ตอนที่ 32 แผนบุกโจมตียามค่ำคืน บทที่ 1



 
-- มุมมองของบารอนวิลเลี่ยม --

วันที่ 28 เดือน 11 ศักราชเอลติซปีที่ 836

เช้าวันนี้ข้าได้นำกองทัพทั้งหมดเดินทัพมาถึงบริเวณเนินเขาที่อยู่ทางเหนือของเมืองกูสตาฟ ห่างจากเมืองประมาณ 80 กิโลเมตร หากไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ ค่ำคืนนี้พวกเราคงจะสามารถบุกเข้าตีเมืองได้ตามกำหนดการ

เส้นทางการเคลื่อนทัพในนี้เป็นเส้นทางที่ข้าได้ใช้เวลาไปถึง 5 ปีในการสร้างขึ้นมา มันเป็นเส้นทางลับตัดผ่านเทือกเขาเวลเด้ทางตอนใต้ของเมืองเวลล่าตรงไปยังเมืองกูสตาฟ

หากใช้เส้นทางนี้ล่ะก็การเคลื่อนทัพด้วยนกเจลโล่จากเมืองเวลล่าไปยังกูสตาฟจะใช้เวลาเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น หากเทียบกับเส้นทางปกติที่ต้องใช้เวลาถึง 10 วันแล้วล่ะก็ เรียกได้ว่ารวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก

ด้วยการสนับสนุนจากท่านเคานต์ออเดลเล่ วอน ไลออนฮาท ทำให้กองทหารของข้าในตอนนี้มีกำลังมากถึง 5800 นาย โดยแบ่งออกเป็น

กองทหารรักษาการณ์แห่งเวลล่า 1000 นาย
กองทหารเกราะหนัก 1000 นาย
กองกำลังส่วนตัวของข้าเอง 1000 นาย
หน่วยรบพิเศษ 300 นาย
ทาสเผ่าสัตว์ 1500 นาย
และกองกำลังส่วนตัวของเจ้าลูกเขย บารอนเอลเก้น เจอร์ราร์ด ผู้ปกครองเมืองเอเกียอีก 1000 นาย

ด้วยกำลังมากขนาดนี้ทำให้มั่นใจในชัยชนะ กองทัพของข้าจะต้องโค่นกองทัพของตระกูลโรเซนเบิร์กที่ปกป้องเมืองกูสตาฟลงได้อย่างแน่นอน

เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ท่านเคานต์ออเดลเล่ได้ให้สัญญากับข้าว่า หากสามารถกำจัดตระกูลโรเซนเบิร์กลงได้ล่ะก็ จะช่วยสนับสนุนให้ข้าได้รับบรรดาศักดิ์ไวส์เคานต์ และได้ย้ายไปใช้ชีวิตอย่างหรูหราที่เมืองหลวงของจักรวรรดิเอลติซ

ชีวิตของขุนนางที่ต้องรักษาชายแดนอย่างข้านั้น เรียกได้ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างยากลำบาก นอกจากนั้นตระกูลโรเซนเบิร์กยังทำการตรวจสอบภาษีและเรื่องอื่นๆอย่างเข้มงวด ทำให้ข้าแทบจะไม่มีหนทางในการหาเงิน

แต่ด้วยเส้นสายของท่านเคานต์ออเดลเล่ทำให้ข้าพอจะเริ่มธุรกิจใต้ดินได้หลายอย่าง การค้าทาสเถื่อน การส่งออกเหล็กดำ และการค้าอีกหลายอย่างที่ทำโดยไม่ต้องผ่านตระกูลโรเซนเบิร์กนั้นทำให้ข้าได้กำไรอย่างมาก

ดังนั้นเพื่อไม่ให้ท่านเคานต์ออเดลเล่ต้องผิดหวัง การเข้ายึดครองเมืองกูสตาฟในครั้งนี้จึงจะผิดพลาดไม่ได้ เพราะเหตุนั้นข้าจึงได้วางแผนเอาไว้อีกหลายอย่าง

ก่อนหน้านี้ข้าได้ขอความช่วยเหลือไปยังเมืองกูสตาฟ เนื้อความนั้นคือกองทัพ Goblin กว่า 3000 ตัวได้บุกเข้ามาโจมตีเมืองเวลล่า แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องโกหก

แท้จริงแล้วหน่วยสำรวจของข้าได้รายงานว่าพวก Goblin มีกำลังกล้าแข็งขึ้นเพราะการกำเนิดของราชา แต่พวกมันก็ไม่ได้มีทีท่าจะยกทัพมาบุกเมืองเวลล่าแต่อย่างใด สิ่งที่พวกมันทำนั้นมีเพียงปล้นสะดมและฉุดคร่าหญิงสาวจากหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆเท่านั้น

แล้วมันก็เป็นไปตามแผน ทางเมืองกูสตาฟได้ส่ง โรเดริกและกองอัศวินที่ 1 ที่ว่ากันว่าไร้เทียมทานออกมา

และเพื่อรั้งตัวกองอัศวินที่ 1 เอาไว้ ข้าจึงสั่งให้สายลับที่อยู่ในเมืองทำการล่อพวก มอนสเตอร์เข้ามาโจมตีเมืองด้วยผงศิลาอัลกุส ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ดีจนถึงวันนี้ที่ข่าวสารจากสายลับของเราได้ขาดหายไป

เจ้าว่าอะไรนะ!! ข่าวสารจากสายลับในเมืองเวลล่าของเราหายไปงั้นเรอะ

ใช่แล้วครับ พวกเราไม่ได้ข่าวสารใดๆมาตั้งแต่วันก่อนแล้วครับ

สมแล้วที่เป็นกองอัศวินที่ 1 ไม่ใช่เพียงฝีมือในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังสามารถค้นหาตัวสายลับและกำจัดช่องทางการติดต่อของพวกเราลงได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ถึงพวกนั้นจะจับตัวสายลับของเราไปได้ สถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนไป

พวกสายลับนั้นรู้เพียงแค่ชื่อของข้าเท่านั้น เพราะงั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสายลับพวกกองอัศวินที่ 1 ก็ไม่มีทางที่จะล่วงรู้ถึงแผนการของข้าได้ เต็มที่ก็คงแค่ออกประกาศจับและส่งคนออกตามหาตัวข้าเพียงเท่านั้น

และถึงแม้พวกนั้นจะรู้ข่าวของเมืองกูสตาฟ พวกนั้นก็ไม่มีทางจะทิ้งชาวเมืองเวลล่าที่ไร้การปกป้องไปได้ เพราะถึงจะไม่มีผงศิลาอัลกุสแต่หากยังมี King Goblin อยู่ เมืองเวลล่าก็ไม่มีทางพ้นอันตรายไปได้

ดังนั้นกว่าพวกกองอัศวินที่ 1 จะจัดการเรื่องทั้งหมดและกลับมาช่วยเมืองกูสตาฟก็คงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน และถ้ามีเวลาให้เตรียมการมากขนาดนั้นล่ะก็กองทัพของข้าก็คงไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน

แล้วเจ้าเลโอฟิสล่ะ

ไม่มีข่าวเลยครับ คาดว่าทางด้านท่านเลโอฟิสเองก็คงถูกกองอัศวินที่ 1 จัดการไปแล้ว.....

จากข่าวสารที่ข้าได้รับมานั้น ไม่เพียงแค่โรเดริก แต่ท่านหญิงเซลฟีน่าก็ได้ร่วมทางมาช่วยเหลือเมืองเวลล่าในครั้งนี้ด้วย

ท่านหญิงเซลฟีน่านั้นมีชื่อเสียงทั้งในเรื่องความงามและความสามารถในการต่อสู้ เป็นหญิงสาวที่ชายหนุ่มมากมายใฝ่ฝัน

ไม่เพียงแค่ผู้ชายทั่วไป แม้แต่ท่านเคานต์ออเดลเล่เองก็ยังเคยออกปากชื่นชมในความงามของเธอ ดังนั้นหากสามารถจับตัวเธอมาได้ล่ะก็ ข้าจะต้องได้รับรางวัลตอบแทนอย่างงามแน่

เพราะเหตุนั้นข้าจึงมอบหมายงานนี้ให้กับเลโอฟิส งานทุกอย่างที่ข้าเคยให้ไป เจ้านั่นไม่เคยทำพลาดเลยซักครั้ง เจ้านั่นเป็นคนหนุ่มที่ฝีมือและรอบคอบ เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ที่หาได้ยาก ดังนั้นการที่สูญเสียเจ้านั่นไปจึงถือได้ว่าเป็นความสูญเสียสำหรับข้าอย่างมาก

แม้แต่เจ้านั่นก็ยังเอาชนะกองอัศวินที่ 1 ไม่ได้สินะ......

เลโอฟิสได้นำกำลังไปมากกว่า 90 คน ในจำนวนนั้นมีทั้งทหารที่มากประสบการณ์และยังมีพวกทาสเผ่ามนุษย์เสือที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ในป่า ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถเอาชนะกองอัศวินที่ 1 ที่มีกำลังเพียงแค่ 10 กว่าคนได้

ความจริงในเรื่องนี้ทำให้ข้ารู้สึกหวาดกลัวกองอัศวินที่ 1 มากขึ้นไปอีก ในกองอัศวินที่ 1 นั้น ข้าได้ข่าวมาว่าเกือบทุกคนล้วนแต่เป็นอัศวินชั้นยอดที่มีสกิลการใช้อาวุธในระดับ 3 ขึ้นไป ซึ่งก็สมแล้วที่พวกนั้นถูกเรียกว่าไร้เทียมทาน

ถ้าต้องปะทะกันตรงๆล่ะก็พวกเราคงจะต้องเสียหายอย่างหนักแน่นอน ดังนั้นข้าจึงจึงพยายามหาทุกวิธีที่จะไม่ต้องไปปะทะกับพวกมันตรงๆ

เรื่องที่ผ่านไปแล้วคงแก้ไขอะไรไม่ได้ รีบไปบอกสายลับของเราในเมืองกูสตาฟให้เตรียมตัวให้พร้อม พวกเราจะบุกเข้าโจมตีในค่ำคืนนี้

ถึงเสียใจไปก็คงจะไม่ได้อะไรขึ้นมา ดังนั้นข้าจึงรีบออกคำสั่งไปยังพวกสายลับที่หลบซ่อนอยู่ในเมืองกูสตาฟมาหลายปีให้เตรียมพร้อมในทันที

รับทราบ!!

ส่วนเจ้า...รีบไปสั่งให้พวกทหารที่อยู่ด้านหน้าเร่งความเร็วขึ้นอีก วันนี้พวกเราจะไม่หยุดพักจนกว่าจะถึงหน้าเมืองกูสตาฟ

รับทราบ!!

ในที่สุดกองทัพของข้าก็เดินทางไปถึงที่ราบทางตอนเหนือของเมืองกูสตาฟในช่วงค่ำ ในตอนนี้เป็นเวลาทุ่มตรง กองทัพของข้าอยู่ห่างจากเมืองกูสตาฟไม่ถึง 3 กิโลเมตร

พวกเราค่อยๆเคลื่อนทัพอย่างเงียบๆโดยไม่มีการจุดคบไฟ นั่นก็เพื่อไม่ให้ทหารรักษาการณ์ที่อยู่ด้านบนของกำแพงเมืองรู้ตัวเสียก่อน

นายท่านมีควันไฟลอยออกมาจากเมืองกูสตาฟครับ!!

ก่อนหน้านี้ข้าได้สั่งการให้สายลับในเมืองเตรียมตัวเอาไว้ เมื่อกองทัพของข้าเข้าใกล้เมืองก็ให้เริ่มทำการก่อกวนและดึงความสนใจของพวกอัศวินและทหารรักษาการณ์ไปยังประตูเมืองทิศใต้ด้วยการจุดไฟเผาบ้านบางหลัง

หลังจากนั้นสายลับอีกส่วนหนึ่งก็จะเข้าจู่โจมพวกทหารรักษาการณ์ที่เฝ้าประตูเมืองทิศเหนือเพื่อเปิดประตู และในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะทำงานตามที่สั่งได้สำเร็จลุล่วงแล้ว

บุกโจมตี!!!

ข้าออกคำสั่งไปในทันที

กองหน้าบุกได้!!

เมื่อได้รับคำสั่ง หน่วยทหารเกราะเบาที่อยู่แถวหน้าสุดก็เริ่มเร่งความเร็วของเจลโล่ในทันที หลังจากนั้นเพียงไม่ถึง 10 นาทีแนวหน้าก็ผ่านประตูเมืองทิศเหนือของเมืองกูสตาฟเข้าไปได้

เสียงแตรสัญญาณภายในเมืองเริ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าผู้ใดจะออกมาขวาง ทหารของข้าก็จะพุ่งเข้าจัดการอย่างไร้ปราณี

การต่อสู้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นไปทั่วบริเวณ แต่ด้วยกำลังที่มากกว่าจึงทำให้กองทหารของข้าสามารถยึดเอาเมืองชั้นนอกของกูสตาฟมาได้ก่อนฟ้าสาง

ในที่สุดวันที่ข้าจะได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหราร่วมกับเด็กสาวสวยมากมายก็ใกล้จะมาถึงแล้ว.......
 

10 ความคิดเห็น:

  1. 33-34 มาเร็วๆนะ ติดเรื่องนี้งอมแงมแล้ว

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. แล้วพวกเทพทัตจะรู้ข่าวการโจมตีได้ยังไง เพราะถ้าไม่รู้ข่าวก็มาช่วยไม่ได้ แต่ถ้าได้ข่าวแล้ว ก็คงจะขี่กริฟฟอนบินมา แล้วขนกองทัพมาในห้องมิติได้ด้วยล่ะนะ สะดวกจริงๆอย่างกับเครื่องบินขนส่งทหาร

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมว่าไม่รู้ข่าวหรอกเพราะชื่อตอนที่34คือหลบหนี แสดงว่าเมืองต้องแตกแน่

      ลบ
    2. ต้องติดตามกันต่อไปนะครับ

      ลบ
  4. เล่นเอาตอน 33-34 มายั่วกันได้ รีบอัพด่วนเลยนะครับ เห็นชื่อตอนใหม่แต่ทำอะไรไม่ได้มันทรมานนะครับ

    ตอบลบ
  5. กลายเป็นเรื่องวุ่นวายล่ะ ต้องรอดูตอนต่อไปสินะ

    ตอบลบ
  6. หง่ะ เค้ากด 33-34 ไม่ได้อ่ะ อยากอ่าน

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณครับหลังจากหลีสาวกันมานมนานก็ถึงช่วงเวลาแห่งสงครามสักที ♪

    ตอบลบ