ตอนที่ 3 การเดินทางบนฟากฟ้า


อาหารเช้าที่คาโอริจังและเด็กสาวคนอื่นๆช่วยกันทำคือแซนด์วิช เหตุผลที่เป็นแซนด์วิชนั้นนอกจากสามารถตระเตรียมเป็นจำนวนมากได้ง่ายก็คือวันหมดอายุ ขนมปังที่พวกเราขนขึ้นมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้นใกล้จะหมดอายุแล้ว

เพราะเหตุนั้นดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องกินแซนด์วิชไปอีกหลายมื้อ ตามจริงต่อให้ต้องกินแซนด์วิชไปตลอดทั้งเดือนผมก็ไม่บ่นหรอก ในสถานการณ์แบบนี้แค่มีกินผมว่าก็ดีมากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนคาโอริจังจะใส่ใจเรื่องสารอาหารที่พวกเราควรจะได้รับมากพอดู เอาเถอะปล่อยให้เธอจัดการไปก็แล้วกัน

อร่อยสุดยอดเลยนะคาโอริจัง สมกับที่ชิซึกุคุยไว้เลย

ผมกำลังทานอาหารเช้าร่วมกันกับคาโอริจังและเด็กสาวหลายคนในร้านกาแฟที่ผมมาคุยกับพวกเซลฟีน่าจังเมื่อวาน เหตุผลที่เป็นที่นี่นั้นส่วนหนึ่งก็เพราะทำความสะอาดได้ง่าย

ถ้าไม่พอล่ะก็บอกได้นะคะ

คาโอริจังใช้ริมฝีปากเล็กๆของเธอค่อยๆทานทีละนิดอย่างสุภาพ และเพราะมัวแต่แอบมองเธออยู่เลยทำให้ซอสเลอะซะได้

ถ้าอยากจะแอบดูชั้นล่ะก็ เมื่อไหร่ก็ยินดีนะคะ

ในขณะที่ผมกำลังจะหยิบกระดาษทิชชู่ก็ถูกคาโอริจังตัดหน้าซะก่อน

คาโอริจังใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดปากและแก้มที่เลอะของผมอย่างอ่อนโยน นี่ถ้าหากว่าผมไม่ได้มีแฟนอยู่แล้วคงจะต้องหลงเสน่ห์เธอเป็นแน่ แต่ถึงจะพูดไปแบบนั้นผมก็ไม่คิดจะปฏิเสธความหวังดีของเธอ การที่ถูกเด็กสาวสวยอย่างเธอมาเช็ดปากให้เนี่ยมันเป็นความฝันของผู้ชายทุกคนใช่ไหมล่ะ

หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็มาเตรียมพร้อมอยู่ที่บริเวณประตูทางออกของห้าง กลุ่มของเซลฟีน่านั้นดูเหมือนว่าจะเตรียมตัวพร้อมแล้ว ในครั้งนี้ดูเหมือนพวกอัศวินจะใช้วิธีเดินเท้าแทน นกเจลโล่ทั้ง 13 ตัวถูกใช้ในการขนสัมภาระของพวกทหารรับจ้างที่เข้ามาโจมตี

พวกเราจะไปกันยังไงเหรอคะ

ชิซึกุที่เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยเข้ามาสมทบที่ประตูทางออก

การเดินทางในครั้งนี้พวกเราจะไปกัน 2 ปาร์ตี้ นั่นก็คือปาร์ตี้ของผมและชิซึกุ ในตอนแรกผมกะว่าจะไปกันแค่ 6 คน แค่เฉพาะปาร์ตี้ของผมเท่านั้น เพียงแต่ว่าชิซึกุและอีกหลายๆคนอยากจะไปเที่ยวเมืองในต่างโลกด้วยน่ะสิ

ถ้าหากได้เที่ยวอย่างสนุกสนานในโลกแห่งนี้มันก็เป็นเรื่องที่ดีใช่ไหมล่ะ อีกอย่างพวกเธอน่ะเหนื่อยกันมามากแล้ว ไหนจะเรื่องการต่อสู้ติดต่อกันมาหลายวัน เมื่อคืนเองพวกเธอก็ช่วยกันจัดงานเลี้ยงเพื่อผม เพราะงั้นผมก็เลยกะว่าจะให้พวกเธอได้พักผ่อนและเที่ยวสนุกสนานกันบ้าง

สุดท้ายเลยตกลงกันว่าจะไปกันทั้งหมด 10 คน ปาร์ตี้ของผมก็จะมียูเมะจัง ฮารุกะจัง เคย์โกะจัง และมายุจัง ส่วนปาร์ตี้ของชิซึกุก็มีคาโอริจัง ไอริจัง ไอโกะจัง และยูกะจัง

สำหรับยูกะจังนั้นเธอเป็นเด็กสาวที่สามารถใช้เวทมนต์น้ำแข็งเป็นวงกว้างได้ เพราะงั้นการเดินทางในคราวนี้ต่อให้เจอกองทัพมอนสเตอร์ผมก็คิดว่าพวกเราน่าจะสามารถจัดการได้สบายๆ

พี่ให้ฮารุกะจังไปจัดการอยู่ แต่เด๋วคงจะมาแล้วล่ะ

ถ้าหากเดินทางกันด้วยเท้าล่ะก็กว่าจะถึงเนี่ยคงจะเสียเวลาน่าดู เพราะงั้นผมจึงจะใช้ประโยชน์จากสกิลของฮารุกะจัง นั่นก็คือ Dimension Home สกิลนี้จะสามารถเปิดประตูมิติเพื่อนำสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตต่างๆ เข้าไปอยู่ภายในห้องที่ถูกเวทมนต์สร้างขึ้นได้

เวลาภายในห้องนั้นจะเหมือนกับด้านนอก ซึ่งพอฮารุกะจังเดินไปไหนห้องว่างมิตินี้ก็จะติดตามเธอไปด้วย มันช่างเป็นเวทมนต์ที่สะดวกในการเคลื่อนย้ายคนจำนวนมากซะจริง และเพราะเหตุนั้นผมเลยให้ฮารุกะจังและไอริจังรวมถึงเด็กสาวอีกหลายคนไปช่วยกันเตรียม

การเตรียมที่ว่านั้นคือเตรียมเฟอร์นิเจอร์และของใช้ที่จำเป็นต่างๆภายในห้องว่างมิติ เนื่องจากเรามีพวกลูกขุนนางอยู่ การจะให้พวกเค้ายืนตลอดหรือนั่งพื้นนั้นดูจะไม่เหมาะ ดังนั้นผมเลยให้พวกเธอช่วยจัดเตรียมพวกโต๊ะเก้าอี้และโซฟาเอาไว้ให้

ระ เรียบร้อยแล้วค่ะ ทัตสึยะซัง

หลังจากนั้นไม่นานฮารุกะจังก็มาถึง ชิซึกุยังคงทำหน้าสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ถ้างั้นก็เหลือแค่ยูเมะสินะ…….ดูเหมือนจะมาพอดีเลยนี่นะ

ผมแหงนหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า บริเวณปลายฟ้าห่างไกลออกไปนั้น มีนกตัวใหญ่กำลังบินมา.....ไม่ใช่สิมันเรียกว่ากริฟฟอนต่างหาก

ขอโทษที่มาช้าค่ะ ทัตสึยะซัง

ยูเมะจังลงจอดที่ลานกว้างหน้าห้างและวิ่งมาหาผม นอกจากเธอแล้วยังมีเด็กสาวอีกหลายคนกระโดดลงมาจากหลังกริฟฟอนสองตัวนั้นด้วย ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเสร็จสิ้นการอัพเลเวลกลับมาอย่างปลอดภัย

พวกอัศวินของเซลฟีน่าและพวกทหารรับจ้างที่ถูกมัดอยู่ต่างแตกตื่นกันใหญ่ ดูเหมือนพวกเค้าจะไม่ค่อยได้เจอกับกริฟฟอนล่ะมั้ง

ชิซึกุพวกเราจะไปกันด้วยเจ้าพวกนั้นน่ะ

ผมชี้ไปยังกริฟฟอนทั้งสองตัวที่ลานกว้างเพื่อตอบคำถามของน้องสาว

เอ๋ แต่ว่าพวกเรามีกันตั้งเยอะนี่คะ กริฟฟอนของยูเมะซังมีแค่ 2 ตัวเอง

เพราะงั้นพี่ก็เลยต้องใช้สกิลของฮารุกะจั.....

เข้าใจแล้วค่ะ Dimension Home สินะคะ เป็นอย่างนี้นี่เอง ยอดไปเลยนะคะ

ยังไม่ทันพูดจบชิซึกุก็ทำหน้าเข้าใจด้วยแววตาเปล่งประกาย ก็ตามที่เธอพูดกริฟฟอนที่ยูเมะจังเรียกออกมาได้นั้นมีเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ทุกคนเข้าไปอยู่ในห้องว่างมิติ และให้ฮารุกะจังขึ้นไปขี่กริฟฟอนเพื่อพาไปยังเมืองเวลล่า ด้วยวิธีนี้ถึงแม้เมืองเวลล่าจะอยู่ห่างไปเกือบ 40 กิโลเมตร ก็คงใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก

เซลฟีน่า คือผมอยากจะขอยืมใครซักคนสำหรับนำทางน่ะ

หลังจากพวกชิซึกุและคนอื่นๆเข้าไปยังห้องว่างมิติเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินเข้าไปหากลุ่มอัศวินและเซลฟีน่า

เอ่อคือจะไม่เดินทางไปด้วยกันเหรอคะ...

อ๊ะ!! โทษทีผมยังไม่ได้อธิบายสินะ

ผมค่อยๆอธิบายวิธีการเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ให้เธอฟัง

กะ กริฟฟอน.....นี่ชั้นจะ จะต้องขะ ขึ้นขี่เจ้านี่ งะ งั้นเหรอ คะ

พออธิบายจบเซลฟีน่าก็พาพวกอัศวิน สัมภาระและพวกทหารรับจ้างที่ถูกจับมัดอยู่เข้าไปยังห้องว่างมิติ ส่วนตัวแทนสำหรับนำทางนั้นก็คืออัศวินสาวที่ผมเต้นรำด้วยเมื่อคืน ยัยเซ่อ....โรน่าจังนั่นเอง

เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้กริฟฟอนเท่านั้นโรน่าจังก็ตัวสั่นใหญ่ หรือเธอจะกลัวความสูงกันนะ

ไม่ต้องกลัวไปหรอกน่า ถึงจะสูงแค่ก็ไม่มีทางตกลงมาหรอก

ชะ ชั้นไม่ได้กลัวนะคะ!!

โรน่าจังตอบกลับด้วยเสียงอันดัง ถึงเธอจะพูดแบบนั้นแต่ขาเธอกำลังสั่น ให้ตายสิถ้ากลัวก็บอกตรงๆก็ได้นี่นา

โทษทีนะยูเมะจัง ครั้งนี้ผมคงต้องขี่ไปกับยัยอัศวินเซ่อนี่ซะแล้วล่ะ

ตอนแรกผมกะว่าจะได้สวีทกับยูเมะจังบนหลังกริฟฟอนระหว่างเดินทาง แต่เพราะยัยเซ่อนั่นเลยทำให้ผมต้องเปลี่ยนแผน

อย่าเผลอไปลวนลามเธอเข้านะคะ

ยูเมะจังตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนเช่นเคย ด้วยนิสัยของยูเมะจังแล้วต่อให้ผมไปลวนลามเด็กสาวคนอื่นซักกี่คนเธอก็คงจะไม่โกรธ เพราะงั้นที่เธอพูดเรื่องนี้ออกมาคงจะเป็นเพราะว่า เธอเป็นห่วงในความสัมผัสของพวกเรากับเซลฟีน่าในอนาคตนั่นล่ะ

ไม่ต้องห่วงนะยูเมะจัง ถ้าจะทำเรื่องอย่างว่าบนฟากฟ้าน่ะ ผมจะต้องทำกับเธอเป็นคนแรกแน่นอน...

ผมเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของยูเมะจังเบาๆ ถึงแม้จะทำอะไรแบบนั้นกันหลายครั้งแล้ว แต่ยูเมะจังก็ยังคงมีทีเขินอายอยู่เสมอ ให้ตายสิยัยเซ่อโรน่า ที่ทำให้ผมต้องพลาดเรื่องแบบนี้ไปผมจะต้องเอาคืนกับเธอแน่

หลังจากผมกับโรน่าจัง และยูเมะจังกับฮารุกะจังขึ้นไปขี่หลังกริฟฟอนแล้ว พวกมันก็เริ่มกางปีกออกและกระโดดขึ้นสู่ฟากฟ้า

อิย๊า!!!

โดยไม่สนเสียงร้องของเธอพวกเราก็เริ่มออกเดินทางและมุ่งสู่เมืองเวลล่า

ทิวทัศน์ที่ได้เห็นจากบนหลังกริฟฟอนไปยังด้านล่างนั้น ไม่ว่าใครหากได้มาต่างโลกก็ต้องอยากลองกันซักครั้ง ความงดงามของป่าไม้และเนินเขาที่ค่อยๆผ่านสายตาไปนั้นเรียกได้ว่าไร้ที่ติ ถึงจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่คิดแบบนั้นก็ตาม

โรน่าจังเข้ามากอดผมแน่น ดูเหมือนเธอจะหวาดกลัวความสูงเป็นอย่างมาก และเพราะเป็นแบบนั้นทำให้แผ่นหลังของผมถูกหน้าอกขนาดพอดีมือของเธอโจมตีเข้าเต็มๆ ความอ่อนนุ่มของหน้าอกเด็กสาวที่ไม่เคยมีชายใดได้สัมผัสมาก่อนนั้นให้ความรู้สึกดีไม่เบา

ถึงแบบนั้นผมก็ยังไม่ยอมยกโทษให้เธอง่ายๆหรอกนะ ซักวันนึงผมจะต้องเอาคืนกับเธออย่างสาสม ผมคิดเรื่องที่จะทำกับเธอหลายๆอย่างเอาไว้ในใจ

หลังจากนั้นประมาณ 20 กว่านาทีพวกเราก็มองเห็นเมืองเวลล่า เพียงแต่เมืองเวลล่าที่พวกเราเห็นจากบนฟากฟ้านั้น ดูเหมือนกำลังย่ำแย่เพราะถูกมอนสเตอร์จำนวนมากเข้าโจมตีอยู่....

ไอ้ความคิดที่จะให้น้องสาวและเพื่อนๆของเธอได้มาเที่ยวพักผ่อนในเมืองแฟนตาซีต่างโลกนั้นดูเหมือนจะพังทลายลงเสียแล้ว...

2 ความคิดเห็น: