ตอนที่ 39 กองทหารรักษาการณ์แห่งออร์ธรอส


-- มุมมองของกัสต้า --

วันที่ 7 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

วันนี้คือวันตัดสินชะตาของผมและเพื่อนๆที่มุ่งหวังจะเข้าร่วมกองทหารรักษาการณ์

ตลอด 10 วันที่ผ่านมานั้นพวกเราทุกคนได้เข้าร่วมการฝึกสุดโหดที่นำโดยยูยะซามะและไอโกะซามะ แตกต่างจากคนอื่นๆที่มาเพียงเพื่อหางานทำ

ในยามที่คนอื่นกำลังทำงานอย่างสนุกสนานในอาคารที่หรูหราพวกเรากลับต้องคลานอยู่บนพื้นโคลน

ในยามที่คนอื่นกำลังดีใจไปกับของรางวัลจากกิจกรรมต่างๆพวกเรากลับต้องหาทางรอดจากเหล่ามอนสเตอร์

ในยามที่คนอื่นกำลังหลับสบายและฝันถึงวันพรุ่งนี้อันแสนสุขพวกเรากลับต้องคอยหวาดระแวงว่าวันพรุ่งนี้จะเอาชีวิตรอดต่อไปได้ไหม

ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำพวกเราถูกฝึกฝนอย่างหนักไม่มีหยุด หลายคนที่ไม่สามารถทนรับการฝึกสุดโหดได้ต่างก็ต้องถอดใจยอมแพ้และถอนตัวไป

การฝึกนั้นมีหลากหลายอย่างเช่น แบกสัมภาระวิ่งรอบเมือง ปีนกำแพงเมืองด้วยเชือก ไปจนถึงฝึกการใช้อาวุธ และการต่อสู้ภายในสถานการณ์จำลองต่างๆหลากหลายรูปแบบ

และผลลัพธ์ที่เกิดจากการฝึกสุดโหดตลอด 10 วันที่ผ่านมามันก็ทำให้ผมตกตะลึงเป็นอย่างมาก เมื่อวานหลังการฝึกจบลงผมก็ได้ไปตรวจสอบเลเวลของสกิลกับบิสเก็ตซังหนึ่งในพนักงานของกิลด์พ่อค้า

สำหรับการตรวจสอบเลเวลสกิลด้วยอุปกรณ์เวทของกิลด์นั้นมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก และนั่นก็หมายความว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน

สกิล Sword ของผมที่เคยเป็น LV1 ในตอนนี้ได้กลายเป็น LV3 แล้ว ไม่ใช่แค่นั้นผมยังได้รับสกิลมาใหม่อีกหนึ่งสกิลก็คือ Recon LV2 และนั่นก็ไม่ใช่ผมเพียงคนเดียว พวกเพื่อนๆหลายคนที่ได้มาตรวจสอบในวันนี้ต่างก็เลเวลเพิ่มสูงขึ้นกันอย่างหน้าตกใจ

ถึงแม้ผมจะไม่ได้มีความรู้ในเรื่องวิชาดาบมากนักแต่ก็บอกได้เลยว่า การจะฝึกวิชาดาบให้ไปถึง Sword LV3 ได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในด้านนี้เท่านั้น และถึงแม้จะเป็นอัจฉริยะก็ยังต้องใช้เวลาฝึกฝนกันนานหลายปี

ไม่ดีใจเหรอคะ ถึงแม้ชั้นจะไม่รู้ว่าคุณไปฝึกแบบไหนมา แต่นี่ก็เป็นหลักฐานยืนยันถึงความพยายามตลอดเวลาที่ผ่านมานะคะ

ต่อหน้าผมที่กำลังทำสีหน้าประหลาดใจนั้น บิสเก็ตซังก็ได้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเหมือนกับทุกครั้ง

นั่นสินะ กับเรื่องที่น่ายินดีแบบนี้ ผมควรจะเลิกกังวลใจและดีใจไปกับมันถึงจะถูก

ขอบคุณมากนะครับ

ผมก้มหัวลงเพื่อแสดงความขอบคุณก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของกิลด์ไป ถ้าหากในวันนั้นไม่ได้บิสเก็ตซังเอารายละเอียดของงานนี้ไปบอกล่ะก็ บางทีในตอนนี้ผมคงยังเป็นเพียงเด็กรับจ้างทำความสะอาดอยู่เลย

ในตอนแรกที่ผมมาสมัครงานนี้ผมก็ไม่คิดว่าจะเข้ากองทหารรักษาการณ์หรอกนะ ตัวผมน่ะไม่ได้ถนัดการต่อสู้นักหรอก นอกจากนั้นทหารรักษาการณ์นั้นก็ยังเป็นงานที่ต้องเสี่ยงอันตรายอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากจะต้องมาตายก่อนจะได้แต่งงานเนี่ยแบบนั้นผมไม่อยากเลยจริงๆ

แล้วทั้งๆที่เป็นแบบนั้นทำไมผมถึงได้สมัครเข้าร่วมกับกองทหารรักษาการณ์น่ะเหรอ เหตุผลนั้นมีเพียงอย่างเดียวก็คือความงดงามของไอโกะซามะ

พูดไปแล้วก็น่าอายแต่ในตอนนี้ผมกำลังแอบชอบไอโกะซามะอยู่ ความงดงามของเธอยามที่จับดาบขึ้นมาฟาดฟันศัตรูนั้นไม่ว่าชายใดก็ต้องหลงใหลอย่างแน่นอน

และถึงแม้จะไม่มีความหวังแต่แค่เพียงได้ติดตามไอโกะซามะไป แค่เพียงได้ยืนอยู่เคียงข้างไอโกะซามะและได้ต่อสู้ร่วมกัน เพียงแค่นั้นผมก็มีความสุขมากแล้ว และเพราะเหตุนั้นไม่ว่าการฝึกจะโหดแค่นั้นผมก็ไม่มีวันยอมแพ้

วันนี้แล้วสินะ พยายามเข้านะ กัสต้า

ก่อนที่ผมจะออกไปจากห้องพัก ริคเพื่อนร่วมห้องก็พูดให้กำลังใจผมออกมา ริคนั้นเป็นคนดีมากเลยล่ะ ทุกๆวันที่ผมหมดสภาพกลับมาจากฝึกซ้อมก็ได้ริคนี่แหละคอยช่วยดูแล

ความฝันของริคคือการพัฒนายาสมุนไพรเพื่อช่วยรักษาผู้คน และสิ่งที่ริคกำลังคิดค้นก็ดูเหมือนจะไปถูกใจชิซึกุซามะเข้าแล้วด้วยสิ

นายเองก็ด้วยนะริค โครงการสวนสมุนไพรนั่นน่ะ ต้องทำให้สำเร็จให้ได้นะ

หลังพูดจบผมก็มุ่งหน้าไปยังลานฝึกซ้อมด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่ว่าการคัดเลือกครั้งนี้จะยากลำบากแค่ไหนผมก็จะต้องผ่านมันไปให้ได้

บรรยากาศภายในลานฝึกซ้อมเต็มไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากไม่รู้ว่าวันนี้ต้องเจอกับสิ่งใดทุกคนเลยมีสีหน้าเป็นกังวล

หลังจากทุกคนมากันครบเพียงไม่นาน ไอโกะซามะและยูยะซามะก็มาถึง

แถวตรง!!

หนึ่งในพวกเราที่รับหน้าที่เป็นหัวหน้าส่งเสียงเตือนขึ้นมา จากนั้นไอโกะซามะก็เดินมาด้านหน้าของพวกเราและพูดขึ้น

ทุกคนคะ ที่พยายามฝึกฝนอย่างยากลำบากมาจนถึงวันนี้ได้โดยไม่ยอมแพ้นั้น ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมากค่ะ

ไอโกะซามะพูดพร้อมกับก้มหัวลงเพื่อแสดงการขอบคุณ ถึงแม้จะเป็นนักดาบและจอมเวทที่เก่งกาจแต่เธอก็ไม่เคยถือตัวแม้แต่น้อย

เป็นพวกเรามากกว่าครับที่ต้องขอบคุณ

ใช่แล้วครับ ที่ช่วยสั่งสอนพวกเรามาจนถึงวันนี้ ต้องขอบคุณมากครับ

หากมีใครในที่นี่ไม่รู้สึกขอบคุณล่ะก็ ผมจะเป็นคนเข้าไปอัดมันเอง!!

บรรยากาศตึงเครียดก่อนหน้านี้หายไปโดยสิ้นเชิง ในตอนนี้ใบหน้าของทุกคนได้กลับมายิ้มแย้มเหมือนที่ได้เจอกันในวันแรก

ไอโกะซามะที่ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มของเธอนั้นทำให้หัวใจของพวกเราทุกคนได้รับการเยียวยา หลังจากนี้ต่อให้ต้องไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ดุร้ายแค่ไหนทุกคนก็พร้อมจะลุยไปด้วยกัน

ทุกคนคงจะทราบกันดีแล้วว่าในวันนี้จะเป็นวันตัดสินผู้ที่จะได้เข้าร่วมกับกองทหารรักษาการณ์อย่างแท้จริง

ไอโกะซามะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในแววตาของเธอนั้นแตกต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก และเพราะเหตุนั้นจึงทำให้ทุกคนต่างยืนนิ่งและตั้งใจฟัง

กองทหารรักษาการณ์นั้นคือดาบและโล่ที่จะเข้าต่อสู้และปกป้องทุกคนในเมืองแห่งนี้ค่ะ

สิ่งที่จำเป็นสำหรับกองทหารรักษาการณ์นั้นไม่ได้มีเพียงความสามารถในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะต้องเจอกับเรื่องยากลำบากเพียงใด

ดังนั้นหากในที่นี้ยังมีใครที่ไม่ได้เตรียมใจ หากมีใครที่คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายในอนาคตล่ะก็ ก็ขอให้ถอนตัวเสียตั้งแต่ตอนนี้ค่ะ

การฝึกตลอด 10 วันที่ผ่านมานั้นไม่เพียงแค่การทดสอบความสามารถทางร่างกาย แต่มันยังเป็นการทดสอบความเข้มแข็งทางจิตใจด้วย ดังนั้นจึงไม่มีแม้แต่คนเดียวจะที่มายอมแพ้หลังจากผ่านการฝึกสุดโหดนั่นมาได้แล้ว

ถ้าเช่นนั้นหากใครคิดว่าเตรียมใจเอาไว้แล้ว หากใครที่คิดว่าพร้อมจะต่อสู้กับศัตรู ไม่ว่าศัตรูจะเป็นคนรู้จักหรือญาติมิตริ หากเป็นศัตรูล่ะก็พร้อมจะเข้าต่อสู้โดยไม่ลังเลแล้วล่ะก็ ขอให้ก้าวออกมาด้านหน้าค่ะ!

ในครั้งนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ก้าวเท้าออกไปด้านหน้าในทันที หลายคนใช้เวลาซักครู่หนึ่งจึงตัดสินใจได้ และก็มีหลายคนที่ถอดใจยอมแพ้และถอยออกไป

ตัวผมนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ก้าวออกไปด้านหน้าในทันที ผมได้คิดทบทวนเรื่องพวกนี้มาเรียบร้อยแล้ว ที่นี่น่ะไม่ใช่เมืองของจักรวรรดิ การสมัครเข้าเป็นทหารรักษาการณ์ของเมืองแห่งนี้ก็หมายความว่าวันหนึ่งพวกเราอาจจะต้องสู้กับทหารของจักรวรรดิ

และนั่นจึงเป็นเหตุผลให้บางคนลังเล แต่ตัวผมนั้นเชื่อว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าหากมีวันที่จะต้องต่อสู้กันจริงๆผมก็ไม่คิดจะลังเล ผมจะต้องปกป้องทุกคนในเมืองแห่งนี้

หลังจากทุกคนตัดสินใจกันเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวกลุ่มหนึ่งก็ได้นำเอาชุดเกราะสีดำจำนวนมากเข้ามายังลานฝึก ชุดเกราะสีดำเหล่านั้นเปล่งประกายสวยงาม

พวกเราทุกคนได้รับชุดเกราะสีดำที่มีสัญลักษณ์รูปหมาป่าสองหัวสลักอยู่

จากนั้นยูยะซามะที่ได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดเกราะสีดำเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกมาด้านหน้าพวกเราและพูดขึ้น

พวกนายไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว!! นับแต่นี้ไปพวกนายคือกองทหารรักษาการณ์แห่งออร์ธรอสจงสู้เพื่อรักษาเกียรติยศแห่งออร์ธรอส!! จงสู้เพื่อปกป้องเหล่าผู้คนที่อ่อนแอ!! จงสู้จนกว่าร่างกายจะเหลือเพียงเถ้าธุลี!!

「「「「โอ้!!!!」」」」

เสียงตะโกนของผู้ที่ผ่านการคัดเลือกดังกึงก้องไปทั่วบริเวณ
 

10 ความคิดเห็น:

  1. ได้หน่อยกล้าตาย 1 กอง *-*
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. ได้หน่วยเบ๊พลีชีพมาแล้ว 1 ea

    ตอบลบ
  3. ไดมอนด์ด็อกสินะ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ6 มีนาคม 2559 เวลา 11:08

    ไปฝึกสปาต้าแบบไหนมาครับเนี่ย สามารถทำให้คนโลกนี้ขึ้นเลเวลสามภายในเวลาแค่สิบวันเนี่ย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
    2. เป็นหนึ่งในพลังของเผ่าปีศาจล่ะครับ
      แต่ถ้าคนสอนเลเวลสกิลไม่สูงพอก็สอนไม่ได้เร็วแบบนี้

      ลบ
  5. ส่งสารหน่มๆๆจริงที่มาหลงสาวๆๆของมหาเทพจีบสาวของเรา

    ตอบลบ
  6. ว่าแต่ยูยะนี่คือบักเฮนไตคุงสินะ

    มีกองทัพในมือแต่จะล้างมลทินให้ตัวเองได้รึเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่งล่ะนะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ใช่ครับ อันนั้นโซวจิคุงครับ ฮา -0-//

      ลบ
  7. แล้วแบบนี้กองรักสาการจะมีซะกี่คนละ เล่นถอดใจกันไปซะเยอะเลย

    ตอบลบ