ตอนที่ 34 หลบหนี บทที่ 1



-- มุมมองของชาช่า --

ตรงหน้าของชั้นคือหญิงสาวคนหนึ่งที่มีผมสีเงินเป็นประกาย ทั้งๆที่เธอมีใบหน้าที่น่ารักแต่ในแววตาของเธอกลับแผ่รังสีฆ่าฟันออกมาที่รุนแรงออกมาตลอดเวลา

ฝีมือไม่เลวเลยนี่!!

ในขณะที่คอยรับการโจมตีของเธอชั้นก็พยายามพูดยั่วยุเพื่อถ่วงเวลา กับตัวชั้นที่มีสกิลดาบเลเวล 3 ยังต้องเป็นฝ่ายรับ แสดงให้เห็นว่าฝีมือของเธอนั้นสูงกว่า

ปืงงงงงง----ปืงงงงงง----ปืงงงงงง----!!!

ปืงงงงงง----ปืงงงงงง----!!!

ปืงงงงงง----ปืงงงงงง----ปืงงงงงง----ปืงงงงงง----!!!

แต่พอเสียงแตรสัญญาณดังขึ้น เธอก็รีบกระโดดไปยังหลังคาของบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ๆและหลบหนีไปในทันที รังสีฆ่าฟันที่ปล่อยเข้าใส่ชั้นตลอดเวลาก่อนหน้านี้ก็หายตามเธอไปด้วยราวกับเรื่องโกหก

เธอเป็นใครกันนะ……ไม่สิ.....ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็เห็นเกี่ยวกับชั้นเลยนี่

ระหว่างที่กำลังพึมพำอยู่นั้นชั้นก็มองเห็นกองทัพทหารจำนวนมากขี่นกเจลโล่วิ่งผ่านประตูเมืองเข้าไปยังด้านใน

........นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วนะเนี่ย!!

กับเรื่องที่เกิดขึ้นจะให้รอดูสถานการณ์คงไม่ได้ และในเมื่อพวกมันฝ่าประตูเมืองชั้นนอกเข้ามาได้แล้ว ก็คงจะรอกำลังเสริมอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ เพราะหากรออยู่ที่นี่ต่อล่ะก็มีหวังได้ตกอยู่ในวงล้อมของพวกศัตรูอย่างแน่นอน

เมื่อคิดได้ดังนั้นก็มีเพียงหนทางเดียวก็คือต้องรีบกลับไปรวมกับกองอัศวินที่ 2 ทีประตูเมืองชั้นใน แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็คิดว่าคงจะต้องพานายทหารที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้กลับไปด้วย

ชั้นรีบวิ่งตามนายทหารคนนั้นขึ้นไปยังหอคอยส่งสัญญาณ แต่ภาพที่ชั้นเห็นนั้นมันไม่น่ามองเอาเสียเลย

นายทหารคนนั้น ไม่เพียงแต่เป็นร่างไร้วิญญาณ แต่ร่างกายของเขากลับถูกกลืนกินไปด้วยของเหลวสีดำที่ดูน่าขยะแขยง ไม่เหลือสภาพของร่างกายที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่ามนุษย์อีกต่อไป

........อุ!!

สภาพน่าขยะแขยงนั้น ทำให้ตัวชั้นที่ผ่านสนามรบมาบ่อยครั้งยังแทบจะอาเจียนออกมา ร่างกายของชั้นมันแสดงอาการออกมาว่า หากจะต้องต่อสู้กับหญิงคนนั้นอีกครั้งล่ะก็ ขอตายด้วยคมดาบของทหารศัตรูยังดีเสียกว่า

หลังลงมาจากหอคอย ชั้นก็รีบหาทางตีฝ่าศัตรูและมุ่งไปยังเมืองชั้นใน ซึ่งระยะทางจากประตูเมืองชั้นนอกถึงเมืองชั้นในนั้น มีระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร

และในที่สุด ถึงแม้จะต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงแต่ชั้นก็ฝ่าทหารของศัตรูไปถึงเมืองชั้นในจนได้

หากเป็นเมืองอื่นล่ะก็ชั้นคงจะต้องตายอยู่ที่นี่ แต่เมืองกูสตาฟนั้นเป็นเมืองที่ชั้นวิ่งเล่นมาตั้งแต่เด็ก จึงรู้เส้นทางในการหลบหนีเป็นอย่างดี

หัวหน้าหน่วยย่อยที่ 16 ชาช่า เมลฟาน รายงานตัวค่ะ!!

เมื่อไปถึงยังเมืองชั้นใน ชั้นก็รีบเข้าไปรายงานตัวกับหัวหน้ากองอัศวินที่ 2 ท่านโจเซฟ รูค ในทันที

ชาช่า เธอมาก็ดีแล้ว ท่านเคานต์เกรฟี่มีคำสั่งเรียกตัวเธอเข้าพบโดยด่วน รีบไปในทันทีเลยนะ

มะ....มีเรื่องอะไรด่วนกว่าการป้องกันเมืองงั้นเหรอคะ………

สถานการณ์ในตอนนี้ฝ่ายเราค่อนข้างเสียเปรียบน่ะ ถึงจะไม่รู้รายละเอียดแต่ท่านเคานต์เกรฟี่คงจะมีแผนการอะไรซักอย่างเพื่อใช้รับมือนั้นแหละ เพราะงั้นก็เลิกสงสัยและรีบๆไปได้แล้ว

รับทราบ!!
ถึงแม้จะสงสัยแต่ในเมื่อได้รับคำสั่งชั้นก็ยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี แต่เดิมก่อนจะขึ้นเป็นผู้นำตระกูลนั้นตัวท่านเคานต์เกรฟี่เองก็เป็นอัศวินที่ผู้คนมากมายนับถือ เพราะงั้นท่านจึงอาจจะมีแผนการอะไรอยู่ในใจก็ได้

ดิชั้น ชาช่า หัวหน้าหน่วยย่อยที่ 11 แห่งกองอัศวินที่ 2 มาเพื่อขอเข้าพบท่านเคานต์เกรฟี่ตามที่ได้รับคำสั่งค่ะ

เมื่อแจ้งชื่อที่หน้าปราสาทกูสตาฟ เมดสาวคนหนึ่งก็นำทางชั้นเข้าไปด้านใน

นายท่าน หัวหน้าหน่วยย่อยที่ 11 ขอเข้าพบค่ะ

เข้ามา!!

เมื่อได้รับอนุญาตชั้นจึงเดินเข้าไปด้านใน และโค้งตัวลงคำนับท่านเคานต์เกรฟี่

ไม่ต้องมามัวเสียเวลามากพิธีแล้ว จากนี้เธอจะต้องคุ้มกันยูฟีน่าไปยังเมืองเวลล่าเพื่อส่งข้อความให้กับโรเดริคและกองอัศวินที่ 1 รีบออกเดินทางในทันที!!

ยังไม่ทันได้แนะนำตัวท่านเคานต์เกรฟี่ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

ภารกิจด่วนในครั้งนี้คือการคุ้มกันท่านหญิงยูฟีน่า บุตรสาวคนเล็กของตระกูลโรเซนเบิร์กไปยังเมืองเวลล่า เพื่อแจ้งข่าวเรื่องที่เมืองกูสตาฟถูกพวกกบฏเข้าโจมตีให้กับท่านโรเดริก

จริงอยู่ว่าสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้การส่งตัวบุตรสาวออกไปนั้น นอกจะเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับเธอแล้ว ก็ยังเป็นการฝึกฝนให้ตัวท่านหญิงได้มีประสบการณ์มากขึ้นสำหรับใช้ในอนาคตอีกด้วย

เพียงแต่ทำไมถึงจะต้องเป็นเมืองเวลล่า ถ้าลองพิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว การไปขอกำลังเสริมจากเมืองโคเลียหรือเมืองเอลเบสที่อยู่ใกล้ๆ ยังฟังดูมีเหตุผลมากกว่า

เพราะถึงแม้ว่าท่านโรเดริจะเป็นผู้ที่ไร้คู่ต่อกร แต่ในตอนนี้ท่านก็อยู่ห่างไกลไปมาก การเดินทางด้วยเจลโล่นั้นยังต้องใช้เวลาถึง 10 วัน หรือหากใช้เส้นทางที่อันตรายหน่อยก็ยังต้องใช้เวลาถึง 8 วัน

และหากคิดถึงระยะเวลาในการเดินทัพกลับมาด้วยล่ะก็ เมืองกูสตาฟคงจะแตกไปเสียก่อนแน่

ท่านพ่อคะ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะเร่งด่วน แต่การตะคอกใส่หญิงสาวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ขุนนางผู้ปกครองควรกระทำนะคะ

ท่านหญิงยูฟีน่ากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะของเธอ แม้จะเป็นสถานการณ์วิกฤตแต่ท่านหญิงก็ยังคงดูสงบนิ่ง ทั้งๆที่ตัวเธอนั้นพึ่งจะมีอายุเพียง 12 ปี แต่เธอกลับไม่ได้มีที่ท่าหวาดกลัวหรือแต่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด

อาจจะเป็นเพราะเธอโตขึ้นมาในตระกูลโรเซนเบิร์ก เธอจึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบในฐานะบุตรสาวของขุนนางผู้ปกครอง หรือบางทีเธออาจจะแค่ฝืนตัวเองอยู่ก็เป็นได้

โฮ่! โทษทีๆ พอดีข้าใจร้อนเกินไปหน่อยน่ะ ....เธอคือชาช่า กุหลาบสีทองที่เรื่องชื่อสินะ ถึงแม้ภารกิจนี้จะค่อนข้างอันตราย แต่ข้าคงจะต้องพึ่งเจ้าแล้ว ช่วยให้ยืมกำลังด้วยเถิด

ท่านเคานต์เกรฟี่ก้มหัวขอโทษออกมา การที่ขุนนางผู้มียศสูงกว่าจะมาก้มหัวให้ลูกน้องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก เพราะงั้นชั้นคงจะโกรธท่านกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ได้.....ไม่สิกับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเรียกได้ว่าทำให้ชั้นรู้สึกนับถือตัวท่านในฐานะผู้นำตระกูลโรเซนเบิร์กมากขึ้นไปอีก

เข้าใจแล้วค่ะ ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ดิชั้นก็จะปกป้องท่านหญิงเอาไว้ให้ได้ค่ะ

การเดินทางไปเมืองเวลล่าในครั้งนี้นั้นนอกจากชั้นกับท่านหญิงยูฟีน่าแล้ว ก็ยังมีข้ารับใช้หญิงที่เชี่ยวชาญการใช้ดาบของตระกูลโรเซนเบิร์กอีก 2 คน

เสบียงอาหาร ข้าวของจำเป็นต่างๆและเงินสำหรับค่าเดินทางนั้นถูกเตรียมเอาไว้ให้อย่างครบครัน พวกเราจึงสามารถออกเดินทางได้ในทันที
ชาช่าซัง ภารกิจในครั้งนี้ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ

ท่านหญิงจับชายกระโปรงย่อตัวลงและกล่าวออกมาด้วยท่าทีสง่างาม ท่านหญิงในตอนนี้ใส่ชุดของหน่วยอัศวินเพื่อปิดบังฐานะและเพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง แต่ถึงอย่างนั้นความเป็นขุนนางที่อยู่ในสายเลือดของเธอก็ยังคงเปล่งประกายออกมาให้เห็น

พวกเราออกเดินทางกันโดยใช้อุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ใต้ปราสาทกูสตาฟ เนื่องจากทางมันแคบจึงไม่สามารถใช้เจลโล่ในการเดินทาง และเพราะเหตุนั้นทำให้พวกเราต้องใช้เวลานานถึง 3 วันกว่าจะไปถึงยังหมู่บ้านดูล่า

ทั้งๆที่เป็นการเดินทางที่ยากลำบากแต่ท่านหญิงกลับไม่เคยปริปากบ่นออกมาเลยแม้แต่น้อย นอกจากนั้นเธอยังสามารถแนะนำเรื่องต่างๆที่ช่วยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความรวดเร็วในการเดินทางได้อีก

นั่นเป็นครั้งแรกที่ชั้นรู้สึกหวาดกลัวกับความสามารถของเด็กสาวผู้มีอายุเพียงแค่ 12 ปีคนนี้ ไม่แน่ว่าบางทีในอนาคตเธออาจจะกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่กว่าใครจะคิดถึงก็เป็นได้

3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ ลูกสาวคนเล็กของเจ้าเมือง...อายุสิบสอง ถ้าใครคิดจะดึงเข้าฮาเร็มล่ะก็...สถานะของคนนั้นจะกลายเป็นพี่หมีทันที
    เอ้า! ว่าไงล่ะ! เจ้าอากิ หรือเทพทัต ใครอยากจะเป็นพี่หมี เชิญเลย เดี๋ยวช่วยเรียกคุณตำหนวดให้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมนี่กดเบอร์รอแล้วครับ 5555
      ขอบคุณตอนที่ 34 ครับ

      ลบ
  2. ใครเอายูฟีน่าเข้าฮาเร็มจะเจอ คุก คุก และก็ คุก

    ตอบลบ