วันถัดมาหลังจากที่กองทัพของอาณาจักรออร์ธรอสบุกเข้าโจมตีเมืองกูสตาฟ
ช่วงสายของวันที่ 2 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 838
-- มุมมองของทัตสึยะ
--
หลังจากที่อาณาจักรออร์ธรอสได้ประกาศสงครามกับจักรวรรดิเอลติซ
และนำกองทัพของพวกเราบุกเข้ายึดเมืองกูสตาฟและหมู่บ้านรอบๆเรียบร้อยแล้ว
หน้าที่ของผมในตอนนี้จึงเป็นการอ่านรายงานเกี่ยวกับสงครามจำนวนมาก
「เวลาแบบนี้อยากได้มาเรียจังมาคอยช่วยจังเลยนะเนี่ย」
เนื่องจากในเวลาปกตินั้น
มาเรียจังจะเป็นคนคอยช่วยตรวจสอบและคัดแยกละเอียดของรายงานต่างๆให้
เพราะงั้นจึงทำให้ตัวผมจึงได้มีเวลาว่างมากขึ้น
แต่เนื่องจากผมได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะให้มาเรียจังคอยดูแลเอาใจใส่ในเรื่องลูกในท้องของเธอมากกว่าเรื่องอื่น
เพราะงั้นมันก็คงจะช่วยไม่ได้ล่ะนะ
「หมู่บ้านที่อยู่รอบๆเมืองกูสตาฟทั้งหมดได้ยอมเข้ากับพวกเราโดยไม่มีการขัดขืน....」
ผมพึมพำออกมาในขณะอ่านรายงานของกองอัศวินที่
4 ที่มีหน้าที่บุกเข้ายึดเมือง หมู่บ้านและพื้นที่สำคัญต่างๆรอบเมืองกูสตาฟ
ซึ่งจากรายงานนั้นก็แสดงให้เห็นว่าพวกนั้นก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ
ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน เมืองขนาดเล็ก
เหมืองแร่ และค่ายทหารต่างๆ ทุกๆที่กองอัศวินที่ 4 ได้เคลื่อนทับเข้าไปใกล้
นั้นได้ประกาศยอมแพ้และมาเข้ากับพวกเราในทันทีโดยแทบจะไม่มีการต่อสู้ขัดขืน
ซึ่งหากดูจากรายงานแล้ว
เหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะประชาชนและพวกทหารที่ประจำอยู่ตามสถานที่เหล่านั้นต่างก็รู้สึกไม่พอใจรูปแบบการบริหารของจักรวรรดิในตอนนี้เป็นอย่างมาก
ความอดอยากและความลำบากจากภาษีที่สูงขึ้น
การถูกทำร้ายและถูกพรากตัวพวกเด็กๆไปนั้นทำให้ผู้คนแสดงความไม่พอใจและเริ่มที่จะรวมตัวเพื่อต่อต้านจักรวรรดิเอลติซอย่างชัดเจน
「หืมม
? นี่มีผู้กล้าถูกพวกเราสังหารไป 2 คน ?」
เมื่อผมหยิบของฝ่ายศัตรูถูกสังหารไปขึ้นมาดู
ผมก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะรายชื่อของผู้กล้าที่ถูกพวกเราสังหารไปนั้นไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียว
นอกจากผู้กล้าที่ชื่อ ฮิโรมิ ยูตะ ซึ่งคาโอริจังได้ตัดสินใจสังหารทิ้งเพราะเป็นบุคคลที่ไม่สามารถไว้ใจได้แล้ว
มันก็ยังมีรายชื่อของผู้กล้าอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่า เซรุซึกิ เท็ตซึกะ อยู่ด้วย
โดยเหตุผลในการสังหารนั้นเป็นเพราะผู้กล้าคนนี้ถูกไอริจังเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประหลาด
จากรายงานการตรวจสอบของของหน่วยข่าวกรองนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้กล้าที่ชื่อ
เซรุซึกิ เท็ตซึกะ นั้นมีพรผู้กล้าที่ชื่อว่า『จำแลงหมาป่า』อยู่ โดยเมื่อแปลงร่างไปแล้วก็ดูเหมือนว่าจะทำให้สติไม่ค่อยอยู่กับตัว
ดังนั้นเค้าจึงได้เข้าต่อสู้ฆ่าฟันผู้คนทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆไปตามสัญชาตญาณ
「ทำไมถึงได้มีพลังที่ฟังดูไร้เหตุผลแบบนั้นกันนะ
? 」
แต่ถึงจะไปคิดถึงเรื่องพวกนี้ไปในตอนนี้ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา
ไอริจังที่กำลังเศร้าสลดเพราะรู้สึกผิดกับเรื่องนี้ต่างหากที่เป็นปัญหาในตอนนี้ ความจริงถ้าหากไอริจังเป็นผู้หญิงของผมก็คงจะหาวิธีปลอบโยนไม่ยากนัก
แต่ผมก็อยากจะให้ไอริจังได้มีความรักปกติเหมือนกับเด็กสาวทั่วไปมากกว่านี่สิ....
「ไม่สิ ถ้าเป็นไอริจังล่ะก็ บางทีเธออาจจะหายเศร้าด้วยตัวเองในเวลาไม่นานก็ได้นี่นะ」
เนื่องจากไอริจังนั้นเป็นหนึ่งในเผ่าปีศาจที่มีความสามารถในการฟื้นฟูสภาพจิตใจได้สูงเช่นเดียวกันกับตัวผม
ดังนั้นหากให้เธอเวลาสักหน่อยล่ะก็
ไอริจังก็น่าจะฟื้นฟูสภาพจิตใจตัวเองกลับมาได้ไม่ยากนัก เพราะงั้นในตอนนี้ผมควรจะให้ความสำคัญกับเจ้าหญิงคริสติน่า
ที่กำลังอ่านเอกสารรายงานสงครามครั้งนี้ด้วยใบหน้าเศร้าๆเสียก่อน
「คริสตี้จัง
เธอไม่ควรที่จะฝืนตัวเองมากเกินไปนะ」
ผมเข้าไปนั่งลงข้างๆคริสติน่าพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งค่อยๆลูบไล้ผมสีม่วงอ่อนของช้าอย่างอ่อนโยน
โดยเอกสารที่อยู่ภายในมือของคริสติน่าในตอนนี้ก็เป็นรายงานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้
ถึงแม้ว่าพวกเราจะดำเนินการอย่างรอบครอบมากแค่ไหน
แต่พวกเราก็ยังไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตชาวเมืองกูสตาฟเอาไว้ได้หมดทุกคน โดยจำนวนของชาวเมืองผู้บริสุทธิ์รวมถึงพวกเด็กๆที่ต้องมาเสียชีวิตลงจากฝีมือของพวกทหารและอัศวินจากจักรวรรดินั้นก็มีมากกว่าที่ผมได้คาดการณ์เอาไว้มาก
「ทัตสึยะ....ซามะ....ชั้นน่ะ....」
「คริสตี้จัง ผมเข้าใจความรู้สึกของเธอดี แต่เรื่องที่ผ่านไปแล้วยังไงก็คงไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขได้
ตัวเธอในตอนนี้ควรจะคิดหาวิธีการช่วยเหลือผู้คนของเธอที่ยังคงรอดชีวิตอยู่มากกว่านะ」
ผมดึงคริสติน่าเข้ามาซบที่อก
ค่อยๆปาดคราบน้ำของเธอช้าๆ จากนั้นจึงค่อยๆพูดออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุด ผมน่ะเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่อยู่ในฐานะผู้ปกครองเป็นอย่างดี
กับภาระของพวกเราที่มีหน้าที่แบกรับชีวิตของผู้คนมากมายอยู่บนหลังเนี่ย
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอดกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดในเวลาที่ได้ตัดสินใจอะไรผิดพลาดลงไป
แค่การตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้ผู้คนมากมายต้องล้มตาย
หรือแม้จะไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาด
แต่ความคลาดเคลื่อนระหว่างแผนการกับการปฏิบัติในสถานการณ์จริงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถควบคุมได้ง่ายๆ
และยิ่งศัตรูของพวกเรานั้นเป็นพวกเลือดเย็นที่สามารถพรากเอาชีวิตผู้คนบริสุทธิ์หรือแม้กระทั่งเด็กพึ่งเกิดไปได้ง่ายๆแล้วเนี่ย
มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีผู้เสียชีวิต
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะสามารถช่วยได้ทุกชีวิต
「ชั้นเข้าใจดีค่ะ....แต่ถึงแม้จะเข้าใจดีว่าในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเสียใจ....แต่ถึงแบบนั้น....」
「ช่วยไม่ได้นะ!! กับเจ้าหญิงลามกอย่างเธอเนี่ย ถ้าผมไม่ทำเรื่องลามกด้วยเมื่อไหร่
เธอก็จะเอาแต่ทำหน้าเศร้าแบบนี้สินะ!!」
「ทะ ทัตสึยะซามะ....อุ๊บ!!!!」
ผมจับคริสติน่ากดลงไปบนโซฟาพร้อมกับประทับริมฝีปากของผมลงไปบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอพร้อมกับสอดใส่ลิ้นไปเข้าในด้านอย่างเร่าร้อน
คริสติน่าที่ถูกจู่โจมโดยไม่ทันได้ตั้งตัวก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา
แต่ถึงแบบนั้นเธอยังตอบรับลิ้นของผมกลับมาอย่างเร่าร้อนเช่นเดียวกัน
「ฮ่าส์!!......ฮ่าส์!!.......ฮ่าส์!!......ทะ
ทัตสึยะซามะ....ตะ ตรงนั้น ฟุนะ ฟุเนี๊ยวว!!!」
หลังจากจูบกันอย่างดูดดื่มหลายต่อหลายครั้งจนคริสติน่าแทบจะหายใจไม่ทัน
ผมก็รีบจู่โจมเข้าที่ใบหูและซอกคอของเธออย่างต่อเนื่อง
「เจ้าหญิงอย่างเธอเนี่ย
เหมาะกับใบหน้าลามกแบบนี้มากกว่าใบหน้าเศร้าๆแบบเมื่อครู่นี้จริงๆล่ะนะ
ดูสิแค่แปปเดียวช่วงล่างของเธอก็เริ่มแฮะแล้วนะ!! คริสตี้จัง」
ผมพูดพร้อมกับใช้นิ้วลูบไล้ไปมาระหว่างต้นขาและกางเกงชั้นในลายลูกไม้สีม่วงอ่อนของคริสติน่าช้าๆ
กับเธอที่เป็นพวกความรู้สึกไวนั้น เพียงแค่ผมสัมผัสนิดหน่อยเธอก็จะเริ่มแฉะในทันที
「วะ วะ ว๊า!!!!!
มะ ไม่ใช่ว่า ไม่ใช่ว่าในตอนนี้พวกเราควรจะต้องรีบไปจัดการดูแลเรื่องผู้คนที่รอดชีวิต
งะ งั้น เหรอคะ ?」
「ใช่แล้วล่ะ พวกเราน่ะมีเวลาไม่มาก เพราะงั้นผมจะรีบจัดหนักให้สุดๆไปเลยละกันนะ!!!」
หลังจากพูดจบ ผมก็รีบถอดกางเกงชั้นในของคริสติน่าออก
ก่อนจะเริ่มโจมตีเข้าใส่จุดอ่อนภายในของคริสติน่าด้วยช่วงล่างของผมที่หื่นกระหายราวกับหมาป่าอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

「ฟะ ฟุเนี๊ยวววว!!!!!!! อะ อร๊า!! ทัตสึยะซาม๊า!!! ฟุเนี๊ยวววว!!! ฟุเนี๊ยะ!!! อะ อร๊าง!!! ทัตสึยะซาม๊า!!!!!!!!!!」
และในระหว่างที่ผมกำลังเสียวสุดยอดของกับการตอบรับอย่างเร่าร้อนของคริสติน่าอยู่นั้นเอง
เมดสาวน่ารักคนหนึ่งก็ได้เข้ามาใกล้และกระซิบบอกกับผมว่า
รูริโกะและซากุระโกะเพื่อนของเธอได้มาขอเข้าพบ
「เข้าใจละ ให้พวกเธอไปรออยู่ที่ห้องรับรองข้างๆนี้ก่อนนะ」
「รับทราบค่ะ!!」
เมื่อได้ยินคำตอบของผม
เมดสาวน่ารักก็โค้งตอบรับและรีบเดินออกไปจากห้องด้วยความรวดเร็วแต่สง่างามในทันที
「ดูเหมือนพวกเราคงจะต้องรีบให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะนะ!! ยัยเจ้าหญิงลามกคริสติน่า!!」
ผมพูดพร้อมกับเร่งจังหวะกระแทกสะโพกเข้าใส่คริสติน่าให้เร็วและแรงขึ้นกว่าเดิม
ส่วนคริสติน่านั้นก็ตอบรับผมกลับมาด้วยการใช้ขาทั้งสองกอดรัดผมแน่นขึ้น เสียงครางสุดเซ็กซี่ของเธอนั้นก็ทำให้ความรู้สึกสะใจมากจริงๆ
「ฟะ ฟุเนี๊ยวว!!!!!!!
อะ อร๊างงง!! ทัตสึยะซาม๊า อร๊างงง!! ใส่เข้ามาด้านในเจ้าหญิงลามกคนนี้แรงๆเลยค่ะ!! อุ
อร๊างงงง!! ฟุเนี๊ยวววว!!! อืออ!!!
ฟุเนี๊ยวววว!!! ทัตสึยะซามะ!!!!!! ทัตสึยะซาม๊า!!!!!!」
หลังจากนั้น ผมก็เร่งจังหวะจนถึงขีดสุดพร้อมกับปลดปล่อยความรักมากมายใส่เจ้าหญิงลามกคริสติน่า
ซึ่งก็แน่นอนว่าเธอเองก็ได้ถึงจุดสุดยอดไปพร้อมๆกัน
「ทั้งๆที่เมื่อครู่ยังเอาแต่ร้องไห้งอแงถึงผู้คนที่เสียชีวิตอยู่แท้ๆ
ช่างเป็นเจ้าหญิงลามกจริงๆเลยนะ คริสตี้จัง!」
ต่อหน้าผมในตอนนี้คือเจ้าหญิงคริสติน่าสุดลามกที่ไม่คิดถึงเรื่องอื่นนอกจากความสุขจากที่ได้จากการทำเรื่องลามก
ใบหน้าที่เศร้าสร้อยและน้ำตาของคริสติน่าก่อนหน้านี้ได้หายไปจนหมดแล้ว
ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก
「อุฟุฟุ....ทัตสึยะซาม๊า....」
และเนื่องจากว่าคริสติน่านั้นยังคงไม่ฟื้นคืนสติกลับมาเป็นปกติ
ผมจึงตัดสินใจอุ้มเธอไปพบกับรูริโกะและซากุโระด้วย เพราะหากปล่อยเธอเอาไว้แบบนี้ล่ะก็
ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะกลับไปเศร้าสร้อยเหมือนเดิมอีกหรือเปล่าน่ะสิ....
เยี่ยม!
ตอบลบตอนหน้า รูริจังกลับมาแว้ว -0-//
ลบจัดว่าเด็ดใช้ได้นะไอ้หื่น+ยัยหื่นคู่นี้!!
ตอบลบแน่นอนครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ลบไอริจังนอกกลุ่มสินะ
ตอบลบทัตสึยะมองไอริเป็นเหมือนน้องสาวมาตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้วน่ะครับ -0-
ลบให้ไอริจังทำอะไรไปเนี่ยเห็นไหมเศร้าเลย555
ตอบลบในสงครามบางทีมันก็ไม่สามารถควบคุมได้น่ะครับ
ลบเพราะงั้นเราต้องไปปลอบเธอกันแล้ว -0-