ในช่วงกลางดึกของวันที่ 9 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836
ผมถูกเมดสาวคนหนึ่งปลุกขึ้นมา
และเธอได้แจ้งว่าที่หน้าประตูเมืองในตอนนี้มีอัศวินสาว 3 คนกำลังถูกไล่ล่า กับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ผมคิดว่ามันคงจะต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กองทัพมอนสเตอร์บุกโจมตีเมืองเวลล่าอย่างแน่นอน
เหตผลที่ผมคิดแบบนี้ก็มาจากตำแหน่งที่พวกเราอยู่ในตอนนี้
ในตอนนี้นอกจากคนของตระกูลโรเซนเบิร์กและกิลด์พ่อค้าแล้ว
คนอื่นๆไม่มีทางรู้ที่อยู่ของพวกเราแน่นอน
นั่นจึงเป็นเรื่องยากที่จะมีผู้อื่นหลงทางเข้ามา
และยิ่งอีกฝ่ายเป็นอัศวินสาวก็ยิ่งทำให้ผมแน่ใจ
หลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้รับรายงานผลของการต่อสู้
ปาร์ตี้ของนานะจังและกลุ่มเมดติดอาวุธที่ไอโกะจังส่งออกไปสนับสนุนได้จัดการถล่มพวกทหารที่มีจำนวนมากกว่า
200 คนลงอย่างง่ายดายด้วยอาวุธรูปแบบใหม่
สำหรับอาวุธรูปแบบใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นจาก『โครงการพัฒนายุทโธปกรณ์สำหรับต่อต้านอากาศยาน』ซึ่งชื่อของมันก็คือ『บีทเตอร์』
โดยเจ้าบีทเตอร์ที่ว่านี่ถูกสร้างขึ้นโดยเลียนแบบจากโครงสร้างของเครื่องยิงลูกเบสบอล
แต่เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงมีการปรับลดขนาดและน้ำหนักให้เหล่าเมดสาวสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้โดยง่าย
และนอกจากมันจะเป็นอาวุธระยะไกลที่มีความแม่นยำสูงแล้ว
มันยังสามารถเปลี่ยนชนิดกระสุนให้เข้ากับสถานการณ์ได้ในทันทีอีกด้วย
กลับมาที่เรื่องของอัศวินสาว
สำหรับผู้นำกลุ่มอัศวินสาวในครั้งนี้มีชื่อว่ายูฟีน่า
เธอเป็นน้องสาวของเซลฟีน่าที่เคยมาพบพวกเราเข้าโดยบังเอิญเมื่อเดือนก่อน
และเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโรเซนเบิร์กผมจึงเรียกโอลิเวียให้มารับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย
โอลิเวียและเด็กสาวเผ่าพันธุ์โลลิเทียนั้นเกลียดชังตระกูลโรเซนเบิร์กที่เป็นฝ่ายแย่งชิงดินแดนของพวกเธอไปอย่างมาก
ดังนั้นหากยูฟีน่ารู้ว่าผมเป็นพันธมิตรกับเผ่าพันธุ์โลลิเทียที่มีสิทธิอันชอบธรรมในแผ่นดินนี้ล่ะก็
มันคงจะทำให้เธอไม่กล้าที่จะเจรจาต่อรองด้วยผลตอบแทนเพียงเล็กน้อย
พวกเราในตอนนี้น่ะไม่ได้เป็นเพียงแค่กลุ่มคนต่างโลกอีกต่อไปแล้ว
ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็จำเป็นจะต้องคิดถึงผลประโยชน์ของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้เป็นหลัก
จากนั้นผมก็มารอพบยูฟีน่าที่ห้องรับรองสุดหรูห้องหนึ่ง
ตามจริงแล้วพวกยูเมะจังก็อยากจะตามมาด้วย แต่เนื่องจากพวกเธอมีงานที่จะต้องทำในตอนเช้าผมจึงบังคับให้พวกเธอนอนต่อไป
「มาเรียจัง มานอนตรงนี้สิ」
ผมดึงตัวมาเรียจังลงมานอนบนโซฟา
「อะ เอ๋! ……แต่ทำแบบนี้มันจะเป็นการเสียมารยาทกับอีกฝ่ายนะคะ.....」
มาเรียจังพูดออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
「กับพวกตระกูลโรเซนเบิร์กไม่ต้องไปมีมารยาทด้วยก็ได้ค่ะ!」
ส่วนโอลิเวียนั้นแสดงออกถึงความไม่ชอบใจอย่างรุนแรง
「มาเรียจัง ถ้าเธอไม่เชื่อฟังล่ะก็ ผมจะไม่รักเธอแล้วนะ」
「ค.....ค่ะ....」
ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่เพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งวันจึงทำให้มาเรียจังหลับไปบนตักของผมอย่างง่ายดาย
และเนื่องจากผมเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเหนื่อยล้ามากขนาดนี้ผมจึงใส่ใจดูแลเธอเป็นพิเศษ
นอกจากนั้นหากอีกฝ่ายมาเห็นภาพนี้เข้าก็คงจะทำให้เข้าใจสถานภาพของตัวเองได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้การกดดันอีกฝ่ายที่เป็นเพียงเด็กสาวอายุ 12 ปีจะไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่การปล่อยให้มีคนรู้ว่าพวกเรายอมช่วยเหลือคนอื่นง่ายๆคงจะแย่ยิ่งกว่า
นั่นก็เพราะในอนาคตมันจะทำให้คนจำนวนมากมาขอความช่วยเหลือจากพวกเราไม่จบไม่สิ้นน่ะสิ
「ทัตสึยะซามะ ชั้นพาท่านหญิงยูฟีน่ามาเข้าพบแล้วค่ะ」
เมื่อยูฟีน่ามาถึงผมก็ให้เธอช่วยเล่าเรื่องต่างๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง
กับเรื่องที่เธอเล่าให้ห่วงนั้นทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงโรน่าจังขึ้นมา
สำหรับเมืองเวลล่าที่เป็นป้อมปราการนั้นจริงอยู่ว่ามีการป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีจุดอ่อนที่สำคัญอยู่
เนื่องจากเมืองถูกสร้างติดหน้าผาหินที่สูงชันจึงง่ายต่อการป้องกัน
แต่เพราะเหตุนั้นหากเมืองถูกตัดเส้นทางสายหลักสำหรับลำเลียงเสบียงก็คงยากที่จะหาเสบียงอาหารจากแหล่งอื่นได้
แต่ถึงจะเป็นห่วงโรน่าจังซักแค่ไหนผมก็พยายามอดกลั้นเอาไว้
และกดดันยูฟีน่าต่อไป
แต่ถึงจะกดดันไปแค่ไหนเด็กสาวตรงหน้าก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้
ภายในดวงตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความหวัง กับเด็กสาวตรงหน้าคนนี้ผมคิดว่าเธอมีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำที่ดีมากเลยทีเดียว
「ทัตสึยะซามะ โอลิเวียซามะ สนใจจะมาร่วมทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ กับชั้นมั๊ยคะ」
และในที่สุดเธอก็ได้พูดสิ่งที่น่าตกใจออกมา
สนธิสัญญาระหว่างประเทศงั้นเหรอ จริงอยู่ว่าหากเป็นข้อตกลงระดับประเทศที่ส่งผลให้ผมและผู้คนในเมืองนี้ได้รับประโยชน์เพียงพอก็คงจะยอมรับมันได้
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นเพียงเด็กสาวอายุ
12 ปี
เด็กสาวอย่างเธอจะมีอำนาจเพียงพอที่จะทำให้ข้อตกลงระหว่างประเทศสำเร็จได้เลยงั้นเหรอ.....
「ทำไมชั้นถึงต้องไปทำสทธิสัญญากับคนของตระกูลโรเซนเบิร์กด้วยล่ะ!」
ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่นั้นโอลิเวียก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
สำหรับเธอแล้วคงไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้พอใจได้ง่ายๆ
「เผ่าผีเสื้อแสงจันทร์ รู้จักรึเปล่าคะ」
「นะ นี่เธอว่าหมายความว่ายังไง!!」
สีหน้าของโอลิเวียเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อของเผ่าผีเสื้อแสงจันทร์
เนื่องจากผมไม่รู้รายละเอียดของเรื่องนี้จึงทำได้เพียงแค่ฟังอยู่เงียบๆเท่านั้น
「ถ้าหากโอลิเวียซามะสนใจจะทำสทธิสัญญากับชั้นล่ะก็
ชั้นพอจะบอกข่าวคราวของพวกเขาให้ฟังได้นะคะ」
ยูฟีน่าพูดออกมาด้วยรอยยิ้มราวกับสามารถกุมจุดอ่อนของโอลิเวียเอาไว้ได้
「อุ......!!」
โอลิเวียหันหน้ามามองผมด้วยแววตาเศร้าสร้อย
สำหรับเธอแล้วเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องสำคัญมากงั้นสินะ
「ในเมื่อมันสำคัญกับเธอก็ไม่ต้องฝืนเก็บความรู้สึกเอาไว้ก็ได้นะโอลิเวีย」
ผมดึงตัวโอลิเวียเข้ากอดมาและลูบไล้เรือนผมสีเงินของเธออย่างอ่อนโยน
「ยูฟีน่า ถ้าหากสิ่งที่เธอพูดเป็นเพียงเรื่องโกหกล่ะก็ มันจะไม่จบลงเพียงแค่การจับเธอแก้ผ้าแล้วส่งไปให้ทหารของกองทัพกบฏหรอกนะ」
「ด้วยเกียรติของตระกูลโรเซนเบิร์ก
ทุกสิ่งที่ชั้นพูดล้วนเป็นความจริงแน่นอนค่ะ」
「เข้าใจละ แต่ก่อนอื่นเลยนะ แค่บุตรสาวคนรองของตระกูลโรเซนเบิร์กอย่างเธอน่ะ
ตามกฎหมายของจักรวรรดิแล้วเธอมีสิทธิที่จะลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศได้ด้วยงั้นเหรอ」
เมื่อได้ยินคำพูดของผมยูฟีน่าก็เผยรอยยิ้มที่ดูน่ารักสมวัยออกมา
บางทีเธอคงจะรอคำพูดนี้ของผมอยู่งั้นสินะ
「ดูเหมือนทัตสึยะซามะจะเข้าใจผิดไปเล็กน้อยนะคะ
สนธิสัญญาที่พวกเราจะตกลงกันนั้นไม่ใช่ระหว่างประเทศของทัตสึยะซามะกับจักรวรรดิ แต่เป็นระหว่างประเทศของทัตสึยะซามะกับประเทศของชั้นเองน่ะค่ะ」
จากนั้นยูฟีน่าก็เริ่มอธิบายรายละเอียดในสิ่งที่เธอคิด
สำหรับสนธิสัญญาฉบับนี้เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการมอบประเทศของยูฟีน่าให้เป็นอาณานิคมของประเทศผม
เนื่องจากพวกเราจำเป็นต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรจึงต้องทำการระบุชื่อประเทศลงไปด้วย
สำหรับประเทศของผมนั้นได้ใช้ชื่อที่คิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วก็คืออาณาจักรออร์ธรอส ส่วนประเทศของยูฟีน่านั้นถึงแม้จะพึ่งตั้งขึ้นมาเมื่อสักครู่แต่ดูเหมือนเธอจะตั้งชื่อเอาไว้นานแล้ว
ซึ่งชื่อประเทศของยูฟีน่านั้นมีชื่อว่าอาณาจักรออร์ฟีน่า
สำหรับการเป็นอาณานิคมนั้นอาณาจักรออร์ฟีน่าจะส่งเครื่องบรรณาการเป็นผลผลิตทางการเกษตรและสินแร่ที่เก็บเกี่ยวได้ในอัตรา
1 ใน 10 ส่วน โดยจะทำการส่งมอบให้ทุกปีในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว นอกจากนั้นก็ยังจะมีการส่งมอบบุคลากรและแรงงานที่มีความสามารถเข้ามาช่วยเหลือในการขยับขยายเมืองของอาณาจักรออร์ธรอส
พูดถึงบุคลากรแล้วก็แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่พวกเราขาดแคลนอย่างมาก
ถึงแม้พวกเราจะมาจากญี่ปุ่นที่พัฒนาแล้วแต่ก็มีกันแค่ไม่กี่คน ดังนั้นบุคลากรที่มีความสามารถจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเราในอนาคต
ส่วนสิ่งที่อาณาจักรออร์ธรอสนั้นต้องทำในฐานะเจ้าของอาณานิคมนั้นก็คือการช่วยปกป้องประชาชนของอาณาจักรออร์ฟีน่า
หรือหากจะพูดง่ายๆก็คือการส่งทหารเข้าช่วยเหลือในยามสงคราม การต่อสู้กับมอนสเตอร์
การก่อสร้างกำแพงเมืองและสถานที่สำหรับอยู่อาศัย
「หากเทียบกับจักรวรรดิที่เก็บภาษี 4 ใน
10 ส่วนแล้วล่ะก็
พวกชาวบ้านแถบนี้คงจะดีใจกันล่ะนะ」
ตามปกติแล้วทางตระกูลโรเซนเบิร์กจะเก็บภาษี 40% และส่งให้ทางจักรวรรดิ 30% แต่สำหรับประเทศที่เธอจะสร้างขึ้นมาใหม่นั้น
จะเก็บภาษีเพียง 20% และส่งมอบให้พวกเรา 10% การทำเช่นนี้จะเป็นการช่วยเหลือผู้คนที่กำลังอดอยากได้เป็นจำนวนมาก
「หากได้กองทหารที่แข็งแกร่งมาช่วยปกป้องล่ะก็ ผลผลิตทางการเกษตรในปีหน้าจะต้องมากขึ้นอีก 2-3 ส่วนแน่นอนค่ะ」
ส่วนพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกและอาณาเขตของพวกเรานั้น
อาณาจักรออร์ฟีน่าและอาณาจักรออร์ธรอสจะแบ่งกันอย่างยุติธรรมหลังชนะสงคราม
ใช้แล้วล่ะสิ่งที่พวกเราจะทำต่อไปนี้ก็คือสงคราม
ในตอนนี้ยูฟีน่าได้ตัดสินใจล้มเลิกแผนการกู้คืนเมืองกูสตาฟทีมีความเสี่ยงสูงไปเรียบร้อยแล้ว
การบุกเข้าตีเมืองกูสตาฟที่อยู่ไกลแถมยังมีการป้องการที่แน่นหนาน่ะ
จำเป็นจะต้องใช้กำลังทหารจำนวนมาก จริงอยู่ว่าพวกเราสามารถโจมตีระยะไกลจากบนฟ้าได้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าอีกฝ่ายจะไม่มีวิธีตอบโต้
ดังนั้นพวกเราจึงเปลี่ยนแผนมายึดพื้นที่ทางตอนเหนือของทวีปอากัสเตรีย
ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เผ่าพันธุ์โลลิเทียเคยสูญเสียให้กับจักรวรรดิกลับคืนมา ส่วนเหตุผลนั้นก็เพื่อให้ผู้คนสามารถอพยพหนีมายังพื้นที่ของพวกเราได้โดยง่าย
การตัดสินใจเช่นนี้นอกจากจะลดความเสี่ยงลงแล้ว
พวกเราก็ยังได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
ประโยชน์อย่างแรกก็คือขวัญกำลังใจของพวกทหารและบรรดาผู้คนที่มาทำงานอยู่ในเมืองแห่งนี้
ครอบครัวของพวกเขาส่วนใหญ่นั้นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านและเมืองแถบนี้
ซึ่งในตอนนี้กำลังถูกทหารของกองทัพกบฏเข้าปิดล้อมและแย่งชิงเอาเสบียงอาหารไป ยิ่งปล่อยให้กองทัพกบฏยึดครองเอาไว้นานเท่าไหร่ผู้คนก็จะยิ่งเดือดร้อนมากขึ้นตามไปด้วย
อย่างที่สองก็คือในกองทัพกบฏมีพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ที่ถูกบังคับให้มาทำสงครามอยู่ค่อนข้างเยอะ
ดังนั้นถ้าหากสามารถช่วยพวกนั้นออกมาได้ล่ะก็ นอกจากจะเป็นการช่วยรักษาชีวิตของพวกเขาแล้ว
พวกเราก็ยังได้ทั้งแรงงานและทหารสำหรับใช้งานในเรื่องต่างๆอีกด้วย
อย่างที่สามคือเรื่องของเผ่าพันธุ์โลลิเทีย
สำหรับเรื่องนี้ยูฟีน่าได้ให้สัญญาว่าจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ไม่เพียงแค่เผ่าผีเสื้อแสงจันทร์ที่เธอมีข้อมูลอยู่เท่านั้น
แต่เธอยังจะช่วยติดต่อกับบรรดาผู้คนที่เธอรู้จักเพื่อนำตัวเผ่าพันธุ์โลลิเทียที่ตกเป็นทาสในจักรวรรดิกลับคืนสู่บ้านเกิด
อย่างที่สี่เป็นเหตุผลส่วนตัวของผม
สำหรับตัวยูฟีน่าที่เป็นสาวสวยนั้นแน่นอนว่าอยากได้ แต่ที่ผมต้องการจริงๆในตอนนี้น่ะคือยัยโรน่า
ถึงแม้เธอจะเป็นพวกไม่ได้เรื่อง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้คิดถึงเธอมากนัก
สำหรับลูกผู้ชายแล้วการปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายนั้นเป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถทนได้
ดังนั้นในครั้งนี้ถึงแม้จะไม่ได้ทำสนธิสัญญากับยูฟีน่า ผมก็คงจะไปช่วยยัยโรน่าออกมาอยู่ดี
เพราะงั้นจึงเรียกว่าได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
จักรวรรดิเอลติซในตอนนี้นั้น หากฟังจากหลายๆคนดูก็พอจะทราบได้ถึงความเสื่อมโทรม
ขุนนางในหลายพื้นที่เริ่มทำการกดขี่ประชาชน ผู้คนมากมายเริ่มอดอยาก
เด็กสาวมากมายถูกขายเป็นทาส การทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิงอำนาจของคนในราชวงศ์
และยังมีปัญหาเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
ดังนั้น ผม โอลิเวียและยูฟีน่าจึงตัดสินใจร่วมมือเพื่อสร้างประเทศขึ้นมาใหม่
ไม่ว่าจะเป็นขุนนาง พ่อค้า ชาวบ้านทั่วไป หรือเผ่าพันธุ์ไหน พวกเราก็จะให้การต้อนรับอย่างเท่าเทียม
พวกเราจะต้องสร้างประเทศที่ผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขให้ได้
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากและต้องใช้เวลานานซักแค่ไหนก็ตามที
「แล้วตระกูลโรเซนเบิร์กของเธอจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้งั้นเหรอ」
「ถ้าพวกเค้าไม่เห็นด้วยชั้นก็ยินดีจะสละชื่อของตระกูลโรเซนเบิร์กทิ้งไปค่ะ」
「ถ้าเตรียมใจเอาไว้ถึงขนาดนั้นผมก็ไม่มีอะไรจะแย้งแล้วล่ะนะ」
「สำหรับชั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นเมืองหรือชื่อเสียงก็ไม่สำคัญ ความปรารถนาเดียวของชั้นในตอนนี้คือการมอบสถานที่สำหรับอยู่อาศัยให้กับผู้คนมากมายที่ต้องสูญเสียที่อยู่ไปเพราะความโลภของขุนนางจักรวรรดิ」
ยูฟีน่าพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
「โอลิเวียได้ข้อมูลของเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์
ผู้คนมากมายได้หลักประกันในการดำรงชีวิต ส่วนผมก็ได้ว่าที่ภรรยาที่ทั้งสวยและเก่งงั้นเหรอ.....」
เนื่องจากพรุ่งนี้พวกเรามีเรื่องที่จะต้องทำอีกเยอะ
ผมจึงพายูฟีน่าไปอาบน้ำและพักผ่อน แน่นอนว่าในฐานะว่าที่ภรรยาแล้วเธอก็มีหน้าที่ทำให้ว่าที่สามีอย่างผมได้พึงพอใจในยามค่ำคืน.......
สรุปท้ายก็จบด้วยเรื่องกลางคืนสินะนี่ไม่เหนื่อยบ้างเรอะ!! -__- กี่คนแล้วเนี้ยหญิงต่างโลกก็ไม่น่าจะมีปัญหาหรอกนะแต่พวกผู้หญิงจากโลกเดิมมันรับกันได้ไงฟระโครตจะแม่พระเลย O [] o
ตอบลบขอบคุณครับ
เลเวลเยอะ VIT ก็เยอะตามครับ ความอึดน่ะ *---*//
ลบไว้เกิน 50 คน vit เยอะ ก็เอาไม่อยู่หรอก
ลบเขามีดอกเหลืองไว้ปั้มเต็มคาฟ่ารรับรับรองspไม่มีหมด
ลบยังไงก็ไม่ได้ทำกับทุกคนทุกวันอยู่แล้วล่ะครับ ฮา......
ลบผู้หญิงโลกเดิมอ่ะมาต่างโลกนะ คงต้องการความปลอดภัยมากกว่าจะมาหึงหรอกนะ แต่ละคนนี้โดนก๊อฟบินยำมาเละเกือบทุกคนละ นิดนิดหน่อยหน่อยให้เทพทัตเรามีความสุขดีกว่า คนอ่านก็ฟินตามด้วน
ลบขอบคุณจ้า :3
ตอบลบตา ตาข้ามันช่างร้อนเหลือเกินนนน
ตอบลบเฮ้ย! คุณตำหนวจ! ตรงนี้มีหมีกินเด็กอายุสิบสองครับ!
ตอบลบโถ่ถัง เวลาอ่านเนื้อหาด้านบนอุตสาห์คิดคำถามที่มีสาระต่างๆได้ตั้งมากมาย แต่พออ่านย่อหน้าสุดท้ายแค่นั้นแหละ...สาระมันกระจายหายไปหมดเลย lllOrz
ค่อยๆคิดคำถามมาใหม่ก็ได้ครับ -0-
ลบสำหรับช่วงนี้เนื้อเรื่องมันเขียนยากจริงๆ....
อ่านช่วงแรกถึงกลางๆ ดูมีสาระวางแผนอนาคตได้ดี พอเจอย่อหน้าสุดท้ายเท่านั้นแหล่ะ...
ตอบลบคุณตำรวจอยู่ไหน!? มาเอามันไปเข้าคุกที!! ข้อหาพรากผู้เยาว์โลด!!
ปล. คุก! คุก! คุก!
ตอนแรกก็คิดว่ายูฟีน่าคงมีโอกาสหลุดโผทำเนียบนางเอกไปซะล่ะ สุดท้ายเทพทัตมันก็เติมทรูเพิ่มแล้วเก็บเข้ามาจนได้
ลบยังไงหากมีโอกาสเทพทัตเราไม่ปล่อยสาวๆหลุดมือไปอยู่แล้วล่ะครับ ฮ่า ฮ่า
ลบรอบนี้ได้ทั้งอาณาเขตได้ทั้งสาวสวยเลยทีเดียวด้วยสิ
ได้คุณน้องแล้ว ต่อไปก็คุณพี่สินะ
ตอบลบขาดคุณพี่สาว กับ อัศวินสาว อีก2คน
ตอบลบTaparP ได้ฝากความคิดเห็นไว้ที่บทความของคุณ "ตอนที่ 46 อาณาจักรทั้งสอง":
ตอบลบอันนี้ผมอ่านแล้วเป็น คหสต. นะครับ ตลอดการอ่านมาผมอ่านอย่างฮาๆจนมาตอนนี้ที่เจ้าตัวทัตซึยะเองก็บอกว่าเป็นระดับประเทศที่ไม่ได้คิดถึงตัวเองเท่านั้น
เรื่องสนธิสัญญา
1. ประเทศของยูฟีน่านี่ที่ไหนครับ พึ่งตั้งเมื่อสักครู่นี่มัน... [เมืองเก่าที่เธอจากมา หรืออะไร ทัตซึยะรุ้หรือไม่ว่าประเทศที่ว่าอยุ่ที่ไหน ขนาดเท่าไหร่ ประชากรเท่าไหร่ สินค้าที่เป็นหลักคืออะไร]
2. ส่วนใหญ่แล้วผมคิดว่าสนธิสัญญาที่มีเรื่องสงครามอยู่ด้วยไม่ค่อยจะทำกันง่ายๆเนอะ เพราะมันเหมือนดึงคนของตัวเองเข้าไปในสงคราม ถึงแม้จะเป็นอาณานิคมก็เถอะ รู้สึกว่ามันเร็วเกินไปนะ ทหารตัวเองที่ฝึกมาไม่เท่าไหร่เอง สาวๆก็คงไม่อยากให้ไปเสี่ยงตายใช่ไหม เทพทัต
3. เทพทัต เอ็งต้องการแค่ประโยคสุดท้ายที่เอ็งพูดใช่ม๊ายยยย
「ส่วนผมก็ได้ว่าที่ภรรยาที่ทั้งสวยและเก่งงั้นเหรอ.....」/me ส่งจิตสังหาร
4.นึกไม่ออกละ แต่อ่านตรงช่วงสัญญาแล้วมันแปลกๆบอกไม่ถุก 55+
ปล.ถ้ามันดูมากไปก็ลบทิ้งก้ได้นะ 55+ ถามฮาๆ
ไม่รู้ทำไมความคิดเห็นนี้ไม่ขึ้นนะครับ----------------
1.เป็นประเทศที่พึ่งตั้งขึ้นมาตอนจะทำสนธิสัญญากันเลยครับ (ตามจริงมันเป็นเรื่องที่ยูฟีน่าคิดเอาไว้นานแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากความเสื่อมโทรมของจักรวรรดิ)
พื้นที่ของประเทศที่ยูฟีน่าจะสร้างขึ้นมาใหม่นั้นจะตัดแบ่งจากการทำสงครามแย่งชิงในครั้งนี้
ซึ่งก็จะเป็นพื้นที่บริเวณเขตเมืองเวลล่ายาวไปถึงเมืองเอเกียที่กำลังถูกทหารของบารอนวิลเลี่ยมปิดล้อมอยู่
ประชากรก็จะเป้นผู้คนที่อพยพหนีสงครามมาจากทางเมืองกูสตาฟและเมืองอื่นๆที่กำลังวุ่นวายสู้รบอยู่ในตอนนี้
2.มันไม่ง่ายถูกแล้วครับ เป็นอะไรที่เขียนบรรยายออกมาได้ยากมากจริงกังวลว่าจะไม่เข้าใจกันอยู่ 55555
แต่อันนี้ส่วนหนึ่งคือทัตสึยะคิดถึงผู้คนในเมืองซึ่งก็เป็นประชาชนของจักรวรรดิที่เข้ามาหางานทำ
ครอบครัวของพวกเขาก็อยู่ในอนาคตเขตที่กำลังจะทำสงครามเพื่อแย่งชิงมาในครั้งนี้
ดังนั้นมันจึงเป้นเรื่องง่ายถ้าจะบอกพวกทหารว่าเป็นการไปต่อสู้เพื่อช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้านใกล้เคียง
ซึ่งถ้าปล่อยให้เอาไว้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของพวกเขา.........ประมาณนี้.....
ตรงส่วนนี้คือเหตุผลที่ยูฟีน่ายกเลิกเรื่องการไปกู้เมืองกูสตาฟกลับคืนมา
อีกส่วนหนึ่งคือตัวทัตสึยะเองก็ต้องการจะไปช่วยเหลือโรน่าและเซลฟีน่าที่ถูกปิดล้อมอยู่แล้ว
แต่ทำไม่ได้หากไม่มีเหตุผลมากพอมันก็จะกลายเป็นการส่งทหารไปเสี่ยงเพื่อผู้หญิงซึ่งในระดับประเทศแล้วทำไม่ได้
3.อันนี้มันก็แน่นอนอยู่แล้วครับ เป็นผมถ้าอยากได้สาวๆเข้าฮาเร็มก็คงช่วย
แต่ตัวเองคนเดียวคงช่วยไม่ไหวก็เลยต้องหาเหตุผลมาให้คนอื่นร่วมด้วยว่างั้น
4.อันนี้เด๋วผมจะพยายามรีไรท์เพื่อให้เข้าใจได้มากขึ้นครับ 555
ทหารตัวเองที่ฝึกมาไม่เท่าไหร่เอง << อันนี้ถึงจะฝึกไม่เท่าไหร่ แต่ด้วยสกิลเลเวลสูงของไอโกะและยูยะทำให้สามารถฝึกทหารระดับสูงออกมาได้ง่ายครับ
ลบ+ กับชุดเกราะที่ไอริสร้างนั้นเรียกได้ว่าฟันแทงไม่เข้าเลยทีเดียว
ทำให้ทหารของทัตสึยะเก่งกว่าทหารทั่วไปของจักรวรรดิประมาณ 30 เท่าได้
ประชากรเท่าไหร่ สินค้าที่เป็นหลักคืออะไร
ตอบลบประชากรยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะช่วยผู้คนที่กำลังหนีสงครามได้มากเท่าไหร่
สินค้าหลักของการเพาะปลูกเป้นข้าวสาลีล่ะครับ
ไอ้เทพทัต อิจฉา 555 // ขอบคุณครับ
ตอบลบไม่มาต่อสักนิดหรอ £:">
ตอบลบรอก่อนนะครับ นิ้วโดนมีดบาดเป็นแผล ขอพักซักหน่อยก่อน
ลบจ้า ขอให้หายไวๆนะ
ลบจ้า ขอให้หายไวๆนะ
ลบไม่มาต่อสักนิดหรอ £:">
ตอบลบ