ตอนที่ 43 ห้องเรียนของอเดล บทที่ 3

  
-- มุมมองของอเดล --                 
                                                        
วันที่ 1 เดือน 4 ศักราชเอลติซปีที่ 837                             
                                                                             
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นเมืองสเตรเชียก็คึกคักขึ้นกว่าเก่าเป็นอย่างมาก เมืองชั้นในและเมืองชั้นนอกต่างเต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมาไม่มีหยุดแม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนก็ตามที

ซึ่งเหตุผลนั้นชั้นคิดว่าคงไม่พ้นเรื่องการปรากฏตัวของเซฟฟรานซามะผู้เป็นเทพธิดาแห่งความรักและความงดงาม

ในวันที่เซฟฟรานซามะปรากฏตัวขึ้นมานั้น ตัวชั้นเองก็เข้าร่วมพิธีอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน ความรู้สึกในตอนนั้นน่ะ ต่อให้ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็คงไม่อาจจะลืมไปได้ ทั้งความตื่นเต้น ความกดดัน ความประทับใจ เพียงแค่ได้สบตากับเซฟฟรานซามะเท่าไม่กี่วินาทีความรู้สึกหลายๆอย่างก็ได้ก่อตัวขึ้นพร้อมกัน

กับเรื่องที่เป็นยิ่งกว่าความฝันนั้น ชั้นไม่แปลกใจเลยจริงๆที่จะมีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบกับเซฟฟรานซามะโดยตรง แต่ผู้คนมากมายก็ยังหวังที่จะได้มาเห็นสถานที่ที่เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นซักครั้ง

และมันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะเรื่องราวของเซฟฟรานซามะยังส่งผลให้ขั้วอำนาจของโลกนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมากอีกด้วย

นานาประเทศที่เคยลังเลเพราะอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิเอลติซมายาวนานได้เริ่มตัดสินใจที่จะเข้ามาผูกมิตรกับอาณาจักรออร์ธรอสมากยิ่งขึ้น

เพราะถึงแม้อาณาจักรออร์ธรอสจะเป็นเพียงประเทศที่พึ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน แต่การที่ประเทศของเรามีเทพธิดาคอยช่วยสนับสนุนอยู่นั้นก็ทำให้ประเทศอื่นๆไม่อาจจะเพิกเฉยอีกต่อไปได้

และมันก็ไม่เพียงแค่บรรดาประเทศต่างๆเท่านั้น แต่พวกเผ่าพันธุ์อื่นๆที่ปกติเอาแต่หลบซ่อนตัวอยู่เองก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน ราชทูตจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ทยอยกันเดินทางเข้ามากันอย่างล้นหลาม

จากเรื่องข้างต้นนั้นทำเอาพี่เขยสุดเจ้าชู้ของชั้นงานยุ่งเสียจนแทบจะไม่มีเวลามาสนใจตัวชั้นแล้วด้วยซ้ำ เอาเถอะ ยังไงชั้นก็ไม่ได้ต้องการให้พี่เขยมาคอยดูแลเอาใจใส่มากมายอะไรขนาดนั้นอยู่แล้วล่ะนะ
                            
อา เดล จางง!!

เมื่อชั้นเดินมาถึงยังหอประชุมของโรงเรียนหลวงสเตรเชีย สิ่งแรกที่ได้พบก็คือเสียงของเด็กสาวที่คุ้นเคย

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ยังร่าเริงเหมือนเดิมเลยนะมาร์กาเร็ตจัง..!!

พอชั้นทักทายกลับไป มาร์กาเร็ตจังก็รีบกระโดดเข้ามากอดชั้น และเริ่มทักทายอย่างสนิทสนมด้วยการนำแก้มของเธอเข้ามาถูไถเหมือนดังเช่นทุกๆวัน

หยุดทำตัวเสียมารยาทเด๋วนี้เลยนะคะ มาร์กาเร็ตซัง!!! วันนี้น่ะ เป็นวันเปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการ เป็นวันศักดิ์สิทธิของนักเรียนทุกคนนะคะ!!!

หลังจากถูกมาร์กาเร็ตจังโอบกอดได้ไม่นานนัก ลูมิน่าจังที่วิ่งตามมาอย่างเหนื่อยหอบก็รีบเข้ามาบ่นเรื่องมารยาทของมาร์กาเร็ตจัง จากนั้นเธอจึงเริ่มพยายามดึงตัวมาร์กาเร็ตจังออกไปจากร่างกายของชั้น


กับภาพอันแสนอบอุ่นและรอยยิ้มของทั้งสองคนนั้น ทำเอาผู้คนรอบข้างที่เดินผ่านไปต่างส่งรอยยิ้มมาให้

อรุณสวัสดิ์นะคะลูมิน่าจัง ชุดเรียนดูเข้ากันมากเลยค่ะ

ชั้นทักทายลูมิน่าจังพร้อมทั้งกล่าวชื่นชมเธอออกไป ถึงแม้พวกเราจะเริ่มต้นเข้าเรียนก่อนการเปิดภาคเรียนมาได้หลายเดือนแล้ว แต่ชุดที่พวกเราสวมใส่อยู่ทุกวันนั้นไม่ใช่ชุดเครื่องแบบองทางรงเรียน ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันแรกที่ชั้นได้เห็นลูมิน่าจังใส่ชุดนักเรียนสาขาจอมเวทของโรงเรียนหลวงสเตรเชีย

ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่ลูมิน่าจังเท่านั้น ทั้งชุดนักเรียนสีขาวที่มีลวดลายสีฟ้าอ่อน และกระโปรงสองชั้นสีน้ำเงินเข้มนั้นก็เข้ากันได้ดีกับมาร์กาเร็ตจังเช่นกัน เพียงแต่ท่าทางที่สง่างามของลูมิน่าจังนั้น ส่งผลให้ชุดที่เธอใส่ดูโดดเด่นมากกว่า

อะ...อรุณสวัสดิ์ค่ะ...อ...อเดลซัง.......ขะ...เข้ากันเหรอคะ.....

แต่กับคำพูดของชั้นนั้นลูมิน่าจังรีบตอบกลับมาด้วยเสียงเบาๆ....แต่ไม่รู้ทำไมแต่ลูมิน่าจังถึงได้แสดงท่าทีเขินอายออกมา........บางทีคงเป็นเพราะในวันนี้ไม่ได้มีเพียงนักเรียนเท่านั้นล่ะมั้ง.....

หลังการทักทายอย่างสนิทสนมจบลง พวกเราทั้งสามคนก็พากันเข้าไปด้านในหอประชุมพร้อมกัน

ภายในหอประชุมนั้นถูกตกแต่งอย่างสวยงามแตกต่างจากในเวลาปกติ เก้าอี้ของนักเรียนถูกตั้งเรียงระเบียบอยู่บริเวณกึ่งกลางโดยมีการแยกแถวของนักเรียนไปตามสาขาต่างๆ

ส่วนบริเวณด้านข้างนั้นเป็นเก้าอี้หรูหราของบรรดาผู้ปกครอง แต่เนื่องจากพี่เขยสุดเจ้าชู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของชั้นติดงาน ในวันนี้ท่านแม่จึงได้ลางานของราชองค์รักษ์และมาเข้าร่วมพิธีเปิดภาคเรียนแทน

ถึงแม้ชั้นจะบอกไปแล้วว่าไม่ต้องถึงกับลางานเพื่อมาก็ได้ แต่ดูเหมือนท่านแม่จะให้ความสำคัญกับตัวชั้นมากกว่า..........กับการตัดสินใจของท่านแม่นั้น........ชั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

และชั้นเมื่อหันไปมองทางด้านนั้น...ท่านแม่ก็ยิ้มและโบกมือกลับมา.....ไม่เห็นต้องโบกมือเลยก็ได้นี่นา....ชั้นรู้สึกอายจริงๆนะเนี่ย.....

นี่ๆ อเดลจัง ลูมิน่าจัง ดูนี่สิ เก้าอี้ของพวกเรามันเยอะเกินไปรึเปล่านะ

เมื่อพวกเราเดินมาถึงยังที่นั่งของสาขาเวทมนต์ที่อยู่ด้านหน้าสุดของนักเรียนทั้งหมด มาร์กาเร็ตจังก็พูดขึ้นด้วยท่าทางสงสัย

จะว่าไปแล้วช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ชั้นได้ยินมาว่ามีนักเรียนที่ผ่านการทดสอบของสาขาเวทมนต์เพิ่มขึ้นอยู่เหมือนกันนะคะ แต่จำนวนนี่.....

ลูมิน่าจังเองก็พูดพร้อมแสดงท่าทางสงสัยออกมา นั่นก็เพราะว่าเก้าอี้ที่ควรจะมีอยู่เพียง 3 ที่นั้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 10 ที่เลยทีเดียว.....

สำหรับเรื่องที่ว่ามีนักเรียนที่ผ่านการทดสอบของสาขาเวทมนต์เพิ่มขึ้นนั้น ในตอนแรกชั้นคิดว่ามันเป็นเพียงข่าวลือ นั่นก็เพราะห้องเรียนของพวกเราในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่มีนักเรียนคนอื่นนอกจากพวกเราสามคนเข้ามาเลย

นั่นสินะบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ นั่นก็เพราะว่าถึงแม้จะมีนักเรียนที่ผ่านการทดสอบไปแล้ว แต่ทางโรงเรียนก็ไม่ได้มีการบังคับให้เข้ามาร่วมเรียนในทันที แต่จำนวนเก้าอี้ที่มากขึ้นถึง 10 ที่ก็ยังทำให้ชั้นรู้สึกประหลาดใจ

บางทีพวกเค้าอาจจะมีความจำเป็นบางอย่าง พวกเค้าก็เลยยังไม่ว่างมาเข้าร่วมเรียนในช่วงก่อนเปิดภาคการศึกษาก็ได้นะคะ

แต่ถึงจะสงสัยไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่ดี เพราะงั้นพวกเราจึงได้นั่งลงและรอจนกว่าพวกนักเรียนสาขาเวทมนต์คนอื่นๆมาถึงเท่านั้น แต่การที่มารู้ว่าพวกเราจะมีเพื่อนร่วมห้องเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ มันก็ทำให้ชั้นรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ผ่านไปไม่นานเก้าอี้ทั้งสิบตัวก็ของสาขาเวทมนต์ก็มีเด็กนักเรียนเข้ามานั่งจนเต็ม แล้วก็เพราะความอยากรู้อยากเห็นจึงทำให้ชั้นไม่สามารถอดใจเอาไว้ได้และพยายามแอบหันไปมองอยู่หลายครั้ง

แต่คนที่รู้สึกตื่นเต้นนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ชั้นเท่านั้น ทั้งมาร์กาเร็ตจังและลูมิน่าจังเองก็มีอาการตื่นเต้นไม่ต่างกันนัก ซึ่งก็แน่นอนว่าพวกนักเรียนคนอื่นๆเองก็แอบหันมามองพวกเราอยู่หลายครั้งเช่นเดียวกัน

มีทั้งเด็กสาวใส่แว่นตาหนาๆที่ดูเหมือนพวกหนอนหนังสือ เด็กหนุ่มหน้าตาดีแต่ดูแล้วท่าทางเจ้าชู้สุดๆ เด็กสาวที่ดูท่าทางขี้อายและก้มหน้าตลอดเวลา เด็กสาวที่ดูหน้าหล่อที่ดูแล้วคล้ายกับเด็กผู้ชาย

เด็กหนุ่มที่อยู่ไม่สุกหันไปหันมาตลอดเวลา เด็กหนุ่มที่ดูแล้วเป็นพวกขาดความมั่นใจในตัวเอง แล้วก็ยังมีเจ้าหญิงแสนสวยที่เคยเจอกันในงานเลี้ยงช่วงเดือนที่ผ่านมา แล้วก็เพราะชั้นเอาแต่สนใจเพื่อนร่วมห้องจึงไม่รู้ว่าพวกอาจารย์และตัวแทนนักเรียนที่ขึ้นไปบนเวทีได้พูดอะไรออกไปบ้าง

ยังไงซะก็คงเป็นการพูดตามมารยาทเหมือนงานทั่วๆไปนั่นแหละ เพราะงั้นถึงจะไม่ได้ตั้งใจฟังก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง

หลังจากพิธีการเปิดภาคการศึกษาที่ 1 ได้จบลง พวกเราก็ออกจากหอประชุมและเดินไปยังห้องเรียนพร้อมกัน ในระหว่างทางนั้นมาร์กาเร็ตจังที่ท่าทางร่าเริงสุดๆได้เข้าไปทักทายเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆในทันที

วันนี้โซเฟียเบเกอรี่จะมาเปิดสาขาใหม่ที่อาคารกิจกรรมชั้น 1 ขนมปังของร้านเราอร่อยๆมากๆ เพราะงั้นต้องแวะมากันให้ได้เลยนะคะ!!!

เพียงแต่การทักทายของมาร์กาเร็ตจังนั้นไม่ใช่การแนะนำตัว แต่ดันเป็นการแนะนำร้านที่เธอไปทำงานพิเศษอยู่........

เอ๋!...อ อ่ะ ขอบคุณค่ะ....

กับความร่าเริงของมาร์กาเร็ตจังนั้น เพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆยังดูไม่ชินนัก แต่พวกเค้าก็ตอบรับเธอกลับมาด้วยรอยยิ้ม.....ถึงจะไม่ทุกคนก็เถอะ.......

อเดลจัง กับ ลูมิน่าจังเองก็ต้องมาให้ได้เลยนะ!!

หลังจากแจกใบปลิวให้กับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นเรียบร้อยแล้ว มาร์กาเร็ตจังก็นำใบปลิวของโซเฟียเบเกอรี่มาให้กับชั้นและลูมิน่าจังด้วยเช่นกัน เมล่อนปัง คาเร่ปัง ครัวซอง มาการอง วนิลาเค้ก ทอฟฟี่เค้ก วอฟเฟิลครีมสด สตอเบอรี่เชอร์เบท ละ แล้วก็ยังมีพุดดิ้งด้วยงั้นเหรอ!!!

เห้อ.....ทั้งๆที่เป็นวันศักดิ์สิทธิแต่คุณก็ยังคงจะทำตัวแบบนี้สินะคะ.......

ในระหว่างที่ชั้นกำลังตื่นเต้นกับพุดดิ้ง ลูมิน่าจังกับถอนหายใจและทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะยอมแพ้กับการสอนมารยาทให้กับมาร์กาเร็ตจังแล้วล่ะมั้ง

แม้ แต่ ทัตสึยะซามะเองก็ยังแวะมาที่ร้านบ่อยๆด้วยนะ ไม่สนใจจริงๆเหรอคะ

ทะ ทะ ทัตสึยะซามะก็จะมาที่ร้าน ดะ ด้วยเหรอ คะ!!

แต่เมื่อได้ยินชื่อของพี่เขยสุดเจ้าชู้.........ลูมิน่าจังที่ทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายอยู่ก็เปลี่ยนกลับมาร่าเริงในทันที.........เด็กสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงความรักนั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก......

9 ความคิดเห็น:

  1. ตอนแรกผมคิดว่าจะปิดเรื่องของศาสนจักรอย่างเดียวซะอีก แล้วรอเริ่มบทต่อไปที่ดึงเผ่าอื่นๆ มามีบทมากขึ้น แต่เริ่มมีการเกริ่นถึงการส่งฑูตจากเผ่าอื่นมามั่งล่ะ นึกว่าจะวนแค่สงครามของเผ่ามนุษย์อย่างเดียวซะอีก(ถึงจะมีครึ่งสัตว์ โลลิเทีย เอล์ฟ มังกร ผสมอยู่บ้างนิดหน่อยก็เถอะ)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความนับถือเทพของผู้คนส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้
      มากกว่าที่ทัตสึยะคิดเอาไว้ครับ
      ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตามที 55555

      ลบ
  2. สภาพบ้านเมืองของจักรวรรดิเอลติซในตอนนี้นี่เป็นยังไงคับ พวกขุนนางโกงกินบ้านกินเมือง ส่วนในราชสำนักก็ชิงดีชิงเด่นกันใช่ไหมคับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ครับประมาณนั้น
      แต่สุดท้ายแล้ว เจ้าชายอับที่ 7 ที่ควบคุมตัวพวกผู้กล้าเอาไว้
      ก็จะแย่งชิงบัลลังได้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นเรื้อเรื่องของสงครามในบทต่อไป

      ลบ
  3. อเดล เข้าห้องเรียนมา 3 ตอนแล้วนะตั้ง 3 ตอนแหนะคิดดูสิ
    คุณพี่เขยไม่มาติวตัวต่อตัวให้สักทีน่าน้อยจัยจริงๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. บทที่ 3 นี้แค่เกริ่นนำเรื่องของอเดลกับเพื่อนๆ
      เนื่องจากบทหน้าอเดลจะมีส่วนร่วมในสงคราม.......

      ลบ
  4. ปกติออกประมาณกี่วันตอนครับ จะได้เข้ามาอ่านถูก // ผมชอบเรื่องนี้มากติดงอมแงมเยย~

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตามปกติจะลงประมาณ 1 ตอนต่อ สัปดาห์นะครับ
      ยกเว้นช่วงที่ไฟติดอาจจะมีเบิล

      ลบ