-- มุมมองของรูริโกะ
--
「แล้วก็นะ!!
สุดท้ายพี่ก็อัดพวกกองทัพทหารกบฏพวกนั้นจนเละเป็นโกโก้ครันซ์
แล้วก็ประกาศจัดตั้งอาณาจักรออร์ธรอสของพวกเราขึ้นมาได้ในที่สุดยังไงล่ะ!!」
หลังจากที่ชั้นและซากุระโกะจังถูกชิซึกุจังพาไปยังห้องรับรองเพื่อรอพบกับโอนี่ซามะที่กำลังติดธุระสำคัญบางอย่างอยู่
ชั้นก็ได้ขอให้ชิซึกุจังช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับโอนี่ซามะตั้งแต่ที่มาถึงยังโลกใบนี้ให้ฟัง
ซึ่งการที่ได้มารับรู้เรื่องราวความสำเร็จของโอนี่ซามะนั้นก็ทำให้ชั้นรู้สึกภาคภูมิใจในตัวโอนี่ซามะเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
「สมแล้วที่เป็นโอนี่ซามะ
ไม่ว่าจะอะไรก็เก่งไปทุกเรื่องเลยจริงๆนะคะ」
ชั้นพูดออกไปด้วยรอยยิ้มที่แสนภาคภูมิใจ
โอนี่ซามะของชั้นนั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือกีฬาก็ทำได้ดีไปหมด
โอนี่ซามะยังเคยช่วยสอนชั้นในหลายๆเรื่องที่ชั้นไม่เคยทราบมาก่อนอีกด้วยนะคะ
「ทั้งๆที่ชั้นทำได้แค่ทำร้ายผู้คนแท้ๆ.......แต่โอนี่ซามะของรูริโกะจังกลับสามารถนำพาผู้คนให้รอดพ้นมาจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก
แล้วหลังจากนั้นก็ยังคอยเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยชีวิตผู้คนมากมายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนจากการถูกกดขี่ข่มเหงเอาไว้อีก......」
ในเวลาเดียวกันกับตัวชั้นที่รู้สึกภาคภูมิใจ
ซากุระโกะจังกลับแสดงความรู้สึกสลดใจออกมา
ซึ่งชั้นเองก็รู้สึกเข้าใจในสิ่งที่ซากุระโกะจังกำลังคิดอยู่เป็นอย่างดี เพราะสำหรับซากุระโกะจังที่มีพรผู้กล้า『ราชินีแห่งการปรุงยา』แล้วเนี่ย ด้วยพลังของเธอแล้วก็น่ามีโอกาสได้ใช้ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้ได้มากมายแท้ๆ
แต่ทั้งๆแบบนั้นพวกเรากลับเอาแต่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ภายในปราสาทของจักรวรรดิเอลติซตั้งแต่วันแรกที่ถูกอัญเชิญมา
พวกเรานั้นไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสหรือทางเลือกอื่นๆ
แต่ทั้งๆแบบนั้นพวกเรากลับหลงอยู่ในคำเยินยอของผู้คนและไม่ได้คิดหรือตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองเลยสักครั้ง
จนสุดท้ายพวกเราก็ถูกจับไปล้างสมองแล้วกลายเป็นเพียงอาวุธสำหรับทำสงครามกับประเทศต่างๆที่เป็นศัตรูกับจักรวรรดิเอลติซโดยไม่รู้ตัว
และถึงแม้จะไม่สามารถจดจำรายละเอียดอะไรได้มากนัก
แต่ภายความทรงจำที่ได้เรือนลางไปนั้น ชั้นก็พอจะรู้สึกได้เลยว่าพวกเรานั้นเคยได้ลงมือคร่าชีวิตของผู้บริสุทธิ์ไปมากมาย
และถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ความต้องการของพวกเรา แต่ยังไงมันยังเป็นการกระทำที่แย่มากจริงๆเลยล่ะค่ะ
แต่การที่จะไปจมอยู่กับอดีตกับอดีตที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้นั้นมันคงจะไม่มีประโยชน์อะไร
ในตอนนี้พวกเราควรที่จะมองไปยังอนาคต ถึงแม้มันอาจจะช้าไปบ้างแต่มันก็ยังไม่สายเกินไปที่จะลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะชดเชยให้กับความผิดพลาดที่เคยได้ทำลงไป
ชั้นที่คิดได้แบบนั้นก็รีบหันไปพูดกับซากุระโกะจังที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าเศร้าหมองในทันที
「ซากุระโกะจัง!! พวกเราน่ะก็แค่ถูกคนไม่ดีหลอกใช้เท่านั้นเองนะคะ!!
แล้วถึงแม้อดีตจะแก้ไขไม่ได้แต่ในอนาคตก็คงต้องมีผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือจากซากุระโกะจังอยู่อีกมาก
เพราะงั้นหลังจากนี้ก็มาพยายามช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อนด้วยกันนะคะ!!!」
「ใช่แล้วค่ะซากุระโกะจัง!!! ที่มันเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นก็เป็นเพราะไอ้เจ้าจักรพรรดิเลวทรามชั่วช้านั่นคนเดียว!!! เพราะงั้นอย่าได้เอาแต่โทษตัวเองเลยนะคะ ซากุระโกะซัง!!!」
「รูริโกะจัง.....ชิซึกุซัง.....」
แต่ถึงแม้พวกเราจะพยายามพูดปลอบใจไปมากแค่ไหน
ซากุระโกะจังก็ดูเหมือนจะยังไม่สามารถทำใจยอมรับมันได้ง่ายๆ
ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะบาดแผลภายในจิตใจของซากุระโกะจังนั้นลึกมากกว่าของชั้นก็เป็นไปได้
และก็เป็นในตอนนั้นเองที่โอนี่ซามะได้เปิดประตูห้องรับรองและเดินเข้ามาหาพวกเรา
โดยโอนี่ซามะนั้นได้อุ้มเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งในท่าเจ้าหญิงอยู่ด้วยล่ะค่ะ
「ขอโทษที่ต้องให้รอนะรูริ ซากุระโกะซัง....ชิซึกุก็โดดงานมาอยู่แถวนี้ด้วยเหรอเนี่ย?」
「นู๋ทำงานส่วนของนู๋เสร็จหมดแล้วต่างหากล่ะคะ!!!」
「เสร็จหมดแล้วงั้นเหรอ? ทำงานได้รวดเร็วมากเลยนะ ชิซึกุ」
หลังจากที่โอนี่ซามะพูดทักทายพวกเราและชมเชยชิซึกุจังในเรื่องการทำงานเรียบร้อยแล้ว
โอนี่ซามะก็ได้พาเด็กสาวแสนสวยไปวางลงบนโซฟาก่อนจะนั่งลงข้างๆเธอพร้อมกับให้เด็กสาวแสนสวยคนนั้นนอนหนุนตัก
แล้วโอนี่ซามะก็ยังลูบผมเธออย่างอ่อนโยนช้าๆอีกด้วยนะคะ
อ๊ะร่ะ!
ท่าทางของเธอที่กำลังหลับฝันดีมีความสุขพร้อมกับถูกโอนี่ซามะลูบผมแบบนั้นน่ะ
ช่างเป็นอะไรที่น่าอิจฉาสุดๆเลยนะคะเนี่ย!!!
「โอนี่ซามะเนี่ย....อ่อนโยนกับเด็กสาวทุกคนเลยนะคะ」
「รูริเองก็เข้ามานั่งใกล้ๆสิ อยู่ไกลขนาดนั้นมือพี่เอื้อมไปไม่ถึงหรอกนะ」
กับคำพูดเอาแต่ใจของชั้นนั้น
โอนี่ซามะรีบตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มในทันที สมแล้วที่เป็นโอนี่ซามะของชั้น
เพียงแค่พูดนิดเดียวก็สามารถเข้าใจความหมายที่ซ่อนเอาไว้ได้แล้วสินะคะ อุฟุฟุ
「ถะ ถ้างั้นก็ช่วยอ่อนโยนกับนู๋ด้วยนะคะ!!」
ชั้นก็รีบเข้าไปนั่งข้างๆตามที่โอนี่ซามะบอกในทันที
อุว๊า!!! นี่มันสุดยอดไปเลยค่ะ!!!
ความรู้สึกตอนที่ถูกโอนี่ซามะรูปค่อยๆไล้ไปตามเส้นผมอย่างอ่อนโยนนั้นให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและสบายใจมากจริงๆเลยนะคะ!!!
「นี่รูริ
พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะถามเธอสักหน่อยน่ะ」
หลังจากที่ชั้นได้รับความรักและความอบอุ่นจากโอนี่ซามะมากมายจนรู้สึกพอใจแล้ว
โอนี่ซามะก็ได้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง อ่า...!!
บรรยากาศอบอุ่นเมื่อครู่หายไปหมดเลยล่ะค่ะ....มีเรื่องอะไรกันแน่นะคะเนี่ย
?
「มะ มีเรื่องอะไรงั้นหรือคะ!! แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ถ ถ้าตอบได้ล่ะก็
นู๋จะไม่ปิดปังอย่างแน่นอนเลยค่ะ!!」
ชั้นหันไปพูดกับโอนี่ซามะด้วยความร้อนรน
แววตาที่จริงจังอย่างมากของโอนี่ซามะนั้นทำให้ชั้นค่อนข้างจะตื่นเต้น
แล้วก็ไม่ใช่แค่ชั้นเพียงคนเดียวหรอกนะคะ
เพราะทั้งชิซึกุจังและซากุระโกะจังที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามเองก็แสดงท่าทางตื่นเต้นออกมาเช่นเดียวกันเลยค่ะ
「ฮารุซาวะ มากิ
เพื่อนร่วมห้องของรูริมีคนที่ชื่อ ฮารุซาวะ มากิ หรือเปล่า ?」
「ฮารุซาวะ มากิ ? หมายถึงมากิจังงั้นหรือคะ.....อ่ะ
มากิจังเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับพวกนู๋เองล่ะค่ะ ระ หรือว่ามีเรื่องร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นกับมากิจังงั้นหรือคะ
!?」
เนื่องจากชั้นไม่รู้ว่าตอนนี้มากิจังเป็นอย่างไรบ้าง
เพราะงั้นชั้นการที่โอนี่ซามะเอ่ยชื่อของมากิจังออกมาแบบนี้จึงทำให้ชั้นรู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา....
「หรือว่าจะเป็นคำสาปล้างสมองแบบเดียวกับพวกเรา
? ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็ต้องรีบไปช่วยเธอแล้วนะคะ!!!」
แต่ในระหว่างที่เรื่องของมากิจังอยู่ชั้นก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่หนักอึ้งจากโอนี่ซามะ
มือของโอนี่ซามะที่ได้ลูบไล้ไปตามเรือนผมของชั้นอย่างอ่อนโยนก่อนหน้านี้ได้กำลงไปแน่นจนมีเสียงแปลกๆดังออกมา
ใบหน้าของโอนี่ซามะเองก็ดูไม่ค่อยดีเลยล่ะค่ะ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับโอนี่ซามะกันแน่นะคะ!!?
「โอ โอนี่ซามะ!!
มือมีเลือดออกด้วยนะคะ!!! เป็นอะไรไปงั้นหรือคะ ? โอนี่ซามะ!!」
ชั้นพูดพร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างเข้าไปกุมมือข้างหนึ่งของโอนี่ซามะที่กำลังกำมือแน่นจนมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย....
「อ๊ะ!!? ขอโทษทีนะรูริ พี่คงจะเครียดมากไปหน่อยน่ะ.......ราเวียจังช่วยทีนะ」
โอนี่ซามะพูดพร้อมกับยื่นมือไปให้คุณเมดตัวเล็กที่ยืนคอยอยู่ด้านหลัง
ซึ่งคุณเมดตัวเล็กก็รีบใช้เวทมนต์รักษามือของโอนี่ซามะ
จากนั้นเธอก็รีบเช็ดคราบเลือดที่เปื้อนอยู่ออกไปจนสะอาดหมดจดในทันที....ทั้งๆที่ตัวเล็กแค่นั้นแต่ก็ทำงานได้สุดยอดไปเลยนะคะพวกคุณเมดเนี่ย!!!
「เอ่อ...แล้วเรื่องของมากิจัง....」
「ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้ที่อยู่ของเธอ
แต่พี่จะตามหาและพาตัวมากิจังกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้ เพราะงั้นก็ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะ
รูริ」
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ชั้นก็กลับไปถามโอนี่ซามะถึงเรื่องของมากิจังอีกครั้ง
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าในตอนนี้โอนี่ซามะจะยังไม่ได้ข่าวเรื่องที่อยู่ของมากิจัง....แล้วทำไมโอนี่ซามะถึงได้พูดเรื่องนี้ออกมากันนะคะ
? แต่เนื่องจากบรรยากาศรอบตัวของโอนี่ซามะในตอนนี้มันดูไม่ค่อยดีนัก
ชั้นจึงได้ตัดสินใจที่จะเก็บความสงสัยในเรื่องนี้เอาไว้แบบนี้ แล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องเกี่ยวกับการช่วยงานโอนี่ซามะแทน
「อยากจะขอรับผิดชอบงานเกี่ยวกับด้านการช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือนร้อนจากสงครามงั้นเหรอ....
」
「ใช่แล้วค่ะ!! ความจริงนู๋ก็อยากจะช่วยทำงานด้านการบริหารจัดการเมืองอยู่เหมือนกัน
แต่นู๋ยังไม่มีความรู้และประสบการณ์ในเรื่องนั้นเลย....เพราะงั้นก็เลยอยากจะเริ่มจากงานช่วยเหลือผู้คนก่อน
อย่างเช่นการแจกจ่ายอาหารหรือของใช้ที่จำเป็น หรือไม่ก็ประสานงานหาช่างไปซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยที่ถูกทำให้พังไปน่ะค่ะ」
ชั้นพูดในสิ่งที่ได้คิดเอาไว้ทั้งหมดออกไป
โดยสำหรับในเรื่องนี้ชั้นขอบอกตามตรงเลยว่าชั้นรู้สึกอิจฉาชิซึกุจังที่ได้รับมอบหมายให้บริหารเมืองท่าขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าเมืองท่าออร์วิสเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
แต่จะให้ตัวชั้นที่ไม่มีทั้งความรู้และประสบการณ์ไปช่วยโอนี่ซามะบริหารเมืองนั้นน่ะ
ยังไงในตอนนี้ก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่ๆอยู่แล้ว
เพราะงั้นชั้นจึงอยากจะช่วยในเรื่องที่ชั้นคิดว่าน่าจะพอรับผิดชอบไหวก่อน
โดยสำหรับเรื่องนี้ชั้นก็ลองทบทวนดูจากข้อมูลที่พวกคุณเมดได้เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้
ชั้นน่ะคิดว่าการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกชาวเมืองกูสตาฟที่กำลังลำบากจากการถูกพวกขุนนางและทหารของจักรวรรดิข่มเหงทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ดี
แล้วชั้นก็คิดว่าการช่วยฟื้นฟูขวัญกำลังใจให้ผู้คนนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้ปกครองคนใหม่อย่างโอนี่ซามะเป็นอย่างมาก
เพราะงั้นการทำแบบนี้ก็จะต้องช่วยเหลือโอนี่ซามะได้มากแน่นอนเลยล่ะค่ะ!!!
「ทั้งที่พึ่งจะฟื้นขึ้นมาไม่นานก็เริ่มคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้วงั้นเหรอ....เธอยังเป็นพวกเอาจริงเอาจังเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ
รูริ」
「เหมือนเมื่อก่อนหรือคะ?」
「ใช่แล้วล่ะ เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเลย.......แต่การคิดที่จะซื้อใจพวกชาวเมืองกูสตาฟด้วยการแจกอาหารเนี่ย.......นั่นสินะ.......เธอคิดว่ายังไงล่ะ? ถ้ายังจะแกล้งหลับแบบนี้ต่อไปล่ะก็
เธออาจจะโดนน้องสาวคนนี้ของผมแย่งเอาความนิยมจากชาวเมืองกูสตาฟไปทั้งหมดเลยก็ได้นะ
คริสตี้จัง」
โอนี่ซามะพูดพร้อมกับค่อยๆใช้นิ้วหลายนิ้วลูบไล้จากบริเวณใบหน้าลงไปยังบริเวณเนินอกของเด็กสาวแสนสวยที่กำลังนอนหนุนตักโอนี่ซามะอย่างสบายใจอยู่ด้วยรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย....อุว๊า!!! โอนี่ซามะทำเรื่องที่ดูลามกแบบนั้นกับเด็กสาวที่ไร้การป้องกันได้แบบไม่อายเลยนะคะเนี่ย....
แต่แล้วการที่โอนี่ซามะทำไปแบบนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นเพราะว่าเด็กสาวที่มีชื่อว่าคริสตี้ซังคนนี้กำลังแกล้งหลับเพื่อแอบฟังการสนทนาพูดคุยของพวกเราอยู่.....อ๊ะร่ะ.....เธอช่างเป็นเด็กสาวที่แผนสูงมากจริงๆเลยนะคะเนี่ย
อุฟุฟุ!!!
「อืมม...รูริโกะซัง?」
เด็กสาวแสนสวยผู้มีเรือนผมสีม่วงงดงามแวบวับเป็นประกาย
คริสตี้ซังค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเรียกชื่อชั้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสุขุมแต่เย็นชาเล็กน้อย
ซึ่งหากฟังจากน้ำเสียงของเธอแล้วเนี่ย...หรือว่าเธอจะไม่ค่อยชอบชั้นกันนะคะ ?
「ค ค่ะ!!?」
เมื่อดวงตาสีอเมทิสต์สุกสกาวราวกับอัญมณีของเธอได้จ้องมองมาที่ชั้น
ร่างกายของชั้นก็ก็รู้สึกหนาววูบไปทั้งตัว ดวงตาที่แสนงดงามแต่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งขั้วโลกของเธอทำให้น้ำเสียงของชั้นที่ตอบเธอกลับไปดูสั่นเครือเล็กน้อย
อุว๊า!!! แววตาของเธอดูน่ากลัวมากเลยนะคะ!!!
「สำหรับหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการฟื้นฟูขวัญกำลังใจของชาวเมืองกูสตาฟเนี่ย
ไม่ว่ายังไงชั้นก็คงจะยกหน้าที่นี้ให้กับรูริโกะซังไปทำไม่ได้หรอกนะคะ」
ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและสีหน้าที่จริงจัง
คำพูดของคริสตี้ซังสร้างได้แรงกดดันให้กับชั้นเป็นอย่างมาก ถึงแม้ชั้นจะยังไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมเธอถึงได้ยึดติดกับหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้มากขนาดนี้
แต่ในเมื่อเธอพูดถึงขนาดนี้แล้วชั้นก็คงทำได้แต่เพียงยอมรับมันเท่านั้นสินะคะ
?
「งะ งั้นหรือคะ....ถะ ถ้าแบบนั้นก็ไม่เป็นไรนะคะ....!?」
ชั้นกลืนน้ำลายและตอบกลับไปด้วยท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย
และเมื่อคริสตี้ซังได้ยินคำตอบของชั้น บรรยากาศรอบๆตัวของเธอก็ดูผ่อนคลายลง
คริสตี้ซังลุกขึ้นมานั่งข้างๆโอนี่ซามะ เธอค่อยๆรวบผมสวยๆของเธอขึ้นและค่อยๆผูกมัดมันด้วยริบบิ้นสีสันสดใสช้าๆอย่างสง่างาม
อุว๊า!!! ตอนแรกเธอก็เป็นคนที่สวยมากอยู่แล้ว
แต่พอเธอทำผมแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ดูสวยมากขึ้นไปอีกนะคะเนี่ย
「แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ชั้นคนเดียวจะสามารถดูแลรับผิดชอบทั้งหมดได้ง่ายๆ
เพราะงั้นถ้าได้คนที่เข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีมาคอยช่วยให้คำแนะนำและช่วยจัดการดูแลล่ะก็......ถึงแม้มันจะเป็นคำขอที่ดูเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย
แต่รูริโกะซังจะช่วยมาทำงานนี้กับชั้นได้มั๊ยคะ ?」
「เอ๋!?? จะให้ชั้นไปช่วยคริสตี้ซังทำงานนี้งั้นหรือคะ ?」
กับคำพูดของคริสตี้ซังนั้น มันก็ทำให้ชั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
และเมื่อชั้นหันมองไปทางโอนี่ซามะเพื่อขอความช่วยเหลือ โอนี่ซามะก็พยักหน้าตอบรับชั้นกลับมาด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าโอนี่ซามะจะอยากให้ชั้นไปคอยช่วยงานคริสตี้ซังอยู่แล้วสินะคะ
「ใช่แล้วค่ะ」
「ถะ ถ้าสามารถช่วยได้ชั้นก็ยินดีค่ะ เพราะงั้นก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ
คริสตี้ซัง ?」
ในเมื่อเป็นแบบนี้ชั้นก็ยินดีที่จะร่วมงานกับเธอ
ถึงแม้ภายนอกจะดูน่ากลัวอยู่บ้าง แต่ชั้นก็พอจะรู้สึกได้ว่าภายในจิตใจของเธอนั้นอ่อนโยนมากแค่ไหน
บางทีการที่เธอมีแสดงท่าทางแบบก่อนหน้านี้ออกมานั้นก็คงจะมีเหตุผลสินะคะ
「ทางนี้เองก็ต้องขอฝากตัวด้วยเช่นกันนะคะ
รูริโกะซัง」
หลังจากที่ชั้นและคริสตี้ซังสามารถตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว
โอนี่ซามะก็โอบไหล่พร้อมกับดึงพวกเราทั้งคู่เข้าไปซบที่หน้าอกและยังลูบผมพวกเราทั้งสองคนช้าๆอย่างอ่อนโยน
ซึ่งนั่นก็ทำให้ใบหน้าที่ดูเย็นชาเล็กน้อยของคริสตี้ซังก่อนหน้านี้หายไปจนหมดในทันที
ไม่ว่าจะเป็นเด็กสาวแบบไหน แต่โอนี่ซามะก็สามารถทำให้พวกเธอทุกคนมาหลงรักได้หมดสินะคะเนี่ย.....
-- Extra --
ในเวลาเดียวกันกับที่คริสติน่าและรูริโกะตกลงทำงานร่วมกัน
เด็กสาวอีกสองคนที่นั่งอยู่ที่บริเวณโซฟาฝั่งตรงข้ามได้มองดูเหตุการณ์อย่างตื่นเต้น
「อุว๊า! ชั้นก็นึกว่าพวกเธอจะทะเลาะกันซะแล้วนะคะเนี่ย」
ซากุระโกะพูดขึ้นมาเบาๆ ตัวเธอเองก็ค่อนข้างจะรู้สึกกดดันมากกับท่าทางเย็นชาของคริสติน่าในช่วงก่อนหน้านี้
「ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะซากุระโกะซัง
เพราะถ้าเป็นพี่ล่ะก็ ไม่ว่าพวกสาวๆจะมีความคิดเห็นอะไรแตกต่างกันแค่ไหน
พี่ก็สามารถจัดการให้ทุกคนหันมาร่วมมือรักใคร่กันได้ทุกๆครั้งนั่นล่ะค่ะ」
ชิซึกุตอบซากุระโกะกลับไปด้วยท่าทีสบายๆเหมือนกับว่าเธอได้เจอเรื่องแบบนี้มาชนชินแล้ว
ซึ่งมันก็แน่นอนว่า เพราะตลอดช่วงปีกว่าที่ผ่านมานั้น เรื่องราวพวกนี้ได้เคยเกิดขึ้นอย่างมากมาย
「เป็นคนที่ดูแลสาวๆในฮาเร็มได้สุดยอดไปเลยนะคะนั่น
ก่อนหน้านี้ชั้นก็ได้ยินจากพวกเมดมาว่าทัตสึยะซังมีภรรยามากกว่า 10
คนแล้วด้วยนี่คะ」
「ไม่ว่าจะมีเพิ่มอีกกี่คนก็ดูจะไม่ยอมพอเลยล่ะค่ะ......ตอนนี้พี่ก็มีภรรยาอย่างเป็นทางการของพี่ทั้งหมด
18 คนแล้ว....」
หลังจากนั้น เด็กสาวทั้งสองก็ได้ปล่อยเรื่องให้พวกทัตสึยะพูดคุยเรื่องงานกันต่อไปโดยไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ส่วนพวกเธอทั้งสองคนก็เริ่มเข้าโหมดซุบซิบกันในเรื่องความรักของทัตสึยะกันไปแทน ซึ่งมันก็เป็นเพราะการซุบซิบในเรื่องความรักพวกนี้นั่นเอง
ที่ทำให้ซากุระโกะได้ลืมเรื่องเศร้าๆเกี่ยวกับอดีตของเธอในช่วงก่อนหน้านี้ไปเสียสนิท
ผู้หญิงกับเรื่องความรักเป็นของคู่กันเสมอ มันคือสัจธรรมของโลก /สาธุ
ตอบลบชิซึกุเราก็เป็นพวกบราค่อนชอบอวดพี่ซะด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ลบเนื้อเรื่องก็เดินไวอยู่ แต่ผมกลับรู้สักมันไม่ทันใจยังไงไม่รู้
ตอบลบสงสัยจะรออ่านตอนที่มากิกลับมามากเกินไปมั๊ง
ใจเย็นๆนะครับ....พอมากิออกมาก็จบบทที่ 4 นี้แล้วล่ะครับ ฮา....
ลบ