.........หากต้องการสร้างอนาคตที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มให้กับทุกคนบนผืนแผ่นดินนี้ล่ะก็..........มีแต่จะต้องผ่านเรื่องราวแบบนี้ไปให้ได้สินะคะ.......

อาเรียจัง เธออาจจะยังไม่มั่นใจ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะหากมีวันไหนที่เธอล้มลงล่ะก็ ผมจะเป็นคนช่วยพยุงเธอขึ้นมาเอง

ผมพูดออกไปพร้อมกับดึงตัวอาเรียจังเข้ามากอดเอาไว้อย่างอ่อนโยน ร่างกายของเธอนั้นบอบบางจนแทบจะหักพังลงได้ง่ายๆ แต่หัวใจของอาเรียจังนั้นแข็งแกร่ง หัวใจของเธอไม่ได้เปราะบางเหมือนกับร่างกาย

เพราะงั้นแม้จะมีหลายครั้งที่ไม่มั่นใจ หรือแม้จะมีหลายครั้งที่เธอทำเรื่องผิดพลาดลงไป แต่ผมก็เชื่อว่าเด็กสาวคนนี้จะสามารถอยู่เคียงข้างผมไปจนถึงวันที่ความฝันของพวกเราเป็นจริงได้อย่างแน่นอน

ถ้าเช่นนั้น ดิชั้น ซูซี่ วอน เอลแกรม ขอดวลกับท่านหญิงเป็นคนแรกค่ะ

หลังจากเตรียมการเรียบร้อยแล้ว ซูซี่อัศวินสาวผมสีทองผู้ที่เป็นคนยื่นข้อเสนอในครั้งนี้ก็ได้เดินออกมาด้านหน้าพร้อมกับดึงดาบเรเปียร์สีเงินที่ดูงดงามออกมา

ท่ามกลางหิมะที่ตกลงปรอยๆ อาเรียจังที่เตรียมตัวเรียบร้อยดึงดาบของเธอออกมา ดาบของอาเรียจังนั้นทำขึ้นมาจากเหล็กดำ นั่นจึงทำให้ตัวใบมีดมีสีดำมันวาวเป็นประกาย ความแข็งแกร่งและความคมของมันนั้นเรียกว่าไม่ด้อยไปกว่าดาบเงินเลยแม้แต่น้อย

ถึงแม้ดิชั้นจะยังไร้ประสบการณ์อยู่มาก แต่เพื่อรักษาเอาไว้ซึ่งเกรียติยศของทัตสึยะซามะแล้ว ในวันนี้ชั้นคงจะต้องขอรับเอาชัยชนะไปนะคะ

อาเรียจังพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม เธอค่อยๆเดินเข้าไปใกล้อัศวินสาวซูซี่ก่อนจะเปิดการโจมตีก่อนด้วยความรวดเร็ว คมดาบที่แหลมของอาเรียจังตวัดเข้าไปใส่อัศวินสาวอย่างแม่นยำโดยไม่ลังเล

สำหรับการดวลนั้นมีกฎง่ายๆอยู่เพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น นั่นก็คือหากทำให้อีกฝ่ายยอมแพ้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็จะได้รับชัยชนะในทันที หรือหากไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายยอมแพ้ได้ก็มีแต่ต้องทำให้สลบหรือพรากเอาชีวิตของอีกฝ่ายมาให้ได้เท่านั้น

เกร๊งงง...!

อัศวินสาวซูซี่เบิกตากว้างก่อนจะใช้เรเปียร์ในมือของเธอเบี่ยงดาบของอาเรียจังออกไปได้ทันก่อนที่จะถูกโจมตี ถ้าหากเธอเคลื่อนไหวช้ากว่านี้อีกเพียงไม่กี่วินาทีล่ะก็ ชีวิตของเธออาจจะต้องจบลงไปแล้วก็เป็นได้

อาเรียจังไม่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งตัว เธอใช้เท้าข้างหนึ่งถีบพื้นเพื่อกลับตัวด้วยความรวดเร็ว จากนั้นจึงตวัดดาบเข้าโจมตีใส่จุดบอดของคู่ต่อสู้ที่กำลังเสียหลักซ้ำอย่างต่อเนื่อง

อุ!!?

อัศวินสาวซูซี่ที่กำลังเสียหลักรีบตวัดข้อมือเพื่อตั้งรับ ด้วยความยาวของดาบทำให้เธอไม่อาจจะพลิกกลับมาโจมตีได้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่ทำการตั้งรับ เธอพยายามปัดป้องดาบเหล็กดำของอาเรียจังที่ถาโถมเข้าใส่อย่างเชี่ยวชาญ

แต่เพราะเธอให้ความสนใจกับดาบในมือของอาเรียจังมากเกินไปจึงทำให้ติดกับ นั่นก็เพราะการดวลนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องโจมตีด้วยดาบเพียงเท่านั้น อาเรียจังใช้การโจมตีที่รวดเร็วหลอกล่อจนอีกฝ่ายเสียสมดุล

ก่อนจะฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายกำลังจดจ้องอยู่กับดาบที่รวดเร็วย่อตัวลงและเตะเข้าที่ข้อเท้า การถูกโจมตีที่ข้อเท้าในครั้งนี้ทำให้อัศวินสาวซูซี่ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ต่อไปได้และล้มลงไปกับพื้น

หากเป็นปกติเธออาจจะสามารถกลิ้งหลบและหาจังหวะในการลุกขึ้นยืนได้ในทันที เพียงแต่รองเท้าเหล็กที่เธอสวมใส่มันไม่เพราะกับการต่อสู้บนพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ดังนั้นหากล้มลงไปแล้วครั้งหนึ่งล่ะก็ การที่เธอจะลุกขึ้นมาต่อสู้ต่อก็จำเป็นต้องเสียเวลาอย่างมาก

ซึ่งแน่นอนว่าอาเรียจังไม่พลาดโอกาสในครั้งนี้ เธอพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับตวัดดาบในมือเข้าใส่ร่างกายของคู่ต่อสู้ที่แทบจะไร้การปกป้องกันด้วยความรวดเร็ว แต่สิ่งที่อาเรียจังเล็งเอาไว้นั้นไม่ใช่การเอาชีวิตคู่ต่อสู้.......

 เอ๊ะ!!??................วะ ว๊ายยย!!!???

หลังจากนั้นไม่นานอัศวินสาวซูซี่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา และเมื่อเธอรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น เสียงกรีดร้องของเด็กสาวในสภาพที่เสื้อผ้าและชุดเกราะของเธอถูกตัดจนขาดกระขายเป็นชิ้นๆก็ดังก้องไปทั่วบริเวณ

ทำไมอาเรียจังถึงต้องทำแบบนี้น่ะเหรอ.........นั่นก็เพื่อเป็นการลงโทษพร้อมทั้งชดใช้ให้กับทุกคนเดือดร้อน......แน่นอนว่าผมกับยูเมะจังที่ต้องมาถูกขัดจังหวะเพราะการกระทำก่อนหน้านี้ของเธอก็ด้วยเช่นกัน........

ซูซี่จัง.....ก่อนหน้านี้ผมยังไม่ได้บอกเงื่อนไขหากเธอแพ้การดวลสินะ เอาเป็นว่าเธอต้องอยู่ในสภาพนี้ไปจนกว่าผมจะพอใจก็แล้วกันนะ

ผมเดินเข้าไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเด็กสาวที่กำลังใช้มือทั้งสองปิดบังร่างกายเปลือยเปล่าของเธอด้วยรอยยิ้ม...........

5 ความคิดเห็น:

  1. รอบนี้เทพทัตเหมาที 5 คนเลยหรอคับ หรือเอาแค่ซูซี่คนเดียว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คงพาซูซี่กลับเมืองหลวงไปแค่คนเดียวครับ
      ส่วนคนอื่นๆต้องรอดูกันต่อไป

      ลบ
  2. เจ้าอากิโอะนี่เลือกหญิงนะ แต่เจ้าทัตนีก็เลือกเหมือนกันแต่หญิงมีให้มันเลือกเยอะกว่าเจ้าอากิซะอีก

    ตอบลบ