ตอนที่ 42 สายลับของศาสนจักร



-- มุมมองของฮิลด้า --                                       

ชั้นมีชื่อว่าฮิลด้า ถึงแม้หลายๆคนอาจจะไม่เชื่อ แต่ตัวชั้นก็เป็นถึงหัวหน้าของกลุ่มสายลับแห่งศาสนจักรที่ถูกส่งมาทำภารกิจต่างๆภายในอาณาจักรออร์ธรอส

สำหรับสายลับนั้นพวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้มีครอบครัว คนรัก หรือแม้แต่เพื่อนก็ยังไม่อาจจะมีได้ และเนื่องจากพวกเราทุกคนถูกซื้อตัวมาจากครอบครัวที่ยากจนตั้งแต่ยังเล็กพวกเราจึงไม่มีความรู้สึกผูกพันใดๆ

ซึ่งทั้งหมดนั่นก็เพื่อให้พวกเราสามารถทำภารกิจในประเทศต่างๆได้โดยไม่มีความกังวลใดๆ หรืออีกในความหมายหนึ่งก็คือ จะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะมากังวลหรือเสียใจหากพวกเราถูกสังหารหรือตายในระหว่างทำงานนั่นเอง

สำหรับสายลับแห่งศาสนจักรที่ถูกส่งเข้ามาทำภารกิจภายในอาณาจักรออร์ธรอสนั้นเท่าที่ชั้นรู้ก็มีอยู่มากกว่า 30 คน ทำไมถึงไม่รู้จำนวนที่แน่นอนทั้งๆที่ชั้นเป็นถึงหัวหน้างั้นเหรอ?

นั่นน่ะ มันก็เป็นนโยบายในการรักษาความปลอดภัยให้กับตัวสายลับแต่ละคนเอง พวกเรานั้นจะไม่ทำการติดต่อกันหากไม่มีความจำเป็น นอกจากนั้นแล้วพวกเราก็ยังจะทำการติดต่อแต่กับเฉพาะสายงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

ดังนั้นถึงแม้จะมีใครซักคนถูกจับกุมตัว โอกาสที่จะสาวมาถึงที่อยู่ของคนอื่นๆก็แทบจะเป็นไปไม่ได้

แต่ไอ้เรื่องที่ว่านั้นดูเหมือนจะไม่สามารถใช้กับอาณาจักรออร์ธรอสแห่งนี้ได้ หลักซานก็คือตั้งแต่ที่ชั้นได้แฝงตัวเข้ามายังอาณาจักรนี้นั้น ชั้นได้เห็นพวกสายลับจากจักรวรรดิเอลติซและบรรดาประเทศขนาดใหญ่ที่แสดงตัวเป็นศัตรูกับทางอาณาจักรออร์ธรอสนั้นถูกกวาดล้างกันจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียวอยู่หลายครั้ง

จากเหตุการณ์ข้างต้นทำให้ชั้นและบรรดาลูกน้องทุกคนต่างกวาดกลัวในความสามารถของเหล่าจอมเวทเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าหากไม่จำเป็นพวกเราก็จะเก็บตัวอยู่ในที่ซ่อนลับหรือเรียกว่าพวกเรานั้นแทบจะไม่กระดิกตัวกันเลยทีเดียว

และเพราะเหตุนั้นเองทางศาสนจักรจึงได้ตัดสินใจส่งตัวท่านอาร์ชบิชอบออร์ก้าผู้ซึ่งเป็นนักบวชระดับสูงมายังอาณาจักรออร์ธรอส

ท่านอาร์ชบิชอบออร์ก้านั้นถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นพวกลามก แต่ท่านก็เป็นผู้ทีมีความสามารถทั้งด้านการเจรจาและการบริหาร ดังนั้นหากพวกเราได้รับการสนับสนุนจากท่านที่มาประจำอยู่ในโบสถ์ของสถานทูตล่ะก็ พวกเราคงจะสามารถทำงานได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

แต่แล้วความหวังของพวกเราทั้งหมดก็ต้องมาพังทลายลงไปเพราะยัยเด็กนั่น!!!

ยัยเด็กที่ว่านั่นก็คือ เอลิเซ่ วิส ดูราเฮมด์ บุตรสาวคนรองของตระกูลดูราเฮมด์ ท่านอาร์ชบิชอบออร์ก้านั้นถูกยั่วยวนด้วยใบหน้าที่ไร้เดียง รูปร่างที่น่าทะนุถนอม และรอยยิ้มที่อ่อนหวานของเธอ สุดท้ายแล้วท่านจึงได้ถูกสังหารไปพร้อมๆกับนักบวชท่านอื่นๆโดยใช้อุบัติเหตุมาเป็นข้ออ้าง

อุบัติเหตุบ้าอะไรกัน!!! นั่นน่ะมันการฆาตกรรมหมู่ต่างหากเล่า!!! แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นพวกเธอกลับได้รับการตอนรับเป็นอย่างดีจากพวกท่านจอมเวท!!!

ทั้งๆที่เพียงแค่คิดสักเล็กน้อยก็ต้องรู้แล้วว่าความจริงที่อยู่เบื้อหลังเป็นยังไงแต่พวกท่านจอมเวทก็ยังให้การต้อนรับและดูแลพวกเธอเป็นอย่างดี แถมยังไม่ใช่เพียงแค่นั้น พวกท่านจอมเวทยังได้ทำการสร้างสถานทูตที่สวยงามหรูหราสมฐานะ โบสถ์ขนาดใหญ่ และยังมีวิหารศักดิ์สิทธิอีก

ไม่เพียงแค่นั้น พวกท่านจอมเวทยังได้วางแผนที่จะทำการตั้งศาสนจักรแห่งออร์ธรอสขึ้นมาและให้พวกเธอได้เป็นคนบริหาร เรียกได้ว่ายกฐานะกันจากเด็กสาวธรรมดาให้กลายเป็นนักบวชระดับสูงเพียงแค่ชั่วข้ามคืน

จากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ถึงแม้ตัวชั้นจะรู้สึกแค้นเคืองเธอเพียงใด แต่ในใจลึกๆแล้วชั้นก็ยังรู้สึกชื่นชมเธอเป็นอย่างมาก

นั่นก็เพราะเธอสามารถที่จะใช้อาวุธของผู้หญิงที่ติดตัวอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงกับท่านอาร์ชบิชอบหรือนักบวชคนอื่นๆเท่านั้น แต่กับทัตสึยะซามะที่เป็นถึงผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอสก็ยังหลงใหลในเสน่ห์ของเธอ

ถ้าหากว่าเธอได้มาทำงานเป็นสายลับล่ะก็ ทุกคนคงจะให้การยอมรับอย่างแน่นอนว่าเธอนั้นเป็นสายลับชั้นยอด เอาเถอะ ในเรื่องนั้นน่ะค่อยมาว่ากันทีหลัง ในตอนนี้ชั้นจะต้องส่งรายงานเรื่องนี้ไปให้กับท่านคาร์ดินัลเสียก่อน......จากนั้นก็มารอดูกันว่าทางสภานักบวชของศาสนจักรจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไร.......


ช่วงสายของวันที่ 3 เดือน 3 ศักราชเอลติซปีที่ 837              

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่ชั้นส่งรายงานไปให้กับท่านคาร์ดินัล ในวันนี้เป็นวันที่ทางอาณาจักรออร์ธรอสจะทำพิธีสักการะเทพ ประกาศจัดตั้งศาสนจักรแห่งออร์ธรอส รวมทั้งจะทำการประกาศรายชื่อของบรรดานักบวชชั้นสูงต่างๆที่จะเข้ามารับตำแหน่งบริหารงานของศาสนจักรไปด้วยพร้อมกัน

ภายในงานพิธีวันนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นขุนนาง สามัญชน พ่อค้าหรือแม้แต่ทาสก็สามารถเข้าร่วมงานได้ นอกจากนั้นแล้วท่านจอมเวทยังได้ทำการส่งเทียบเชิญพวกขุนนางระดับสูงและบรรดาราชวงศ์จากอาณาจักรต่างๆเข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นงานในวันนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นงานพิธีระดับโลกเลยทีเดียว

แน่นอนว่าพวกเราที่เป็นสายลับเองก็ต้องเข้าร่วมด้วยอย่างแน่นอน.....

แต่แล้วในระหว่างที่ยัยเด็กนั่นกำลังถวายเครื่องเซ่นอยู่นั้นก็ได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้น บรรยากาศโดยรอบพื้นที่จัดการถูกปกคลุมไปด้วยแสงระยับระยับและสายลมอุ่นๆ บริเวณซอกของแผ่นหินรวมถึงสวนที่อยู่รอบก็ได้เกิดสวนดอกไม้งอกงามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนที่อยู่ภายในงานพิธีแตกตื่นเป็นที่สุดนั้นก็คือ...เทพธิดา...!!!????

อยู่ดีดียัยเด็กนั่นก็ได้กลายเป็นเทพธิดา....ไม่สิ.....นี่มันร่างทรงสินะ ในสมัยอดีตที่เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ในสภาวะวิกฤติเองก็เคยมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง ว่ากันว่าหากเผ่าพันธุ์ใดอยู่ในภาวะที่ใกล้จะสูญพันธุ์ล่ะก็ เทพธิดาจะทำปรากฏตัวขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลือโดยการประทับร่างของเด็กสาวผู้หนึ่ง......

ไม่สิแต่ในตอนนี้โลกใบนี้สงบลงกว่าเดิมตั้งเยอะ แล้วทำไมเทพธิดาถึงปรากฏตัวขึ้นอีกล่ะ!? …….อ่า.....ชั้นเข้าใจแล้ว.....นี่เองก็คงจะเป็นแผนการของยัยเด็กนั่นอีกแล้วงั้นสินะ.....แต่ถึงชั้นจะพยายามคิดไปในทิศทางนั้นมันก็ยังไม่มีหลักฐานใดๆมารองรับอยู่ดี

แต่แล้วในระหว่างที่ตัวชั้นกำลังคิดอยู่นั้น เทพธิดาที่กำลังส่องประกายสีทองระยิบระยับอยู่เหนือลานพิธีด้านหน้าก็ได้ลืมตาขึ้นและเอ่ยปาก.....
                                                              
ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะคะ เหล่าจอมเวท

เทพธิดาเอ่ยปากทักทายพวกท่านจอมเวทด้วยรอยยิ้มที่งดงามจนยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบ......ชิ!!....จะแสดงได้เหมือนเกินไปแล้ว!!

ที่ได้มาพบกันเซฟฟรานซามะผู้แสนงดงามอีกครั้งนั้น เรียกได้ว่าเป็นวาสนาของพวกเราอย่างมากครับ

ทัตสึยะซามะเป็นตัวแทนของจอมเวทในการตอบกลับไป ท่าทีของเค้านั้นราวกับรู้จักเทพธิดาตรงหน้าเป็นอย่างดี.......เซฟฟราน เทพธิดาแห่งความรักงั้นเหรอ....ก็สมกับเป็นทัตสึยะซามะผู้ที่ได้ชื่อว่ามีคนรักมากเป็นอันดับหนึ่งล่ะนะ.....ไม่สิ!!! นี่น่ะมันเป็นแค่การแสดงไม่ใช่หรือยังไงกัน!!!?

อุฟุฟุ เพียงแค่ได้ยินเสียงก็จำเราได้แล้วสินะคะ ท่านช่างปราดเปรื่องสมกับเป็นคนที่พวกท่านพี่เป็นคนเลือกเลยนะคะ

การที่ได้รับคำชมจากเซฟฟรานซามะนั้น ถือเป็นเกียรติอย่างสูงสุดแล้วครับ

อาร๊า นอกจากความปราดเปรื่องแล้ว ดูเหมือนท่านจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วสินะคะ เราน่ะยังคงคิดถึงคำขอแต่งงานของท่านในสมัยเด็กๆอยู่เลย....

เทพธิดาพูดพร้อมกับแสดงใบหน้าซุกซนออกมา....ขะ ขอเทพธิดาแต่งงานเนี่ยนะ!!! นะ ในสมัยก่อนพวกท่านจอมเวทมีชีวิตอยู่กันแบบไหนกันแน่วะเนี่ย!! ไม่สิ มันเป็นการแสดง!! มันเป็นแค่การแสดง!!!

กับคำพูดอวดดีในสมัยเด็กนั้นผมไม่ขอแก้ตัวใดๆ แต่ผมก็อยากจะให้เซฟฟรานซามะได้รับรู้ว่า ความรู้สึกเหล่านั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงแม้เวลาจะผ่านเลยไปนานแค่ไหนก็ตามที

อุฟุฟุ หากท่านต้องการเช่นนั้น เราก็จะขอรับเอาความจริงใจของท่านเอาไว้ เพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลานั้น ในตอนนี้ยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญยิ่งกว่า

หากมันเป็นความต้องการของเซฟฟรานซามะล่ะก็ พวกเราทุกคนก็พร้อมจะลงมือในทันที

ความภักดีเหล่านั้นช่างน่าประทับใจยิ่งนัก ก่อนอื่นเลยเรายอมรับการจัดตั้งศาสนจักรแห่งออร์ธรอสอย่างเป็นทางการ และขอชมเชยกับวิหารศักดิ์สิทธิอันงดงามที่พวกท่านได้สร้างขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่เราเท่านั้น แม้แต่พวกพี่ๆเองก็ยังกล่าวชมเช่นเดียวกัน

และก็เพราะเหตุนั้นเราจึงรู้สึกเสียใจยิ่งนัก ทั้งๆที่ศักดิ์สิทธิหลายๆที่เองก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างงดงามแท้ๆ แต่กลับมีนักบวชจิตใจสกปรกมากมายนำพลังที่เรามอบให้ไปใช้มันในทางที่ผิด

เจ้าพวกนักบวชพวกนั้นแอบอ้างคำพูดของเหล่าเทพธิดาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จงชำระล้างพวกมันด้วยเวทมนต์ศักดิสิทธิที่เราได้มอบให้ เหล่าจอมเวททั้งหลาย จงทำให้พวกนักบวชสกปรกได้รับรู้โทษทันของพวกมันซะ

ทุกคนได้ยินแล้วคำพูดของเซฟฟรานซามะกันแล้วใช่มั๊ย!!!

「「「「โอ้!!!」」」」

เสียงกู่ร้องดังก้องไปทั่วลานพิธี เหล่าจอมเวทและบรรดาอัศวินจำนวนมากทยอยออกไปจากลานพิธีในทันที.....มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย!!!!!!

เราขออวยพรให้พวกท่านประสบความสำเร็จ

หลังจากจอมเวทและพวกอัศวินส่วนใหญ่ออกจากลานพิธีไปแล้ว เทพธิดาเซฟฟรานได้ให้พรโดยการจูบลงที่บริเวณหน้าผากของทัตสึยะซามะ จากนั้นเธอก็ออกจากร่างของยัยเด็กนั่นไป รวมถึงบรรยากาศแปลกๆรอบบริเวณเองเองก็หายไปด้วยเช่นกัน.....

ชั้นรู้สึกงงไปหมด.....มันคือเรื่องจริง.....หรือเรื่องโกหก....ไม่สิเรื่องนั้นจะยังไงก็ช่าง......เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของชั้นในการตัดสินใจ

เมื่อคิดได้ดังนั้นชั้นจึงรีบออกจากลานพิธีกลับไปยังที่ซ่อน เขียนรายงาน และสั่งให้ลูกน้องนำไปส่งให้กับท่านคาร์ดินัล โดยมีการตีตราบนจดหมายไว้ว่าด่วนและสำคัญที่สุด


-- Extra --

สายลับคนนี้ทำงานได้ดีมากเลยนะคะ

เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินเป็นประกายพูดขึ้นในระหว่างอ่านรายงานภายในจดหมายด่วนและสำคัญที่สุดจากสายลับของศาสนจักร

อยากจะได้ตัวเธอมาเข้ากับพวกเรางั้นเหรอ

ก็ไม่ใช่ว่าต้องการตัวเธอเป็นพิเศษหรอกค่ะ แค่รู้สึกการไว้ชีวิตเธอนั้น น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า.....

ที่พูดมามันก็จริงอยู่ เอาเถอะ หลังเรื่องราวในครั้งนี้จบลง ค่อยมาตัดสินใจกันอีกครั้งก็แล้วกัน

ขอบคุณมากค่ะ

เด็กสาวผมสีเงินกล่าวขอบคุณออกมา ก่อนจะหันไปจัดการกับงานของเธอต่อ เธอทำการแก้ไขเนื้อหาภายในรายงานเล็กน้อยเพื่อให้เป็นไปตามที่เธอต้องการ จากนั้นจึงปิดผนึกจดหมายกลับไปในสภาพเดิม........

11 ความคิดเห็น:

  1. เล่นมุขที่อาจเป็นจริงได้เลยวุ้ย เฮียทัตจีบไปหมดแหละถ้าดูๆแล้วไม่เกินอายุพี่แก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หึหึ กวาดเทพธิดาทั้ง 6 ให้เรียบ.....

      ลบ
  2. ขอบคุนมาคับลงไวมาก

    ตอบลบ
  3. ขนาดระหว่างแสดงละครแหกตาชาวบ้านก็ยังไม่วายไปเกี้ยวสาวอีกตามเคย ไม่ทิ้งลายบักทัตคนเดิมเลยจริมๆ

    ปล. รอมาม่าขั้นต่อในอีกอีก 3 นาที ซู้ด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หุหุ นิสัยคนมันเปลี่ยนไม่ได้ง่ายๆ.....

      ลบ
  4. ถึงจะเป็นการแสดงก็เถอะ แต่ก็หม้อกระทั่งเทพ...นี่เทพทัตเขากะจะเอาเทพเข้าฮาเร็มจริงๆใช่ม้ายยยย

    ตอบลบ
  5. อัพเดทเว็บใหม่หรอครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่แล้วครับ แยกเรื่องให้อ่านได้ง่ายขึ้น

      ลบ