รุ่งเช้าของวันที่
26 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 837
-- มุมมองของทัตสึยะ --
หลังจากที่ผมใช้เวลา
3 วัน 3 คืนในการช่วยเปลี่ยนถ่ายมานา และสามารถคลายคำสาปภายในร่างกายของรูริโกะได้สำเร็จ
ด้วยความอ่อนล้าทำให้พวกเราทั้งสองคนหลับยาวต่อเนื่องไปถึง 1 วันกับ 2 คืนเต็มๆ
「อรุณสวัสดิ์....โอ...โอนี่ซามะ」
ตัวผมที่ตื่นขึ้นมาก่อนนั้น เนื่องจากความเป็นห่วงผมจึงได้คอยกุมมือ และคอยอยู่ข้างๆรูริโกะตลอดเวลา
และเมื่อรูริโกะลืมตาขึ้นมา เธอก็ได้ทักทายผมในทันที ด้วยน้ำเสียงที่ดูน่ารักสดใสของเธอนั้น
ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
「ถ้ายังไม่หายเหนื่อยก็นอนต่อไปก่อนก็ได้นะ
พอถึงเวลาอาหารเช้าแล้วพี่จะมาปลุกเอง」
ผมพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงแม้คำสาปจะหายไปแล้ว
แต่ร่างกายของรูริโกะก็ยังไม่ได้ฟื้นคืนกลับมาเต็มที่ สภาพจิตใจของเธอเองก็ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
นอกจากนั้นแล้ว
ความทรงจำในช่วงตั้งแต่ที่เธอถูกอัญเชิญมาจนถึงได้มาพบกับตัวผมเองก็ยังค่อนข้างสับสนและเลือนรางไปอย่างมาก
「ถ้าเอาแต่นอนแบบนี้ล่ะก็ สภาพร่างกายคงไม่ดีขึ้นหรอกค่ะ
เพราะงั้นให้นู๋ได้ได้ออกไปเดินเล่นสักเล็กน้อยน่าจะช่วยให้ฟื้นตัวได้ดีขึ้นมากกว่านะคะ
โอนี่ซามะ」
แตกต่างจากที่ผมคิด
ดูเหมือนว่ารูริโกะอยากจะออกไปเดินเล่นมากกว่าที่จะเอาแต่นอนพักผ่อนอยู่บนเตียง
แน่นอนว่าในฐานะพี่ชายแล้ว ผมก็มีหน้าที่ที่จะต้องคอยช่วยสนับสนุนรูริโกะ เพราะงั้นผมจึงตอบตกลงกลับไป
「อุว๊า สวนกลางคฤหาสน์ที่นี่สวยมากเลยนะคะ
ดอกไม้แปลกๆเต็มไปหมดเลย.....แล้วนั่นมันตัวอะไรงั้นหรือคะ โอนี่ซามะ」
หลังจากตัดสินใจได้
ผมก็พารูริโกะออกมาจากห้องใต้ดินและพาเธอไปยังสวนดอกไม้ซึ่งอยู่ตรงกลางคฤหาสน์
「เจ้าตัวปุกปุยนั่นสินะ เจ้านั่นเป็นสัตว์เลี้ยงที่พวกเผ่าโลลิเทียเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้ผลิตน้ำหวาน
พวกมันมีชื่อว่า โมฟุริ」
ผมอธิบายถึงเจ้าสัตว์เลี้ยง โมฟุรุให้กับรูริโกะฟัง เจ้าโมฟุรินั้นเป็นสัตว์กินดอกไม้ที่มีรูปร่างกลมๆและมีขนหลากสีฟูฟ่อง
เมื่อพวกมันกินดอกไม้และได้รับแสงแดเพียงพอแล้ว
พวกมันก็จะมีดอกไม้หลากสีสันบานออกมาบนหัว ซึ่งเจ้าดอกไม้บนหัวของมันเนี่ยแหละที่เผ่าโลลิเทียใช้ในการสกัดเอาน้ำหวานคุณภาพสูงออกมา
「ทัตสึยะซามะ ทัตสึยะซามะ คุณโมฟุริของฟิลิเน่มีดอกไม้บานออกมา
4 ดอกเลยนะคะ!! ดูสิคะ!! ดูสิคะ!!」
เมื่อพวกเราเดินเข้าไปในสวน
เมดโลลิที่ชื่อฟิลิเน่ก็อุ้มเจ้าโมฟุริตัวอ้วนสีขาวขึ้นมาให้ผมดูพร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้า
เนื่องจากเธอน่ารักมากผมจึงลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน ส่วนรูริโกะที่อยู่ข้างๆผมดูจะสนใจเจ้าโมฟุริมากกว่า
เธอยื่นมือไปลูบคลำเจ้าโมฟุริสีขาวอย่างไม่ลังเล
มันเป็นเรื่องปกติของพวกเด็กสาวที่ส่วนใหญ่มักจะชอบสัตว์เลี้ยงตัวปุกปุยน่ารักๆพวกนี้
ซึ่งก็เป็นเพราะเหตุผลนั้นเองที่ทำให้ผมตัดสินใจนำพวกมันมาเลี้ยงเอาไว้ภายในสวนกลางคฤหาสน์แห่งนี้
ยูเมะจังและฟลอร่าก็ชื่นชอบเจ้าโมฟุริพวกนี้มาก พวกเธอจะมาช่วยแปรงขนพวกมันอยู่เสมอๆในทุกๆเช้า
「มาเรีย ผมจะทานอาหารเช้าที่นี่
ช่วยเตรียมให้ด้วยนะ」
「ชั้นจะรีบไปจัดเตรียมในทันทีเลยค่ะ นายท่าน」
หลังจากที่ผมแนะนำรูริโกะให้กับฟิลิเน่และเหล่าเมดโลลิเพื่อนๆของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว
และก็เนื่องจากรูริโกะกำลังสนุกสนานกับการเดินเล่นและพูดคุยกับเหล่าเมดโลลิ
ผมจึงตัดสินใจที่จะทานอาหารเช้าที่นี่
「รูริโกะซังดูจะแข็งแรงดีแล้วนะคะ」
ในระหว่างที่ผมกำลังดื่มชาองุ่นและนั่งมองรูริโกะอยู่นั้น ยูเมะจังก็เข้ามาทักทายผมด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนโยนเหมือนกับทุกที
ยูเมะจังเองแม้จะงานยุ่งมาก แต่เธอก็ยังคอยเป็นห่วงรูริโกะอย่างมากไม่ต่างจากผม เพราะงั้นผมจึงชวนให้ยูเมะจังให้มาทานอาหารเช้าร่วมกับพวกเรา
「ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ....ภรรยาของโอนี่ซามะ...ยูเมะซัง」
หลังจากที่ทั้งสองแนะนำตัวกันแล้ว พวกเราก็เริ่มทานอาหารเช้า
รูริโกะแสดงอาการเกร็งออกมาเล็กน้อยเมื่อเธอได้รู้ว่ายูเมะจังนั้นได้แต่งงานและเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการของผมแล้ว
「ไม่ต้องห่วงนะคะ
ชั้นไม่เคยคิดจะแย่งโอนี่ซามะไปจากรูริโกะซัง เพราะงั้นก็ทำตัวตามสบาย
หรือถ้ามีอะไรไม่สะดวกตรงไหนก็มาปรึกษาชั้นได้เสมอเลยนะคะ」
แต่ด้วยความสามารถในการเข้ากับคนอื่นของยูเมะจัง
เพียงแค่ได้พูดคุยกันไม่นานนัก พวกรูริโกะก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลง
พวกเธอทั้งสองดูเข้ากันได้เป็นอย่างดี ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก
ยูเมะจังทำหน้าที่ได้สมกับที่เป็นภรรยาอันดับ 1 ของผมจริงๆ
หลังจากอาหารเช้า
มาเรียจังก็ได้มารายงานเรื่องสำคัญต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผมคลายคำสาปให้กับรูริโกะในห้องใต้ดิน
โดยเรื่องๆหลักๆนั้นก็คือเรื่องที่มีคนร้ายบุกมาเข้าโจมตีคฤหาสน์ของเรา และถึงแม้มาเรียจังทุ่มกำลังติดตามจับกุมอย่างเต็มที่แล้ว
แต่ดูเหมือนว่าจะมีหลายคนที่สามารถหนีไปได้
「ถึงแม้พวกเราจะทดลองใช้ทั้งเวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์และยาแก้สาปหลากหลายชนิด
แต่ก็ยังไม่สามารถยื้อชีวิตคนอื่นๆนอกเหนือจากเด็กสาวคนหนึ่งที่น่าจะเป็นผู้กล้าเอาไว้ได้
แถมยังปล่อยให้พวกคนร้ายหนีรอดไปได้ตั้งหลายคน กับความไร้สามารถของชั้นในครั้งนี้ ชั้นอยากจะขอให้นายท่านลงโทษด้วยค่ะ」
มาเรียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แต่แววตาของเธอดูเศร้าสลดอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งมันก็จริงอยู่ที่เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของเธอ
แต่ผมก็ไม่คิดว่าสิ่งที่มาเรียได้ตัดสินใจทำลงไปนั้นเป็นเรื่องที่ผิด
ยิ่งในช่วงงานเทศกาลที่มีผู้คนจากนานาประเทศเดินทางเข้ามาอย่างมากมายนั้น
ทั้งกองอัศวินและหน่วยเมดติดอาวุธต่างก็มีภาระงานยุ่งยากมากมายจนแต่ละคนแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อนด้วยซ้ำ
แถมในครั้งนี้ศัตรูที่บุกเข้ามาก็ยังเป็นผู้กล้าต่างโลกที่พวกเราไม่สามารถคาดเดาทักษะสกิลและความสามารถต่างๆของพวกนั้นได้
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่การรับมือจะยุ่งยากตามไปด้วย
โดยจากรายงานที่ผมได้ลองอ่านดูนั้น ศัตรูในครั้งนี้ได้ใช้ทั้งเวทมนต์อัญเชิญมังกร
และยังมีการใช้ยาแปลกๆที่ช่วยเพิ่มความสมรรถภาพในการฟื้นฟูแถมยังเสริมพลังกายภาพขึ้นสูงกว่ามนุษย์ทั่วไปอีกหลายเท่า
ดังนั้นหากลองคิดทบทวนดูแล้ว ผมคิดว่าผลงานของมาเรียในครั้งนี้ควรจะได้รับคำชมเชยเสียมากกว่า
และสำหรับพวกที่หนีไปได้นั้น การจะไล่ตามค้นหาตัวพวกนั้นที่หลบซ่อนอยู่ในป่ามายาก็แทบจะเป็นไปไม่ได้
กับป่ามายาที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์จำนวนมากนั้น ถึงจะเป็นสกิลค้นหา Search เองก็ยังยากจะแยกแยะ ดังนั้นมันจึงไม่แปลกเลยถ้ามาเรียจะล้มเหลวในการออกค้นหา
นอกจากนั้นแล้ว....
「มาเรีย....」
ผมดึงตัวมาเรียเข้ามาใกล้ จับเธอนั่งลงบนตักของผมช้าๆ โอบกอดเธอเบาๆอย่างโยน
ก่อนจะพูดออกไปด้วยท่าทางจริงจัง
แน่นอนว่าผมพยายามปรับน้ำเสียงให้ดูอ่อนโยนมากที่สุด
「มาเรีย เธอทำได้ดีมากแล้วนะ ผมยังคิดว่าเธอทำงานมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ
เพราะงั้นถ้าหากมีใครคิดจะต่อว่าเธอกับเรื่องนี้ล่ะก็
ผมจะตามไปเตะก้นพวกมันด้วยตัวเอง นอกจากนั้นแล้ว....ร่างกายของเธอในตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นของเธอเพียงคนเดียวแล้วด้วยนะ」
ผมพูดพร้อมกับลูบที่หน้าท้องของมาเรียจังเบาๆ ซึ่งนั่นทำให้มาเรียประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เพราะเธอยังไม่ได้เอ่ยปากรายงานเรื่องนี้กับผม.....ใช่แล้วล่ะ.....ในตอนนี้มาเรียได้ตั้งท้องลูกของผมอยู่
「นะ นายท่าน ชะ
ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนะคะ.....」
มาเรียจังพูดออกมาด้วยท่าทางลุกลน
เธอดูจะตกใจมากที่ผมรู้เรื่องนี้ได้ และเนื่องจากท่าของเธอมันน่ารักมาก
ผมจึงทนไม่ไหวและจูบลงที่แก้มของเธอเบาๆ สำหรับเรื่องนี้แล้ว เอริจังเป็นคนบอกกับผมด้วยตัวเองในช่วงที่ผมกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องใต้ดินตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว
「มาเรีย ตั้งแต่นี้ผมคิดว่าเธอควรจะต้องสนใจสุขภาพร่างกายของเธอมากกว่าเรื่องอื่นๆ
เพราะงั้นผมขอสั่งห้ามไม่ให้เธอออกงานภาคสนาม หรืองานอะไรที่จะสร้างภาระหนักให้กับร่างกาย
ส่วนหน้าที่สำคัญของเธอทั้งหมดให้คูเซียรับหน้าที่แจกจ่ายงานแทน เข้าใจนะ」
「ข เข้าใจแล้วค่ะ นายท่าน....」
「ชั้นจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ」
หลังจากสั่งการเรื่องต่างๆและให้มาเรียไปพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว ผมก็ออกไปส่งพวกสาวๆที่กำลังจะไปเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลให้กับการแข่งขันในประเภทต่างๆ
ยูเมะจังจะไปเข้าร่วมเป็นกรรมการในงานประกวดนักเขียนหน้าใหม่ ฮารุกะจังกับเจ้าหญิงคริสติน่าจะไปมอบรางวัลให้กับผู้ชนะในงานประลองอาวุธและเวทมนต์
คาโอริจังจะไปมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดน้องเมดยอดนิยม
ยูฟีน่าจะไปมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการแข่งขันเชฟของหวาน
พวกสาวๆคนอื่นๆเองก็พาแยกย้ายกันไปยังงานประกวดอื่นๆอีกมากมาย
ส่วนตัวผมนั้นจะตามพวกเธอไปทีหลัง นั่นก็เพราะในตอนนี้ผมต้องการที่จะพารูริโกะไปพบกับเพื่อนร่วมห้องของเธอ
ซึ่งก็คือหนึ่งในผู้กล้าที่ถูกมาเรียจับตัวมาได้ในช่วงที่พวกนั้นบุกเข้ามาโจมตีคฤหาสน์เสียก่อน
「ซะ ซากุระโกะจัง!!!」
เมื่อมาถึงยังห้องใต้ดิน รูริโกะก็รีบวิ่งเข้าไปหาเด็กสาวที่มีชื่อว่าซากุระโกะในทันที
「อ๊า อร๊า!!!」
แต่ในทันทีที่รูริโกะแตะตัวซากุระโกะ ออร่าสีดำก็เอ่อล้นออกมา ซากุระโกะในสภาพย่ำแย่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน
「โอ โอนี่ซามะ!! ได้โปรดช่วยซากุระโกะด้วยเถอะนะคะ!!」
「รูริ พี่จะช่วยซากุระโกะจังให้ได้อย่างแน่นอน
แต่การจะช่วยเหลือเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆและยังต้องมีการเตรียมการที่ยุ่งยาก....」
หลังจากนั้นผมก็อธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับคำสาปและวิธีการช่วยเหลือที่เอริจังเป็นคนคิด
แต่เนื่องจากผมได้เสียเวลาไปมากกับการช่วยเหลือรูริโกะ และผมก็ได้ละทิ้งหน้าที่ในฐานผู้ปกครองอาณาจักรไป
ดังนั้นผมคิดว่าควรจะรอจนกว่าผมจะสามารถจัดการงานต่างๆที่ค้างเอาไว้ได้สิ้นเสร็จเสียก่อน
「ถะ ถ้าหากเป็นการเปลี่ยนถ่ายมานาแบบเดียวกับที่โอนี่ซามะทำกับนู๋ล่ะก็...」
รูริโกะพูดออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ถึงแม้ความทรงจำส่วนใหญ่ของเธอหลังจากมาถึงโลกนี้จะค่อนข้างเลือนราง
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถจดจำเรื่องที่พวกเราทำในช่วงการเปลี่ยนถ่ายมานาได้เป็นอย่างดี......
「โอนี่ซามะ ถ้าหากใช้พรผู้กล้า『โลกแห่งความฝัน』ที่สามารถเข้าไปจัดการควบคุมมานาภายในร่างกายของผู้อื่นได้โดยตรงแล้วล่ะก็
การจะเปลี่ยนถ่ายมานาน่าจะทำได้ง่ายกว่าวิธีที่โอนี่ซามะใช้นะคะ....」
พรผู้กล้า『โลกแห่งความฝัน』งั้นเหรอ.....
เนื่องจากผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพรผู้กล้าของรูริโกะ ผมจึงได้เรียกเอริจังมาปรึกษา
และพวกเราก็ได้สรุปว่าจะให้รูริโกะทำการทดลองการเปลี่ยนถ่ายมานาให้กับซากุระโกะซังโดยมีเอริจังเป็นคอยช่วยดูแลควบคุมอีกที
ซึ่งถ้าหากรูริโกะสามารถทำให้มันสำเร็จได้ด้วยดีล่ะก็
ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะสามารถช่วยชีวิตผู้คนคนจำนวนมากที่ต้องสูญเสียไปเพราะโดนคำสาปแบบเดียวกันได้ก็เป็นได้
อัยยะ เทพทัตมีน้ำยากับเขาเหมือนกันนี่หว่า กะแล้วว่าต้องเป็นมาเรียคนแรกแน่ๆ ที่ป่อง
ตอบลบปล.ลูกรักคนแต่งป่ะครับนี่ แต่ยังไงผมก็ชอบมาเรียนะ ดูน่ารักแบบโดนใจดี
มาเรียเป็นมาสคอตของเรื่องนี้นะครับ 5555
ลบไอ้ทัต!!! ยสตน มาเรียจังไปกี่รอบ ระเบิดตายไปตายซ้าาาา
ตอบลบซื้อมาเป็นปีแล้วก็น่าจะหลายอยู่นะ...
ลบ