-- มุมมองของยูมิน่า --
ชั้น ยูมิน่า วอน การ์เซียส บุตรสาวคนโตของท่านไวส์เคานต์
ยูจิน แห่งตระกูล การ์เซียส แต่เนื่องจากตระกูลของเราถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ
และท่านพ่อของชั้นซึ่งเป็นผู้นำตระกูลก็ได้ถูกประหารชีวิตไปแล้ว ดังนั้นฐานะของตัวชั้นในตอนนี้จึงเรียกได้ว่าไม่ต่างไปจากสามัญชน.....หรืออาจจะต่ำยิ่งกว่านั้น
แล้วทำไมตระกูลของเราถึงได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏได้งั้นหรือคะ
? เท่าที่ชั้นได้รู้มานั้นก็เพราะว่า
ท่านพ่อได้ทำการเจรจาติดต่อค้าขายกับกลุ่มพ่อค้าหลายรายที่เดินทางมาจากอาณาจักรเวทมนต์
หลังจากเรื่องนี้แพร่ออกไป
ท่านอาซึ่งเป็นคนในตระกูลสาขาจึงได้นำเรื่องนี้ไปรายงานให้กับจักรพรรดิเลคซุอิสซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ของจักรวรรดิเอลติซ
และถึงแม้ชั้นจะไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน
แต่ชั้นก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่า สำหรับท่านอาที่มีความคิดจะแย่งตำแห่นงผู้นำตระกูลการ์เซียสของท่านพ่อเสมอมานั้น
ท่านอาคงจะต้องใส่ร้ายหรือได้ทำอะไรลงไปแน่ๆ
แล้วก็เพราะเหตุนั้นเอง ชั้นและทุกคนในครอบครัวจึงได้ถูกกักตัว
ส่วนท่านอาของชั้นจึงได้เข้ามารับตำแหน่งผู้นำตระกูลการ์เซียส และขึ้นมาปกครองเมืองท่าการ์เซียส
หนึ่งในเมืองท่าเก่าแก่ ที่มีการติดต่อค้าขายกับบรรดากลุ่มพ่อค้ามากมายจากนานาประเทศมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งจักรวรรดิ
ซึ่งช่วงเวลาที่ชั้นถูกกักตัวอยู่แต่ในคฤหาสน์นั้น
ชั้นคงจะต้องบอกว่า มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ตั้งแต่ที่ชั้นได้เกิดมาก็เป็นได้
ท่านอา....ไม่สิ ชั้นควรจะเรียกมันว่า
ไอ้เจ้าสวะ เยรเกอร์ เสียมากกว่า ไอ้เจ้าสวะนั่น
มันทั้งข่มขืนและทำร้ายร่างกายท่านแม่ ไอ้เจ้าสวะนั่นต้องการทำให้ชั้นและพวกน้องๆ
ได้รับรู้ว่า พวกเรานั้นไม่ได้เป็นขุนนางอีกต่อไปแล้ว และชีวิตของพวกเราก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของไอ้เจ้าสวะนี่
ตัวชั้นเองก็ได้ถูกดูถูกเหยียดหยาม
ชั้นถูกย่ำยีทั้งร่างกายและจิตใจ ชั้นได้กลายไปเป็นของเล่นเพื่อสนองความใคร่ของมัน
ชั้นต้องปลดเปลื้องเสื้อผ้าและถ่างขาให้ไอ้เจ้าสวะมันได้เล่นสนุกกับร่างกายของชั้นต่อหน้าพวกลูกน้องของมัน
ชั้นต้องใช้ร่างกายที่ยังสาวคอยรับใช้ปรนนิบัติมัน
ไม่ว่าจะเป็นเวลาพักผ่อน เวลาทานอาหาร เวลาอาบน้ำชำระร่างกาย หรือเวลาหลับนอน
ชั้นก็ต้องคอยลูบคลำคอยดูดเลียเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับของสกปรกของมัน
ทุกวันและทุกคืนผ่านไปอย่างช้าๆด้วยความอัปยศและเจ็บปวด
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมในระยะหลังมานี้ชั้นถึงได้รู้สึกผิดแปลกไป ร่างกายของชั้นมันเริ่มที่จะรู้สึกดีกับการถูกย่ำยีอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งๆที่ในวันแรกๆนั้นตัวชั้นรู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกรังเกียจไอ้เจ้าสวะนั่นมากมายแท้ๆ
ไม่แน่ว่าบางทีร่างกายของชั้นมันอาจจะผิดเพี้ยน
หรือไม่จิตใจของชั้นก็อาจจะวิปริตผิดปกติไปแล้วก็อาจจะเป็นได้ แต่ถ้าจะให้พูดล่ะก็
สิ่งที่ไอ้สวะนี่ทำกับชั้นนั้น หากนำเอาเทียบกับท่านแม่และพวกน้องๆของชั้นแล้วล่ะก็
ตัวชั้นอาจจะเรียกได้ว่ามีชีวิตที่ดีมากแล้วก็เป็นได้
เพราะอย่างน้อยตัวชั้นก็ยังได้ใส่ชุดเสื้อผ้าสวยๆที่ถูกซักอย่างสะอาดเหมือนกับในอดีต
และถึงแม้จะเป็นเตียงเดียวกับไอ้เจ้าสวะนั่นแต่ชั้นยังได้หลับนอนบนเตียงที่อบอุ่น นอกจากนั้นแล้วตัวชั้นก็ยังได้ทานอาหารจนอิ่มครบ
3 มื้ออยู่ทุกวัน
แต่สำหรับท่านแม่และน้องสาวทั้ง 2 คนของชั้นนั้น
พวกเธอได้ถูกใช้งานอย่างหนักเช่นเดียวกับพวกโสเภณีในสลัม พวกเธอต้องขายร่างกายให้กับไอ้พวกลูกน้องน่าเกลียดทั้งหลายของไอ้เจ้าสวะนั่นเพียงเพื่อแลกกับเศษอาหาร
ในบางครั้งพวกเธอก็ยังต้องถูกบังคับให้ไปคอยรับใช้พวกพ่อค้าและพวกแขกต่างๆที่เข้ามาที่ติดต่อกับไอ้เจ้าสวะนั่นที่คฤหาสน์โดยไม่ได้รับอะไรตอบแทน
เสื้อผ้าสะอาดเองพวกเธอก็ยังไม่มีโอกาสได้ใส่ ที่หลับนอนเองก็ต้องไปใช้รวมกับไอ้ลูกน้องน่าเกลียดพวกนั้น
ส่วนน้องชายของชั้นเองก็ต้องทำตัวเป็นเหมือนกับสัตว์เลี้ยง
ต้องคอยเลียทำความสะอาดรองท้องพวกมัน และยังถูกเขี่ยนตีถูกทำร้ายเพื่อคลายเครียดให้กับพวกมัน
แม้แต่เศษผักหรือน้ำสะอาดก็ยังยากที่จะตกถึงท้องเสียด้วยซ้ำ
และแล้ววันเวลาแห่งความผิดเพี้ยนเหล่านั้นก็ได้ดำเนินต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงช่วงใกล้จะสิ้นปี
ในตอนนั้นเองที่จักรพรรดิเลคซิอุสได้ส่งสารคำสั่งด่วนมาให้กับไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกนี่
โดยเนื้อความในสารคำสั่งด่วนนี้ก็คือคำสั่งแต่งตั้งให้ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะราชทูตและออกเดินทางไปยังอาณาจักรออร์ธรอส
โดยความต้องการของจักรพรรดิเลคซิอุสนั้นก็คือการไปนำราชสารฉบับหนึ่งไปถ่ายทอดให้กับผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอส
มาเอคาวะ ทัตสึยะ
แต่เนื่องจากเนื้อหาภายในราชสารฉบับนั้นเป็นความลับ
ชั้นจึงไม่ทราบรายละเอียดหรือความต้องการใดๆที่มีต่ออาณาจักรออร์ธรอส แต่ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกก็ได้บอกกับชั้นว่า
จักรพรรดิเลคซิอุสได้มีคำสั่งลับส่งตรงมาให้ตัวชั้นด้วย
ซึ่งเนื้อหาของคำสั่งลับนั้นก็คือ『ให้ใช้ร่างกายยั่วยวนและทำให้ผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอส มาเอคาวะ ทัตสึยะ หลงใหล หลังจากนั้นก็ให้หาจังหวะในการลอบสังหารผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอสซะ』
ซึ่งหากชั้นสามารถทำภารกิจลับนี้สำเร็จแล้วล่ะก็
ทุกคนในครอบครัวของชั้นจะได้รับการอภัยโทษ แน่นอนว่าหากชั้นคิดจะทรยศหรือขอความช่วยเหลือใดๆล่ะก็ ทุกคนในครอบครัวของชั้นจะต้องถูกประหารชีวิตทั้งหมดไม่มียกเว้น....
วันที่ 5 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 837
วันนี้เป็นวันที่พวกเราคณะราชทูตแห่งจักรวรรดิเอลติซได้เดินทางมาถึงยังอาณาจักรออร์ธรอส
โดยคณะราชทูตของพวกเรานั้นได้เดินทางมาด้วยเรือเหาะขนส่งหรูหรา ที่อาณาจักรออร์ธรอสได้จัดไว้ให้สำหรับผู้คนที่ต้องการจะมาเที่ยวงานเทศกาลสเตรเชียนั่นล่ะค่ะ
และเมื่อมาถึง ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกก็ส่งลูกน้องโสโครกของมันไปเพื่อนัดหมายเวลาสำหรับการเข้าเฝ้าในทันที
แต่เนื่องจากทางผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอสนั้นกำลังยุ่งกับงานเทศกาล
ทางนั้นจึงได้ตอบปฏิเสธ และให้พวกเราไปรออยู่ที่โรงแรมห้ามออกไปไหนจนกว่าจะถึงวันที่
1 เดือน 1 ถึงจะยอมให้เข้าเฝ้าได้
ซึ่งหากคิดตามปกติแล้ว การประเทศเล็กๆมาสั่งให้คณะราชทูตแห่งจักรวรรดิเอลติซซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่โตเป็นอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ต้องมารออยู่นานหลายวัน
แถมยังสั่งห้ามไม่ให้คณะราชทูตออกไปจากเขตของโรแรมนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาทเป็นอย่างมาก
แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น ผู้คนในประเทศนี้กลับไม่คิดจะมาใส่ใจคณะราชทูตของพวกเราเลยสักนิด
และนั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกหงุดหงิด อารมณ์เสีย และยังโวยวายเสียงดังน่ารำคาญเป็นอย่างมาก
ซึ่งก็แน่นอนว่า การที่ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกที่หงุดหงิดไม่สามารถออกไปอวดเบ่งอำนาจหรือระรานสาวๆในเมืองนี้ได้นั้น
มันก็ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น
และนำอารมณ์ร้ายๆเหล่านั้นทั้งหมดมาลงกับร่างกายของเด็กสาวอย่างชั้น
แต่ถึงจะพูดไปแบบนั้น
ตัวชั้นในตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงของเล่นอ่อนแอน่าสงสารที่ได้แต่คอยหวาดกลัวกับการถูกขืนใจอีกต่อไปแล้ว
「อร๊างงง!! อร๊า!! เสียวจังเลยค่ะเยรเกอร์ซามะ อร๊างง!!!
ใส่ของใหญ่ๆของเยรเกอร์ซามะเข้ามาแรงๆอีกสิคะ อร๊า!! อร๊า!! อร๊างง!!!」
กลับกัน ในตอนนี้ชั้นกลับคิดว่า การที่ชั้นได้มาร้องครางและร่อนสะโพกอย่างเสียวซ่านบนร่างกายของไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกตัวนี้ต่อหน้าสายตาหื่นกามของบรรดาลูกน้องของมันเนี่ย
มันทำให้ชั้นมีความสุขและยังรู้สึกดีสุดๆจนไม่อยากที่หยุดเลยล่ะค่ะ
「เด๋วสิ หยุดก่อนนะจ๊ะ ขะ ขอข้าพัก กะ ก่อนนะ
พอก่อนนะ ยูมิน่าจัง!!」
และยิ่งเวลาที่ไอ้เจ้าหมูตอนร้องไห้อ้อนวอนขอร้องให้ชั้นปล่อยให้มันนอนพักสักทีเนี่ย
มันก็ทำให้ชั้นรู้สึกมีความสุขระดับสุดยอดไปเลยค่ะ ซึ่งก็แน่นอนว่า
ชั้นไม่มีทางหยุดและจับไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกกรอกยาผ่านทางปากของชั้น จากนั้นจึงจัดหนักกับมันต่อจนกว่าจะไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกตัวนี้จะสลบไปเลยค่ะ
นี่สินะ
คือความรู้สึกซาบซ่าของการที่เราได้มามีความสุขอยู่บนความเจ็บปวดของผู้อื่น
ในช่วงหลังมานี้มันทำให้ชั้นเข้าใจได้เลยล่ะค่ะ
ว่าทำไมพวกผู้ชายถึงชอบข่มเหงรังแกพวกเด็กสาวน่ารักๆกันนัก
และก็ไม่ใช่เพียงไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกตัวนี้เท่านั้นนะคะที่ได้มากลายเป็นของเล่นของชั้น เพราะในช่วงที่ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกสลบไปนั้น
ชั้นก็ได้ไปยั่วยวนและหลอกล่อให้ไอ้พวกลูกน้องสกปรกของมันมาฝึกจนเชื่องกันไปเลยล่ะค่ะ
ในตอนนี้อาจจะเรียกได้ว่า ในสายตาของทุกๆคนในคณะทูตนั้น
ฐานะของชั้นอาจจะอยู่สูงกว่าไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกตัวนี้แล้วก็เป็นไปได้นะคะ
แล้วยิ่งหลังจากนี้ชั้นจะได้ไปอยู่กับทัตสึยะซามะ ผู้ปกครอง
อาณาจักรออร์ธรอสที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้แล้วด้วย
เพียงแค่คิดถึงเวลาที่จะได้มีความสุขกับทัตสึยะซามะคนนั้นแล้ว
ชั้นก็แทบจะอดทนรอให้ถึงเวลานั้นแทบจะไม่ไหวเลยล่ะค่ะ
ทัตสึยะซามะที่ขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิงคนนั้นจะทำให้ชั้นคนนี้ถึงจุดสุดยอดได้กี่ครั้งกันนะคะ
อุฟุฟุ!!
เวลาเดียวกับที่
ทูรี่จัดการข้าวของต่างๆหลังจากไปถึงยังบ้านใหม่ของเธอที่ฟูจิวิลล่า ช่วงสายของวันที่ 1 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 838
และในที่สุดวันที่ชั้นและพวกเราทุกคนในคณะราชทูตแห่งจักรวรรดิเอลติซก็มาถึงในที่สุด
เพื่อเข้าพบทัตสึยะซามะ
ชั้นและเด็กสาวอีกสองคนที่ถูกส่งมาในฐานะของขวัญก็ได้แต่งหน้าและแต่งตัวด้วยชุดเดรสที่งดงามที่สุดจาก
ร้านเสื้อผ้าชื่อดังของอาณาจักรออร์ธรอส ไอเชียแบรนด์
เพียงแต่สำหรับพวกเธอทั้งสองคนนั้น ถึงแม้จะแต่งหน้าและแต่งตัวแค่ไหน
สีหน้าและบรรยากาศที่หม่อนหมองของพวกเธอก็แสดงออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด
ไม่แน่ว่าบางทีสภาพครอบครัวของพวกเธอเองก็อาจจะย่ำแย่มาก
แต่เนื่องจากมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชั้น ดังนั้นชั้นไม่ได้ไปใส่ใจ
「เชิญตามมาดิชั้นมาทางด้านนี้เลยค่ะ
คณะราชทูตแห่งจักรวรรดิเอลติซทุกท่าน」
หลังจากเดินทางมาถึงยังปราสาทเซย์ริเอนด้วยพาหนะเวทมนหรูหราที่ชื่อว่า
ลีมูซีน หญิงสาวคนหนึ่งในชุดเกราะของหน่วยราชองค์รักษ์สีดำสนิทที่มีการประดับลวดลายสีเงินระยิบระยับก็ได้ออกมาต้อนรับด้วยท่าทางสง่างงาม
ความงดงามของเธอนั้น ทำให้ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกและพวกลูกน้องของมันต่างจ้องมองและลวนลามเธอผ่านสายตาของโสโครกของพวกมันอย่างชัดเจน
แต่ถึงอย่างนั้น หญิงสาวคนดังกล่าวก็ไม่แสดงอาการใดๆออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากเดินตามหลังราชองค์รักษ์สาวไปประมาณ 10 นาที พวกเราก็มาถึงยังประตูแก้วใสที่มีการสลักสวยลายสวยงามบานใหญ่ด้านหน้าของห้องท้องพระโรง
หากจะว่าไปแล้ว....ทั้งประตู กำแพง เชิงเทียน และของประดับตกแต่งเกือบทั้งหมดในปราสาทล้วนแล้วแต่เป็นแก้วใสสลักลวดลายที่ดูหรูหราทั้งนั้น
ก็คงต้องบอกว่าสมแล้วสินะคะ
ที่อาณาจักรออร์ธรอสหรือที่ผู้คนเรียกกันว่าอาณาจักรเวทมนต์แห่งนี้เป็นประเทศร่ำรวยอันดับ
1 ในโลก
「คณะราชทูตแห่งจักรวรรดิเอลติซ ขอเข้าเฝ้า!!」
หลังจากราชองค์รักษ์สาวตะโกนเสียงดังก้องกังวานไปทั่ว
ประตูแก้วใสตรงหน้าของพวกเราก็เลื่อนออกไปด้านข้างได้เอง....บางทีคงจะเป็นการใช้เวทมนต์หรือไม่ประตูแก้วใสบานนี้ก็อาจจะเป็นอุปกรณ์เวทก็เป็นไปได้....
เมื่อประตูเปิดออกมา พวกเราคณะราชทูตแห่งจักรวรรดิเอลติซก็เดินเข้าไปตามพรมสีดำหลักลวดลายสีทองขนาดใหญ่
โดยตลอดทั้งสองข้างนั้นมีหน่วยราชองค์รักษ์สาวสวยยืนเรียงแถว
และพวกเธอทุกคนก็ชักดาบออกมาปักลงพื้นไปตามทุกย่างก้าวที่พวกเราก้าวเดิน
และเมื่อเดินไปถึงยังจุดหนึ่ง ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะราชทูตก็ได้คุกเข่าลงและกล่าวทักทายยาวเหยียดไปตามมารยาท
ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้กล่าวทักทายกันตามมารยาทเรียบร้อยแล้ว ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกก็ได้นำราชสารที่จักรพรรดิมอบให้ออกมาอ่าน
โดยเนื้อความนั้นมีคำร้องขอจาก จักรพรรดิเอลติซ เลคซิอุส เอลมุส วอน
เอลติซ ต่อ อาเอคาวะ ทัตสึยะ ผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอสทั้งหมด 3 ข้อ
ข้อแรกนั้นก็คือคำขอให้อาณาจักรออร์ธรอสที่สร้างประเทศขึ้นอย่างไม่ชอบธรรมภายในอาณาเขตพื้นที่ของจักรวรรดิเอลติซนั้นได้มอบอำนาจการปกครองให้กับจักรวรรดิเอลติซ
และเข้าเป็นหนึ่งในประเทศอาณานิคม
ข้อที่สองนั้นคือคำขอให้ส่งตัววิศวกรผู้คิดค้นและสร้างอาวุธเวทและพาหนะเวทมนต์
รวมถึงแบบแปลนและวัตถุดิบตัวอย่างสำหรับการอาวุธเวทและพาหนะเวทให้กับจักรวรรดิเอลติซได้นำกลับไปศึกษาและพัฒนาต่อไป
ส่วนข้อที่สามนั้นคือ
ให้ส่งตัว เจ้าหญิงฟลอร่า และเจ้าหญิงคริสติน่า
ที่ได้ทรยศประเทศและหันคมดาบเข้าหาจักรพรรดิเลคซิอุส รวมถึงพวกขุนนางที่ก่อกบฏต่อจักรวรรดิเอลติซและครอบครัวของพวกมันทุกคน
「ผมขอปฏิเสธ
เล่นขอกันมาอย่างหน้าด้านๆไร้เหตุผลกันแบบนี้เนี่ย
คิดกันจริงๆเหรอว่าผมจะยอมทำตามง่ายๆน่ะ」
「โฮ่ๆ ด้วยความชาญฉลาดของฝ่าบาทผู้อยู่เหนือทุกชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้
องค์จักรพรรดิเลคซิอุสนั้นได้มีความคิดว่า
หากฝ่าบาทไม่ต้องการจะให้ผู้คนต้องมีการนองเลือดโดยเปล่าประโยชน์ล่ะก็ ควรจะยอมเสียสละสิ่งเล็กน้อยเหล่านั้นให้กับทางจักรวรรดิเอลติซจะเป็นการดีกว่า」
กับคำขอของทางจักรวรรดิเอลติซนั้น ทัตสึยะซามะได้ปฏิเสธออกมาในทันที แน่นอนว่าการถูกปฏิเสธกลับแบบนี้นั้น
เป็นเรื่องที่ทั้งชั้นและทุกคนในคณะราชทูตได้คาดการณ์กันเอาไว้ร่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว
ดังนั้นหลังจากนี้ก็ถึงคราวที่จะต้องมีการเจรจาของจริงกัน ซึ่งนั่นเองก็ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ของชั้นด้วย
และเมื่อมองไปยังชายหนุ่มผมสีดำหน้าตาน่าดึงดูดที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์แก้วแล้ว
ชั้นก็แทบจะรอที่จะได้สนุกสนานบนเตียงกับผู้ชายที่ปล่อยแรงกดดันมหาศาลคนนี้ออกมาไม่ไหว
「ถึงผมจะไม่ชอบให้ผู้คนต้องเสียเลือดเนื้อก็ตามที
แต่ผมก็ไม่คิดจะยกประเทศหรือผู้หญิงของผมให้กับใครหรอกนะ」
「ถ้าหากฝ่าบาทต้องการเช่นนั้นล่ะก็
เจ้าขุนนางกบฏ โรเดริก วอน โรเซนเบิร์ก
รวมถึงพวกชาวเมืองกบฏทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในเมืองกูสตาฟคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกเพียงไม่นานแล้ว」
เมื่อไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกตอบกลับไป
บรรยากาศภายในท้องพระโรงที่งดงามแห่งนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนไปในทันที
สายตาที่กำลังโกรธแค้นและดูถูกเหยียดหยาม จิตสังหารรุนแรงมากมายต่างพุ่งตรงที่มาพวกเรา
และนั่นก็ทำให้หลายๆคนในคณะราชทูตถึงกับหน้าซีดกันไปเลยทีเดียว
「โฮ่ นี่จักรวรรดิเอลติซได้ตกต่ำถึงขนาดที่จะต้องใช้ประชาชนของประเทศตัวเองมาเป็นตัวประกันเพื่อข่มขู่ผมแล้วสินะ」
「กับไอ้พวกกบฏสวะที่กล้าขัดคำสั่งองค์จักรพรรดิเลคซิอุส
และยังให้การสนับสนุนประเทศของศัตรูจนรุ่งเรืองนั้น
ชีวิตของพวกมันไม่มีค่าพอที่จะต้องมาให้องค์จักรพรรดิเลคซิอุส และพวกเราเหล่าขุนนางที่จงรักภักดีต้องเสียเวลา.....อั่ก!!」
แต่ก่อนที่ไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกจะพูดออกมาจนจบนั้น ร่างกายของไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกตัวนี้ก็ถูกซัดกระเด็นลอยไปชนกับเสาแห่งหนึ่ง
เลือดที่ทะลักออกมาจากทั่วร่างกายของไอ้เจ้าหมูสวะโสโครกตัวนี้แสดงให้เห็นเลยว่าอาการหนักมาก
แต่กับภาพที่ทำให้เด็กสาวอีกสองคนแสดงอาการหวาดกลัวจนหน้าซีดนี้ ชั้นกลับรู้สึกสะใจและมีความสุขจนอดที่จะแสยะยิ้มออกมาไม่ได้
กับของเล่นที่เบื่อแล้วเนี่ย ยังไงก็คงจะต้องโยนทิ้งไป
แล้วไปหาของเล่นชิ้นใหม่มาแทนสินะคะ....
อืม~! รอตอนต่อปาย~?
ตอบลบรอกันต่อไป -0-
ลบขอบคคุณครับ รอลุ้น สงครามจะเป็นงั้ย
ตอบลบจะจบอย่างไร -0-
ลบขอฉากเปิดศึกแบบตอน IJN ถล่ม Pearl Harbor ได้มั้ยแอด อยากเห็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโดนถล่ม
ตอบลบใจเย็นครับท่าน ตอนนี้ต้องไปช่วย ตัวประกันในเมืองกูสตาฟก่อนนะ
ลบแล้วก็ยัง ต้องไปช่วยมากิจัง ที่ยังซ่อนตัวรอโอกาสอยู่ในโบราณสถานใต้เมืองสเตรเชียอีก
หลังจากนั้นก็ต้องย้อนอดีตเรื่องราวของเด็กสาวผมสีเงิน
กับเปิดเผยตัวตน ผู้สร้างเผ่าปีศาจอีก และเรื่องเกี่ยวกับโลกเดิมอีก
กว่าจะไปถึงเมืองหลวงจักรวรรดิ นี่ก็ท้ายเล่มหน้าเลยครับ
แบบว่าอ่านมาหลายตอนแล้วของขึ้นนะคับ
ลบเวลาแต่ง ผมก็ขึ้นครับ โดยเฉพาะตอนนี้เลย XD
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเอาไปลงเวปกวีแล้วหรอครับ ยินดีๆด้วยๆ
ตอบลบใช่แล้วครับ เอาไปลงแล้วรีไรท์คำพูดใหม่หลายส่วน
ลบแต่ไม่รู้ว่าจะมีใครยอมจ่ายตังเพื่ออ่านมากสักแค่ไหน 555