ตอนที่ 38 หลบหนี บทที่ 2




-- มุมมองของยูฟีน่า --

ในช่วงค่ำของวันที่ 1 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

ชั้น อัศวินหญิงชาช่า และคนคุ้มกันอีก 2 คน เดินทางมาถึงยังหมู่บ้านดูล่า เนื่องจากในระหว่างทางนั้นไม่มีหมู่บ้านอื่นนี่จึงเป็นคืนแรกที่พวกเราได้นอนภายในห้องที่อบอุ่น

หมู่บ้านดูล่านั้นเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า 500 คน ผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ดำรงชีวิตด้วยการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ เพราะนั้นถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวพวกเค้าก็ยังคงมีอาหารอย่างพอเพียง

เนื่องจากไม่ต้องการเปิดเผยฐานะ ชั้นจึงเลือกที่จะเข้าพักอาศัยในโรงแรมธรรมดาๆที่ราคาค่อนข้างถูก และถึงแม้จะเป็นโรงแรมถูกๆแต่อาหารของที่นี่ก็เรียกได้ว่าอร่อยไม่เบา

ท่านหญิงคะ พวกเราจะไม่แวะพักที่เมืองเวลิสงั้นเหรอคะ

ภายในห้องพัก ชาช่าซังถามออกมาด้วยสีหน้าสงสัย ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่เธอจะสงสัย ถึงแม้การไม่แวะที่เมืองโคเลียจะช่วยประหยัดเวลาไปได้ แต่การจะไม่แวะพักที่เมืองเวลิสทั้งๆที่เป็นทางผ่านนั้นเป็นเรื่องผิดปกติ

นั่นสินะคะ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก แต่จะช่วยฟังสิ่งที่ชั้นคิดเอาไว้ก่อนได้มั๊ยคะ

เป็นเรื่องเกี่ยวกับภารกิจสินะคะ.....

ชาช่าซังยังคงครุ่นคิดด้วยท่าทีสงสัย ถึงแม้ว่าเธอจะติดตามมาในฐานะอัศวินคุ้ม แต่หากชั้นไม่อธิบายเรื่องทั้งหมดให้เธอเข้าใจล่ะก็ มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาก็ได้

ชาช่าซังคงจะทราบเรื่องของสายลับที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในกองทหารรักษาการณ์ของกูสตาฟแล้วใช่มั๊ยคะ

ตอนที่เกิดเรื่อง....ชั้นเองก็อยู่ที่นั่นด้วย และถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะสายลับ...แต่มันก็เป็นความผิดของกองอัศวินที่ 2 ที่ปล่อยให้พวกนั้นแฝงตัวเข้ามาได้....

ชาช่าซังตอบกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย แต่ถึงแม้จะเป็นความผิดของกองอัศวินที่ 2 แต่หากได้ลองคิดทบทวนดูอย่างจริงจังแล้ว กับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นจะให้โทษกองอัศวินที่ 2 เพียงกลุ่มเดียวคงจะไม่ได้

ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ เดิมทีคนที่ยอมรับให้คนพวกนั้นเข้ามาประจำการก็คือท่านพ่อ เพราะงั้นจะบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นความผิดของตระกูลโรเซนเบิร์กก็ได้ค่ะ

เอ๋!! ไม่ใช่ว่าคนที่คัดเลือกกองทหารรักษาการณ์คือหน้าหัวกองอัศวินที่ 2 ท่านโจเซฟ รูค หรอกเหรอคะ

ชาช่าซังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตกใจ สำหรับเรื่องนี้ชั้นได้ไปรู้เข้าโดยบังเอิญ คืนหนึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ชั้นได้แอบเข้าไปอ่านรายงานเกี่ยวกับเรื่องการสับเปลี่ยนกำลังของกองทหารรักษาการณ์

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีขุนนางจากหลายเมืองพยายามส่งคนของตัวเองเข้ามาอยู่ในกองทหารรักษาการณ์ของกูสตาฟ โดยให้เหตุผลว่า ต้องการที่จะฝึกปรือฝีมือของเหล่าคนหนุ่มสาว เพื่อให้วันหนึ่งสามารถกลับไปดูแลและปกป้องประชาชนในเมืองของตัวเองได้น่ะค่ะ

ท่านหญิงกำลังจะบอกว่า ขุนนางผู้ปกครองเมืองเวริสมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้งั้นเหรอคะ

นี่อาจจะเป็นเพียงแค่การคาดเดาของชั้นเท่านั้น แต่ถ้าหากมันเป็นเรื่องจริงล่ะก็ การที่พวกเราจะแวะพักในเมืองเวริสนั้น อาจจะอันตรายกว่าการค้างแรมในป่านอกเมืองก็ได้ค่ะ

เมื่อได้ฟังคำตอบของชั้น ชาช่าซังก็แสดงสีหน้ายุ่งยากออกมา เพราะหากไม่คิดจะผ่านเมืองเวลิสล่ะก็ เส้นทางที่พวกเราต้องใช้นั้นก็เหลือเพียงการตัดผ่านป่ากรีนวู๊ดหรือไม่ก็ลัดเลาะไปทางช่องเขากริม ซึ่งทั้งสองเส้นทางนั้นค่อนข้างจะอันตราย เพราะอาจจะมีพวกมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมาก็ได้

........ท่าทางภารกิจนี้จะไม่ง่ายซะแล้วนะคะ

ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ......

ชั้นก้มหัวลงเพื่อแสดงการขอโทษ เพราะถึงแม้เรื่องที่ชั้นคิดจะมีเหตุผล แต่มันก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน และการไปกล่าวหาขุนนางคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานนั้น ก็นับเป็นความผิดขั้นร้ายแรง

เงยหน้าขึ้นเถอะค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของท่านหญิงซักหน่อยนี่คะ

สุดท้ายพวกเราจึงตัดสินใจใช้เส้นทางลัดเลาะไปทางช่องเขากริม ถึงแม้ที่นั่นจะมีมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมาในบางครั้ง แต่มันก็เป็นเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดในการมุ่งหน้าไปยังเมืองเวลล่า

ถึงแม้เมืองกูสตาฟจะมีกำลังทหารและอัศวินที่แข็งแกร่ง แต่หากถูกยึดเมืองเอาชั้นนอกที่เป็นที่ตั้งของแหล่งน้ำไปล่ะก็ พวกทหารคงจะไม่สามารถทนต่อสู้อยู่ได้นานนัก ดังนั้นจึงต้องเลือกเส้นทางที่เร็วที่สุด

พวกเราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด ส่วนเสบียงอาหารนั้นได้รบกวนทางเจ้าของโรงแรมเป็นคนช่วยจัดหาให้

ด้วยนกเจลโล่ฝีเท้าดีที่ซื้อมาจากหมู่บ้านดูล่า ทำให้พวกเดินทางได้เร็วขึ้นมาก และในที่สุดพวกเราก็มาถึงยังช่องกริมในช่วงค่ำ

ช่องเขากริมนั้นเต็มไปด้วยภูเขาสูงที่มีความชันค่อนข้างมาก จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางในช่วงกลางคืนได้เพราะมันอันตรายเกินไป ดังนั้นพวกเราจึงตั้งค่ายพักแรมกันบริเวณตีนเขา

ด้วยอุปกรณ์เวทเตือนภัยที่นำมาจากปราสาททำให้ไม่จำเป็นต้องมีเวรยาม และในที่สุดเช้าของการเดินทางลัดเลาะช่องเขากริมก็มาถึง

สุดยอดเลยนะคะท่านหญิง!!

ขอบคุณค่ะ

ชั้นเก็บดาบลงในฝักและยิ้มตอบชาชาซังไป ในระหว่างการเดินทางนั้นพวกเราถูกกลุ่มของมอนสเตอร์หมีขนแดง Red Bear เข้าโจมตี แต่ด้วยสกิลดาบที่ได้ฝึกฝนมาหลายปีก็ทำให้ชั้นกับเหล่าคนคุ้มกันจัดการพวกมันลงได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

สำหรับเด็กสาวทั่วไปอาจจะเป็นเรื่องแปลก แต่สำหรับเด็กสาวในตระกูลโรเซนเบิร์กแล้วพวกเราทุกคนจำเป็นจะต้องจับดาบขึ้นมาฝึกฝนอยู่เสมอ

และตัวชั้นที่มีสกิล Sword LV2 นั้น ถึงแม้จะยังห่างชั้นกับท่านพี่โรเดริก แต่ก็พอจะเรียกได้ว่าเป็นนักดาบมีฝีมือคนหนึ่ง

แต่ถึงจะจัดการพวกมอนสเตอร์ลงไปได้ แต่ก็เสียเวลาไปมากพอดู ในตอนแรกชั้นคิดว่าพวกเราจะสามารถผ่านช่องเขากริมไปได้ก่อนค่ำ แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน ดังนั้นพวกเราจึงตั้งค่ายพักแรมกันในที่โล่งมุมหนึ่ง

หลังทานอาหารและติดตั้งอุปกรณ์เวทเตือนภัยเรียบร้อยพวกเราทุกคนก็เข้านอน

นี่ก็เป็น 5 วันแล้วตั้งแต่ที่ชั้นออกมาจากเมืองกูสตาฟ และถึงจะพยายามฝืนสงบใจหลับตาลงเพียงใดตัวชั้นก็ยังคงรู้สึกกังวล ท่านพ่อ ท่านแม่ คงจะ.....ไม่เป็นอะไรใช่มั๊ยคะ

และในระหว่างที่กำลังนอนคิดถึงเรื่องต่างๆอยู่นั้น สัญญาณเตือนภัยจากอุปกรณ์เวทก็ดังขึ้น สำหรับสัญญาณที่ดังขึ้นนั้นจะมีเพียงพวกเราเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้

ชั้นกำดาบในมือเอาไว้แน่นและมองออกไปรอบบริเวณ ชาช่าซังและคนคนคุ้มกันอีก 2 คน ออกมาจากเต็นท์และยืนล้อมรอบตัวชั้น จากนั้นไม่นานพวกเราก็เริ่มได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น

และมันไม่ใช่ฝีเท้าของพวกมอนสเตอร์ แต่เป็นเสียงฝีเท้าของนกเจลโล่ นั่นก็หมายความว่า ใครบางคนกำลังเข้ามาใกล้ .....คงจะไม่ใช่พวกทหารของศัตรูไล่ตามมาหรอกนะ

ไม่สิเรื่องนั้นแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะต่อให้เมืองกูสตาฟถูกยึดไปแต่ก็ไม่มีทางที่จะมีใครรู้ว่าในตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน

เสียงฝีเท้าเข้าใกล้มาเรื่อยๆ และนั่นไม่ใช่เพียงแค่นกเจลโล่ตัวเดียว

โยช!! นึกว่าใครที่ไหนซะอีก ที่แท้ก็....ยัยกุหลาบสีทองแห่งกองอัศวินที่ 2 นี่เอง

นกเจลโล่ 5 ตัวหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเรา ผู้ที่ขี่มันอยู่นั้นคือคนที่แต่งกายในชุดของอัศวิน แต่พวกเขานั้นไม่ใช่อัศวินธรรมดา

โถ่เอ๊ย..!! นึกว่าพวกหมีลามกออกหาเหยื่อซะอีก ที่ไหนได้ เป็นอัศวินไม่ได้เรื่อง รอส กลอเลีย แห่งกองอัศวินที่ 1 นี่เอง!!

เธอว่าใครไม่ได้เรื่องกันฟระ!!

กองอัศวินที่ 1 !!

พอเห็นว่าเป็นคนของกองอัศวินที่ 1 ชั้นก็เผลอส่งเสียงออกมา และพอพวกเค้าหน้าชั้น ก็รีบลงจากนกเจลโล่และคุกเข่าลงในทันที

ทะ ท่านหญิงยูฟีน่า!! มาทำอะไรในที่อันตรายแบบนี้กันครับ....

เอ่อคือ.....เรื่องมันค่อนข้างจะยาว.....น่ะค่ะ ถ้ายังไงจะรับชาอุ่นๆซักหน่อยมั๊ยคะ....

จากนั้นชั้นก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนจากกองอัศวินที่ 1 ได้ฟัง......ซึ่งก็ดูเหมือนเรื่องที่ชั้นคิดเอาไว้จะถูกต้อง ในตอนนี้ไม่ว่าเมืองไหนก็ไม่น่าไว้ใจ พวกรอสซังที่แวะพักในเมืองเอเกียก็ถูกทหารของขุนนางในเมืองนั้นเข้าจับกุม และถึงแม้จะหนีออกมาได้แต่ก็เสียกำลังคนไปหลายคน
 

5 ความคิดเห็น:

  1. คงได้หนีไปทางพวกเทพทัตแหงๆ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ5 มีนาคม 2559 เวลา 00:30

    เอาล่ะ หันไปพึ่งเทพทัตซะสิ แม่สาวน้อย me//เริ่มเห็นว่าเท้าของเทพทัดเหยียบเข้าไปในคุกแล้วครึ่งก้าว

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณคั
    รอตอนต่อไป

    ตอบลบ
  4. โอ้ แม่สาวน้อยจะรอดไปถึงเมืองไหม

    ตอบลบ