ตอนที่ 31 บ้านใหม่ของทูรี่


วันที่ 1 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 838

-- มุมมองของทูรี่ --                                

หลังจากงานเทศกาลจบลง ทัตสึยะซามะก็ได้อนุญาตให้ชั้นสามารถหยุดงานได้ติดต่อกันถึงสองวัน ซึ่งนั่นก็เพื่อให้ชั้นได้มีโอกาสกลับไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดเท่านั้น แต่ทัตสึยะซามะยังได้มอบของรางวัล ซึ่งก็คือบ้านใหม่ให้กับชั้นอีกด้วย

ทั้งๆที่ชั้นยังเป็นเพียงแค่เมดฝึกหัดเท่านั้น แต่ทัตสึยะซามะก็อ่อนโยนและใจดีกับชั้น....และนั่นก็ทำให้ชั้น....รู้สึกมีความสุขมาก....ชั้นน่ะ....อยากจะคอยรับใช้อยู่เคียงข้างทัตสึยะซามะ...และยิ่งเวลาที่ถูกทัตสึยะซามะโอบกอด...หัวใจของชั้นก็เต้นแรงไม่หยุด....ทุกครั้งที่ทัตสึยะสัมผัสไปตามร่างกาย....ชั้นก็ยิ่งรู้สึกดีจนไม่อยากจะให้หยุด....ความรู้สึกแบบนี้น่ะคือ.....ความรักสินะคะ.....

ว๊าววว!! ที่นี่สวยมากเลยนะคะพี่ทูรี่......ดูตรงนี้สิคะ!! มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นไปถึงโรงเรียนหลวงสเตรเชียได้ด้วยนะคะ!!!

เมื่อพวกเรามาถึงยังบ้านใหม่ ซึ่งเป็นห้องพักหรูหราบนชั้น 6 ของอาคารสูง 10 ชั้นที่มีชื่อว่า ฟูจิวิลล่า น้องสาวของชั้น ทูเร่ ก็รีบวิ่งไปยังหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอกด้วยท่าทางตื่นเต้น ดูเหมือนว่าทูเร่จะชอบมองออกไปรอบๆเมืองจากที่สูงๆ ท่าทางเธอจะไม่กลัวตกลงไปเลยล่ะค่ะ

ยอดไปเลยใช่มั๊ยล่ะทูเร่! นี่น่ะเป็นบ้านใหม่ที่ทัตสึยะซามะ มอบให้กับพี่เป็นรางวัลในการฝึกฝนและทำงานหนักมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาเลยนะ!

ชั้นยืดอกและพูดออกไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยม ถึงแม้ตัวชั้นที่ร่างกายอ่อนแอและป่วยมาตลอดตั้งแต่ยังเด็กจะไม่สามารถทำงานหนักอะไรได้มากนัก แต่ถึงแบบนั้น ทัตสึยะซามะก็ยังเห็นถึงความพยายามและความตั้งใจของชั้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ชั้นรู้สึกซาบซึ้งใจมากจริงๆเลยล่ะค่ะ

ในตอนที่ทัตสึยะซามะมอบกุญแจมาให้กับชั้นนั้น น้ำตาของชั้นไหลรินออกมาไม่ยอมหยุดเลยล่ะค่ะ ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าเด็กสาวที่ร่างกายอ่อนแอจากหมู่บ้านชนบทอย่างชั้นจะสามารถมีบ้านที่หรูหราแบบนี้ได้ ชั้นจะไม่มีวันลืมบุญคุณของทัตสึยะซามะและพวกท่านจอมเวททุกคนเลยค่ะ

อุว๊า!! โซฟานี่ก็นุ่มนิ่มมากเลยนะคะ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็ดูท่าจะเป็นของใหม่ทั้งหมดด้วย ยอดไปเลยนะคะ!!.....เอ่อ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ทาร์ตก็ด้วย....เป็นอะไรกันงั้นเหรอคะ....

หลังจากที่ทูรี่ตื่นเต้นกับการกระโดดโลดเต้นอยู่บนโซฟาหรูหราสักพักหนึ่ง เธอก็หันไปทางคุณพ่อคุณแม่ ที่ยังคงยืนอยู่ที่บริเวณหน้าห้อง....เอ่อ....นั่นสินะ....เป็นอะไรกันงั้นเหรอคะ.....

คุณพ่อ คุณแม่ ทาร์ตกับลูลู่จังก็ด้วย เป็นอะไรกันเหรอคะ ทำไมไม่เข้ามาข้างในกันล่ะคะ?

เนื่องจากความสงสัย ชั้นจึงเดินออกไปหาคุณพ่อคุณแม่ น้องชายของชั้นทาร์ต และเพื่อนของเจ้าทาร์ตที่จะมาอยู่กับพวกเราในช่วงปิดเทอมของโรงเรียนหลวงสเตรเชีย ลูลู่จัง ทุกคนดูจะเกร็งกันไปหมด ไม่ยอมขยับกันเลยล่ะค่ะ

ทะ ทูรี่.....จะ จะให้พวกเรามาอยู่ที่นี่กันจริงๆเหรอลูก หะ ห้องใหญ่โตหรูหราขนาดนี้.........

หลังจากพวกคุณพ่อคุณแม่หันไปมองหน้ากันอยู่พักหนึ่ง คุณแม่ของชั้นก็เป็นตัวแทนและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทีร้อนรน ได้มีห้องใหญ่ๆสวยๆแบบนี้เป็นบ้านเนี่ย....มันไม่ดีงั้นเหรอคะ?

และถึงจะบอกว่าที่นี่มันหรูหรามากก็เถอะ แต่ที่คฤหาสน์ของทัตสึยะซามะนั้นยังหรูหรากว่านี้อีกหลายเท่าเลยนะคะ นอกจากนั้นทัตสึยะซามะก็ชำระเงินเต็มจำนวนไปเรียบร้อยแล้ว พวกเราไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเลยนี่คะ....หรือว่าคุณแม่จะกลัวการอยู่ที่สูงๆกันนะ?....ชั้นไม่เข้าใจที่คุณแม่พูดออกมาเลยล่ะค่ะ

คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ชอบที่นี่งั้นเหรอคะ? ที่นี่ถึงจะไม่ใช่บ้านเดี่ยว แต่มันก็เป็นบ้านที่ดีมากเลยนะคะ ถึงมองจากภายนอกจะดูไม่ออกแต่ด้านในก็มีห้องนอนแยกทั้งหมด 6 ห้อง ทำให้สามารถแบ่งห้องกันได้ครบทุกคน

ห้องอาบน้ำเองก็กว้างขวางมาก แถมยังสามารถดึงเอาน้ำแร่อุ่นๆมาใช้อาบได้ด้วยนะคะ ที่ห้องครัวเองก็มีอุปกรณ์เวทสำหรับช่วยเหลือในทำอาหารอย่างครบถ้วน ด้วยอุปกรณ์เวทพวกนี้ ทาร์ตกับทูเล่ก็คงสามารถทำอาหารเองได้อย่างสบาย

ห้องอาหารเองก็ใหญ่พอที่จะใช้เชิญพวกเพื่อนๆมาจัดงานเลี้ยงขนาดเล็กได้อย่างสบาย แถมภายในห้องยังมีระบบรักษาความปลอดภัยสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าพวกขโมยจะเก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางบุกเข้ามาได้ง่ายๆด้วยนะคะ

ฟูจิวิลล่าแห่งนี้นั้นถูกออกแบบชิซึกุซามะ น้องสาวแท้ๆของทัตสึยะซามะผู้ได้ชื่อว่าเป็น เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรออร์ธรอส และถึงแม้เธอจะอายุยังน้อยแต่ก็เป็นจอมเวทระดับแนวหน้าที่มีความสามารถสูง

ปราสาทและคฤหาสน์หลายแห่งเองก็เป็นฝีมือการออกแบบของชิซึกุซามะ ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยของฟูจิวิลล่าจึงได้ถือว่าเป็นระดับต้นๆของเมืองสเตรเชีย

และที่นี่ก็ยังมีระบบช่วยเหลือและอุปกรณ์เวทต่างๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยอีกมากมาย ที่ชั้นบนสุดของที่นี่ก็มีภัตตาคาร ร้านอาหารและยังมีร้านขายสินค้าจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันอยู่อย่างครบถ้วน

ที่ชั้นใต้ดินเองก็มีทางเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนนั้นสะดวกสบายมาก แถมยังมีห้องหลบภัยสำหรับเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้

นอกจากนั้นแล้ว ที่ทัตสึยะซามะเลือกที่นี่ให้กับนู๋ก็เพราะที่นี่น่ะอยู่ใกล้กับโรงบาลหลวงสเตรเชีย แค่ใช้เวลาเดินไปแค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว ดังนั้นหากอาการผิดปกติของนู๋กำเริบก็สามารถเข้าไปรักษาได้ทันที

โรงเรียนหลวงสเตรเชีย กับ ร้านลิลลี่ซูชิ ที่พวกคุณพ่อ คุณแม่ทำงานเองก็ไม่ได้อยู่ไม่ห่างจากที่นี่ไปมากนัก หรือถ้าเร่งรีบจริงๆล่ะก็ แค่ลงลิฟต์ ไปยังชั้นใต้ดินก็จะมีทางเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟใต้ดินแล้วนะคะ

ทัตสึยะซามะนั้นได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนมาแล้วก่อนที่จะซื้อที่นี่ให้กับชั้น และชั้นก็ได้ตรวจสอบแผนที่บริเวณโดยรอบทั้งหมดมาอย่างละเอียดแล้วด้วย เพราะงั้นชั้นจึงสามารถพูดออกไปได้อย่างเต็มปาก

ทะ ทูรี่.....แม่ก็เข้าใจนะว่าที่นี่มันสะดวกสบายและมันก็น่าจะเป็นผลดีต่อลูกที่ร่างกายอ่อนแอและจำเป็นต้องไปโรงบาลหลวงเตรเชียเพื่อเข้าตรวจร่างกายบ่อยๆ....แต่ว่านะ...ทูรี่...กับสถานที่หรูหราแบบนี้น่ะนะ....มัน.......

ถึงแม้จะฟังที่ชั้นอธิบายออกไปแล้ว แต่คุณแม่ของชั้นก็ยังดูลังเลอยู่ หรือว่าคุณแม่จะกังวลว่าพวกเราจะถูกตามทวงเงินค่าผ่อนบ้าน?.....อ่า....ถ้าไม่อธิบายให้ชัดเจนคุณแม่คงจะไม่เข้าใจสินะคะ.....

คุณแม่กังวลเรื่องเงินงั้นเหรอคะ? ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะคะ เพราะว่าทัตสึยะซามะได้ชำระเงินเต็มจำนวนให้แล้ว นู๋ยังเก็บทั้งใบเสร็จและเอกสารสำคัญทั้งหมดเอาไว้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

นอกจากนั้นนู๋ก็ได้มาพบกับผู้จัดการของที่นี่พร้อมๆกับทัตสึยะซามะ แล้วเค้าก็ได้รับทราบแล้วว่าทัตสึยะซามะได้ซื้อห้องนี้ที่ชั้น 6 นี้แล้วได้ส่งมอบให้กับนู๋อย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนี้

เพราะงั้นจะไม่มีใครมาตามทวงหนี้หรือไล่พวกเราออกไปอย่างแน่นอน หรือถ้าเกิดมีใครเข้าใจผิดแล้วมากล่าวหาอะไรพวกเราขึ้นมาล่ะก็ ถึงตอนนั้นคุณแม่ก็ติดต่อไปหานู๋ที่กิลด์เมดได้ทันทีเลยนะคะ แล้วนู๋จะมาจัดการให้เอง เชื่อมือนู๋ได้ค่ะ!!

แต่ไม่ว่าชั้นจะพูดยังไง คุณพ่อกับคุณแม่ก็ดูจะยังลังเลที่จะมาอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะเหตุนั้นจึงทำให้พวกเราเสียเวลาในการพูดคุยปรึกษา และถกเถียงกันอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าห้องนานเกือบชั่วโมง

แต่แล้วในท้ายที่สุดทุกคนก็ตกลงที่จะมาอยู่ที่นี่กัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงจะต้องขอบใจในความไร้เดียงสาของทูเร่ นั่นก็เพราะทูเร่นั้นได้ฟังเรื่องราวจากพวกเพื่อนๆที่โรงเรียนมามาก และเธอยังได้ไปเยี่ยมบ้านของเพื่อนๆเหล่านั้นอยู่หลายครั้งจึงทำให้เธอค่อนข้างจะเคยชินกับบ้านเพื่อนๆที่หรูหรา

แต่เพราะบ้านเก่าที่พวกเราอยู่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงห้องแคบๆ ทูเร่จึงไม่มีโอกาสได้พาเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้านของเราเลยสักครั้ง แต่หากพวกเราย้ายมาอยู่ที่นี่ล่ะก็ ทูเร่เองก็อยากจะพาเพื่อนๆมาเที่ยวเล่นที่บ้านของพวกเราบ้าง

และเมื่อตกลงกันได้แล้ว ชั้นก็ได้นำข้าวของส่วนตัวของทุกคนในครอบครัวของเราออกมา แล้วทุกคนก็นำข้าวของส่วนตัวไปไว้ยังห้องของตัวเอง แต่เนื่องจากครอบครัวของพวกเราอยู่อย่างยากจนมาตลอด ทุกคนจึงมีเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ไม่มากนัก

จะมีคนที่แตกต่างออกไปก็เพียงแค่เจ้าทาร์ต น้องชายของชั้นคนเดียว ทาร์ตนั้นเป็นนักเรียนที่มีชื่อเสียงและยังเป็นที่ยอมรับของผู้คนมากมาย เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ทาร์ตมีเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับการฝึกเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้วก็ดูเหมือนจะมีของขวัญจากคุณครูเพื่อนๆอีกหลายอย่างด้วย

จากที่ชั้นได้ฟังจากลูลู่จังที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของทาร์ต ก็ดูเหมือนว่าของขวัญเหล่านั้นทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาจากพวกเพื่อนหรือพวกครูสาวๆทั้งนั้น ลูลู่จังที่เป็นลูกสาวของตระกูลพ่อค้าก็ยังมีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวที่นำติดตัวมาจากบ้านไม่มากเท่ากับทาร์ตเลย

ดูเหมือนว่าในอนาคตนั้น เจ้าทาร์ต น้องชายสุดที่รักของชั้นคงจะต้องมีปัญหาเรื่องของการมีภรรยาอย่างแน่นอนเลยนะคะเนี่ย ชักเป็นห่วงซะแล้วสิ หรือว่าชั้นควรจะไปปรึกษากับทัตสึยะซามะผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการมีภรรยาจำนวนมากดีนะคะ ?

พะ พี่ทูรี่.....มีคนมาส่งซูชิแล้วล่ะค่ะ!!

หลังจากจัดการแบ่งห้องรวมถึงจัดการกับข้าวของทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ชั้นก็ตัดสินใจใช้เงินโบนัสที่ทัตสึยะซามะให้มาในการสั่งซูชิ ซึ่งเป็นอาหารประจำชาติของอาณาจักรออร์ธรอสมาทานเป็นอาหารกลางวัน แน่นอนว่าชั้นใช้สิทธิลดราคาพิเศษของพวกคุณพ่อคุณแม่ในฐานะพนักงานของร้านลิลลี่ซูชิด้วย



ทะ ท่านหญิงอัลฟิน!!

แต่เมื่อชั้นเปิดประตูออกไปเพื่อต้อนรับพนักงานส่งซูชิจากร้านลิลลี่ซูชิ พนักงานคนนั้นกลับกลายเป็นหนึ่งในคนที่ชั้นรู้สึก ซึ่งเธอคนนี้ก็คือท่านหญิงอัลฟิน หนึ่งในหญิงสาวระดับสูงที่อาศัยอยู่ภายในคฤหาสน์ของทัตสึยะซามะ.....แล้วทำไมท่านหญิงอัลฟินถึงได้มาทำงานเป็นพนักงานส่งซูชิกันล่ะคะเนี่ย?

สวัสดิ์ดีปีใหม่ค่ะ ทูรี่ซัง นี่คือซูชิเซ็ตพิเศษจากร้านลิลลี่ซูชิ พร้อมของแถมจากร้าน ตุ๊กตาซูชิชิคุงในชุดกิโมโนตามโปรโมชั่นต้อนรับปีใหม่นี้.......ถ้าไม่เป็นการรบกวนล่ะก็.....ขอชั้นเข้าไปจัดเตรียมให้ที่ด้านในได้มั๊ยคะ?

คะ ค่ะ เชิญที่ด้านในเลยค่ะ

กับใบหน้าที่ยิ้มแย้มและน้ำเสียงที่ไพเราะน่าหลงใหลของท่านหญิงอัลฟินนั้น มันก็ทำให้ชั้นแทบจะไม่ได้รับฟังรายละเอียดเกี่ยวกับซูชิที่ท่านอัลฟินพูดออกมาเลยสักนิด แต่การจะปล่อยให้ท่านหญิงอัลฟินยืนอยู่แบบนี้ก็คงไม่ได้ ดังนั้นชั้นจึงรีบเชิญเธอเข้าไปด้านในทันที

ลิลลี่ซังได้จ้าง อัลฟินซามะ ให้มาช่วยโฆษณาโปรโมชั่นปีใหม่ให้กับร้านลิลลี่ซูชิน่ะค่ะ….

กับตัวชั้นที่กำลังยืนงงอยู่นั้น เพทโทร่าซัง เมดส่วนตัวของอัลฟินซามะได้เข้ามากระซิบที่ข้างหูของชั้นเบาๆ ซึ่งก็ดูเหมือนว่า อัลฟินซามะนั้น แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงท่านหญิง แต่เธอก็ชอบที่จะออกมาทำงานพิเศษเป็นนางแบบโฆษณาให้กับร้านค้าชื่อดังต่างๆของเมืองสเตรเชียล่ะค่ะ

เอ่อ....ถึงแม้ชั้นจะเข้าใจว่าพวกท่านหญิงทั้งหลายเองก็ต้องการหาเงินไปใช้ซื้อสิ่งของต่างๆที่ตัวเองก็ต้องการก็ตามที แต่เล่นมาทำงานส่งสินค้าตามบ้านแบบนี้เนี่ย มันไม่มากเกินไปหน่อยหรือคะ?

แต่ถึงแม้จะคิดมากไปก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้ ให้ตายสิ สำหรับอาณาจักรเวทมนต์แล้วเนี่ย ไม่ว่าจะอะไรก็สามารถทำให้ชั้นรู้สึกประหลาดใจไปได้หมดจริงๆเลยนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนร้านลิลลี่ซูชิเสมอมา ถ้ามีสิ่งใดต้องการเพิ่มเติมล่ะก็ ขอให้โทรไปที่ร้านลิลลี่ซูชิได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะคะ

หลังจากจัดวางซูชิเซ็ตและเครื่องเคียงทั้งหมดบนโต๊ะในห้องอาหารเรียบร้อยแล้ว ท่านหญิงอัลฟินก็ได้อธิบายถึงซูชิเซ็ตที่วางอยู่ตรงหน้าทุกคน รวมถึงโปรโมชั่นเสริมต่างๆของทางร้าน ส่วนเพทโทร่าซังก็รับชำระเงินผ่านทางบัตรกิลด์เมดของชั้น และพวกเธอทั้งสองคนก็เดินทางกลับไป

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ดูเหมือนว่าทุกคนในครอบครัวของชั้นจะตกตะลึงตัวเกร็งกันไปหมด ทุกคนเอาแต่เหม่อลอยไม่พูดไม่จา และนั่งนิ่งไม่ยอมเริ่มทานซูชิกันสักทีเลย เป็นอะไรไปกันหมดอีกแล้วล่ะคะเนี่ย....


-- Extra --

หลังจากที่อัลฟินนำซูชิมาส่งให้กับทูรี่ที่บ้านเรียบร้อยแล้ว

เป็นครอบครัวที่ดูอบอุ่นมากเลยนะคะ ครอบครัวของทูรี่ซังเนี่ย

เพทโทร่าพูดออกมาในระหว่างที่กำลังลงลิฟต์ เพื่อกลับไปยังที่จอดรถชั้นบริเวณใต้ดินของฟูจิวิลล่า

อะร๊า พวกเราเองก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเหมือนกันนี่จ๊ะ

เป็นงั้นหรือคะ ? แต่พวกเราก็แค่เชลยนะคะ แล้วฐานะของพวกเราก็เป็นแค่ผู้อาศัยธรรมดาที่ไม่มีอำนาจสั่งการใครด้วย เพราะงั้นจะถูกยกให้คนอื่น หรือถูกขายทิ้งไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะคะ

....ถึงแม้ทัตสึยะซามะจะแต่งตั้งให้เค้าเป็นท่านหญิง...แต่ก็เพียงแค่ในนามเท่านั้นเองสินะคะ...มะ ไม่เอานะ!! คะ เค้าไม่อยากจะพรากจากเพทโทร่าไปนี่นา!!

ถ้างั้นอัลฟินซามะก็ควรจะเลิกเล่นตัว แล้วบุกเข้าไปจู่โจมทัตสึยะซามะทุกคืน เพื่อที่จะได้มีบุตรชายหรือบุตรสาวไวๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อไหร่ล่ะก็ ฐานะของพวกเราก็คงจะมั่นคงกันสักทีนะคะ

เอ๋!! แต่เค้าอยากจะนอนกับพวกเพทโทร่ามากกว่านี่นา....

ถ้างั้นล่ะก็ คงต้องวางกับดักแล้วล่อให้ทัตสึยะซามะ มาหาพวกเราที่ห้องสินะคะ?

แบบนั้น มะ ไม่ได้เด็จขาดเลยนะจ๊ะ!! ถ้าทำแบบนั้นทัตสึยะซามะได้แย่งเอาหัวใจทุกคนไปจากเค้าจนหมดแน่ๆเลย!! ครั้งที่แล้วก็ทีหนึ่งแล้วนะ เค้าไม่อยากเสียเพทโทร่าให้กับทัตสึยะซามะนะ!!

อัลฟินซามะเนี่ย น่ารักจังเลยนะคะ อุฟุฟุ

หลังจากพูดคุยไร้สาระกันอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดทั้งสองคนก็กลับมาถึงยังพาหนะเวทมนต์ ซึ่งก็คือรถส่งซูชิที่มีการติดป้ายโฆษณาร้านลิลลี่ซูชิเอาไว้ทั่ว แต่แล้วสิ่งที่พวกเธอทั้งสองคนได้เจอนั้น กลับเป็นใบหน้าที่เคร่งเครียดของหนึ่งในเมดตัวส่วนของอัลฟิน

อัลฟินซามะ พวกเราถูกสั่งให้ยกเลิกงานทุกอย่าง และรีบกลับไปที่คฤหาสน์ในทันทีเลยค่ะ

เรียกตัวกลับฉุกละหุกแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกงั้นหรือจ๊ะ ?

ชั้นเองก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ดูเหมือนว่า ทัตสึยะซามะจะตัดสินใจชั้นเด็จขาด และได้ประกาศสงครามกับจักรวรรดิเอลติซไปเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ

2 ความคิดเห็น:

  1. ประกาศสงครามสักที จักรพรรดิเตรียมล้างคอรอไว้ได้เลย บังอาจแย่งแฟนของเทพทัตไป

    ตอบลบ