ตอนที่ 30 ความเด็จขาดของอาเรีย



ซูซี่จัง!!」「「ซูซี่ซัง!!」」

เนื่องจากผลของการดวลจบลงอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ พวกอัศวินสาวคนอื่นๆจึงเสียเวลาอยู่นานกับการตกตะลึง แต่หลังจากสติของพวกเธอกลับมา พวกเธอจึงรีบวิ่งตรงเข้ามาหาซูซี่จังที่กำลังโอบกอดร่างกายเปลือยเปล่าที่สั่นเทาของตัวเองท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ

เด็กสาวคนนี้เป็นของของผมแล้ว พวกเธอน่ะไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาใกล้เธอหรอกนะ

แต่ก่อนที่พวกเธอจะเข้ามาถึงตัวซูซี่จังก็โดนผมขวางเอาไว้ก่อน เนื่องจากนี่เป็นการลงโทษ ดังนั้นผมจึงไม่อาจจะปล่อยให้คนอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวได้

และก็แน่นอนว่าพวกเธอเองก็ต้องถูกลงโทษเป็นรายต่อไปเช่นกัน ผมจึงแสยะยิ้มออกมาในขณะเดินเข้าไปใกล้พวกเธอพร้อมทั้งกวาดสายตามองไปยังร่างกายอันเย้ายวนของพวกเธอทุกคน

ขะ ขอโทษ!! พวกเราขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ พะ เพราะงั้น ชะ ช่วยยกโทษให้กับการกระทำอันโง่เขลาของพวกเธอก่อนหน้านี้ด้วยเถอะค่ะ!!

หลังจากเห็นสายตาอันชั่วร้ายของผม อัศวินสาวผมสีชมพูรีบคุกเข่าลงกบพื้นพร้อมทั้งก้มหัวลงและกล่าวคำขอโทษออกมาในทันที

ชะ...ใช่แล้วค่ะ!! พวกเราน่ะแค่ทำตามคำสั่งของท่านหญิงซิซิลี่เท่านั้น พวกเราไม่ได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินทัตสึยะซามะเลยแม้แต่น้อย ดะ ได้โปรดยกโทษให้กับพวกเราที่เป็นเพียงผู้ติดตามด้วยเถอะค่ะ
                
อัศวินสาวฝาแฝดทั้งสองเองก็รีบคุกเข่าลงพร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดูเหมือนการลงโทษซูซี่จังจะส่งผลกระทบกับจิตใจของพวกเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะหากพวกเธอยอมแพ้ซะตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็ ผมก็จะได้มีเวลาพาพวกเธอกลับไปเล่นสนุกมากขึ้นยังไงล่ะ

งั้นหรอกเหรอ.......ถ้าพวกเธอยอมสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อผม ต่ออาเรียจัง และอาณาจักรออร์ธรอสตลอดไปล่ะก็.......

「「「พวกเราขอสาบานด้วยเกรียติของอัศวินค่ะ!!」」」

ทั้งๆที่ผมยังพูดไม่ทันจบ พวกเธอก็รีบกล่าวคำสาบานออกมาในทันที กับการที่พวกเธอไม่มีความลังเลที่จะมาเป็นผู้หญิงของผมนั้น ทำให้ผมพอจะลดโทษให้กับพวกเธอที่เพียงแค่ทำตามคำสั่งได้

เอาเถอะ ถือว่าเป็นความผิดครั้งแรก เพราะงั้นผมจะลดโทษให้ซักหน่อยก็แล้วกันนะ

หลังจากตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ผมก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พวกเธอที่เห็นบรรยากาศรอบตัวของผมเริ่มคลายลงก็รีบกล่าวขอบคุณออกมาในทันที แต่นอกจากพวกเธอแล้วก็ยังมีอัศวินสาวอีกคนหนึ่งที่ยังตามไม่ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

ทำอะไรของพวกเธอเนี่ย!! ไปคุกเข่าให้กับศัตรูของจักรวรรดิแบบนี้ได้ยังไงกันยะ!!

เธอเองก็เห็นไม่ใช่เหรอซิซิลี่!! ทักษะดาบที่รวดเร็วและแม่นยำแบบนั้นน่ะ พวกเราจะไปเอาชนะได้ยังไงเล่า

ชะ ใช่แล้วล่ะ!! ไม่มีทางที่พวกเราจะเอาชนะท่านหญิงอาเรียได้หรอก

ซิซิลี่จัง มาขอโทษทัตสึยะซามะด้วยกันนะคะ!!

แต่ไม่ว่าซิซิลี่จะพูดอย่างไร อัศวินสาวทั้งสามคนก็ไม่เห็นด้วยและยังชักชวนให้เธอรีบมาขอโทษพร้อมกัน

อึกก!! พวกเธอ!! ชะ ชั้นจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเธออีกแล้ว หลังจากนี้ชั้นจะขอต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว!! อาเรีย เมลริส ชั้นจะเอาชนะเธอ!! ชั้นจะเป็นคนทวงเอาเกรียติและศักดิ์ศรีของอัศวินแห่งกัลน่ากลับคืนมาด้วยตัวเอง!!

หลังจากพูดจบ ซิซิลี่ก็ชักเรเปียร์ของเธออกมาจากฝักพร้อมทั้งวิ่งตรงไปยังอาเรียจัง ดาบเรเปียร์ของซิซิลี่นั้นมีความยาวมากกว่าของซูซี่อยู่พอประมาณ และเพราะเหตุนั้นจึงทำให้ระยะการโจมตีของเธอมีมากกว่า

เกร๊งงง!! เกร๊งงง!! เกร๊งงง!! เกร๊งงง!!

ถึงแม้จะถูกซิซิลี่จู่โจมเข้าใส่โดยไม่ทันได้ตั้งตัว แต่อาเรียจังก็สามารถโต้ตอบได้อย่างเยือกเย็น เธอใช้ดาบในมือปัดป้องการจู่โจมที่รวดเร็วของซิซิลี่ราวกับรู้ว่าเธอจะโจมตีเข้ามาจากทิศทางใด

ฮ่า.....ฮ่า..........

เพียงไม่กี่นาที ซิซิลี่ที่ถูกปัดป้องการโจมตีอย่างสมบูรณ์ก็แสดงท่าทีเหนื่อยหอบออกมา เนื่องจากพื้นที่และสภาพอากาศที่ค่อนข้างเลวร้าย แถมเธอยังคงเอาแต่โหมบุกเข้าโจมตีต่อเนื่องโดยไม่ยั้งคิด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะอ่อนแรงลงอย่างรวดเร็ว

......หยุดพักกันสักครู่ก่อนดีไหมคะ.......
                                                                                       
เพราะเห็นฝ่ายตรงข้ามมีท่าทีเหนื่อยอ่อน อาเรียจังจึงพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง อาเรียจังนั้นเป็นเด็กสาวที่อ่อนโยนดังนั้นเธอที่เป็นห่วงคู่ต่อสู้ได้พูดออกมาจากใจจริง แต่ดูเหมือนความอ่อนโยนของเธอจะเป็นการทำร้ายอีกฝ่ายเสียมากกว่า

อย่ามาพูดบ้าๆนะยะ!!! มีอัศวินที่ไหนเค้ามาพักระหว่างการดวลกันบ้างเล่า!!

......แต่ว่าคุณ.........    

ดูเหมือนอาเรียจังจะค่อนข้างลำบากใจกับสภาพของอีกฝ่ายจึงหันมามองทางผม ผมเองก็ได้เห็นความสามารถของซิซิลี่มามากเกินพอแล้วจึงได้พยักหน้าตอบรับ และนั่นก็คือสัญญาณที่เป็นการบอกให้อาเรียจังปิดฉากการดวลในครั้งนี้

 มองไปทางไหนกันยะ!!

เพียงชั่วพริบตาที่อาเรียจังหันมาทางผม ซิซิลี่ไม่ปล่อยโอกาสให้เสียไปและรีบพุ่งเข้าโจมตีใส่ในทันที ปลายดาบเรเปียร์พุ่งแทงเข้าใส่หน้าอกของอาเรียจังอย่างไม่ลังเล แต่อาเรียจังนั้นเพียงแค่ขยับเท้าเล็กน้อยก็สามารถหลบพ้นไปได้ และชั่ววินาทีนั้นก็เป็นการปิดฉาก อาเรียจังหมุนตัวพร้อมทั้งตวัดดาบเข้าใส่แผ่นหลังของซิซิลี่อย่างงดงาม

ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นที่งดงาม ภาพของอัศวินสาวทั้งสองผู้มีเรือนผมสีทองสะท้อนแสงระยิบระยับช่างเป็นภาพสวยงามยิ่งนัก เพียงแต่ใบหน้าของหนึ่งในนั้นกลับเต็มไปด้วยคราบน้ำตา.........

ซิซิลี่จัง!!!」「「ซิซิลี่ซัง!!!」」「พี่คะ!!!  

ซิซิลี่พยายามพยุงร่างกายเอาไว้ แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเธอก็ค่อยๆล้ม ร่างกายของเธอกระแทกลงกับพื้นถนนที่เต็มไปด้วยหิมะ เลือดสีแดงฉานค่อยๆไหลนองออกมาจากแผ่นหลัง

ถึงแม้อาเรียจังจะไม่ได้ต้องการทำร้ายเธอ แต่อาเรียจังก็มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ปกครองเมืองและอาณาเขตพื้นที่ในแถบนี้ทั้งหมด

ดังนั้นต่อหน้าชาวเมืองและลูกน้องมากมายที่กำลังมองดูการต่อสู้อยู่แล้ว อาเรียจังจึงจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความเด็จขาดต่อผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรูที่ไม่ว่าจะพูดคุยด้วยอย่างไรก็ยังไม่คิดจะยอมรับไมตรีจากเธอ

ยูเมะจัง ช่วยทีนะ      

ผมรีบเข้าไปขวางอัศวินสาวคนอื่นๆพร้อมทั้งหันไปเรียกยูเมะจังให้เข้ามาช่วยรักษาซิซิลี่ในทันที

Sole!! ช่วยรักษาเธอทีนะ 


ยูเมะจังเรียก Sole หนึ่งในอสูรอัญเชิญของเธอออกมาและเริ่มทำการรักษาบาดแผลที่กลางหลังของซิซิลี่ ซึ่งผู้คนที่ได้เห็นภาพของอสูรอัญเชิญเป็นครั้งแรกต่างก็แสดงอาการตื่นเต้นตกใจกันออกมา

เวทมนต์ นั่นมันเวทมนต์งั้นเหรอ!!      

นั่นมันอสูรอัญเชิญของยูเมะซามะต่างหากล่ะ พวกแกไม่เคยอ่านหนังสือแนะนำตัวท่านจอมเวทกันรึไงวะ!!                        

และยิ่งพอได้เห็นบาดแผลฉกรรจ์ถูกรักษาจนหายสนิทได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ยิ่งทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างแสดงแตกต่างกันออกมา บางคนก็มีอาการตกใจ บางทีก็มีอาการประทับใจ บางคนถึงกับคุกเข่าลงกราบไปกับพื้นเลยทีเดียว

ขะ ขอบคุณค่ะ!           

เมื่อเห็นว่าพี่สาวของเธอไม่เป็นไรแล้ว ซูซี่จังก็รีบคุกเข่าลงพร้อมทั้งพูดขอบคุณผมออกมาด้วยน้ำตาในทันที แต่เนื่องจากเธอในตอนนี้ไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่ซักชิ้น มันจึงทำให้ผมมีความรู้สึกสนใจในส่วนอื่นๆของร่างกายเธอมากกว่าคำพูดขอบคุณของเธอ

ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เลื่อนการลงโทษพวกเธอออกไปซักหน่อยก็แล้วกัน  
ผมพูดพร้อมกับถอดเสื้อคลุมของผมออกมาคลุมร่างกายของซูซี่จัง ถึงแม้จะมีความรู้สึกสงสารอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะปล่อยเธอไปง่ายๆ และนั่นจึงทำให้ผมตัดสินใจที่จะพาซูซี่จังกลับไปด้วย ดังนั้นหลังจากนี้ยังมีเวลาอยู่อีกมาก เพราะงั้นก็ค่อยๆมาลงโทษเธอทีละนิดๆจนกว่าเธอจะสำนึกผิดก็แล้วกัน.......

หลังจากนั้นผมก็ยกเรื่องทั้งหมดให้อาเรียจังเป็นคนจัดการต่อ ส่วนตัวผมนั้นก็พายูเมะจังไปเดินเล่นกันสองต่อสองอยู่พักหนึ่งก่อนจะกลับไปทานอาหารเย็นร่วมกับทุกๆคน

และก็เนื่องจากงานต่างๆภายในเมืองอาเมริสเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับไปยังบ้านของผมที่เมืองสเตรเชียในวันพรุ่งนี้

11 ความคิดเห็น:

  1. จะเข้าฮาเร็มเทพทัชต้องอดทด ถูกเห็นนมต้องไม่อาย=[]=

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ใช่แค่นมน่ะสิที่ถูกเห้นน่ะ 555

      ลบ
  2. แฮกๆ ชั่วร้ายยยยยย (แล้วคุนแฟนคนแรกก่อนมาต่างโลกละ เมื่อไรจะมีบทอีก ผู้กล้าามันจะเทพไหมหว่า)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรื่องของมากิจังจะมีพูดถึงคนจบของบทที่ 3 นี้ครับ
      แล้วก็ในช่วงกลางๆบทที่ 4 ก็จะได้ไปเจอกันแล้ว

      ส่วนในบทที่ 3 นี้จะเน้นเรื่องเกี่ยวกับเมืองที่ถูกพัฒนาขึ้นไปส่วนต่างๆ
      และตั้งแต่ตอนหน้าจะเป็นเนื้องเรื่องของเอลิเซ่ กับ อเดลแล้วครับ

      ลบ
    2. ในส่วนของผู้กล้าจะมีความสามารถสูงกว่าคนทั่วไปของโลกนี้มากพอสมควรครับ
      เรียกว่าค่อนข้างสูสีกับฝั่งทัตสึยะเลยทีเดียว แต่มีจำนวนน้อยกว่ามากนะ 5555

      ลบ
  3. หลังๆดูชั่วร้ายขึ้นมากเลย หรือว่าเราคิดไปเอง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ใช่ว่าชั่วร้ายมาแต่แรกแล้วเหรอครับ 5555

      ลบ
  4. บทที่ 3 นี้ประมาณกี่ตอนถึงจบบทคับ

    ตอบลบ
  5. สมแล้วที่เป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ55555 ร้ายสมชื่อ

    ตอบลบ