-- มุมมองของเอลิเซ่ --
หลังจากท่านจอมเวทผู้งดงามจากไป
ชั้นก็รีบสั่งให้พวกเมดไปตามพวกท่านหญิงเพื่อนๆของชั้น
บรรดาข้ารับใช้และเมดของพวกเธอ และทุกๆคนที่ชั้นคิดว่าพวกเค้าจะยอมฟังในสิ่งที่ชั้นพูดให้มารวมตัวกันภายในห้องของชั้น
「ไอ้เจ้านักบวชลามกนั่นตายแล้ว!!!
ที่พูดมานั่น...เรื่องจริงเหรอคะเนี่ย!!!」
「ที่ว่าเสียชีวิตแล้วเนี่ย
ท่านหญิงเอลิเซ่เป็นคนลงมืองั้นเหรอคะ.....」
「ถึงดิชั้นจะรู้รังเกียจไอ้เจ้านักบวชลามกนั่นมานานก็ตามที
แต่การที่มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในระหว่างการเดินทางเนี่ย
มันจะเป็นผลดีต่อพวกเราแน่หรือคะ......」
หลังจากที่ชั้นบอกเรื่องการเสียชีวิตของอาร์ชบิชอปออก้าให้กับทุกคน
พวกเพื่อนๆของชั้นก็เริ่มแสดงสีหน้ากังวลและแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันออกมา
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
เพราะถึงแม้เจ้านักบวชนั่นจะทำเรื่องแย่ๆกับพวกเรามากแค่ไหน
แต่เจ้านั่นก็ยังเป็นผู้มีที่มีอำนาจสูงของศาสนจักร
ดังนั้นถึงแม้พวกเราจะปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเจ้านั่น
แต่ทางศาสนจักรคงจะไม่มีทางเชื่อ
เพราะงั้นการกระทำต่างๆของพวกเราหลังจากนี้คงจะต้องยากลำบากขึ้นอย่างแน่นอน
「ดิชั้นรู้ดีค่ะว่าทุกคนกำลังสับสนและกังวล
แต่ไม่ว่าความรู้สึกของทุกคนจะเป็นอย่างไร
พวกเราก็ไม่อาจจะเปลี่ยนความจริงที่ว่าท่านอาร์ชบิชอบออก้าได้เสียชีวิตลงแล้วได้หรอกนะคะ」
「เอาเถอะค่ะ.....ยังไงดิชั้นก็ได้เตรียมใจเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับท่านหญิงในการเดินทางมายังอาณาจักรออร์ธรอสแล้ว
เพราะงั้นดิชั้นเองก็จะให้ความร่วมมือกับท่านหญิงไปจนถึงที่สุดนั่นล่ะค่ะ」
「ชั้นเองก็ด้วยค่ะ
ถึงแม้หลังจากนี้จะต้องเผชิญกับเรื่องที่ยากลำบากซักแค่ไหน แต่สำหรับชั้นแล้ว
การที่เจ้านักบวชสวะนั่นตายไปได้เสียทีเนี่ย ถือเป็นเรื่องน่ายินดีมากเลยล่ะค่ะ」
「นั่นสินะคะ
ต่อให้กังวลไปยังไงเจ้านักบวชลามกนั่นก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี
เพราะงั้นชั้นเองก็จะขอให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน ว่าแต่ท่านหญิงมีแผนการอย่างไรในใจแล้วอย่างงั้นหรือคะ.....」
กับการที่ทุกคนยอมให้ความร่วมมือโดยง่ายนั้นทำให้ชั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
พวกเราทุกคนนั้นเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนแล้ว
เพราะงั้นชั้นจึงได้บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่ชั้นได้ฟังมาจากท่านจอมเวทกับทุกคนฟัง
「หนึ่งในท่านจอมเวทเป็นคนลงมือ.....อย่างงี้นี่เอง
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็
ไม่แน่ว่าพวกท่านจอมเวทอาจจะรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรของพวกเราเป็นอย่างดี
จึงต้องการที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่แรกแล้วก็ได้นะคะ」
「น่าอิจฉาจังเลยนะคะ
ชั้นเองก็อยากจะได้พบเจอกับจอมเวทผู้งดงามจนทำให้ท่านหญิงไม่อาจจะละสายตาไปได้บ้างจริงๆค่ะ」
กับเรื่องราวเกี่ยวกับพวกท่านจอมเวทนั้น
ทุกคนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก
ยิ่งกับพวกเมดบางคนที่ถูกเจ้านักลามกขืนใจมาแล้วหลายต่อหลายครั้งนั้น
พวกเธอถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจเลยทีเดียว
「อีกเพียงไม่นานพวกเราก็จะได้พบกับพวกท่านจอมเวทแล้วล่ะค่ะ
เพราะงั้นก็ช่วยอดทนกันอีกซักนิด แล้วมาผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยนะคะ」
เนื่องจากเวลาที่ท่านจอมเวทให้ไว้มีจำกัด
ชั้นจึงรีบหยุดบทสนทนาเอาไว้เพียงเท่านี้
และนำเอาอุปกรณ์เวทป้องกันทุกสรรพสิ่งออกมาพร้อมทั้งเริ่มเปิดใช้งาน
「ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!」
หลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทเพียงไม่กี่วินาที
ชั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังก้องมาจากบริเวณห้องเครื่อง
ซึ่งเสียงดังอันหาศาลที่เกิดขึ้นนั้นทำเอาพวกเมดบางคนถึงกับตกใจกลัวจนล้มลงไปกับพื้น
「สมกับเป็นท่านจอมเวท
จัดการได้ตรงตามเวลาที่บอกเอาไว้เป๊ะเลยนะคะ」
「หลังจากนี้ก็เพียงแค่รอจนกว่าท่านจอมเวทจะมาช่วยออกไปสินะคะ」
「แค่เพียงคิดถึงเรื่องที่จะมีจอมเวทหนุ่มรูปงามมาช่วยออกไปเนี่ย
ตัวชั้นก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะรอไม่ไหวแล้วนะคะเนี่ย」
ถึงแม้ห้องเครื่องจะเกิดการระเบิดขึ้นจนทำให้เรือเหาะร่วงลงไปจากบนฟ้า
แต่ด้วยอุปกรณ์เวทป้องกันทุกสรรพสิ่งที่ท่านจอมเวทให้ไว้
พวกเราที่อยู่ภายในห้องนั้นแทบจะไม่ได้รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากแรงกระแทกเลยแม้แต่นิดเดียว
「หืมม.....ทำไมพวกเธอถึงได้ไม่เป็นอะไรกันเลยล่ะ.......ไม่สิเรื่องนั้นจะยังไงก็ช่าง
ฮารุกะจัง รีบเปิดห้องวางมิติที!!! 」
หลังจากที่เรือเหาะตกลงสู่ทะเลเพียงไม่นาน
ชายหนุ่มผู้มีผมสีดำสนิทคนหนึ่งก็ได้พังประตูห้องเข้ามา
แต่เพราะพวกเราไม่มีใครบาดเจ็บกันเลย
เค้าจึงได้แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาด้วยความสงสัย แต่นั่นก็เพียงไม่นานก่อนที่เค้าจะกลับไปทำสีหน้าเคร่งเครียดอีกครั้ง
「Dimension
Magic: Dimension Home!!!」
เมื่อได้รับคำสั่งจากชายหนุ่ม
เด็กสาวผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยืนอยู่ด้านหลังเค้าก็กล่าวคำพูดแปลกๆออกมา.....ไม่สิ.....นั่นคือคำกล่าวของเวทมนต์งั้นสินะ......
「พวกเธอรีบเข้าไปในนี้เร็วเข้า!!!
เรือลำนี้กำลังจะจมลงไปในทะเลแล้วนะ!!!」
เนื่องจากความประหลาดใจจากสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
จึงทำให้พวกเราที่ควรจะรีบหนีออกไปนั้นมัวแต่ตกตะลึงและไม่ขยับไปไหน
แต่นั่นน่ะหมายถึงคนอื่นๆ
ส่วนตัวชั้นนั้น บอกตามตรงไม่ได้สนใจไอ้ประตูแปลกๆที่เปิดออกจากเวทมนต์อะไรนั่นหรอก
สิ่งเดียวที่ชั้นสนใจในตอนนี้ก็คือชายหนุ่มผมสีดำคนนั้น
แววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และถึงกระนั้นก็ยังให้ความรู้สึกอ่อนโยน
แววตาที่ราวกับจะดึงดูดร่างกายของชั้นเข้าไปนั้นช่างทรงเสน่ห์ยิ่งนัก
และยิ่งในเวลาที่สายตาของเราทั้งคู่บรรจบกัน
ในเวลานั้นหัวใจของชั้นมันก็เต้นแรงอย่างน่าประหลาด
ทั่วใบหน้าของชั้นเริ่มรู้สึกร้อนผ่าว
มันเป็นความรู้สึกประหลาดที่ชั้นไม่เคยรู้สึกมาก่อน
นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความรักอย่างนั้นเหรอ......
「มัวยืนรออะไรกันอยู่เล่า!!!」
ชายหนุ่ม.....ไม่สิท่านจอมเวทหนุ่มคนนั้นตวาดออกมาเสียงดัง
ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะพวกเรามัวแต่สับสน ไม่สิจะเรียกว่าสับสนก็อาจจะเพียงแค่บางคน
เพราะบางทีเด็กสาวคนอื่นก็อาจจะตกอยู่ในภวังค์แห่งความรักเช่นเดียวกับตัวชั้นก็เป็นได้
「เอ๋...อ่ะ....คะ....ค่ะ...พะ...พวกเรา....ระ...รีบ」
เป็นเพราะชั้นมัวแต่ทำอะไรชักช้า.....ท่านจอมเวทหนุ่มคนนั้นจึงเข้ามาคว้าตัวชั้นและอุ้มชั้นเอาไว้ด้วยท่าเจ้าหญิง
ในจังหวะที่เค้าเดินเข้ามาใกล้นั้น หัวใจของชั้นเต้นแรงจนแทบจะหลุดกระเด็นออกมา
และยิ่งในจังหวะที่มือทั้งสองข้างของเค้าสัมผัสร่างกายของชั้น......
「เคี๊ยะ!!!」
ทั้งความตกใจและความตื่นเต้นทำให้ชั้นเผลอส่งเสียงแปลกๆออกมา
แถมยังเอามือไปคว้าร่างกายของเค้าโดยไม่ตั้งใจอีก.....นี่ชั้นทำอะไรของชั้นกันนะ.....กับเด็กสาวที่แสดงอาการประหลาดแบบนี้ออกมาจะถูกเค้ารังเกียจไหมนะ
แต่ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่ได้สนใจอะไรชั้นนัก
และรีบพาชั้นเข้าไปด้านในประตูเวทมนต์แปลกๆนั่น
ก่อนจะโยนชั้นใส่โซฟาหรูหราตัวหนึ่งที่อยู่ด้านในและรีบกลับออกไปด้านนอก
หลังจากนั้นไม่นานพวกท่านหญิงคนอื่นๆรวมถึงพวกเมดก็รีบตามกันเข้ามาด้านใน
แต่คนที่ถูกอุ้มเข้ามานั้น.....ดูเหมือนจะมีเพียงแค่ชั้นคนเดียว......
「สะ
สุดยอดไปเลยนะคะห้องที่สร้างขึ้นด้วยเวทมนต์เนี่ย!!!」
「คะ....ค่ะ.....」
「ข้าวของเครื่องใช้พวกนี้ก็มีแต่ของระดับสูงทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย
สมแล้วที่เป็นท่านจอมเวท」
「คะ....ค่ะ.....」
ภายในห้องว่างมิติที่พวกท่านจอมเวทสร้างขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้อันหรูหรา
แถมยังมีอุปกรณ์เวทหลากหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนติดตั้งอยู่อีกมากมาย
เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นกันมาก
และพากันเดินสำรวจไปบริเวณรอบๆห้อง
ส่วนตัวชั้นนั้นยังไม่สามารถขยับไปไหนได้
ไม่สิแม้แต่จะตอบรับสิ่งที่พวกเธอพูดกันก็ยังยากลำบาก.....
หลังจากนั้นไม่นานท่านจอมเวททั้งสองก็ได้พาตัวผู้คนที่รอดชีวิตเข้ามาทิ้งไว้ด้านในห้องอีกหลายครั้ง
ทุกคนที่ถูกพาเข้ามานั้นล้วนแล้วแต่บาดเจ็บสาหัส แต่ในบรรดากลุ่มผู้บาดเจ็บนั้นไม่มีพวกนักบวชรอดชีวิตมาเลยแม้แต่คนเดียว
ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามที่ท่านจอมเวทสาวผู้งดงามคนนั้นได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้
กับพวกนักบวชที่มีแต่จะมาบ่อนทำลายชื่อเสียงของอาณาจักรออร์ธรอสนั้น
พวกเค้าสมควรที่จะถูกกำจัดเสียแต่เนิ่นๆ
แต่กับเรื่องนี้มันก็ทำให้ชั้นรู้สึกหนาววูบไปทั่วทั้งร่างกาย
เพราะนั่นเป็นการประกาศให้พวกเรารู้ทางอ้อมว่า
หากพวกเราคิดหรือทำสิ่งใดที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาณาจักรแห่งนี้แม้แต่นิดเดียวล่ะก็
พวกเราเองก็คงถูกดำจัดไปโดยไร้ซึ่งความเมตตาอย่างแน่นอน.......
「มายุจัง
รีบพาตัวคนที่บาดเจ็บไปรักษาในทันทีเลยนะ แล้วก็พวกเด็กสาวที่อยู่ด้านนั้นด้วย
ช่วยดูแลพวกเธอทีนะ」
「วางใจได้เลยค่ะ
ทางนี้ชั้นจะเป็นคนดูแลจัดการเองค่ะ 」
หลังจากที่ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตทั้งหมดเอาไว้ได้แล้ว
เด็กสาวคนหนึ่ง....ไม่สิหากดูจากชุดแล้วเธอคนนี้เองก็คงเป็นจอมเวทเช่นเดียวกันสินะ
เธอได้นำทางพวกเราไปยังห้องรับรองแห่งหนึ่งด้านในของเรือลำใหญ่
เรือลำนี้เป็นเรือขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากเหล็กสีขาว
ทั้งด้านนอกและด้านในนั้นงดงามจนหาสิ่งใดมาเปรียบได้ยาก
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น
ตามจริงแล้วชั้นก็แทบจะไม่ได้สนใจกับความสวยงามรอบข้างเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ชั้นกำลังคิดในตอนนี้นั้นมีเพียงใบหน้าของท่านจอมเวทหนุ่มผมสีดำคนนั้น
จะว่าไปแล้วชั้นก็ยังไม่ได้แนะนำตัวกับเค้าเลย......
「ทะ
ท่านหญิงคะ!!! ท่านหญิงค๊า!!!」
เพราะยังมัวแต่เหม่อลอยอยู่ เรน่า
เมดส่วนตัวของชั้นจึงเรียกพร้อมทั้งเข้ามาเขย่าร่างกายของชั้นเพื่อเรียกสติของชั้นให้กลับมา
「เอ๋!!!.....อ่ะ....ขอโทษจริงๆค่ะ......เพราะเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นจึงทำเรื่องเสียมารยาทไป......ดิชั้นมีชื่อว่า.....เอลิเซ่
วิส ดูราเฮมด์ บุตรสาวคนรองของดยุดกราเซียและดัชเชสเอลิน่าแห่งตระกูลดูเราเฮมด์ ที่ได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้
ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมากค่ะ」
ภายในห้องรับรองที่ดูหรูหรา
ชั้นจับชายกระโปรงขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง ก้าวเท้าด้านหนึ่งไปด้านหลังข้างหนึ่ง
ย่อตัวลงเล็กน้อยพร้อมทั้งแนะนำตัว กล่าวคำขอโทษและคำขอบคุณออกไป.......
「ชั้น
ไอคาวะ มายุ หนึ่งในจอมเวทแห่งออร์ธรอส
แต่ถึงอย่างนั้นดิชั้นก็อยากจะให้เรียกชั้นว่ามายุเฉยๆมากกว่านะคะ」
เด็กสาวที่ดูน่ารักคนนี้มีชื่อว่ามายุ
เธอเป็นเด็กสาวที่ภายนอกจะดูเหมือนเด็กสาวธรรมดา
แต่ความจริงแล้วเธอนั้นเป็นหนึ่งในจอมเวทแห่งออร์ธรอสเหมือนกับที่ชั้นได้คิดเอาไว้
「ยินดีที่ได้รู้จักค่ะมายุซามะ
ไม่ทราบว่าหลังจากนี้ พวกเราจะถูกพาตัวไปที่ไหนหรือคะ」
ชั้นพยามอดกลั้นความตื่นเต้นและถามออกไปด้วยน้ำปกติที่สุด
จุดหมายในตอนแรกของคณะทูตนั้นจะเป็นเมืองหลวงแห่งอาณาจักรออร์ธรอสซึ่งก็คือเมืองสเตรเชีย
แต่เนื่องจากเรือเหาะของพวกเราเกิดอุบัติเหตุและตกลงไปในทะเล
ดังนั้นชั้นจึงไม่แน่ใจว่าตำแหน่งที่อยู่ในตอนนี้ของพวกเราอยู่ที่ไหนกันแน่
「เป้าหมายของคณะทูตคงจะเป็นเมืองหลวงสเตรเชียสินะคะ.....อืมม.....จะเป็นไปได้มั๊ยคะถ้าจะรบกวนให้พักอยู่ที่เมืองท่าออร์วิสเสียก่อน...เพราะมีคนบาดเจ็บอยู่มาก......พวกเราจำเป็นต้องทำการรักษาและดูอาการพวกเค้าให้ดีเสียก่อนซักสองสามวันน่ะค่ะ」
ทั้งๆที่บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นแต่พวกเค้าขอเวลาในการรักษาและดูอาการเพียงแค่สองถึงสามวัน!!!
สมแล้วที่เป็นการรักษาจากอาณาจักรเวทมนต์......
「เมืองท่าออร์วิส.....นั่นสินะคะ จะให้เคลื่อนย้ายผู้คนที่พึ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บในทันทีก็คงไม่ใช้เรื่องดีนัก
เพราะงั้นคงจะต้องขอรบกวนแล้วล่ะค่ะ」
ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ
พวกเราจึงใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงยังเมืองท่าออร์วิส
และด้วยความสวยงามของเมืองแห่งนี้ มันก็ทำให้พวกเราหลายคนพากันตกตะลึง
ถึงแม้พวกเราจะเคยได้ยินข่าวลือมามากมายเกี่ยวกับเมืองของพวกท่านจอมเวท
แต่การที่ได้มาเห็นของจริงนั้นก็เรียกได้ว่าแตกต่างจากที่คิดเอาไว้มาก
นั่นจึงทำให้ทุกคนก็แสดงอาหารแตกต่างกันออกไป
และนอกจากความสวยงามอันน่าตกตะลึงแล้ว
เรื่องราวของผู้ที่ปกครองเมืองแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมายอีกด้วย
ดังนั้นการที่พวกเราจะได้เข้าพบกับชิซึกุซามะผู้ที่ถูกเรียกว่าเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรออร์ธรอสนั้น
ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเสียจนตัวชั้นแทบจะควบคุมอาการเอาไว้ไม่อยู่......
จะว่าไปแล้วท่านจอมเวทหนุ่มคนนั้นล่ะ......นี่ชั้นจะมีโอกาสได้เจอกับเค้าอีกซักครั้งมั๊ยนะ......
ty ครับ นี้สินะ ที่มาของคำว่าตำนานที่มีชีวิตอยู่
ตอบลบนั่นสินะครับ ฮา
ลบขอบใจจร้า
ตอบลบขอบใจจร้า
ตอบลบ