สามวันหลังจากที่อาณาจักรออร์ธรอสประกาศสงครามกับจักรวรรดิเอลติซ
ช่วงหลังอาหารเย็นของวันที่ 5 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่
838
--
มุมมองของทัตสึยะ –
ในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้
กองทัพอาณาจักรออร์ธรอสของพวกเราได้ใช้เมืองกูสตาฟเป็นศูนย์กลางการบัญชาการในการบุกเข้าโจมตีเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปโดยรอบ
ซึ่งก็แน่นอนว่าเมืองขนาดใหญ่เกือบทั้งหมดของจักรวรรดิเอลติซได้ประกาศยอมแพ้และมาเข้าร่วมกับพวกเราในทันทีที่กองทัพพันธมิตรของพวกเราได้บุกไปถึง
และเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็คงจำเป็นจะต้องอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกันเล็กน้อย
โดยสำหรับเมืองท่าโคเลียและเมืองท่าเอลเบสนั้น
เนื่องจากขุนนางผู้ปกครองเมืองทั้งสองรู้สึกไม่พอใจกับนโยบายปัจจุบันของจักรวรรดิติซมานานแล้ว
ดังนั้นผู้ปกครองเมืองทั้งสองจึงไม่มีความลังเลหรือข้อเรียกร้องใดๆในการที่จะมาเข้าร่วมกับพวกเราเลยแม้แต่นิดเดียว
ส่วนเมืองมอร์น่าที่อยู่ห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้น
เนื่องจากบารอนเมเซลผู้ปกครองเมืองคนปัจจุบันนั้นกำลังอยู่ในภาวะป่วยเป็นโรคเรื้อรัง
เมลิซ่าบุตรสาวอันดับที่สามจึงได้เป็นตัวแทนในการมาเจรจากับพวกเรา
ส่วนผลการเจรจาที่ออกมาก็คือ
ทางอาณาจักรออร์ธรอสได้ให้สัญญาว่าจะช่วยรักษาพ่อของเธอให้หายดี
นอกจากนั้นแล้วพวกเราก็จะคอยให้การสนับสนุนตระกูลของเธอในด้านต่างๆต่อไปในอนาคตด้วย
ซึ่งก็แน่นอนว่าการเจรจาทั้งหมดผมได้ทำลงไปในระหว่างอยู่บนเตียงกับเธอล่ะนะ.....
สุดท้ายก็คือเมืองทะเลทรายวาสซึ่งเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างไปจากเมืองอื่นๆของจักรวรรดิอยู่ค่อนข้างมาก
โดยความแตกต่างสำคัญของเมืองนี้นั้นก็คือการที่ชาวเมืองเกือบทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นนักรบที่ได้ผ่านการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์เพื่อปกป้องเมืองแห่งนี้มาอยู่ตลอด
และก็เป็นเพราะความแตกต่างที่ว่านั้นเองจึงทำให้พวกชาวเมืองเกือบทั้งหมดมีความคิดที่จะทำการต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองแห่งนี้เอาไว้
พวกเค้าไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้ให้กับพวกเรา เพราะงั้นสุดท้ายจึงทำให้เกิดการสู้รบและปะทะกันอยู่นานเกือบชั่วโมง
แต่สุดท้ายแล้วการต่อสู้ทั้งหมดก็ได้จบลงเพราะชาวเมืองได้รู้ความเป็นจริงที่ถูกเปิดเผยโดยพวกเด็กๆที่คริสติน่าเป็นคนพามา
ซึ่งพวกเด็กๆที่ว่านั้นก็คือพวกเด็กๆที่คริสติน่าได้ไปช่วยเหลือออกมาจากคฤหาสน์ของพวกขุนนางในตอนที่พวกเราบุกเข้าโจมตีเมืองกูสตาฟ
และความจริงที่ว่าก็คือพวกชาวเมืองทะเลทรายวาสนั้นได้ถูกพวกขุนนางจักรวรรดิ
ที่นำกองทัพมายังทวีปออกัสเตรียหลอกลวงว่าจะพาพวกตัวเด็กๆหลบหนีไปยังที่ปลอดภัย
ก่อนที่จะทำการเปิดสงครามกับอาณาจักรออร์ธรอสอย่างเต็มรูปแบบ
แต่ในความเป็นจริงนั้นพวกเด็กได้ถูกนำไปใช้เป็นทาสและตัวประกัน
เมื่อความจริงถูกเปิดเผยพวกชาวเมืองทั้งหลายก็ต่างพากันโกรธแค้นจักรวรรดิเอลติซเป็นอย่างมาก
ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้คริสติน่าที่ถึงขนาดเข้าไปก้มหัวข้อร้องให้พวกชาวเมืองทั้งหมดเย็นใจลงและให้มอบหมายหน้าที่ในการลงโทษจักรวรรดิเอลติซไว้กับตัวเธอ
ซึ่งก็แน่นอนว่าในตอนแรกพวกชาวเมืองส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมฟังคำขอร้องของเธอซึ่งเป็นอดีตเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิเอลติซ
แต่สุดท้ายแล้วเรื่องราวจบลงด้วยดีเพราะพวกเด็กๆที่คริสติน่าคอยดูแลปกป้องเอาไว้ออกมาปกป้องคริสติน่าและช่วยพูดกับพวกชาวเมืองให้
บอกตามตรง
ในตอนแรกผมคิดว่าจะซัดไอ้พวกชาวเมืองงี่เง่าพวกนี้ที่ไม่ยอมฟังคำพูดของคริสติน่าสุดที่รักของผมให้รู้สำนึกกันซะบ้าง
แต่สุดท้ายพอได้เห็นฉากกับกลับมาพบกันของพวกเด็กๆและครอบครัวก็ทำให้ทั้งตัวผมและพวกชาวเมืองทั้งหลายต่างก็ใจเย็นลงและหันมาเจรจากันด้วยคำพูดแทน
และในเมื่อกองทัพของพวกเราได้เข้าทำการยึดครองเมืองใหญ่ทั้ง
4 เมืองได้เรียบร้อยแล้ว
ในตอนนี้ทางฝั่งจักรวรรดิเอลติซจึงเหลือเพียงแค่เมืองมาลอฟตะวันตกที่มีกองทัพเรืออันแข็งแกร่ง
และเมืองมาลอฟตะวันออกที่มีกองทัพเจลโล่ประจำอยู่หลายหมื่นนายเท่านั้นที่ยังคงต้องการจะต่อต้านพวกเราอยู่
และปัญหาของเมืองทั้งสองนี้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่กองทหารจำนวนมากเพียงเท่านั้น
เพราะทั้งสองเมืองที่ว่านั้นยังได้รับการสนับสนุนจากพวกผู้กล้าที่น่าถูกล้างสมอง
ดังนั้นพวกกองทหารภายในเมืองทั้งสองแห่งนี้นี้จึงมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับพวกเราสูงกว่ากองทหารของเมืองใหญ่อื่นๆมาก
แต่ถึงแม้พวกนั้นจะมีผู้กล้าและทหารหลายอีกหลายหมื่น
ผมก็ไม่คิดว่าพวกนั้นจะสามารถต้านทานกองทัพเรือของชิซึกุที่กำลังจะเคลื่อนทัพไปถึงในวันพรุ่งนี้ได้
เพราะงั้นการต่อสู้ในครั้งนี้ผมจึงคิดว่าจะปล่อยให้ชิซึกุรับหน้าที่เป็นคนจัดการดูแลทั้งหมด....แน่นอนว่าหากมีเหตุฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้นผมก็จะเข้าไปช่วยอยู่แล้วล่ะนะ
「นี่คริสตี้จัง
วันนี้รูริก็ยังไปช่วยแจกอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ผู้คนตามหมู่บ้านต่างๆอยู่อีกงั้นเหรอ
?」
「อุจุ อุจ๊วบ...!! ชะ ใช่แล้วค่ะ
วันนี้รูริโกะซังได้พาพวกเด็กสาวชาวเมืองกูสตาฟที่ว่างงานไปตระเวณแจกจ่ายเสบียงอาหารให้กับหมู่บ้านทางตะวันออกที่กำลังขาดแคลนเสบียงอาหารในช่วงฤดูหนาวเป็นอย่างมากน่ะค่ะ!!
เปโรเรโร!! อุจุ๊!! อุจุจุ๊จ๊วบ!!」
เมื่อผมถามออกไป
คริสติน่าที่กำลังใช้ลิ้นและริมฝีปากนุ่มๆของเธอดูดเลียช่วงล่างของผมอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามของผมด้วยใบหน้าแดงก่ำ
และหลังจากที่ตอบคำถามของผมเสร็จแล้ว
เธอก็ใช้ลิ้นตวัดรอบๆช่วงล่างของผมและก้มหน้าลงไปดูดเลียอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง
ด้วยนิสัยของรูริโกะที่เป็นพวกจริงจังกับงานพวกนี้เป็นอย่างมากแล้วนั้น
ผมคิดว่าเธอคงจะไม่ยอมหยุดทำงานนี้จนกว่าผู้คนในทวีปนี้ทั้งหมดจะมีอาหารเพียงพอสำหรับฤดูหนาวนี้เป็นแน่
แต่ถึงแม้ว่าเธอจะทำไปแบบนั้น ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีอะไร
ดังนั้นผมจึงได้ตัดสินใจปล่อยให้รูริโกะได้ทำตามใจตัวเองไปจนถึงที่สุด
「น่าอิจฉาจังเลยนะคะ!!!
ชั้นเองก็อยากจะช่วยปรนเปรอช่วงล่างให้กับทัตสึยะซามะบ้างจังเลยค่ะ!!」
「ไม่ได้หรอกนะเฮเลน
เพราะวันนี้น่ะเป็นวันฉลองการก่อตั้งอาณาจักรออร์คริสตี้ซึ่งเป็นอาณาจักรใหม่ของคริสตี้จัง
เพราะงั้นเธอจะต้องยอมอดทนไปจนกว่าผมจะให้รางวัลแก่ราชินีคนใหม่ของอาณาจักรออร์คริสตี้เสร็จ
เข้าใจนะเฮเลน!!!」
เมื่อได้ยินคำพูดของผม
ใบหน้าของคริสติน่าที่แดงก่ำอยู่แล้วก็ยิ่งแดงมากขึ้นไปอีก
ส่วนเฮเลน่าที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสใกล้ชิดกับผมมากนักในช่วงนี้ก็แสดงสีหน้าสลดใจเล็กน้อยออกมา
แล้วก็เพราะใบหน้าสลดใจของเฮเลน่านั้นน่ารักได้อารมณ์เป็นอย่างมาก
ผมจึงใช้โอกาสนี้จู่โจมใส่เธอเล็กน้อยด้วยการเลียและขบกัดใบหูซึ่งเป็นจุดอ่อนของเธอ
「ฟุ ฟุเคี๊ยะ!!! ละ
เล่นจู่โจมจุดอ่อนกันในเวลาแบบนี้มันขี้โกงนี่คะ!!! ฟุเคี๊ยะ!!! อื๊อออ อร๊า!!!
เด๋วสิคะทัตสึยะซามะ!!! อย่าแอบล้วงเข้าไปโดยไม่บอกกันก่อนสิคะ ฟุเคี๊ยะ!!! อ๊า อ
อร๊า!! อร๊างง!!!」
ซึ่งก็แน่นอนว่าผมไม่มีทางจะมาหยุดกับแค่ใบหู
ในขณะที่เฮเลน่ากำลังเสียวซ่านกับการถูกจู่โจมไปยังจุดอ่อน
ผมก็รีบดึงกางเกงชั้นในเนียนนุ่มของเธอลงมาพร้อมกับแหย่นิ้วสองนิ้วเข้าไปยังส่วนลึกภายในช่วงล่างของเธออย่างเร่าร้อน

เพียงแค่ครู่เดียว
เฮเลน่าที่เริ่มจะทนรับการจู่โจมไปตามร่างกายหลายๆจุดพร้อมกันไม่ไหวก็เริ่มทำการปลดเปลื้องชุดเดรสเจ้าหญิงของเธอออกด้วยตัวเองก่อนจะเข้ามาโอบกอดผมและเริ่มร่อนสะโพกตามจังหวะนิ้วของผมอย่างรวดเร็ว
เรือนผมสีน้ำผึ้งและหน้าอกขาวเนียนของเฮเลน่าที่สะบัดไปตามจังหวะสะโพกของเธอนั้นให้ความรู้สึกที่เย้ายวนใจจนทำให้ผมแทบจะอดทนเอาไว้ไม่ไหว
แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันฉลองการขึ้นเป็นราชินีแห่งอาณาจักรใหม่ของคริสติน่า
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะทุ่มเทให้กับคริสติน่าก่อนเป็นอันดับแรก
และเมื่อพูดถึงเรื่องการก่อตั้งอาณาจักรออร์คริสตี้ผมก็คงต้องขออธิบายเรื่องนี้สักหน่อย
โดยเหตุผลหลักของการประกาศจัดตั้งอาณาจักรออร์คริสตี้นั้นก็เป็นเพราะผู้คนของจักรวรรดิเอลติซเกือบทั้งหมดในทวีปอากัสเตรียแห่งนี้ได้หมดความเชื่อมั่นต่อรูปแบบการปกครองของจักรพรรดิคนใหม่ไปแล้ว
ส่วนตระกูลโรเซนเบิร์กที่พยายามเข้าไปไกล่เกลี่ยและช่วยปกป้องผู้คนจากเหล่าขุนนางชั่วทั้งหลายที่เริ่มมีอำนาจขึ้นมาหลังจากการเปลี่ยนจักรพรรดิคนใหม่เองก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ
ทั้งโรเดริกที่เป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ทั้งผู้คนในตระกูลสาขา เครือญาติหรือผู้ข้ารับใช้เองต่างก็ถูกใส่ร้ายและจับตัวไปลงโทษกันเกือบทั้งหมด
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ไม่ว่าคริสติน่าจะพยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้คนมากแค่ไหน
ผู้คนก็ยังคงไม่ยอมรับตัวเธอที่เป็นอดีตเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิเอลติซ
ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่รักหรือคนในครอบครัวนั้นเป็นบาดแผลภายในหัวใจที่ยากจะลืมเรือน
และในเมื่อเรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้
วิธีการที่ให้ผลรวดเร็วที่สุดในการที่จะทำให้คริสติน่าสามารถเข้าไปปกครองผู้คนของเธอได้นั้นก็มีเพียงแต่การละทิ้งชื่อและตัวตนในฐานะเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เอลติซของเธอไป
และค่อยมาเริ่มต้นสร้างความหวังครั้งใหม่ให้กับผู้คนของเธอแทน
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของอาณาจักรแห่งใหม่ที่ผมได้ตั้งชื่อให้ว่าอาณาจักรออร์คริสตี้
โดยฐานะของอาณาจักรออร์คริสตี้นั้นได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาในฐานะอาณาจักรอาณานิคมของอาณาจักรออร์ธรอสเช่นเดียวกันกับอาณาจักรออร์ธรอสของยูฟีน่า
ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้คนต่างก็พากันแสดงอาการดีใจออกมากันอย่างชัดเจน
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนถึงได้พากันดีใจกับเรื่องการเข้ามาเป็นอาณาจักรอาณานิคมนั้นก็คงจะเป็นเพราะได้เห็นตัวอย่างจากอาณาออร์ฟีน่ากันมาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตของเมืองและหมู่บ้าน ความมั่งคั่งและความสุขของผู้คน
ความอุดมสมบูรณ์ในด้านการเพาะปลูกและอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนอาณาจักรออร์ฟีน่าก็ล้วนแล้วแต่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
ซึ่งหากนำเอาไปเทียบกับสมัยที่เมืองเหล่านั้นเป็นของจักรวรรดิเอลติซแล้วล่ะก็
เรียกได้ว่าห่างชั้นกันจนนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว
ซึ่งก็แน่นอนว่าในตอนแรกคริสติน่ารู้สึกลังเลใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
แต่หลังจากที่เธอได้เห็นรอยยิ้มของพวกเด็กๆที่พากันแสดงความดีใจกันออกมากันอย่างใหญ่โตแล้ว
สุดท้ายเธอจึงได้ตัดสินใจที่จะยอมรับในโชคชะตาและขึ้นเป็นราชินีของอาณาจักรแห่งใหม่ในที่สุด
「ฟะ ฟุเนี๊ยวว!!!!!!! ทัตสึยะซาม๊า อะ อร๊า!! แรงๆอีกสิคะ!!!
ฟุอร๊า!! ฟุเนี๊ยวว!!! กระแทกใส่มาแรงๆเลยค่ะ!!! อะ อร๊า!! ทัตสึยะซามะ!!!!!!
อร๊า!! ทัตสึยะซาม๊า!!!!!! สุดยอดเลยค่ะ!!!! เสียวสุดๆเลยค่ะ!!! ฟุอร๊า!!
ของใหญ่ๆของทัตสึยะซามะทำให้ชั้นรู้สึกดีสุดๆเลยค๊า!!! อร๊า!! อร๊า!! อร๊างงงงง!! 」
ตอบรับกับเสียงครางสุดเย้ายวนของคริสติน่า
ผมโยกสะโพกและกระแทกช่วงล่างสวนจังหวะกับคริสติน่าที่หย่อนสะโพกลงมาอย่างเร่าร้อนและหนักหน่วง
หน้าอกที่แม้จะเล็กแต่ก็ได้รูปทรงงดงามของเธอถูกผมดูดคลึงขยำขยี้อย่างเมามัน
ความรู้สึกอันร้อนแรงของพวกเราถูกแลกเปลี่ยนไปหากันและกันอย่างต่อเนื่องไปจนคริสติน่าทนไม่ไหวและถึงจุดสุดยอดไปหลายต่อหลายครั้ง
「คราวนี้ขอให้ชั้นได้รับความรักจากทัตสึยะซามะบ้างนะคะ!!!!」
หลังจากที่ผมปล่อยความรักใส่คริสติน่าไปครั้งหนึ่งแล้ว
ผมก็ปล่อยให้คริสติน่าที่เริ่มจะหมดแรงลงไปนอนพัก
เฮเลน่าที่อดทนต่อการถูกนิ้วมือของผมลวนลามอย่างต่อเนื่องมายาวนานก็รีบใช้หน้าอกนุ่มๆขนาดพอดีมือของเธอเข้ามาคลอเคลียกับช่วงล่างของผมด้วยแววตาอ้อนวอนหยาดเยิ้ม
「ความลามกของเธอเองก็ไม่ได้แพ้คริสตี้จังเลยนะ
เฮเลน!!!」
ผมพูดพร้อมกับดึงตัวเฮเลน่าขึ้นมาคร่อมบนร่างกายของผม
จากนั้นก็ค่อยๆสอดแทรกช่วงล่างของผมเข้าใส่ตัวเธอที่ถ่างขาทั้งสองออกกว้างช้าๆพร้อมกับขบกัดและดูดฟัดหน้าอกนุ่มนิ่มทั้งสองของเธอที่กระเพื่อมเย้ายวนไปมาด้วยความหื่นกระหาย
「ฟุ ฟุเคี๊ยะ!!! อ๊ะ อร๊าง!!! ทัตสึยะซาม๊า!!! รักที่สุดเลยค่ะ!!!
อื๊อออ อร๊า!!! อย่ากัดตรงนั้นสิคะ!!! อ๊ะ อร๊า!!! ขอตรงนั้นอีกนะคะ!!!
ฟุเคี๊ยะ!!! ทัตสึยะซาม๊า!!! อ๊ะ อร๊าง!!! ทัตสึยะซาม๊า!!!」
หลังจากที่เฮเลน่าเริ่มแสดงอาการเสียวซ่านออกมาผมก็เริ่มเร่งจังหวะกระแทกใส่เธออย่างรุนแรงมากขึ้น
เฮเลน่าที่ไม่อาจจะอดทนต่อความรู้สึกดีอย่างต่อเนื่องก็ก็เริ่มร้องครางเสียงดังมากขึ้นพร้อมกับถึงจุดสุดยอดก่อนผมไปหลายครั้ง
「อ๊ะ อร๊าง!!! ฟุอร๊าง!!! ชั้นไม่ไหวแล้วนะคะ ปล่อยเข้ามาเลยค่ะ
ปล่อยเข้ามาภายในตัวชั้น!!! ทัตสึยะซามะ!!! ทัตสึยะซาม๊า!!!」
ซึ่งก็แน่นอนว่าผมไม่พอใจเพียงแค่การปลดปล่อยความรักใส่พวกเธอคนละครั้ง
ดังนั้นผมจึงรีบไปอุ้มคริสติน่าขึ้นมาวางคร่อมลงไปบนร่างกายของเฮเลน่าและเริ่มถูไถกับช่วงล่างของพวกเธอทั้งสองคนพร้อมกันไปมาอย่างเร่าร้อนต่ออีกครั้ง
「มันเป็นความผิดของพวกเธอนะที่ทำตัวน่ารักมากเกินไป
เพราะงั้นผมจะลงโทษพวกเธอทั้งสองคนพร้อมกัน เตรียมใจเอาไว้ให้ดีล่ะ!!!」
「หน้าอกของคริสตี้จังนี่น่ารักมากจนทนไม่ไหวจริงๆด้วยนะคะ!!!
แบบนี้ชั้นเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกันนะคะ!!! อุจ๊บ เปโรเปโร อุจร๊วบ!!! ฟุ
ฟุเคี๊ยะ!!! เด๋วสิคะทัตสึยะซามะ!! อ๊ะ อร๊าง!!! ทัตสึยะซาม๊า!!!」
「ฟุอร๊า!! ฟุเนี๊ยวว!!! ทัตสึยะซามะ!!! ทัตสึยะซาม๊า!!! อะ
อร๊า!! เฮเลน่าซังก็ด้วย!!! อะ อร๊า!! เสียวสุดยอดไปเลยค่ะ ฟุอร๊า!!
ตรงนั้นแหละค่ะเฮเลน่าซัง!!! อะ อร๊า!! ทัตสึยะซาม๊า!!! อร๊างงงง!! 」
และในตอนที่พวกเราทั้งสามคนกำลังแลกเปลี่ยนความรักกันอย่างเร่าร้อนในแบบสามพีอยู่นั้น
โซเฟียจังที่ได้มาช่วยงานของผมที่กำลังขาดคนก็เข้ามารายงานผลเรื่องที่จักรวรรดิเลเรียสได้ส่งเสบียงอาหารกับข้าวของเครื่องใช้จำเป็นต่างๆจำนวนมากมาให้กับพวกเราเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งการที่ทางจักรวรรดิเลเรียสไม่ได้ส่งกองทหารเข้ามาร่วมกับกองทัพพันธมิตรของเรานั้นก็เป็นผลมาจากสงครามครั้งล่าสุด
เนื่องจากสงครามในครั้งนั้นพวกเราได้ทำลายทั้งกองทหารและเรือเหาะของจักรวรรดิเลเรียสไปเป็นจำนวนมาก
ในปัจจุบันจึงทำทางจักรวรรดิเลเรียสจึงมีกำลังทหารไม่มากพอจะส่งมาเข้าร่วมในครั้งนี้
ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
「แล้วเรื่องของผู้กล้าหญิงที่ชื่อมากิล่ะ?」
ผมหันไปถามโซเฟียจังโดยไม่หยุดกระแทกช่วงล่างเข้าใส่คริสติน่ากับเฮเลน่าที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความเสียวระดับสุดยอด
เพราะถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกเป็นกังวลในเรื่องของมากิจังมากแค่ไหน แต่หัวใจของผมในตอนนี้มันก็ไม่ได้มีเพียงแค่มากิจังเพียงคนเดียว
ดังนั้นผมจึงต้องมอบความรักให้กับเจ้าหญิงลามกทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน
「หน่วยข่าวกรองที่แทรกซึมเข้าไปได้สำรวจข้อมูลของพวกผู้กล้าทุกคนภายในเมืองมาลอฟทั้งสองอย่างละเอียดแล้วล่ะค่ะ
แต่ทั้งๆแบบนั้นแล้วก็ยังไม่พบกับผู้กล้าที่มีความคล้ายคลึงกับเด็กสาวที่ชื่อมากิเลยล่ะค่ะ....」
เมื่อได้ยินคำตอบของโซเฟียจัง
ผมก็ได้แต่ถอนใจกับการที่ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหนก็ยังไม่สามารถตามหาตัวมากิจังเจอได้
เมืองทุกเมืองและหมู่บ้านทุกแห่งที่พวกเรายึดมาได้นั้นไม่มีใครเลยที่เคยได้พบเห็นมากิจังในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
เมืองมาลอฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่สองเมืองสุดท้ายเองก็ดูท่าจะไม่มีร่องรอยของเธอเช่นเดียวกัน
นี่เธอหนีไปอยู่ที่ไหนกันแน่นะ
? หรือว่าเธอจะไม่ได้หลบซ่อนอยู่ตามเมืองงั้นเหรอ
? แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงล่ะก็ โอกาสที่พวกเราจะสามารถค้นหาตัวมากิจังให้เจอนั้นก็จะยิ่งทวีความยุ่งยากมากขึ้นไปอีกจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
นั่นก็เพราะสกิล
Search ซึ่งเป็นสกิลสำคัญในการค้นหาตัวผู้คนนั้นได้จัดพวกผู้กล้ารวมถึงมากิจังไปอยู่หมวดศัตรูจึงทำให้พวกผู้กล้าทุกคนปรากฏออกมาเป็นจุดสีแดง
ซึ่งนั่นก็จะไปซ้ำกับพวกมอนสเตอร์ทั้งหมดที่ได้หลบซ่อนอยู่ตามป่าและสถานที่ต่างๆ
ดังนั้นการจะแยกแยะมากิจังออกจากพวกมอนสเตอร์ทั้งหมดในทวีปอากัสเตรียแห่งนี้จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก
และในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
หลังจากนี้คงมีแต่ต้องค่อยๆบุกถล่มพวกกองทัพชองจักรวรรดิเอลติซไปเรื่อยๆจนกว่าไอ้เจ้าจักรพรรดิงี่เง่านั่นจะยอมส่งมากิจังออกมาต่อสู้กับพวกเรา
แต่ก่อนหน้านั้นผมก็จำเป็นจะต้องลงโทษเด็กสาวตรงหน้าที่ไม่สามารถหาตัวมากิจังเจอได้เสียก่อนล่ะนะ
「อุเคี๊ยะ!! ทะ ทัตสึยะซามะ!!??」
โซเฟียที่กำลังก้มหน้าลงเพราะไม่สามารถตอบรับความต้องการของผมได้ส่งเสียงตกใจแบบน่ารักๆออกมาในทันทีที่ตัวเธอถูกผมดึงขึ้นมาบนเตียง
「คนที่ไม่สามารถทำงานที่ผมมอบหมายไปให้ลุล่วงได้เนี่ย
ยังไงก็ควรที่จะต้องถูกลงโทษใช่มั๊ยล่ะ!!! โซเฟีย!!!」
เนื่องจากคริสติน่าและเฮเลน่าถึงจุดสุดยอดต่อเนื่องไปกว่าสิบครั้ง
และในตอนนี้พวกเธอก็ได้แสดงอาการเหนื่อยหอบจนแทบจะไม่มีแรงตอบโต้กับความรักอันเร่าร้อนของผมแล้ว
ดังนั้นผมจึงจับโซเฟียกดไปตรงกลางระหว่างเจ้าหญิงลามกทั้งสอง
จากนั้นผมก็กระชากเอากางเกงชั้นในของเธอออกและเริ่มมอบความรักอันหนักหน่วงให้กับเจ้าหญิงลามกคนที่สามอย่างร้อนแรงในทันที
「
อะ วะ ว๊า!! ทะ ทัตสึยะซามะ!! อุเคี๊ยะ!! อื๊อ อร๊า!! ว๊า วะ อร๊า!!
อื๊อออ!!」
「หน้าอกเธอใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกแล้วสินะ
? ดูสิ หน้าอกเธอมันเด้งสู้มือผมสุดๆไปเลยนะ」
ผมดึงร่างโซเฟียขึ้นมาจากด้านหลังและยื่นมือเข้าไปขยำขยี้หน้าอกขนาดใหญ่โตทั้งสองข้างของเธอดู
ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าหน้าอกของเธอน่าจะเริ่มโตขึ้นมาอีกแล้ว
แล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่หน้าอกเท่านั้น
เพราะสะโพกแน่นๆของเธอก็ดูจะเติบโตขึ้นมาอย่างเย้ายวนไม่แพ้กัน
「ออ๊า อื๊อ อร๊า!!!!
ของทัตสึยะซามะเองใหญ่ขึ้นมามากเหมือนกันนะคะ!!! อุเคี๊ยะ!! อื๊อ อร๊า!! ว๊า วะ
อร๊า!! อื๊อออ!!」
「คืนนี้ผมจะจัดหนักกับเธอไปพร้อมๆกับยัยเจ้าหญิงลามกอีกสองคนจนถึงเช้าเลย
เตรียมใจไว้ให้ดีล่ะ!!!」
ผมพูดพร้อมกับเร่งจังหวะช่วงล่างเข้าใส่โซเฟียจังที่กำลังร้องครางอย่างรุนแรง
กับคริสติน่าและเฮเลน่าที่ดูเหมือนจะได้สติแล้วก็ถูกมือทั้งสองข้างของผมเข้าจู่โจมไปพร้อมๆกัน
การที่ผมได้มาปลดปล่อยความใคร่ใส่เจ้าหญิงแสนสวยที่ผมรักถึงสามคนพร้อมๆกันอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องยั้งเนี่ย
มันเป็นสุดยอดประสบการณ์ที่ทำให้ตัวผมไม่อาจจะลืมได้ลง
ถ้าหากเจ้าหญิงสามคนยังทำให้รู้สึกดีได้ถึงขนาดนี้ล่ะก็
แบบนี้ครั้งหน้าลองสั่งให้พวกเมดช่วยจัดงานเลี้ยงและเชิญเจ้าหญิงทั้งหมดจากทุกประเทศมาพร้อมกัน
จากนั้นก็ค่อยๆจัดการล่อลวงพวกเธอทุกคนที่กำลังเมามาจัดหนักเรียงตัวต่อเนื่องจนครบทุกคนไปเลยจะดีไหมนะ.....
เหมือนจะเป็นงาน(นิดเดียว)นะ ส่วนความคิดแกมันชั่วซะไม่มีล่ะ ไอ้ทัต!!
ตอบลบสมกับที่เป็นเผ่าปีศาจไงล่ะครับ หึหึ หึหึ
ลบผมข้องใจกับชื่ออาณาจักรใหม่อะ ไม่ค่อยน่าเกรงขามเลย
ตอบลบนั่นสินะครับ -0-//
ลบ