-- มุมมองของอเดล --
วันที่ 10 เดือน 2 ศักราชเอลติซปีที่ 837
หลังจากช่วงวันหยุดได้จบลง
วันนี้เป็นวันที่ชั้นจะกลับไปยังโรงเรียนหลวงสเตรเชีย
โดยปกติแล้วนั้น คูเซียซังผู้เป็นหนึ่งในหัวหน้าเมดของคฤหาสน์จะเป็นคนพาชั้นไปส่งด้วยพาหนะเวทมนต์ส่วนตัว
แต่เนื่องจากทัตสึยะซามะต้องการจะไปส่งชั้นด้วยตัวเอง
การที่เด็กสาวอย่างชั้นจะปฏิเสธเค้าที่เป็นถึงผู้ปกครองอาณาจักรก็ถือเป็นการเสียมารอย่างมาก
ชั้นจึงไม่มีทางเลือกและยอมให้เค้าพาไปส่งที่โรงเรียนด้วยพาหนะเวทมนต์สุดหรูหรา
「ไม่อยู่แค่เดือนเดียวเมืองนี้เปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะเนี่ย
สงสัยต้องเริ่มสร้างเมืองชั้นนอกเพิ่มแล้วล่ะมั้ง」
ทัตสึยะซามะพูดขึ้นในระหว่างที่พาหนะเวทมนต์กำลังเคลื่อนที่ผ่านตัวเมือง
เนื่องด้วยความรู้และความสามารถของพวกท่านจอมเวท ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาจึงมีทั้งอาคาร
ร้านค้า บ้านเรือน รวมทั้งสิ่งอำนวยคำสะดวกมากมายถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
และก็ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้จำนวนประชากรที่เข้ามาอยู่อาศัยภายในเมืองสเตรเชียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
จนในตอนนี้จำนวนประชากรในเมืองก็น่าจะมากกว่า 5,000 คนแล้ว
เหตุผลต่างๆที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากอพยพย้ายถิ่นฐานมาที่เมืองแห่งนี้ก็มีมากมายหลายอย่าง
ค่าครองชีพขั้นต่ำที่ถูกมาก เพียงแค่ตั้งใจทำงานเท่านั้นคุณก็จะสามารถหาซื้ออาหารมารับประทาน
3 มื้อต่อวันได้อย่างแน่นอน
การงานก็สามารถหาได้อย่างง่ายดายแม้จะไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ก็ยังมีการอบรมและฝึกฝนการทำงานให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ซึ่งนั่นทำให้แรงงานด้านต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับเรื่องนี้เองก็ดูเหมือนทางกิลด์พ่อค้าจะให้การสนับสนุนเป็นอย่างมากและเริ่มทำการขยายผลไปยังอาณาจักรออร์ฟีน่าบ้างแล้ว
ที่อยู่อาศัยเองก็มีมากมายหลายรูปแบบให้เลือก มีทั้งบ้านหลังเล็กใหญ่
หรือถ้าหากชอบอยู่คนเดียวก็ยังมีห้องพักภายหลากหลายรูปแบบภายในอาคารสูงหลายชั้นให้เลือกกันอย่างมากมาย
แถมไม่ว่าจะเป็นขุนนาง เป็นพ่อค้ารายใหญ่หรือพ่อค้าเร่ หรือแม้แต่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปก็ยังสามารถเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้ได้โดยไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น
ฐานะหรือเผ่าพันธุ์ แม้แต่พวกเด็กกำพร้าเองก็ยังมีสิทธิที่จะมาขอกู้เงินเช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีคนมาคอยค้ำประกัน
ด้านความปลอดภัยเองก็เรียกได้ว่าไร้ที่ติ ภายในเมืองจะมีกองอัศวินที่
2 คอยลาดตระเวนสอดส่องให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
ส่วนภายนอกกำแพงก็จะมีกองทหารรักษาการณ์คอยดูแล แทบจะไม่มีทางเลยที่จะมีพวกมอนสเตอร์
โจร หรือผู้กระทำผิดต่างๆเล็ดรอดเข้ามาได้
สำหรับชั้นแล้วหากพูดถึงเมืองนี้ล่ะก็ คงจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองในฝันที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะสามารถสร้างขึ้นมาได้จริงเลยทีเดียว
แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น
ชั้นก็รู้สึกไม่ค่อยชอบพี่เขยสุดแสนเจ้าชู้ที่เป็นวางรากฐานและคนสร้างเมืองนี้ขึ้นมาอยู่ดี.....ก็นะ.....หากพี่เขยคนนี้ไม่ทำตัวเจ้าชู้กับเด็กสาวทุกคนที่พบเจอล่ะก็.....บางทีตัวเองชั้นเองก็คงจะให้การยอมรับเค้าไปแล้ว
「นั่นท่านหญิงอเดลนี่นา เอ๋แล้วนั่น....ท่านหญิงมากับ....!!!??」
「นะ นั่น นั่น!! ท่านจอมเวท!!......ทะ
ทัตสึยะซามะ…..!!!!????」
「ใช่จริงๆด้วย ทัตสึยะซามะ!!! ทัตสึยะซามะ!!! อรุณสวัสดิ์ค่า!!!」
「ชะ ช่างเป็นท่านชายที่งามสง่าอะไรเช่นนี้......」
「ชั้นเองก็อยากจะมีโอกาสที่นั่งอยู่ข้างๆเค้าบนพาหนะเวทมนต์หรูหราคันนั้นบ้างจังเลยอ่ะ…….」
「พวกเธอเนี่ยนะ........เอาเถอะ......ยังไงก็อย่าได้เข้าไปขัดขวางการทำงานของทัตสึยะซามะก็แล้วกัน.....」
พอพาหนะเวทมนต์เดินทางมาถึงบริเวณด้านหน้าของโรงเรียนหลวงสเตรเชีย เหล่า
เด็กสาวมากมายต่างก็ส่งเสียงทักทายพร้อมทั้งโบกมือให้ ส่วนพวกเด็กผู้ชายหลายๆคนก็ยืนตรงและหันมาโค้งคับนับเพื่อแสดงความเคารพ
ทัตสึยะซามะที่ได้เห็นการต้อนรับของทุกคนก็โบกมือกลับไปด้วยรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนเช่นเดียวกัน
「ยังมีธุระต้องไปทำอีกไม่ใช่หรือคะ รีบๆไปได้แล้วค่ะ」
「ฮะๆ นั่นสินะ
ถ้างั้นผมไปทำธุระต่อเลยแล้วกัน ฝากทักทานเพื่อนๆในห้องของเธอด้วยล่ะ」
หลังยืนส่งจนทัตสึยะซามะหายลับสายตาไปแล้ว ชั้นก็หันไปทักทายพวกเพื่อนๆที่ยังคงยืนมองดูการจากไปของทัตสึยะซามะอยู่รอบๆ
จากนั้นจึงตรงไปยังอาคารเรียนของสาขาเวทมนต์ที่อยู่ลึกเข้าไปทางตะวันออก
สำหรับโรงเรียนหลวงสเตรเชียนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นแผนกชั้นต้นกับแผนกชั้นสูง
โดยแผนกชั้นต้นนั้นจะเปิดสอนเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไป
การอ่านเขียนตัวอักษร การคิดคำนวนเบื้องต้น ประวัติศาสตร์ที่ควรรู้ การอ่านแผนที่และภูมิศาสตร์
การเข้าสังคม มารยาท การเต้นรำ การเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันต่างๆ รวมถึงการป้องกันตัวและทักษะในการใช้อาวุธเบื้องต้น
สำหรับแผนกชั้นต้นนั้น
ไม่ว่าใครที่ต้องการจะสามารถที่จะสมัครเข้ามาเรียนได้ตลอดเวลา ซึ่งค่าเล่าเรียนทั้งหมดจะถูกจ่ายโดยอาณาจักรออร์ธรอส
แต่สำหรับค่าที่พัก อาหาร
เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องจำเป็นต่างๆนั้นจะเป็นรูปแบบการเช่า ซึ่งก็ต้องมาช่วยงานและทำประโยชน์ให้กับโรงเรียนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
แต่สำหรับแผนกชั้นสูงที่ชั้นกำลังศึกษาอยู่นั้นแตกต่างจากชั้นต้นโดยสิ้นเชิง
การจะเข้ามาเรียนในแผนกชั้นสูงได้นั้น
จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความความสามารถตรงกับสาขานั้นๆที่ต้องการจะเรียน ซึ่งทุกๆความสามารถจะถูกตัดสินโดยละเอียดจากผู้เชียวชาญในสาขานั้นๆ
โดยผู้สมัครทุกๆคนสามารถที่จะยื่นเรื่องขอเข้ารับการทดสอบกี่ครั้งก็ได้
แต่จะต้องผ่านการคัดเลือกให้ได้ก่อนที่จะมีการเปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการในวันที่
1 เดือน 4 แน่นอนว่าตัวชั้นที่เป็นคนของตระกูลเมลริสเองก็ต้องเข้ารับการทดสอบเช่นเดียวกัน
และเพราะเหตุนั้นชั้นจึงตั้งใจอ่านทั้งหนังสือมากมายเกี่ยวกับเรื่องของเวทมนต์
ทั้งยังไปเข้าร่วมศึกษาทักษะการต่อสู้กับพวกกองทหารใหม่
ทั้งศึกษาวิชาเฉพาะทางต่างๆมากมาย
จนในที่สุดชั้นก็สามารถผ่านการคัดเลือกเข้ามาในสาขาเวทมนต์ได้หลังจากเข้ารับการทดสอบอย่างยากลำบากถึง
2 ครั้ง
「อะ อาเดลจางงง!!!」
ในทันทีที่ชั้นเปิดประตูห้องเรียนเข้าไป เด็กสาวร่าเริงคนหนึ่งพุ่งเข้ามากอดพร้อมทั้งใช้ผิวหน้านุ่มๆของเธอเข้ามาถูไถตามร่างกายของชั้น
เธอคนนี้ก็คือหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องของชั้นชื่อว่ามาร์กาเร็ต
เกลเรอร์ เธอเป็นบุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
จากที่ชั้นรู้ดูเหมือนว่าเธอจะถูกยูเมะซามะช่วยเอาไว้ในตอนที่หมู่บ้านของเธอกำลังถูกพวกมอนสเตอร์บุกเข้าโจมตี
และเนื่องจากหมู่บ้านของเธอถูกทำลาย
พวกผู้คนในหมู่บ้านของเธอจึงอพยพย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองสเตรเชียซึ่งมีความปลอดภัยสูงกว่า
ตัวเธอนั้นเป็นเด็กสาวที่มีนิสัยร่าเริงและยังเอาแต่เล่นสนุกได้ตลอดเวลา
「มะ มากาเร็ตซัง!! ดิชั้นเคยพูดตั้งหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือคะ
ระหว่างอยู่ในโรงเรียนน่ะคุณควรจะรักษามารยาทให้มากเข้าไว้น่ะค่ะ!!」
ส่วนเด็กสาวที่กำลังต่อว่ามากาเร็ตซังอยู่คนนี้มีชื่อจริงว่า
ลูมิเรน่า เฮเลน่า วี แอสเทอเรีย เธอนั้นเป็นเจ้าหญิงลำดับที่ 7
แห่งอาณาจักรแอสเทอเรีย แต่เพราะทางโรงเรียนต้องการที่จะปกปิดฐานะที่แท้จริงของเธอ
พวกเราทุกคนจึงเรียกเธอด้วยชื่อเล่นสั้นๆว่า ลูมิน่าจัง
「คุณเองก็ด้วยนะคะ อเดลซัง!! ที่นี่น่ะเป็นโรงเรียนหลวงแห่งเมืองสเตรเชียนะคะ
คุณเองก็เป็นถึงบุตรสาวแห่งตระกูลเมลริส คุณไม่ควรจะปล่อยให้มากาเร็ตเข้ามาซังสัมผัสร่างกายของคุณได้ตามใจชอบต่อหน้าคนอื่นๆแบบนี้นะคะ!!!」
ต่อจากมาร์กาเร็ตจังก็เป็นตัวชั้นที่ถูกลูมิน่าจังต่อว่า กับเรื่องที่ลูมิน่าจังพูดออกมานั้นก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
เพราะถึงแม้จะเป็นเพื่อนในห้องเรียนแต่ไม่ว่ายังไงตัวชั้นก็เป็นถึงท่านหญิง
ดังนั้นชั้นควรจะสงวนร่างกายของชั้นเอาไว้ให้กับผู้ที่จะมาเป็นคู่ครองเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็ยังอยากจะสนิทสนมกับมาร์กาเร็ตจังที่เป็นเพื่อร่วมห้องให้มากขึ้นอยู่ดี....
「มาร์กาเร็ตจัง ถึงแม้จะดูห่างเหินไปบ้าง
แต่ที่ลูมิน่าจังพูดมาก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะคะ เพราะงั้นจะช่วยพอแค่นี้ก่อนได้มั๊ยคะ」
「อุ...อู..........」
มาร์กาเร็ตจังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออกจากร่างกายของชั้น......
「อ่ะ!....ทัตสึยะซามะนำของฝากมาให้ทั้งสองคนด้วยนะคะ」
「ขะ ของฝากจาก ทะ ทัตสึยะซามะ..............」
เนื่องจากลูมิน่าจังเป็นแฟนคลับของคุณพี่เขยสุดเจ้าชู้ ดังนั้นทุกๆครั้งที่มีการเอ่ยถึงชื่อของทัตสึยะซามะขึ้นมา
เธอก็มักจะแสดงอาการเขินอายออกมาในทันที
บางทีที่ตัวเธอถึงกับข้ามทวีปมาเรียนยังเมืองแห่งนี้เองก็อาจจะเพราะความชื่นชอบในตัวของทัตสึยะซามะก็เป็นได้
แต่สำหรับตัวชั้นแล้วนั้น ชั้นก็ได้แต่หวังว่าเธอจะได้พบเจอกับคู่ครองที่ดีกว่าพี่เขยของชั้น
「ของฝาก!!! ของอร่อยๆสินะคะ!!!」
พอได้ยินว่ามีของฝากเท่านั้น มาร์กาเร็ตจังก็กลับมาเป็นเด็กสาวร่าเริงอีกครั้ง
และเธอก็รีบเข้ามาเปิดค้นดูสิ่งของภายในถุงสัมภาระของชั้นในทันที
「ยะ หยุดเลยนะคะ!!! ของฝากนั่นไม่ใช่ของคุณเพียงคนเดียวนะคะ!!!」
ลูมิน่าจังรีบเข้ามาห้ามมาร์กาเร็ตจังในทันที และก็เพราะเอาแต่แย่งกันไปแย่งกันมา
ข้าวของในถุงสัมภาระจึงตกกระจายเกลื่อนกลาด และสุดท้ายพวกเราทั้งสามคนก็ถูกอาจารย์ประจำชั้นดุและโดนทำโทษจนได้..........
ty ครับ (รู้สึกอิจฉาแปลกๆ)
ตอบลบอิจฉาสาวๆที่ได้เล่นสนุกกันสินะครับ XD
ลบไม่ใช่สักนิด
ลบขอบใจมากจร้า
ตอบลบน้องเมียคนนี้ อย่าให้หลุดมือไปได้ละคุณพี่เขย....
ตอบลบต้องติดตามกันต่อไปครับ
ลบเนื้องเรื่องของอเดลยังมีอีกเยอะ.....
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบพูดถึงน้องเมีย ทำไมผมนึกถึง ช่างแอร์ในตำนาน
ตอบลบ