ภาพของเมืองเวลล่าเบื้องหน้าพวกเราในตอนนี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต
พวกเราจึงหยุดการเดินทางเอาไว้ก่อนเพื่อดูสถานการณ์
บนกำแพงเมืองนั้นพวกอัศวินกำลังต่อสู้อย่างยากลำบาก มอนสเตอร์ที่กำลังโจมตีเมืองอยู่มีขนาดตัวใหญ่กว่าพวกอัศวินเกือบ
2 เท่า พวกมันพยายามปีนป่ายกำแพงขึ้นไปด้วยการเหยียบหลังพวกเดียวกัน
เห็นทีอีกไม่นานพวกมันคงจะสามารถเข้าไปถึงในเมืองได้
「M.....Minotaurus ทะ
ทำไมมอนสเตอร์ระดับนั้นถึงได้มาโจมตีเมืองล่ะ!!」
โรน่าที่เริ่มชินกับความสูงเล็กน้อยตะโกนออกมา สำหรับ Minotaurus นั้นก็เป็นมอนสเตอร์ชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยๆในเกมหรือไลท์โนเวลแนวแฟนตาซี
รูปร่างของ Minotaurus นั้นจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับวัว เพียงแต่พวกมันจะใช้เพียง
2 ขาในการเดิน ด้วยพละกำลังอันมหาศาลของพวกมันนั้นสามารถใช้ค้อนหรือกระบองฟาดคนทั่วไปให้ตายได้ในครั้งเดียว
และในครั้งนี้ก็มีพวกมันอยู่มากกว่า 100 ตัว ในกลุ่ม 100
ตัวนั้นยังมีบางตัวที่มีสีผิวแตกต่างออกไป Minotaurus ส่วนใหญ่ที่กำลังโจมตีเมืองอยู่นั้นมีผิวสีแทน
แต่ในกลุ่มพวกมันมีบางตัวที่มีผิวสีเงิน
ตัวสีเงินนั้นมีขนาดร่างกายใหญ่กว่าตัวสีแทนพอสมควร ความสูงของ Minotaurus สีแทนนั้นน่าจะประมาณ 3 เมตร ส่วนตัวสีเงินนั่นคงซัก
4 เมตรได้ ด้วยผิวสีเงินของมันผมจะเรียกมันว่า Slivertaurus ก็แล้วกัน
ให้ตายสิถ้าจะยุ่งยากนะเนี่ย
「เอายังไงกันดีคะ ทัตสึยะซัง」
ยูเมะจังให้กริฟฟอนของเธอบินเข้ามาใกล้ๆและถามขึ้นมา
「นั่นสินะ
จะสู้กับพวกมันก็ท่าจะยุ่งยากด้วยสิ」
「พวกเรา...เอาชนะพวกมันไม่ได้เหรอคะ...」
ในขณะนั้น ผมก็รู้สึกได้ถึงมือของเด็กสาวที่อยู่ด้านหลัง
มือของเธอที่กอดผมเอาไว้แน่นในตอนนี้กำลังสั่น ถ้าหากพวกผมไม่ช่วยล่ะก็
บางทีเธอและพวกอัศวินของเซลฟีน่าคงจะต้องไปต่อสู้กับมิโนเทารุสพวกนั้นด้วยตัวเอง
「นี่โรน่าจัง ผมน่ะยังไม่ได้ล้างแค้นเธอเลยนะ
เพราะงั้นถ้าปล่อยให้เธอตายไป ผมก็ขาดทุนแย่สิ」
「ละ ละ ล้างแค้น...ชั้นทำให้ทัตตึยะซามะ....โกรธแค้นเหรอคะ.....」
ผมไม่สนใจโรน่าที่กำลังลนลานกับคำพูดของผม และเริ่มคิดวิธีการช่วยเหลือเมืองเวลล่า
ทำอย่างไรถึงจะสามารถจัดการพวกมันจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้พวกผมอยู่สูงกว่าพื้นไม่น้อยกว่า 200 เมตร
พวกมอนสเตอร์ด้านล่างไม่มีทางสังเกตและโต้กลับพวกเราได้ง่ายๆแน่ ดังนั้นหากทำการโจมตีด้วยเวทมนต์จากระยะไกลโจมตีเป็นวงกว้างล่ะก็น่าจะได้ผลดี
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ในกลุ่มของพวกเรา
คนที่มีเวทมนต์สำหรับโจมตีในระยะไกลก็มีแค่ยูเมะกับยูกะจัง
ดังนั้นลำพังแค่พวกเธอคงจะไม่สามารถจัดการมอนสเตอร์ขนาดใหญ่อย่างมิโนทอรุสด้านล่างได้ทั้งหมด
「ยูเมะจัง กริฟฟอนเนี่ยมีเวทมนต์โจมตีระยะไกลหรือเปล่า」
「ก็มีอยู่นะคะ...แต่หากโจมตีจากจุดนี้ล่ะก็ คงไม่สามารถบอกได้ว่าจะไปโดนใครบ้าง...」
นั่นสินะหากทำการโจมตีจากระยะนี้
อาจจะทำให้พลาดไปโดนพวกอัศวินและทหารที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านล่างด้วย
ถ้างั้นก็จำเป็นต้องเข้าไปโจมตีในระยะที่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
「ไม่มีทางเลือกแล้วแฮะ
ก่อนอื่นก็ต้องบอกพวกที่อยู่ในห้องว่างมิติก่อน เวลาก็มีไม่มากแล้วด้วย」
「เข้าใจแล้วค่ะ」
「Dimension Magic: Dimension Home!!」
พอได้ยินคำพูดผมฮารุกะจังก็รีบเปิดประตูมิติออกในทันที
「ฮารุกะจังบัพ Dimension Step ให้ทุกคนอย่างเร็วที่สุดด้วยนะ」
ถึงจะมีเวลาไม่มากแต่ผมก็อยากจะต่อสู้ในสภาพที่ได้เปรียบมากที่สุด
ถึงคู่ต่อสู้จะสูงกว่า 4 เมตร แต่หากพวกเราโจมตีมันได้จากบนอากาศล่ะก็
ความต่างเรื่องขนาดตัวก็จะหมดไป
ฮารุกะจังเริ่มบัพให้กับทุกคนโดยเริ่มจากผมแล้วก็ตัวเธอเอง
ในระหว่างนั้นก็ผมเข้าไปบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับทุกคนที่รออยู่ภายในห้องว่างมิติ
「ว่าไงนะคะ เมืองถูกโจมตีโดย....M…Minotaurus...」
「ทะ ท่านหญิง!!」
เซลฟีน่าที่ได้ยินชื่อมอนสเตอร์ในครั้งนี้ถึงกับทรุดตัวลงไปกับพื้น
คลอเดียอัศวินสาวที่อยู่ข้างๆจึงรีบเข้าไปประคองเธอในทันที
พวกอัศวินหนุ่มหลายคนที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น
หลังจากได้ยินคำว่า Minotaurus
ก็แสดงสีหน้าหวาดวิตกออกมา
บางทีสำหรับพวกเขาแล้วมันคงจะเป็นมอนสเตอร์ที่รับมือได้ยาก
「เซลฟีน่า ผมน่ะไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้เพื่อนออกไปตายโดยไม่เหลียวแลได้หรอกนะ」
ถึงแม้คำพูดจะดูสวยหรู แต่ความจริงแล้วมันก็เป็นแค่เหตุผลหนึ่ง
การช่วยเหลือเมืองเวลล่าที่อยู่ใกล้กับที่อยู่ของพวกเราที่สุดนั้นนับว่ามีประโยชน์มาก
หากเมืองเวลล่าถูกมอนสเตอร์ยึดไปล่ะก็ พื้นที่โดยรอบนี้จะอันตรายขึ้นในทันที
นอกจากนั้นหากช่วยเมืองเอาไว้ได้ล่ะก็ จะกลายเป็นบุญคุณกับพวกเค้ามากยิ่งขึ้นอีก
ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีประโยชน์อย่างมากในอนาคตแน่
「เพื่อน...เหรอคะ」
「ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน
แต่เมื่อวานพวกเราก็เป็นเพื่อนที่สู้ร่วมกันมา เธอไม่คิดว่าผมเป็นเพื่อนงั้นเหรอ」
「ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนค่ะ!! ถึงแม้จะไม่นานแต่การที่คบหาเป็นเพื่อนกับทัตสึยะซามะนั้น
นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตของชั้นแล้วค่ะ」
「「พวกนู๋ก็จะช่วยด้วยค่ะ」」
ชิซึกุกับคาโอริจังเข้ามาพูดกับผม สำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้นั้นการโจมตีระยะไกลจะสำคัญมาก
เนื่องจากเท่าที่สังเกตดูแล้วพวก Minotaurus ไม่มีอาวุธประเภทธนู ดังนั้นพวกชิซึกุที่สามารถใช้เวทมนต์โจมตีจากระยะไกลจะได้เปรียบค่อนข้างมาก
และต่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ยังสามารถหนีได้ง่ายอีกด้วย
「ชิซึกุห้ามทำอะไรเสี่ยงๆโดยเด็จขาด
หากคิดว่าไม่ไหวล่ะก็ให้ถอยห่างออกมาทันทีเข้าใจนะ」
「เข้าใจแล้วค่ะ」
ชิซึกุพยักหน้ารับด้วยแววตาเป็นประกาย ผมจึงยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวที่ไว้ใจได้คนนี้
「ถ้างั้นก็ต้องฝากด้วยล่ะ ชิซึกุ
คาโอริจังก็ด้วยนะ」
「ชั้นเองก็จะไม่ยอมแพ้ชิซึกุจังแน่นอนค่ะ」
「ไอโกะช่วยบัฟทุกคนทีนะ」
จากนั้นพวกเราทุกคนก็เริ่มทำการเตรียมอาวุธ และสวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนังกวาง
หลังจากจบเรื่องแล้วผมคิดว่าจะไปหาซื้ออุปกรณ์ป้องกันเพิ่มซักหน่อย ก็นะคงจะให้ใช้แค่เสื้อแจ็คเก็ตอย่างเดียวไปตลอดคงไม่ไหวน่ะ
ไอโกะและเด็กสาวที่มีเวทบัพเริ่มทำการบัพให้กับทุกคนที่จะออกไปต่อสู้
เมื่อเตรียมแผนการและอุปกรณ์ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย ผมก็สั่งให้กริฟฟอนบินเข้าไปใกล้ๆ
ระยะห่างในตอนนี้ประมาณ 50 เมตร เป็นระยะโจมตีที่เหมาะสมสำหรับยูกะจังเด็กสาวผู้ใช้เวทมนต์น้ำแข็ง
「ยูกะจัง!!」
「Ice Magic: Frozen Arrow!!」
ยูกะจังเริ่มเปิดฉากการโจมตีเป็นคนแรก
คนร่ายเวทมนต์สร้างลูกธนูแช่แข็งขึ้นมาจำนวนมากแล้วยิงโจมตีใส่มือของเหล่า Minotaurus ที่กำลังปีนขึ้นไปบนกำแพง
เหล่า Minotaurus หลายสิบตัวที่กำลังปีนป่ายขึ้นไปบนกำแพงร้อง「มัวว!!」ออกมาด้วยความตกใจ เมื่อมือของพวกมันกลายเป็นน้ำแข็ง การปีนกำแพงที่สูงชันนั้นจึงทำได้ยากและพวกต่างก็พากันล่วงลงไปบนพื้น
เนื่องจากน้ำหนักตัวของพวกมันค่อนข้างมากเลยทำให้พวกที่อยู่ด้านล่างบาดเจ็บตามไปด้วย
เวทมนต์ในครั้งนี้น่ะได้ผลมากเลยทีเดียว
「Ice Magic: Frozen Arrow!!」
ยูกะจังรีบทำการโจมตีใส่พวกมันอีกครั้งในทันที ด้วยบัพ Overcast ทำให้เธอสามารถใช้เวทมนต์ได้ต่อเนื่องถึง
2 ครั้ง ซึ่งเพียงแค่การโจมตีจากเธอ 2 ครั้งนั้นก็ทำให้พวก Minotaurus แตกตื่นเป็นอย่างมาก
พวกมันบางส่วนที่จับทิศทางการลอบโจมตีของพวกเราได้นั้นเลิกสนใจที่จะปีนกำแพง และเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาทางพวกเราที่อยู่ทิศทางตรงกันข้ามในทันที
ขอบคุณครับ
ตอบลบ