วันที่ 30 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836
หลังจากค่ำคืนแสนสุขในวันคริสต์มาส
ผมก็ได้เริ่มต้นจัดการระบบบริหารของประเทศและยังร่างกฎหมายรวมถึงบทลงโทษในเรื่องต่างๆ
และเนื่องจากพวกเราต้องการใช้เมืองนี้เป็นเมืองหลวงจึงจำเป็นต้องทำการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ
ซึ่งหลังจากการประชุมสรุปกับทุกๆคนแล้วนั้น พวกเราก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้ชื่อเมืองหลวงเก่าของเผ่าพันธุ์โลลิเทียมาเป็นชื่อเมือง
การที่พวกเรามอบชื่อ『สเตรเชีย』ให้กับเมืองหลวงของเรานั้น นอกจากจะเป็นรางวัลให้กับโอลิเวียและผู้คนของเธอในสงครามแล้ว ก็ยังเป็นการประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเผ่าพันธุ์โลลิเทียนั้นมีความสำคัญกับพวกเรามากแค่ไหน
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น
อาโอยจังและอากาเนะจังได้ช่วยกันขยับขยายเพิ่มหอพักและบ้านหลากหลายขนาดสำหรับอยู่อาศัย
จนในตอนนี้มีผู้คนเข้ามาอาศัยอยู่ภายในเมืองมากกว่า 500 คนแล้ว
เมื่อมีคนมากขึ้นพวกเราก็ต้องการอาหารและทรัพยากรมากขึ้น
ดังนั้นผมจึงได้ออกเดินทางไปตามเมืองและหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆเพื่อทำการเจรจาซื้อขายสินค้าจำเป็นต่างๆ
นอกจากนั้นในเมืองของเราก็ได้สร้างโรงเรียนขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
โรงเรียนของพวกเรานั้นแตกต่างจากโรงเรียนของจักรวรรดิที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
หากใครต้องการจะเข้าเรียนแต่ไม่มีเงินจะจ่ายล่ะก็ พวกเค้าก็สามารถยื่นคำร้องขอในการเข้าช่วยเหลืองานต่างๆของโรงเรียนแทนได้
และเมื่อข่าวเกี่ยวโรงเรียนของพวกเรากระจายออกไป
ผู้คนมากมายก็รีบพาลูกหลานของพวกเขาเข้ามาสมัครเรียนกันเป็นจำนวนมาก หากพูดถึงการพัฒนาประเทศแล้วล่ะก็
การศึกษานั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้นๆ ดังนั้นเพื่ออนาคตของประเทศผมจึงสั่งให้มิโฮะช่วยจัดการดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ
「นี่นาย!! นี่มันเกิน 30 นาทีแล้วนะ!!」
เวลน่าเขย่าร่างกายของผมและส่งเสียงบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ
หลังทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์
ในที่สุดก็ถึงวันหยุดซะที และในเมื่อเป็นวันหยุดผมจึงต้องการที่จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน
ซึ่งภายในบ้านตอนนี้ก็มีเพียงผม เวลน่า และพวกเมดสาวที่ผมซื้อตัวมาเท่านั้น
「เธอสัญญาแล้วไม่ใช่เหรอ
ว่าจะให้ผมนอนหนุนตักซักแปปน่ะ」
ตั้งแต่ที่ผมพาเธอมาอยู่ที่บ้านนั้น
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอได้มากที่สุดก็คือโชวโจวมังงะ
ถึงแม้จะอ่านไม่ออกเพราะมันเขียนด้วยภาษาญี่ปุ่นแต่เธอก็ยังชอบดูรูปวาดที่สวยงามเหล่านั้น
ดังนั้นเพื่อแลกกับการที่ผมจะแปลมังงะและอ่านให้เธอฟัง เวลน่าจึงยอมโอนอ่อนและให้ผมได้นอนหนุนตักของเธอ
「มันไม่ใช่แปปแล้วนะ!! มาเรียก็ด้วย ทำไมถึงไม่พูดอะไรกับนายท่านของเธอบ้างเล่า!!」
「นั่นสินะคะ น่าอิจฉาจริงๆเลยค่ะ
ชั้นเองก็อยากจะมีโอกาสได้เป็นหมอนกับให้นายท่านบ้าง.......」
เวลน่าส่งเสียงโวยวายไปทางมาเรียจังด้วยท่าทางไม่พอใจ
แต่ถึงอย่างนั้นมาเรียจังก็ยังยิ้มและตอบเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
「พูดอะไรของเธอเนี่ย! ชั้นไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อยนะ!!」
「อย่าไปตะคอกใส่มาเรียจังสิ
ถ้ามาเรียหนีไปล่ะก็ เธอจะต้องซักผ้า ทำความสะอาด แล้วยังต้องหาอาหารกินเองคนเดียวนะ」
ตั้งแต่ถูกพาตัวมาที่นี่
เวลน่าก็เริ่มที่จะพยายามเรียนรู้เรื่องต่างๆเพื่อช่วยเหลือตัวเอง บ้านของผมนั้นแตกต่างจากบ้านที่เธอเคยอยู่
เพราะถึงแม้ที่นี่จะเมดสาวคอยรับใช้ แต่ถ้าหากไปทำให้พวกเธอไม่พอใจล่ะก็
พวกเธอก็จะไม่ทำตามคำสั่งของเวลน่าอย่างแน่นอน
「…………….อุ! ละ แล้วมันความผิดใครกันเล่า ไอ้คนขี้โกง!!!」
เพราะรู้ถึงความยากลำบากที่จะตามมา
เวลน่าจึงหันมาตะคอกใส่ผมแทน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น
ผมก็ยังรู้สึกชื่นชอบในตัวเด็กสาวที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจคนนี้พอดู
ดังนั้นไม่ว่าจะต้องเป็นคนขี้โกงหรือเป็นคนชั่วแค่ไหน ซักวันหนึ่งผมก็จะต้องทำให้เธอกลายมาเป็นของผมอย่างเต็มใจให้ได้
「ผมผิดเองก็ได้
เพราะงั้นช่วยยกโทษให้เวลน่าด้วยนะมาเรียจัง เธอก็แค่เขินนิดหน่อยน่ะ」

「ใครเขินกันยะ!!」
「ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะนายท่าน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นก็จะทำให้ท่านหญิงใจอ่อนให้ได้เลยค่ะ」
「พูดเรื่องอะไรของเธออีกแล้วเนี่ย!!」
「ถ้างั้นก็ต้องฝากด้วยนะมาเรียจัง
ถึงวันนั้นเมื่อไหร่ ผมจะตอบแทนเธออย่างดีที่สุดเลย」
「รับทราบแล้วค่ะ ชั้นจะทำให้ดีที่สุด
จะคอยเฝ้ารอวันนั้นอย่างตั้งใจเลยค่ะ」
「ฟังที่ชั้นพูดบ้าง............อุ๊บ!!」
ผมใช้จังหวะที่เวลน่ากำลังเผลอเข้าประกบริมฝีปากกับเธอ
เพราะไม่ทันไดตั้งตัวเธอจึงยังไม่มีโอกาสได้ขัดขืน
กว่าจะรู้ตัวผมก็ได้ชิงเอาจูบแรกของเธอมาได้เรียบร้อยแล้ว
ใช่แล้วล่ะ ถึงแม้เธอจะแต่งงานแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เคยถูกสามีสัมผัสหรือทำอะไรกับเธอเลย
เธอยังคงเป็นเด็กสาวแรกแย้มแสนบริสุทธิ์ ที่กำลังรอให้ถึงวันที่จะถูกผมเด็จมาเชยชม
แต่ผมก็ไม่ต้องการจะบังคับฝืนใจเธอ ดังนั้นผมจึงสั่งให้มาเรียจังช่วยดูแล
และคอยหาโอกาสให้ผมได้ครอบครองเธออย่างช้าๆ
「..................」
หลังจากถูกผมชิงเอาจูบแรกมาอย่างเร่าร้อน
เวลน่าก็ถึงกับทรุดลงไปกับพื้นโดยไม่พูดอะไรออกมา บางทีผมอาจจะทำเกินไปหน่อย
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงใจ
จากนั้นผมก็ฝากให้มาเรียจังช่วยดูแลเวลน่า
และออกไปจากห้องของเธอ ในวันนี้นอกจะเป็นวันหยุดของผมแล้ว
มันก็ยังเป็นวันสิ้นปีของโลกนี้อีกด้วย หากเป็นสมัยที่ยังอยู่ในญี่ปุ่นผมก็คงจะชวนเจ้าอากิโอะและพวกสาวๆออกไปหาร้านกินดื่มด้วยกันยันเช้า
ดังนั้นผมจึงคิดว่าจะจัดงานปาร์ตี้เล็กๆขึ้นมาที่บ้านซักหน่อย
ซึ่งก็แน่นอนว่าทุกคนนั้นเห็นด้วยและจะมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าบ้านของผมในช่วงค่ำ
แม้แต่ยูฟีน่าที่งานค่อนข้างจะยุ่งก็บอกว่าจะชวนเพื่อนๆของเธอมาร่วมงานในคืนนี้ด้วยเช่นกัน
และเพื่อให้สามารถรองรับเพื่อนๆและพวกสาวๆที่จะมาฉลองร่วมกันได้ผมจึงตัดสินใจจัดเป็นปาร์ตี้บาร์บีคิวกลางแจ้ง
อากาศเย็นๆกับไวน์องุ่นและเนื้อย่างร้อนๆนั้นแค่คิดถึงก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาแล้ว
「ทัตสึยะซามะ!」
ในระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกขึ้นมาจากด้านหลัง
เมื่อผมหันกลับไปก็พบกับเด็กสาวผมสีน้ำทะเลคนหนึ่งในชุดวันพิชสีเขียวสดใส
ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันนานและปกติจะเห็นใส่แต่ชุดของอัศวิน แต่ผมก็ไม่มีทางที่จะลืมเธอไปได้อย่างแน่นอน
「เธอปล่อยให้ผมรอนานมากเลยนะ โร น่า จัง!」
ผมไม่รอช้าและดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดทันที
ไออุ่นจากร่างกายของโรน่าจังค่อยๆส่งผ่านมาถึงผมช้าๆ
「ทะ ทัตสึยะซามะ คะ คือว่า........อุ๊บ...!!!」
ผมไม่ปล่อยให้เธอพูดอะไรและปิดปากเธอด้วยริมฝีปากของผมในทันที
ถึงแม้โรน่าจะรู้สึกเขินอยู่บ้างแต่เธอก็ตอบรับจูบของผมอย่างดูดดื่ม
ซึ่งมันก็แตกต่างจากครั้งก่อนที่เราเจอกัน ในครั้งนี้เธอดูเชี่ยวชาญขึ้นมาบ้างแล้ว
「รีบร้อนจังเลยนะคะ คุณว่าที่สามี」
ยูฟีน่าที่เดินตามมาด้านหลังทักทายผมด้วยเสียงอันไพเราะของเธอ
แต่นี่มันยังเร็วเกินไปกว่าจะถึงเวลานัด ทำไมเธอถึงได้มาเร็วขนาดนี้กันนะ
「โทษทีนะยูฟี่
เพราะไม่ได้เจอยัยโรน่านานมากผมเลยอดใจไว้ไม่ไหวน่ะ」
「แบบนี้คงต้องลงโทษสินะคะ」
ยูฟีน่าเดินเข้ามาหาผมช้าๆและสวมกอดอย่างอ่อนโยน
จากนั้นเธอก็ค่อยๆบรรจงประทับริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอลงบนริมฝีปากของผม รสชาติของเด็กสาวที่บวกกับรสเปรี้ยวอมหวานของบลูเบอร์รี่และกลิ่นน้ำหอมจางๆของเธอนั้น
ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันที
「ว่าแต่ทำไมถึงได้มาก่อนเวลาแบบนี้ล่ะ」
「พวกเพื่อนๆของชั้นอยากจะรีบมาทักทายทัตสึยะซามะ
พวกเราก็เลยออกเดินทางเร็วกว่ากำหนดน่ะค่ะ」
จากนั้นผมก็ตามยูฟีน่าไปยังห้องรับรองที่เพื่อนๆของเธอกำลังรออยู่
และเมื่อผมเข้าไปด้านใน ผมก็พบกับเด็กสาวน่ารัก 6 คนที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในระหว่างทานขนมเค้กและของหวานอื่นๆ
โอ้วในที่สุดก็ขึ้นบทใหม่แล้วหรือนี่ น่ายินดียิ่งนัก ว่าแต่เล่นข้ามไป 2 ตอนแรกงี้ก็ชวนให้มึนๆ นิดแฮะ ไว้อ่านย้อนหลังเอาก็คงได้ล่ะนะ
ตอบลบปล. ตอนหน้า 8P!! จัดเลย!! 1 เสียง!!
2ตอนแรกเป็นเนื้อเรื่องของโรน่ายังแต่งไม่เสร็จเลยครับ
ลบขอบคุณครับ
ตอบลบอยากอ่านมุมมองของคุณหนูเอาแต่ใจจังสาวตาสองสีก็ดีของคุณแม่ยายก็ได้ว่ามีมุมมองต่อพระเอกเรายังไง
บทของแต่ละคนคงจะค่อยๆแทรกเข้ามาแหละครับ
ลบช่วงนี้เป็นบทหลักของโรน่าจังนะครับ
ขอบคุณมากครับ ติดงอมแงมเลยเรื่องนี้
ตอบลบขอบคุณที่ติดตามครับ
ลบเขียนตอนที่ 1 เสร็จแล้ว ส่วนตอนที่ 2 ก็คงอีกไม่นานมาก
ขอบใจมากจร้า :3
ตอบลบขอบใจมากจร้า :3
ตอบลบการปราบพยศสาวๆงั้นหรือ นั่นคืองานถนัดของเทพทัตเลยล่ะ
ตอบลบนั่นสินะ แล้วเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป..ก็คงรู้ๆกันอยู่
ลบโอ้ว กลัวมาดูว่าไรท์พักผ่อนพอหรือยัง กลับเห็นบทใหม่3ตอน ขอบพระคุณขอรับ
ตอบลบ-0- ผมกำลังรอเขียนบทของนักบวชสาวอยู่เลย.......
ลบโอ้ว กลัวมาดูว่าไรท์พักผ่อนพอหรือยัง กลับเห็นบทใหม่3ตอน ขอบพระคุณขอรับ
ตอบลบ