ตอนที่ 32 พี่เขยแสนเจ้าชู้


-- มุมมองของอเดล --
                                                                        
วันที่ 8 เดือน 2 ศักราชเอลติซปีที่ 837

ชั้น อเดล เมลริส บุตรสาวคนรองของตระกูลเมลริส เนื่องจากต้นตระกูลของชั้นได้สร้างผลงานในสงครามและได้ช่วยเหลือชีวิตของขุนนางจักรวรรดิเอาไว้ จึงได้รับยศอัศวินและที่ดินกับหมู่บ้านเล็กๆมาปกครอง

แต่ที่ว่ามานั่นน่ะมันก็เป็นเพียงเรื่องในอดีตเท่านั้น เพราะในปัจจุบันนี้มันต่างออกไป ซึ่งมันก็เป็นเพราะว่าทัตสึยะซามะหรือก็คือท่านหัวหน้าจอมเวทดันมาถูกใจพี่สาวของชั้นเข้า แน่นอนว่าความงดงามของพี่สาวนั้นไม่น้อยหน้าพวกลูกสาวขุนนางคนอื่นๆดังนั้นชั้นจึงไม่แปลกใจนัก

แต่มันดูเหมือนจะไม่ใช่แค่นั้น นั่นก็เพราะทัตสึยะซามะนั้นให้ความสำคัญกับพี่สาวมากกว่าพวกลูกขุนนางคนอื่นมากมายนัก แต่ในเมื่อพี่สาวมีความสุขมากขนาดนั้น ชั้นจึงไม่มีความคิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว

นอกจากเรื่องของพี่สาวแล้ว ครอบครัวของเราก็ยังได้ให้ความช่วยเหลือและเข้าร่วมสงครามกับกองทัพของท่านจอมเวท จนในที่สุดพวกเค้าก็สามารถบุกเบิกอาณาเขตให้กับอาณาจักรออร์ธรอสได้ ตั้งแต่นั้นมาตระกูลเมลริสก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ทั้งๆที่อาณาจักรออร์ธรอสพึ่งจะก่อตั้งได้เพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่ตระกูลของเราก็ได้รับทั้งชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ และอาณาเขตที่ดินที่กว้างขวาง นั่นน่ะหากเทียบกับขุนนางของประเทศอื่นๆแล้ว บางทีตระกูลของเราในตอนนี้อาจจะมีอำนาจมากกว่าพวกท่านเคานต์ที่ปกครองอาณาเขตกว่าครึ่งทวีปเสียอีก

และก็เพราะเหตุนั้น จึงทำให้ทุกคนในครอบครัวของชั้นต้องวิ่งวุ่นทำงานเพื่ออาณาจักรออร์รอสกันจนแทบจะไม่มีเวลาว่าง หรือแม้แต่เวลาพักผ่อนเองก็เช่นกัน

ท่านพ่อน่ะ ในตอนแรกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นไวส์เคานต์และได้รับหน้าที่ให้คอยดูแลฝึกฝนพวกทหารใหม่น่ะ ในตอนนั้นท่านพ่อดีใจจนหลั่งน้ำตาออกมาเลยล่ะ

ท่านพ่อน่ะบอกว่าบุญคุณที่ได้รับมานั้น ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็จะขอทำทุกอย่างเพื่ออาณาจักรออร์ธรอสแต่นั่นก็เพียงแค่เดือนกว่าๆเท่านั้น เมื่อไม่กี่วันก่อนท่านพ่อก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งอีกครั้งแล้ว

ในตอนนี้ท่านพ่อน่ะ กลายเป็นผู้ปกครองเมืองท่ากัลน่าไปแล้ว แถมยังพ่วงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยไอออน์ฮาวล์ที่ 2 อีกด้วย เพียงแค่นี้ก็เรียกได้ว่าเป็นขุนนางที่มีอำนาจสูงในอาณาจักรแห่งนี้แล้ว

แล้วก็เพราะเรื่องนั้นอีกนั่นแหละ เลยทำให้มีเด็กสาวจำนวนมากเสนอตัวเข้ามาเป็นภรรยาน้อย สำหรับเรื่องนี้ชั้นก็จะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ท่านแม่ได้พูดเอาไว้ว่า สำหรับการเป็นขุนนางนั้น การมีภรรยาหลายคนถือเป็นสิ่งจำเป็น

มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงเกียรติยศ อำนาจและความมั่งคั่งของตระกูล เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับตระกูลขุนนางระดับสูง เพราะเหตุนั้นชั้นจึงต้องยอมรับมันอย่างเลือกไม่ได้

ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่เพียงท่านพ่อเท่านั้น กับท่านพี่เอดก้าเองก็ด้วย ทั้งๆที่เมื่อก่อนยังเอาแต่ติดน้องสาวอย่างชั้นแท้ๆ แต่ในตอนนี้กลับมีเด็กสาวจำนวนมากยื่นข้อเสนอในการแต่งงานเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหลวงหรือภรรยาน้อยพวกเธอก็ไม่เกี่ยง เรียกว่าเลือกกันได้ตามใจชอบอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว

จดหมายเชิญไปงานเลี้ยงดูตัวอีกแล้วสินะคะ ในมือนั่นน่ะ

ไอเชียซังพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับยกน้ำผลไม้ปั่นขึ้นดื่ม

เห้อ....น่าเบื่อที่สุดเลยล่ะค่ะ ทั้งๆที่ชั้นหนีมาเข้าโรงเรียนและตั้งใจจะไปเป็นจอมเวทแล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังไม่ยอมเลิกรากันซักทีก็ไม่รู้นะคะ

ชั้นถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย ใช่แล้วล่ะ ตัวชั้นเองก็ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นจดหมายเชิญไปงานเลียงดูตัว จดหมายเชิญไปงานเลี้ยงน้ำชา จดหมายขอเข้าพบ จดหมายรัก และจดหมายอื่นๆอีกมากมายที่สื่อความหมายถึงการคบหากับชั้นถูกส่งมามากมายจนอ่านกันแทบไม่หมด

นั่นน่ะก็เป็นเพราะว่าอเดลจังเป็นเด็กสาวที่น่ารักมากน่ะสิจ้ะ จะให้ชั้นที่เป็นผู้หญิงพูดก็อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ทัตสึยะซามะเองก็ยังบอกเลยว่า อเดลจังน่ะเป็นเด็กสาวที่น่ารักมากๆเลยนะคะ

การที่ถูกไอเชียซังที่เป็นสาวสวยชมเข้ามันทำให้ชั้นรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ไม่เพียงแค่ไอเชียซัง แม้แต่ทัตสึยะซังก็ยังชมชั้นด้วยงั้นเหรอเนี่ย........เอาเถอะยังไงก็คงเป็นเพราะความเจ้าชู้อีกนั่นแหละ

ทัตสึยะซามะพี่เขยของชั้นน่ะนะ ถึงภายนอกจะดูเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนก็เถอะ แต่ความจริงแล้วนะ ทัตสึยะซามะน่ะเป็นพวกเจ้าชู้แถมยังเป็นคนที่ลามกมากๆด้วยอีกต่างหาก

ทุกๆคืนนั้นไม่เพียงแค่พวกคู่หมั้นที่จะถูกเรียกไปที่ห้องนอน แต่พวกเมดเองก็จะถูกพาไปร่วมเตียงด้วยเช่นกัน แถมบางคืนยังมีการเรียกพวกเมดไปหาเพิ่มอยู่เรื่อยๆอีกด้วย ไม่รู้ทำไมถึงสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้มากขนาดนั้นกันนะ

ที่ทัตสึยะซามะชมออกมาแบบนั้นน่ะ คงกะว่าจะหลอกให้ชั้นไปหลงรักแล้วก็จะได้หาโอกาสทำเรื่องแบบนั้นกับชั้นด้วยอีกคนเท่านั้นแหละค่ะ

ชั้นตอบไอเชียซังกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ชั้นน่ะรักพี่สาวมากๆ เพราะงั้นไม่ว่าจะถูกชมหรือจะถูกล่อลวงด้วยสิ่งของแพงๆมากแค่ไหน ชั้นก็จะไม่ยอมไปร่วมเตียงกับพี่เขยอย่างเด็จขาด นั่นคือสิ่งที่ชั้นตัดสินใจไว้

พี่สาวน่ะรักทัตสึยะซามะมากเสียกว่าคนในครอบครัวเสียอีก ตลอดเวลาที่ได้เห็นพี่สาวอยู่กับทัตสึยะซามะน่ะ พี่สาวมักจะมีแต่รอยยิ้มอยู่เสมอ ชั้นน่ะไม่ว่าจะมีอะไรเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ชั้นจะไม่มีทางไปเป็นคู่แข่งด้านความรักกับพี่สาวอย่างเด็จขาด

ดีใจจังเลยค่ะ ถ้าหากอเดลจังยอมแพ้ไปแบบนี้ ชั้นเองก็จะได้มีโอกาสใกล้ชิดทัตสึยะซามะมากขึ้นด้วยสินะคะ

ไอเชียซังตอบกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ กับสาวสวยอย่างไอเชียซังน่ะ ชั้นคิดว่าหลังจากพี่เขยกลับมาเมื่อไหร่คงรีบพาเธอไปที่ห้องแน่ๆ แต่ทำไมเธอถึงได้มีรอยยิ้มเศร้าๆแบบนั้นออกมากันนะ......หรือว่าเธอจะยัง.........

มัวทำอะไรกันอยู่คะ!!! ทัตสึยะซามะกลับมาถึงประตูเมืองแล้วนะคะ!!!

ในขณะที่คิดแบบนั้นประตูห้องรับรองก็ได้ถูกเปิดออก ท่านหญิงเวลน่าในชุดเดรสสีส้มที่ประดับประดาไปด้วยระบายสีดำงดงาม เธอตะโกนเสียงดังออกมาก่อนจะรีบมาดึงตัวพวกเราไป

จะว่าไปแล้วที่ชั้นและไอเชียซังมารออยู่ในห้องรับรองก็เพราะพวกเราต้องมาเตรียมการต้อนรับการกลับมาของทัตสึยะซามะในวันนี้นี่นะ

เพราะชั้นมัวแต่อ่านจดหมายขอแต่งงานมากมายจึงทำให้ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

หลังจากนั้นพวกเราก็ออกมารวมตัวกันบริเวณลานกว้างด้านหน้าคฤหาสน์ ที่บริเวณลานกว้างนั้น นอกจากพวกเราแล้วก็ยังมีพวกเมดอีกกว่า 60 คน กำลังตั้งแถวเรียงตำแหน่งตามระดับชั้นของตน พวกเธอยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบสวยงามราวกับถูกฝึกฝนมาเพื่องานต้อนรับในวันนี้

เตรียมทุกอย่างออกมาได้ดีเลยนี่คะ ท่านหญิงเวลน่า

ไอเชียซังหันไปพูดกับท่านหญิงเวลน่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

มะ ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ!! ชะ ชั้นน่ะ!! ไม่ได้ตั้งใจจะทำเรื่องพวกนี้เพื่อให้ จะ เจ้านั่นมันดีใจหรอกนะ!!!

จากคำพูดของทั้งสองคนจึงทำให้ชั้นได้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเตรียมการของท่านหญิงเวลน่า ท่านหญิงเวลน่าเป็นพวกที่ไม่ค่อยซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองนัก เธอชอบพูดอยู่เสมอว่าเธอนั้นเกลียดทัตสึยะซามะมากแค่ไหน

แต่ทุกๆคนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ก็รู้กันดีว่าตัวเธอนั้นชื่นชอบทัตสึยะซามะมากแค่ไหน ก็นะ ถ้าหากไปถามท่านหญิงทุกคนว่าใครเป็นคนที่รู้ใจทัตสึยะซามะมากที่สุดล่ะก็ ทุกๆคนคงจะตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยล่ะว่าท่านหญิงเวลน่าเป็นคนที่รู้ใจทัตสึยะซามะมากที่สุด

แถมทุกๆครั้งที่เธอพูดเรื่องนั้นออกมา เธอก็มักจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เขินอายอยู่เสมอไป เอาเถอะ.....ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวชั้นล่ะนะ

「「「ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ นายท่าน!! นายหญิง!! มาเรียซามะ!!」」」

พริบตาที่ประตูของพาหนะเวทมนต์หรูหราถูกเปิดออก ท่านหญิงเวลน่าก็ส่งสัญญาณตามที่ได้ตระเตรียมเอาไว้ออก จากนั้นพวกเรารวมถึงพวกเมดทุกคนก็กล่าวคำพูดต้อนรับพร้อมกับโค้งตัวลงเพื่อแสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน

ฮะ ฮะ ยอดเยี่ยมไปเลย ผมไม่นึกมาก่อนเลยนะเนี่ยว่าจะได้เห็นกองทัพเมดที่พร้อมเพรียงแบบนี้ออกมารอต้อนรับน่ะ

ทัตสึยะซามะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและประทับใจ ไม่ผิดจากที่คิดไปจริงๆ ถึงแม้พวกเค้าจะไม่ได้เจอกันนานเกือบเดือน แต่ท่านหญิงเวลน่าก็ยังคงเป็นคนที่เข้าใจในสิ่งที่ทัตสึยะซามะชื่นชอบมากที่สุด

นั่นสินะคะ สมแล้วที่เป็นความคิดของท่านหญิงเวลน่า บางทีตัวชั้นเองก็คงจะต้องขอเรียนรู้เพิ่มเติมแล้วล่ะค่ะ

มาเรียซามะพูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ชะ ชั้นน่ะทำเพื่อให้ยูเมะซามะดีใจต่างหากล่ะ มะ ไม่ได้ทำไปเพื่อคนอย่างนาย....อะ ยะ อย่า เข้ามาใกล้....อุ๊บ!!!

เมื่อทัตสึยะซามะเดินเข้าไปใกล้ ท่านหญิงเวลน่าก็รีบปฏิเสธออกมาในทันที แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ถูกทัตสึยะดึงตัวเข้าไปโอบกอด จากนั้นทัตสึยะซามะก็ประทับริมฝีปากลงไปและเริ่มบรรจงจูบท่านหญิงเวลน่าอย่างเล่าร้อนต่อหน้าทุกคนในทันที

ไอเชียจังก็ด้วย ทั้งๆที่เธอน่าจะงานยุ่งอยู่แท้ๆ ขอบคุณที่ออกมาต้อนรับผมนะ

ต่อจากท่านหญิงเวลน่าก็เป็นไอเชียซัง แต่การปฏิบัติกับไอเชียซังนั้นแตกต่างจากท่านหญิงเวลน่าอยู่มากพอสมควร เพราะเป็นเพียงจูบที่อ่อนโยนที่ใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้น

อเดลจังเองก็ทำได้ดีมากเลยนะ ผมซื้อของฝากจากเมืองท่าออร์วิสมาให้เธอด้วยนะ.....ว่าแต่วันนี้เธอไม่ไปฝึกเวทมนต์ที่โรงเรียนงั้นเหรอ.....นั่นสินะ....เธอคงจะคิดถึงพี่เขยสุดที่รักคนนี้สินะ

หลังพูดจบพี่เขย......ทัตสึยะซามะก็เข้าไปมาโอบกอดพร้อมทั้งใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามเรือนผมของชั้นช้าๆอย่างอ่อนโยน

แต่ถึงแม้เค้าจะพยายามทำตัวอ่อนโยนกับชั้นซักแค่ไหน ชั้นก็รู้ดีว่าสิ่งทีเค้าทำนั้นมีจุดประสงค์ที่ร่างกายของชั้น ดังนั้นไม่ว่าเค้าจะอ่อนโยนกับชั้นแค่ไหน ชั้นก็จะไม่ยอมหลงเชื่อกับสิ่งที่เค้าทำอย่างเด็จขาด

เสียใจด้วยนะคะทัตสึยะซามะ ที่ชั้นมาอยู่ที่ก็เป็นเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของสาขาเวทมนต์น่ะค่ะ สำหรับชั้นแล้วนั้น ยกเว้นว่าจะเป็นคำสั่งโดยตรงจากคุณผู้ที่เป็นผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอสแห่งนี้แล้ว ชั้นน่ะไม่คิดที่จะละทิ้งหน้าที่ในการศึกษาหรอกค่ะ

ยังคงพูดจาเย็นชากับผมเหมือนเดิมเลยนะ

ทัตสึยะซามะตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยท่าทางอารมณ์ดี

แล้วทำไมคุณถึงต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยล่ะคะ.....

หลังจากทัตสึยะซามะเดินเข้าไปในคฤหาสน์แล้ว ชั้นก็หันไปถามกับเด็กสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวแปลกๆ

อ่ะ เอ่อ คือ เรื่องนี้มันก็เพราะ.....

รีบๆตามมาได้แล้วนะ.......ซู.....ซี่....จัง!

ฮึ!!...คะ ค่ะ นะ เนี๊ยว!!

ตามที่ได้รับแจ้งมานั้น ในครั้งนี้นอกจากทัตสึยะซามะ ยูเมะซามะ แล้วก็มาเรียซามะแล้ว ยังมีอัศวินสาวที่ชื่อซูซี่อีกคนติดตามกลับมาด้วย แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดแก้ตัวอะไรออกมา เธอก็ถูกทัตสึยะซามะเรียกตัวไปเสียก่อน......
                                                                                         
ทั้งๆที่เธอเป็นอัศวินที่น่าจะคิดถึงเกียรติยศชื่อเสียงมากกว่าสิ่งใดแท้ๆ แต่ทำไมเธอถึงต้องใส่ชุดว่ายน้ำที่มีชื่อเขียนติดไว้บนหน้าอกและยังมีหูแมวและหางแมวติดเอาไว้แบบนั้นกันด้วยนะ......เธอช่างเป็นอัศวินสาวที่ลึกลับจริงๆ...........
 

7 ความคิดเห็น:

  1. รอบนี้มาเร็วแฮะ Orz

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มีผู้บริจาคขอมาน่ะครับ ก็เลยเร่งให้ไวขึ้นเล็กน้อย

      ลบ
  2. ใช่ชุดว่ายน้ำนักเรียนหญิงแบบวันพีซของญี่ปุ่นหรือเปล่าคับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่เลยครับ ที่ผมคิดไว้คือชุดว่ายน้ำนักเรียนวันพีชสีน้ำเงินเข้ม
      ส่วนตรงหน้าอกก็มีปเขียนชื่อว่า ซูซี่ ติดเอาไว้ครับ 555555

      ลบ
  3. ถ้าแถมแว่นหน่อยนี้ครบเครื่องเลยน่ะ...//ไม่ได้เป็นสายแว่นแต่สภาพนี้ให้เลย...

    ตอบลบ