ตอนที่ 4 การต่อสู้ ณ เมืองเวลล่า บทที่ 1




ภาพของเมืองเวลล่าเบื้องหน้าพวกเราในตอนนี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต พวกเราจึงหยุดการเดินทางเอาไว้ก่อนเพื่อดูสถานการณ์

บนกำแพงเมืองนั้นพวกอัศวินกำลังต่อสู้อย่างยากลำบาก มอนสเตอร์ที่กำลังโจมตีเมืองอยู่มีขนาดตัวใหญ่กว่าพวกอัศวินเกือบ 2 เท่า พวกมันพยายามปีนป่ายกำแพงขึ้นไปด้วยการเหยียบหลังพวกเดียวกัน เห็นทีอีกไม่นานพวกมันคงจะสามารถเข้าไปถึงในเมืองได้

M.....Minotaurus ทะ ทำไมมอนสเตอร์ระดับนั้นถึงได้มาโจมตีเมืองล่ะ!!

โรน่าที่เริ่มชินกับความสูงเล็กน้อยตะโกนออกมา สำหรับ Minotaurus นั้นก็เป็นมอนสเตอร์ชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยๆในเกมหรือไลท์โนเวลแนวแฟนตาซี รูปร่างของ Minotaurus นั้นจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับวัว เพียงแต่พวกมันจะใช้เพียง 2 ขาในการเดิน ด้วยพละกำลังอันมหาศาลของพวกมันนั้นสามารถใช้ค้อนหรือกระบองฟาดคนทั่วไปให้ตายได้ในครั้งเดียว

และในครั้งนี้ก็มีพวกมันอยู่มากกว่า 100 ตัว ในกลุ่ม 100 ตัวนั้นยังมีบางตัวที่มีสีผิวแตกต่างออกไป Minotaurus ส่วนใหญ่ที่กำลังโจมตีเมืองอยู่นั้นมีผิวสีแทน แต่ในกลุ่มพวกมันมีบางตัวที่มีผิวสีเงิน

ตัวสีเงินนั้นมีขนาดร่างกายใหญ่กว่าตัวสีแทนพอสมควร ความสูงของ Minotaurus  สีแทนนั้นน่าจะประมาณ 3 เมตร ส่วนตัวสีเงินนั่นคงซัก 4 เมตรได้ ด้วยผิวสีเงินของมันผมจะเรียกมันว่า Slivertaurus ก็แล้วกัน ให้ตายสิถ้าจะยุ่งยากนะเนี่ย

เอายังไงกันดีคะ ทัตสึยะซัง

ยูเมะจังให้กริฟฟอนของเธอบินเข้ามาใกล้ๆและถามขึ้นมา

นั่นสินะ จะสู้กับพวกมันก็ท่าจะยุ่งยากด้วยสิ

พวกเรา...เอาชนะพวกมันไม่ได้เหรอคะ...

ในขณะนั้น ผมก็รู้สึกได้ถึงมือของเด็กสาวที่อยู่ด้านหลัง มือของเธอที่กอดผมเอาไว้แน่นในตอนนี้กำลังสั่น ถ้าหากพวกผมไม่ช่วยล่ะก็ บางทีเธอและพวกอัศวินของเซลฟีน่าคงจะต้องไปต่อสู้กับมิโนเทารุสพวกนั้นด้วยตัวเอง

นี่โรน่าจัง ผมน่ะยังไม่ได้ล้างแค้นเธอเลยนะ เพราะงั้นถ้าปล่อยให้เธอตายไป ผมก็ขาดทุนแย่สิ

ละ ละ ล้างแค้น...ชั้นทำให้ทัตตึยะซามะ....โกรธแค้นเหรอคะ.....

ผมไม่สนใจโรน่าที่กำลังลนลานกับคำพูดของผม และเริ่มคิดวิธีการช่วยเหลือเมืองเวลล่า ทำอย่างไรถึงจะสามารถจัดการพวกมันจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้พวกผมอยู่สูงกว่าพื้นไม่น้อยกว่า 200 เมตร พวกมอนสเตอร์ด้านล่างไม่มีทางสังเกตและโต้กลับพวกเราได้ง่ายๆแน่ ดังนั้นหากทำการโจมตีด้วยเวทมนต์จากระยะไกลโจมตีเป็นวงกว้างล่ะก็น่าจะได้ผลดี

ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ในกลุ่มของพวกเรา คนที่มีเวทมนต์สำหรับโจมตีในระยะไกลก็มีแค่ยูเมะกับยูกะจัง ดังนั้นลำพังแค่พวกเธอคงจะไม่สามารถจัดการมอนสเตอร์ขนาดใหญ่อย่างมิโนทอรุสด้านล่างได้ทั้งหมด

ยูเมะจัง กริฟฟอนเนี่ยมีเวทมนต์โจมตีระยะไกลหรือเปล่า

ก็มีอยู่นะคะ...แต่หากโจมตีจากจุดนี้ล่ะก็ คงไม่สามารถบอกได้ว่าจะไปโดนใครบ้าง...

นั่นสินะหากทำการโจมตีจากระยะนี้ อาจจะทำให้พลาดไปโดนพวกอัศวินและทหารที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านล่างด้วย ถ้างั้นก็จำเป็นต้องเข้าไปโจมตีในระยะที่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้อย่างชัดเจน

ไม่มีทางเลือกแล้วแฮะ ก่อนอื่นก็ต้องบอกพวกที่อยู่ในห้องว่างมิติก่อน เวลาก็มีไม่มากแล้วด้วย

เข้าใจแล้วค่ะ

Dimension Magic: Dimension Home!!

พอได้ยินคำพูดผมฮารุกะจังก็รีบเปิดประตูมิติออกในทันที

ฮารุกะจังบัพ Dimension Step ให้ทุกคนอย่างเร็วที่สุดด้วยนะ

ถึงจะมีเวลาไม่มากแต่ผมก็อยากจะต่อสู้ในสภาพที่ได้เปรียบมากที่สุด ถึงคู่ต่อสู้จะสูงกว่า 4 เมตร แต่หากพวกเราโจมตีมันได้จากบนอากาศล่ะก็ ความต่างเรื่องขนาดตัวก็จะหมดไป

ฮารุกะจังเริ่มบัพให้กับทุกคนโดยเริ่มจากผมแล้วก็ตัวเธอเอง ในระหว่างนั้นก็ผมเข้าไปบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับทุกคนที่รออยู่ภายในห้องว่างมิติ

ว่าไงนะคะ เมืองถูกโจมตีโดย....M…Minotaurus...

ทะ ท่านหญิง!!

เซลฟีน่าที่ได้ยินชื่อมอนสเตอร์ในครั้งนี้ถึงกับทรุดตัวลงไปกับพื้น คลอเดียอัศวินสาวที่อยู่ข้างๆจึงรีบเข้าไปประคองเธอในทันที

พวกอัศวินหนุ่มหลายคนที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น หลังจากได้ยินคำว่า Minotaurus ก็แสดงสีหน้าหวาดวิตกออกมา บางทีสำหรับพวกเขาแล้วมันคงจะเป็นมอนสเตอร์ที่รับมือได้ยาก

เซลฟีน่า ผมน่ะไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้เพื่อนออกไปตายโดยไม่เหลียวแลได้หรอกนะ

ถึงแม้คำพูดจะดูสวยหรู แต่ความจริงแล้วมันก็เป็นแค่เหตุผลหนึ่ง การช่วยเหลือเมืองเวลล่าที่อยู่ใกล้กับที่อยู่ของพวกเราที่สุดนั้นนับว่ามีประโยชน์มาก หากเมืองเวลล่าถูกมอนสเตอร์ยึดไปล่ะก็ พื้นที่โดยรอบนี้จะอันตรายขึ้นในทันที

นอกจากนั้นหากช่วยเมืองเอาไว้ได้ล่ะก็ จะกลายเป็นบุญคุณกับพวกเค้ามากยิ่งขึ้นอีก ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีประโยชน์อย่างมากในอนาคตแน่

เพื่อน...เหรอคะ

ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่เมื่อวานพวกเราก็เป็นเพื่อนที่สู้ร่วมกันมา เธอไม่คิดว่าผมเป็นเพื่อนงั้นเหรอ

ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนค่ะ!! ถึงแม้จะไม่นานแต่การที่คบหาเป็นเพื่อนกับทัตสึยะซามะนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตของชั้นแล้วค่ะ

「「พวกนู๋ก็จะช่วยด้วยค่ะ」」

ชิซึกุกับคาโอริจังเข้ามาพูดกับผม สำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้นั้นการโจมตีระยะไกลจะสำคัญมาก เนื่องจากเท่าที่สังเกตดูแล้วพวก Minotaurus ไม่มีอาวุธประเภทธนู ดังนั้นพวกชิซึกุที่สามารถใช้เวทมนต์โจมตีจากระยะไกลจะได้เปรียบค่อนข้างมาก และต่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ยังสามารถหนีได้ง่ายอีกด้วย

ชิซึกุห้ามทำอะไรเสี่ยงๆโดยเด็จขาด หากคิดว่าไม่ไหวล่ะก็ให้ถอยห่างออกมาทันทีเข้าใจนะ

เข้าใจแล้วค่ะ

ชิซึกุพยักหน้ารับด้วยแววตาเป็นประกาย ผมจึงยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวที่ไว้ใจได้คนนี้

ถ้างั้นก็ต้องฝากด้วยล่ะ ชิซึกุ คาโอริจังก็ด้วยนะ

ชั้นเองก็จะไม่ยอมแพ้ชิซึกุจังแน่นอนค่ะ

ไอโกะช่วยบัทุกคนทีนะ

จากนั้นพวกเราทุกคนก็เริ่มทำการเตรียมอาวุธ และสวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนังกวาง หลังจากจบเรื่องแล้วผมคิดว่าจะไปหาซื้ออุปกรณ์ป้องกันเพิ่มซักหน่อย ก็นะคงจะให้ใช้แค่เสื้อแจ็คเก็ตอย่างเดียวไปตลอดคงไม่ไหวน่ะ

ไอโกะและเด็กสาวที่มีเวทบัพเริ่มทำการบัพให้กับทุกคนที่จะออกไปต่อสู้ เมื่อเตรียมแผนการและอุปกรณ์ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย ผมก็สั่งให้กริฟฟอนบินเข้าไปใกล้ๆ ระยะห่างในตอนนี้ประมาณ 50 เมตร เป็นระยะโจมตีที่เหมาะสมสำหรับยูกะจังเด็กสาวผู้ใช้เวทมนต์น้ำแข็ง

ยูกะจัง!!

Ice Magic: Frozen Arrow!!

ยูกะจังเริ่มเปิดฉากการโจมตีเป็นคนแรก คนร่ายเวทมนต์สร้างลูกธนูแช่แข็งขึ้นมาจำนวนมากแล้วยิงโจมตีใส่มือของเหล่า Minotaurus ที่กำลังปีนขึ้นไปบนกำแพง

เหล่า Minotaurus หลายสิบตัวที่กำลังปีนป่ายขึ้นไปบนกำแพงร้องมัวว!!ออกมาด้วยความตกใจ เมื่อมือของพวกมันกลายเป็นน้ำแข็ง การปีนกำแพงที่สูงชันนั้นจึงทำได้ยากและพวกต่างก็พากันล่วงลงไปบนพื้น

เนื่องจากน้ำหนักตัวของพวกมันค่อนข้างมากเลยทำให้พวกที่อยู่ด้านล่างบาดเจ็บตามไปด้วย เวทมนต์ในครั้งนี้น่ะได้ผลมากเลยทีเดียว

Ice Magic: Frozen Arrow!!

ยูกะจังรีบทำการโจมตีใส่พวกมันอีกครั้งในทันที ด้วยบัพ Overcast ทำให้เธอสามารถใช้เวทมนต์ได้ต่อเนื่องถึง 2 ครั้ง ซึ่งเพียงแค่การโจมตีจากเธอ 2 ครั้งนั้นก็ทำให้พวก Minotaurus แตกตื่นเป็นอย่างมาก พวกมันบางส่วนที่จับทิศทางการลอบโจมตีของพวกเราได้นั้นเลิกสนใจที่จะปีนกำแพง และเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาทางพวกเราที่อยู่ทิศทางตรงกันข้ามในทันที
 

1 ความคิดเห็น: