ช่วงเช้าวันที่ 3 เดือน 4 ศักราชเอลติซปีที่ 837
ผมกำลังเหนื่อยหน่ายกับเอกสารรายงานกองยักษ์ที่พวกเมดนำมากองเอาไว้ภายในห้องทำงานของผมในคฤหาสน์
ในตอนแรกที่ผมยกตำแหน่งหัวหน้าแผนกบัญชีและการเงินให้กับไอเชียนั้น
ผมคิดว่าหลังจากนี้คงจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพวกสาวๆได้โดยไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับเอกสารจำนวนมากแล้วแท้ๆ
แต่ความเป็นจริงนั้นช่างเป็นเรื่องที่โหดร้าย
เพราะถึงแม้จะไม่ต้องมาดูแลจัดการเรื่องบัญชีและการเงินแล้ว แต่การตรวจสอบรายงานความคืบหน้าในด้านต่างๆภายในประเทศก็ยังเป็นงานที่หนักเอาการอยู่ดี
ซึ่งถ้าแค่เรื่องพวกนั้นก็ยังพอว่า
แต่ในช่วงเดือนที่ผ่านมานั้น มีเรื่องวุ่นวายเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย
ซึ่งมันก็มีมากซะจนผมแทบจะไม่มีเวลาไปกลั่นแกล้งเวลน่าจังเลยด้วยซ้ำ
วิกฤตแล้ว!! นี่มันเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิต
แถมเจ้าอากิโอะที่น่าจะเป็นคนที่ผมพอจะพึ่งพาได้มากที่สุดกลับรีบหนีไปเที่ยวที่ทวีปของพวกเอล์ฟ
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
แต่เจ้านั่นยังทิ้งภาระหน้าที่ที่เจ้านั่นควรจะต้องจัดการเอาไว้ให้ผมอีก......
「เฮ้อ.....ถ้าขาดเธอไปอีกคนล่ะก็
ผมคงจะขาดใจตายแน่ๆ....」
ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปยิ้มให้กับมาเรียจังที่คอยช่วยตรวจดูเอกสารและยังคอยช่วยดูแลผมอยู่ข้างๆเสมอ
「การที่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับนายท่านนั้น
เป็นความสุขของชั้น เพราะงั้นหากมีอะไรที่ชั้นพอจะช่วยได้ล่ะก็.....」
ยังไม่ทันที่มาเรียจังจะได้พูดจบ
ผมก็ดึงตัวมาเรียจังเข้ามาในอ้อมกอดและประทับริมฝีปากลงบนแก้มแสนนุ่มนิ่มของเธอ
「ขอบใจที่คอยอยู่ข้างๆผมเสมอนะ มาเรียจัง」
「คะ...ค่ะ!」
มาเรียจังตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เธอช่างเป็นเด็กสาวที่น่ารักเสียจริง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
นอกจากความน่ารักแล้วเธอยังเป็นเด็กสาวที่มีประโยชน์รอบด้าน
ทั้งๆที่ในช่วงแรกนั้นเธอแทบจะอ่านหนังสือไม่ออกด้วยซ้ำ
แต่หลังจากอยู่ด้วยกันมา 5 เดือน
เธอก็ได้เรียนรู้และฝึกฝนความสามารถในทุกๆด้าน ในตอนนี้ผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า
เธอได้กลายเป็นบุคลากรสำคัญในการขับเคลื่อนอาณาจักรออร์ธรอสแห่งนี้ไปแล้ว
และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมก็รีบกลับมาจัดการกับกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้าต่อ
สำหรับรายงานสำคัญในช่วงนี้ที่ผมรีบตรวจสอบและจัดการเป็นอันดับแรกๆนั้นก็คือรายงานเกี่ยวกับเรื่องของศาสนจักร
และก็รายงานเกี่ยวกับข้อตกลงหลายๆอย่างที่บรรดาทูตของเผ่าพันธุ์ต่างๆเสนอเข้ามา
เผ่าพันธุ์ต่างๆที่ว่านั้นก็คือเผ่าพันธุ์ที่ปกติแล้วจะเอาแต่หลบซ่อนและไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก
ทั้งๆที่พวกเขาไม่ควรจะแสดงตัวออกมาง่ายๆ แต่พวกเขากลับส่งทูตเข้ามาติดต่อกับอาณาจักรออร์ธรอสของเรา
แล้วทำไมพวกเค้าถึงได้แสดงตัวออกมาน่ะเหรอ สาเหตุก็มาจากผลกระทบของแผนการ『แผนการประกาศิตเทพธิดา』ที่ผมคิดขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับพวกนักบวชของศาสนจักร
ซึ่งในตอนแรกก็คิดว่าจะใช้ไปในทิศทางนั้น
แต่พอได้ลงมือทำไปจริงๆแล้วมันดันส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากยิ่งกว่าที่คิดเอาไว้ซะงั้น.....เอาเถอะ...ยังไงมันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี....คิดว่านะ....
แต่กับเรื่องนั้นผมจะขอพักมันเอาไว้ก่อน
ในตอนนี้เรามาพูดถึงเรื่องของศาสนจักรกันก่อนดีกว่า จากรายงานที่ผมได้รับมานั้น
เอลิเซ่และบรรดาท่านหญิงเพื่อนๆของเธอนั้นทำงานกันได้ดีมาก
พวกเธอได้จัดการคัดเลือกผู้คนที่สมัครเข้ามาเป็นนักบวชได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่สนใจฐานะหรือประวัติความเป็นมา
เรียกได้ว่าเป็นการใช้คนได้เหมาะสมกับงาน หากพบว่าใครมีความสามารถที่ดีพอล่ะก็
พวกเธอก็จะรับเข้าไปทำงานด้วยในทันที
พวกเธอทำการลดขั้นตอนของพิธีกรรมที่ไม่จำเป็น
บริหารการจัดการทรัพย์กรที่มีให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
การจัดการเกี่ยวกับงบประมาณค่าใช้จ่ายเองก็ทำได้เหมาะสมกับงานเองก็ออกมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เรียกว่าพวกเธอสามารถจัดการมันได้อย่างลงตัว
ส่วนเรื่องของอดีตนักบวชที่ถูกจับกุมตัวก็มีการลงโทษอย่างเหมาะสมเช่นเดียวกัน
เจ้าพวกนักบวชที่เคยยักยอกเงินบริจาคไปใช้ในทางที่ผิด หรือพวกที่เคยลักพาตัวเด็กสาวไปข่มขืนนั้นทั้งหมดได้ถูกลงโทษประหาร
ส่วนพวกที่ธุรกิจเล็กๆน้อยก็ถูกยึดทรัพย์และถูกเนรเทศออกไป
น่าเสียดายที่ขอบเขตอำนาจของพวกเรานั้นมีอยู่เพียงภายในของทวีปอากัสเตรียจึงยังไม่สามารถไปจัดการกับตัวการที่แท้จริงหรือพวกนักบวชระดับสูงได้
แต่สำหรับเรื่องนี้นั้น เอลิเซ่ส่งเรื่องกลับไปทางอาณาจักรศักดิ์สิทธิแอสกรัมเรียบร้อยแล้ว
เพราะงั้นก็คงต้องปล่อยให้พวกเค้าเป็นคนไปจัดการต่อกันเอาเอง
「นายท่านคะ ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วนะคะ」
มาเรียจังเตือนขึ้นมาในระหว่างที่ผมตรวจสอบรายชื่อของพวกนักบวชที่ถูกลงโทษ
「เข้าใจละ ถ้างั้นก็เอาไว้แค่นี้ก่อน เธอเองก็รีบไปเตรียมตัวได้แล้วนะ
มาเรียจัง」
ผมวางเอกสารลงและบอกให้มาเรียไปเตรียมตัวให้พร้อม
หลังจากทุกทรมานจากการทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งเดือน
ในวันนี้จะเป็นวันแรกที่ผมจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน
นั่นก็เพราะเรื่องด่วนต่างๆที่ต้องรีบจัดการนั้นผมได้ทำเสร็จไปทั้งหมดแล้ว
เพราะงั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เวลางานของผมจะเหลือเพียงแค่ครึ่งวันหรือก็คือในช่วงเช้าเท่านั้น....ส่วนในช่วงบ่ายผมจะไปทำอะไรน่ะเหรอ........หึหึ.......มันก็ต้องเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วนั่นล่ะนะ.....
「ทัตสึยะซัง!! คิดถึงที่สุดเลย!!」
เมื่อผมและมาเรียจังมาถึงยังด้านหน้าของสระว่ายน้ำหรูหราซึ่งเป็นสถานที่นัดพบ
มายุจังก็รีบเข้ามากอดผมด้วยสีหน้ามีความสุขในทันที
「ในที่สุดก็จะเริ่มมีเวลาว่างแล้วสินะคะ
ทัตสึยะซามะ」
ส่วนคาโอริจังนั้นเข้ามาทักทายผมด้วยท่าทางสง่างามเหมือนกับชนชั้นสูง
「นี่ผมมาช้าสินะ ขอโทษที่ทำให้รอนะ มายุจัง
คาโอริจัง」
ผมคิดว่ารีบมาแล้วนะแต่ยังไงก็ทำให้พวกเธอต้องรอ
ผมจึงขอโทษและโอบเอวพวกเธอทั้งสองคนด้วยมือทั้งสองข้าง แต่เพราะไม่ได้เจอกับพวกเธอทั้งสองคนมานานผมจึงอดใจไม่ไหวและเริ่มลูบคลำก้นของทั้งสองคนไปด้วย
「ยังใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะคะ」
คาโอริจังพูดพร้อมกับเข้ามาประทับริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอลงบนแก้มข้างหนึ่งของผม
ซึ่งมันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
แต่เธอยังดันหน้าอกขนาดใหญ่โตของเธอเข้ามาแนบชิดกับร่างกายของผมด้วย
「คาโอริจังขี้โกงนี่นา」
เพราะเห็นคาโอริจังเริ่มจูโจมผมก่อน มายุจังจึงแสดงอาการหึงหวงออกมาเล็กน้อยก่อนจะเข้ามาประทับริมฝีปากของเธอลงบนแก้มอีกข้างหนึ่งของผม
แน่นอนว่ามายุจังเองก็มีหน้าอกที่นุ่มนิ่มงดงามไม่แพ้กัน
และในตอนนี้ผมก็กำลังถูกหน้าอกของเธอกดเข้ามาที่ร่างกาย
การจู่โจมด้วยพลังของหน้าอกของพวกเธอทั้งสองคนนั้นช่างรุนแรงยิ่งนัก
ทำเอาผมอยากจะกลายเป็นหมาป่าแล้วขย้ำเธอซะเด๋วนี้.....แต่ผมก็ต้องอดทนไว้ก่อน
เพราะในวันนี้ผมจะขย้ำพวกเธอตอนที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว.....
อ้ะ....เผื่อว่าจะยังไม่รู้กัน แต่ผมกับคาโอริจังได้ตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถึงจะใช้เวลามากไปซะหน่อย แต่ทั้งน้องสาวของผมชิซึกุและเอริจังนั้นไม่มีใครคัดค้านความสัมพันธ์ของพวกเรา
「ถ้างั้นก็รีบไปเปลี่ยนชุดกันได้แล้วนะ
ผมน่ะอดใจรอในถึงเวลานี้จนเมื่อคืนแทบจะนอนไม่หลับเลยนะ」
เมื่อได้ยินคำพูดของผม มายุจัง คาโอริจัง
และมาเรียจังก็พากันเข้าไปในห้องแต่งตัวฝั่งผู้หญิงในทันที ส่วนตัวผมนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นและต้องแยกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ฝั่งของผู้ชายอย่างเหงาๆเพียงคนเดียว
ตามจริงแล้วผมอยากจะเข้าไปช่วยพวกเธอทั้งสามคนเปลี่ยนชุดด้วย
แต่เนื่องจากมันเป็นกฎของทางสระว่ายน้ำที่ผมเป็นคนตั้งขึ้นมาเอง ดังนั้นผมจึงไม่อยากที่จะไปทำลายกฎมันเสียเอง
สำหรับห้องแต่งตัวที่พวกเราใช้นั้นเป็นส่วนของโซน VIP ซึ่งต้องมีการจองเอาไว้ล่วงหน้า
โดยโซน VIP นั้นจะเป็นแบบส่วนตัวทำให้พวกเราสามารถเล่นสนุกกันได้ทุกรูปแบบโดยที่ไม่มีใครสามารถที่จะเข้ามารบกวนได้
เพราะถึงแม้ผมจะไม่อายกับการถูกมองแต่การถูกขัดจังหวะนั้นก็จะทำให้เสียอารมณ์ไปเปล่าๆ
เพราะงั้นเพื่อความสุขสมอันสุดยอดของพวกเราแล้ว ผมจึงได้ให้หน่วยเมดติดอาวุธตามมาคุ้มกันตามจุดต่างๆบริเวณโดยรอบเอาไว้ด้วย
「「ขอโทษที่ให้รอนะคะ」」
หลังจากรออยู่ซักพักหนึ่ง
สาวๆทั้งสามคนก็ออกมาจากห้องแต่งตัวพร้อมๆกัน
「สวยมาก เลือกชุดได้เหมาะกับพวกเธอมากเลยนะ」
มายุจังใส่บิกินี่สุดวาบหวิวสีขาวที่มีระบายน่ารักๆ ความน่ารักของเธอทำให้ผมแทบจะไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้
ส่วนโค้งเว้าของสาวแรกรุ่นถูกแสดงออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ผิวที่ขาวเนียนทั่วทั้งร่างกายของเธอนั้นก็ให้ความรู้สึกเย้ายวนน่าลูบไล้น่าสัมผัสเป็นที่สุด
คาโอริจังใส่บิกินี่สีฟ้าอ่อนที่มีลายจุดสีขาวประดับด้วยริบบิ้น ซึ่งมันก็เข้ากับหน้าอกขนาดใหญ่ที่กระเด้งไปมาของเธอเป็นอย่างมาก
ต้นขาขาวเนียนสุดแสนเย้ายวนคู่นั้นเองก็มีพลังทำลายที่รุนแรงมาก และหากนำมารวมกับรอยยิ้มที่น่ารักน่าทะนุถนอมของเธอนั้นก็ทำให้รู้สึกน่าหลงใหลจนแทบคลั่ง
ส่วนมาเรียจังนั้นแม้รูปร่างของเธอสู้ทั้งสองคนไม่ได้ แต่ชุดว่ายน้ำทูพีชสีชมพูของเธอก็ช่วยขับส่วนโค้งเว้าของเธอให้เด่นชัดขึ้น
ความน่ารักสดใสที่ดูไร้เดียงสาของเธอนั้นให้ความรู้สึกลึกลับและน่าสนใจเป็นอย่างมาก

เนื่องจากผมไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป
ผมจึงกลายร่างเป็นหมาป่าผู้หิวโหยและกระโดดเข้าจู่โจมพวกเธอทั้งสามคนพร้อมกันในทันที
พวกเราเล่นสนุกกันทั้งบนชายหาด บนเก้าอี้ ทั้งในสระทะเล บนเรือยาง ใต้น้ำ บนสไลด์เดอร์หรือแม้แต่ริมกระจกที่สามารถมองเห็นไปยังภายนอกเองก็ด้วย
การที่ผมสั่งให้สร้างสระว่ายน้ำหลายรูปแบบนั้นทำให้ช่วยผ่อนคลายได้มากจริงๆ
และยิ่งสระแบบทะเลที่พวกเราใช้งานในวันนี้เองก็ให้ความรู้สึกสมจริงจนเผลอกังวลไปว่าจะเจอพวกสัตว์ทะเลเข้ามาโจมตีกันเลยทีเดียว
หลังจากเล่นสนุกกันจนพวกสาวๆไม่อาจจะลุกขึ้นมายืนได้ ผมก็อุ้มพวกเธอไปล้างตัวทุกซอกทุกมุมทีละคน
หลังจากนั้นจึงกลับมาเริ่มทานอาหารกลางวัน
「ทัตสึยะซามะ อ้ามมม」
「กุ้งชุบแป้งทอดนี่นู๋ทำด้วยตัวเองเลยนะคะ อ้ามมม」
「อันนี้ก็อร่อยนะคะนายท่าน อ้ามมม!!」
อาหารกลางวันนี้คือรวมอาหารทะเลทอดและสลัดผลไม้รวมที่คาโอริจังและมายุจังช่วยกันเตรียมมา
มันเป็นมื้อกลางวันที่สุดแสนจะมีความสุข การที่ได้สาวสวยถึงสามคนมานั่งป้อนให้ทานพร้อมกับการได้เล่นสนุกกับหน้าอกและก้นของพวกเธอไปพร้อมกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครมาเห็นก็คงต้องอิจฉา
แต่แล้วช่วงเวลาแสนสุขก็ถูกทำลายลงหลังจากเวลาผ่านไปเพียงไม่นานนัก
ซึ่งสิ่งที่มาทำลายช่วงเวลาแสนสุขของพวกเรานั้นก็คือข้อความด่วนของเอริจังที่ถูกส่งผ่านสกิล
Message มาที่แหวนของผม
『ต้องขอโทษที่มาขัดจังหวะช่วงเวลาแห่งความสุขนะคะทัตสึยะซามะ
แต่เมื่อสักครู่ชั้นพึ่งจะได้รับรายงานด่วนมาจากเรือเหาะส่งข่าวของหน่วยข่าววกรอง
ในตอนนี้กองทัพของอัศวินศักดิ์สิทธิแห่งศาสนจักรได้เข้าร่วมกับกองทัพของจักรวรรดิเอลติซเรียบร้อยแล้ว
และในตอนนี้ กองกำลังผสมกว่า 50,000
นายกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองแอสคาลซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรศักดิ์สิทธิแอสกรัมแล้วค่ะ』
ฮะ!!!......กับข้อความที่ผมได้รับจากเอริจังนั้น......ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูกไปเลยทีเดียว......
สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว
ตอบลบได้เวลาเผ่าแวมไพร์ กับ เผ่าดาร์คเอล์ฟออกโรงแล้ว -0-//
ลบแวมไพร์นี่ใช่เผ่าวาลาร์ดหรือเปล่าคับ
ลบใช่ครับ เผ่าอมตะ -0-//
ลบใจจร้า
ตอบลบเริ่มตื่นเต้นละ
ตอบลบ