ตอนที่ 3 คนขี้โกง



วันที่ 30 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

หลังจากค่ำคืนแสนสุขในวันคริสต์มาส ผมก็ได้เริ่มต้นจัดการระบบบริหารของประเทศและยังร่างกฎหมายรวมถึงบทลงโทษในเรื่องต่างๆ

และเนื่องจากพวกเราต้องการใช้เมืองนี้เป็นเมืองหลวงจึงจำเป็นต้องทำการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังจากการประชุมสรุปกับทุกๆคนแล้วนั้น พวกเราก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้ชื่อเมืองหลวงเก่าของเผ่าพันธุ์โลลิเทียมาเป็นชื่อเมือง

การที่พวกเรามอบชื่อสเตรเชียให้กับเมืองหลวงของเรานั้น นอกจากจะเป็นรางวัลให้กับโอลิเวียและผู้คนของเธอในสงครามแล้ว ก็ยังเป็นการประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเผ่าพันธุ์โลลิเทียนั้นมีความสำคัญกับพวกเรามากแค่ไหน

ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น อาโอยจังและอากาเนะจังได้ช่วยกันขยับขยายเพิ่มหอพักและบ้านหลากหลายขนาดสำหรับอยู่อาศัย จนในตอนนี้มีผู้คนเข้ามาอาศัยอยู่ภายในเมืองมากกว่า 500 คนแล้ว

เมื่อมีคนมากขึ้นพวกเราก็ต้องการอาหารและทรัพยากรมากขึ้น ดังนั้นผมจึงได้ออกเดินทางไปตามเมืองและหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆเพื่อทำการเจรจาซื้อขายสินค้าจำเป็นต่างๆ

นอกจากนั้นในเมืองของเราก็ได้สร้างโรงเรียนขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว โรงเรียนของพวกเรานั้นแตกต่างจากโรงเรียนของจักรวรรดิที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากใครต้องการจะเข้าเรียนแต่ไม่มีเงินจะจ่ายล่ะก็ พวกเค้าก็สามารถยื่นคำร้องขอในการเข้าช่วยเหลืองานต่างๆของโรงเรียนแทนได้

และเมื่อข่าวเกี่ยวโรงเรียนของพวกเรากระจายออกไป ผู้คนมากมายก็รีบพาลูกหลานของพวกเขาเข้ามาสมัครเรียนกันเป็นจำนวนมาก หากพูดถึงการพัฒนาประเทศแล้วล่ะก็ การศึกษานั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้นๆ ดังนั้นเพื่ออนาคตของประเทศผมจึงสั่งให้มิโฮะช่วยจัดการดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ

นี่นาย!! นี่มันเกิน 30 นาทีแล้วนะ!!

เวลน่าเขย่าร่างกายของผมและส่งเสียงบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ

หลังทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ ในที่สุดก็ถึงวันหยุดซะที และในเมื่อเป็นวันหยุดผมจึงต้องการที่จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน ซึ่งภายในบ้านตอนนี้ก็มีเพียงผม เวลน่า และพวกเมดสาวที่ผมซื้อตัวมาเท่านั้น

เธอสัญญาแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะให้ผมนอนหนุนตักซักแปปน่ะ

ตั้งแต่ที่ผมพาเธอมาอยู่ที่บ้านนั้น สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอได้มากที่สุดก็คือโชวโจวมังงะ ถึงแม้จะอ่านไม่ออกเพราะมันเขียนด้วยภาษาญี่ปุ่นแต่เธอก็ยังชอบดูรูปวาดที่สวยงามเหล่านั้น ดังนั้นเพื่อแลกกับการที่ผมจะแปลมังงะและอ่านให้เธอฟัง เวลน่าจึงยอมโอนอ่อนและให้ผมได้นอนหนุนตักของเธอ

มันไม่ใช่แปปแล้วนะ!! มาเรียก็ด้วย ทำไมถึงไม่พูดอะไรกับนายท่านของเธอบ้างเล่า!!

นั่นสินะคะ น่าอิจฉาจริงๆเลยค่ะ ชั้นเองก็อยากจะมีโอกาสได้เป็นหมอนกับให้นายท่านบ้าง.......

เวลน่าส่งเสียงโวยวายไปทางมาเรียจังด้วยท่าทางไม่พอใจ แต่ถึงอย่างนั้นมาเรียจังก็ยังยิ้มและตอบเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

พูดอะไรของเธอเนี่ย! ชั้นไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อยนะ!!

อย่าไปตะคอกใส่มาเรียจังสิ ถ้ามาเรียหนีไปล่ะก็ เธอจะต้องซักผ้า ทำความสะอาด แล้วยังต้องหาอาหารกินเองคนเดียวนะ

ตั้งแต่ถูกพาตัวมาที่นี่ เวลน่าก็เริ่มที่จะพยายามเรียนรู้เรื่องต่างๆเพื่อช่วยเหลือตัวเอง บ้านของผมนั้นแตกต่างจากบ้านที่เธอเคยอยู่ เพราะถึงแม้ที่นี่จะเมดสาวคอยรับใช้ แต่ถ้าหากไปทำให้พวกเธอไม่พอใจล่ะก็ พวกเธอก็จะไม่ทำตามคำสั่งของเวลน่าอย่างแน่นอน

…………….อุ! ละ แล้วมันความผิดใครกันเล่า ไอ้คนขี้โกง!!!

เพราะรู้ถึงความยากลำบากที่จะตามมา เวลน่าจึงหันมาตะคอกใส่ผมแทน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมก็ยังรู้สึกชื่นชอบในตัวเด็กสาวที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจคนนี้พอดู ดังนั้นไม่ว่าจะต้องเป็นคนขี้โกงหรือเป็นคนชั่วแค่ไหน ซักวันหนึ่งผมก็จะต้องทำให้เธอกลายมาเป็นของผมอย่างเต็มใจให้ได้

ผมผิดเองก็ได้ เพราะงั้นช่วยยกโทษให้เวลน่าด้วยนะมาเรียจัง เธอก็แค่เขินนิดหน่อยน่ะ
 


ใครเขินกันยะ!!
 
ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะนายท่าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นก็จะทำให้ท่านหญิงใจอ่อนให้ได้เลยค่ะ

พูดเรื่องอะไรของเธออีกแล้วเนี่ย!!

ถ้างั้นก็ต้องฝากด้วยนะมาเรียจัง ถึงวันนั้นเมื่อไหร่ ผมจะตอบแทนเธออย่างดีที่สุดเลย

รับทราบแล้วค่ะ ชั้นจะทำให้ดีที่สุด จะคอยเฝ้ารอวันนั้นอย่างตั้งใจเลยค่ะ

ฟังที่ชั้นพูดบ้าง............อุ๊บ!!

ผมใช้จังหวะที่เวลน่ากำลังเผลอเข้าประกบริมฝีปากกับเธอ เพราะไม่ทันไดตั้งตัวเธอจึงยังไม่มีโอกาสได้ขัดขืน กว่าจะรู้ตัวผมก็ได้ชิงเอาจูบแรกของเธอมาได้เรียบร้อยแล้ว

ใช่แล้วล่ะ ถึงแม้เธอจะแต่งงานแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เคยถูกสามีสัมผัสหรือทำอะไรกับเธอเลย เธอยังคงเป็นเด็กสาวแรกแย้มแสนบริสุทธิ์ ที่กำลังรอให้ถึงวันที่จะถูกผมเด็จมาเชยชม

แต่ผมก็ไม่ต้องการจะบังคับฝืนใจเธอ ดังนั้นผมจึงสั่งให้มาเรียจังช่วยดูแล และคอยหาโอกาสให้ผมได้ครอบครองเธออย่างช้าๆ

..................

หลังจากถูกผมชิงเอาจูบแรกมาอย่างเร่าร้อน เวลน่าก็ถึงกับทรุดลงไปกับพื้นโดยไม่พูดอะไรออกมา บางทีผมอาจจะทำเกินไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงใจ

จากนั้นผมก็ฝากให้มาเรียจังช่วยดูแลเวลน่า และออกไปจากห้องของเธอ ในวันนี้นอกจะเป็นวันหยุดของผมแล้ว มันก็ยังเป็นวันสิ้นปีของโลกนี้อีกด้วย หากเป็นสมัยที่ยังอยู่ในญี่ปุ่นผมก็คงจะชวนเจ้าอากิโอะและพวกสาวๆออกไปหาร้านกินดื่มด้วยกันยันเช้า

ดังนั้นผมจึงคิดว่าจะจัดงานปาร์ตี้เล็กๆขึ้นมาที่บ้านซักหน่อย ซึ่งก็แน่นอนว่าทุกคนนั้นเห็นด้วยและจะมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าบ้านของผมในช่วงค่ำ แม้แต่ยูฟีน่าที่งานค่อนข้างจะยุ่งก็บอกว่าจะชวนเพื่อนๆของเธอมาร่วมงานในคืนนี้ด้วยเช่นกัน

และเพื่อให้สามารถรองรับเพื่อนๆและพวกสาวๆที่จะมาฉลองร่วมกันได้ผมจึงตัดสินใจจัดเป็นปาร์ตี้บาร์บีคิวกลางแจ้ง อากาศเย็นๆกับไวน์องุ่นและเนื้อย่างร้อนๆนั้นแค่คิดถึงก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาแล้ว

ทัตสึยะซามะ!

ในระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกขึ้นมาจากด้านหลัง

เมื่อผมหันกลับไปก็พบกับเด็กสาวผมสีน้ำทะเลคนหนึ่งในชุดวันพิชสีเขียวสดใส ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันนานและปกติจะเห็นใส่แต่ชุดของอัศวิน แต่ผมก็ไม่มีทางที่จะลืมเธอไปได้อย่างแน่นอน

เธอปล่อยให้ผมรอนานมากเลยนะ โร น่า จัง!

ผมไม่รอช้าและดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดทันที ไออุ่นจากร่างกายของโรน่าจังค่อยๆส่งผ่านมาถึงผมช้าๆ

ทะ ทัตสึยะซามะ คะ คือว่า........อุ๊บ...!!!

ผมไม่ปล่อยให้เธอพูดอะไรและปิดปากเธอด้วยริมฝีปากของผมในทันที ถึงแม้โรน่าจะรู้สึกเขินอยู่บ้างแต่เธอก็ตอบรับจูบของผมอย่างดูดดื่ม ซึ่งมันก็แตกต่างจากครั้งก่อนที่เราเจอกัน ในครั้งนี้เธอดูเชี่ยวชาญขึ้นมาบ้างแล้ว

รีบร้อนจังเลยนะคะ คุณว่าที่สามี

ยูฟีน่าที่เดินตามมาด้านหลังทักทายผมด้วยเสียงอันไพเราะของเธอ แต่นี่มันยังเร็วเกินไปกว่าจะถึงเวลานัด ทำไมเธอถึงได้มาเร็วขนาดนี้กันนะ

โทษทีนะยูฟี่ เพราะไม่ได้เจอยัยโรน่านานมากผมเลยอดใจไว้ไม่ไหวน่ะ

แบบนี้คงต้องลงโทษสินะคะ

ยูฟีน่าเดินเข้ามาหาผมช้าๆและสวมกอดอย่างอ่อนโยน จากนั้นเธอก็ค่อยๆบรรจงประทับริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอลงบนริมฝีปากของผม รสชาติของเด็กสาวที่บวกกับรสเปรี้ยวอมหวานของบลูเบอร์รี่และกลิ่นน้ำหอมจางๆของเธอนั้น ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันที

ว่าแต่ทำไมถึงได้มาก่อนเวลาแบบนี้ล่ะ

พวกเพื่อนๆของชั้นอยากจะรีบมาทักทายทัตสึยะซามะ พวกเราก็เลยออกเดินทางเร็วกว่ากำหนดน่ะค่ะ

จากนั้นผมก็ตามยูฟีน่าไปยังห้องรับรองที่เพื่อนๆของเธอกำลังรออยู่ และเมื่อผมเข้าไปด้านใน ผมก็พบกับเด็กสาวน่ารัก 6 คนที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในระหว่างทานขนมเค้กและของหวานอื่นๆ


13 ความคิดเห็น:

  1. โอ้วในที่สุดก็ขึ้นบทใหม่แล้วหรือนี่ น่ายินดียิ่งนัก ว่าแต่เล่นข้ามไป 2 ตอนแรกงี้ก็ชวนให้มึนๆ นิดแฮะ ไว้อ่านย้อนหลังเอาก็คงได้ล่ะนะ

    ปล. ตอนหน้า 8P!! จัดเลย!! 1 เสียง!!

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. 2ตอนแรกเป็นเนื้อเรื่องของโรน่ายังแต่งไม่เสร็จเลยครับ

      ลบ
  2. ขอบคุณครับ
    อยากอ่านมุมมองของคุณหนูเอาแต่ใจจังสาวตาสองสีก็ดีของคุณแม่ยายก็ได้ว่ามีมุมมองต่อพระเอกเรายังไง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. บทของแต่ละคนคงจะค่อยๆแทรกเข้ามาแหละครับ
      ช่วงนี้เป็นบทหลักของโรน่าจังนะครับ

      ลบ
  3. ขอบคุณมากครับ ติดงอมแงมเลยเรื่องนี้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณที่ติดตามครับ
      เขียนตอนที่ 1 เสร็จแล้ว ส่วนตอนที่ 2 ก็คงอีกไม่นานมาก

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ30 เมษายน 2559 เวลา 16:51

    การปราบพยศสาวๆงั้นหรือ นั่นคืองานถนัดของเทพทัตเลยล่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นั่นสินะ แล้วเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป..ก็คงรู้ๆกันอยู่

      ลบ
  5. โอ้ว กลัวมาดูว่าไรท์พักผ่อนพอหรือยัง กลับเห็นบทใหม่3ตอน ขอบพระคุณขอรับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. -0- ผมกำลังรอเขียนบทของนักบวชสาวอยู่เลย.......

      ลบ
  6. โอ้ว กลัวมาดูว่าไรท์พักผ่อนพอหรือยัง กลับเห็นบทใหม่3ตอน ขอบพระคุณขอรับ

    ตอบลบ