-- มุมมองของซิสติน่า --
ช่วงเช้าของวันที่ 3 เดือน 4 ศักราชเอลติซปีที่ 837
หลังได้รับรายงานการเคลื่อนทัพของกองทัพเจลโล่หุ้มเกราะ ชั้นก็ตัดสินใจยกเลิกภารกิจทวงคืนประตูทิศเหนือแล้วมุ่งหน้ากลับไปยังหอคอยซึ่งเป็นที่ของศูนย์บัญชาการหลักภายในกำแพงชั้นในโดยในทันที
แต่ก็แน่นอนว่าคงจะปล่อยพวกกองพันอัศวินไวเวิร์นที่ประตูทิศเหนือเอาไว้เฉยๆไม่ได้
ดังนั้นชั้นจึงไม่ได้สั่งการให้หน่วยราชองค์รักษ์ถอนกำลัง และให้ทำการเตรียมพร้อมสำหรับการซุ่มโจมตีเอาไว้ตลอดเวลา
ถ้าหากกองพันอัศวินไวเวิร์นมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งล่ะก็
พวกเค้าสามารถลงมือจัดการได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งยิง
「แล้วพวกเราจะทำอะไรกันต่อดีล่ะจ๊ะ」
เมื่อกลับมาถึงยังศูนย์บัญชาการหลักท่านพี่หญิงเฮเลน่าก็ถามขึ้นมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ดูเหมือนท่านพี่หญิงจะยังคงมีอาการตื่นเต้นจากภารกิจก่อนหน้านี้อยู่
「นั่นสินะคะ ก่อนอื่นก็คงต้องเป็นเจ้านั่นล่ะ」
ชั้นตอบท่านพี่หญิงเฮเลน่ากลับไปพร้อมทั้งชี้ไปยังอุปกรณ์เวทชิ้นหนึ่ง
มันเป็นอุปกรณ์เวทที่ใช้ในการส่งภาพของศัตรูจากบนฟ้ามาที่จอภาพภายในศูนย์บัญชาการที่มีชื่อเรียกว่าโดรน
เจ้าโดรนที่ว่านี้มีขนาดเล็กมาก การเคลื่อนไหวของมันสามารถควบคุมให้เข้าไปใกล้เป้าหมายได้ดังใจ
แถมแม้จะเข้าไปใกล้แค่ไหนมันก็ยังไม่มีการส่งเสียงใดๆอีก เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดอุปกรณ์เวทสำหรับการสอดแนมเลยทีเดียว
ซึ่งก็แน่นอนว่าเจ้าโดรนเองก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์เวทที่อาณาจักรออร์ธรอสได้มอบให้กับพวกเรา
และด้วยอุปกรณ์เวทนี้ก็จะทำให้พวกเราสามารถสั่งการกองทัพทั้งหมดของพวกเราเพื่อตอบโต้ศัตรูได้โดยไม่จำเป็นต้องออกจากห้องบัญชาการไปเลยแม้แต่ก้าวเดียว
「สะ สุดยอด!! เจ้าโดรนนี่สุดยอดจริงๆเลยนะจ๊ะ ซิสติน่าจัง!!」
เมื่อได้มองดูภาพถ่ายมุมสูงจากโดยเจ้าโดรนที่บินออกไป
ท่านพี่หญิงเฮเลน่าก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ภาพและเสียงที่ชัดเจนราวกับได้มองและฟังด้วยตัวเองแบบนั้น ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ยังรู้สึกตื่นเต้นประทับใจ
และยิ่งมันเป็นครั้งแรกของท่านพี่หญิงเฮเลน่าด้วยแล้วก็ยิ่งไม่แปลกที่จะแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา
เจ้าโดรนค่อยๆบินไปตามการควบคุมอย่างช้าๆและผ่านออกนอกกำแพงเมืองไป
ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเราก็มองเห็นกองทัพเจลโล่หุ้มเกราะที่กำลังเคลื่อนทัพด้วยความเร็วสูง
รูปแบบขบวนทัพของศัตรูแบ่งออกเป็น 4 กอง 3
กองมุ่งหน้าไปมายังประตูเมืองทิศใต้
ส่วนอีกหนึ่งกองนั้นมุ่งตรงไปยังประตูเมืองทิศตะวันตก
ด้วยความเร็วระดับนี้คงใช้เวลาอีกไม่ถึง 20 นาทีเท่านั้น
「หัวหน้ากองอัศวินเกรโต้ ช่วยนำกองอัศวินและทหาร
2,000 นายจากส่วนกลางไปเสริมกำลังที่ประตูทิศใต้ทีนะคะ」
『รับทราบ!! 』
「ท่านเคานต์ออกัส ถึงในครั้งนี้จะลำบากซักหน่อย
แต่ช่วยนำกองทหารส่วนตัวของท่านไปช่วยป้องกันประตูทิศตะวันตกด้วยนะคะ」
『โฮ่ๆ! ไม่ต้องห่วงไปหรอกเจ้าหญิงน้อย
ให้ตาแก่ผู้นี้เป็นคนจัดการเอง』
「หน่วย beater ที่ 1 2 3 4
เตรียมพร้อม!!
เมื่อศัตรูเข้ามาในระยะยิงให้เริ่มทำการโจมตีได้เลยค่ะ」
『รับทราบ พวกเราจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน!!』
ชั้นทำการออกคำสั่งให้ยังกองทหารหน่วยต่างๆให้เริ่มเคลื่อนพลไปยังประตูทั้ง
2 และหลังจากนั้นไม่นานการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น
หน่วย beater ของเราได้เริ่มทำการโจมตีก่อนเพราะระยะยิงที่ไกลกว่าพลธนูของกองทัพเจลโล่อย่างมาก
กระสุนเหล็กจำนวนมหาศาลพุ่งเข้าใส่กองทัพเจลโล่หุ้มเกราะที่วิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูง
พวกเจลโล่นั้นถึงจะมีการติดเกราะเหล็กไปบางส่วนแต่มันก็ยังเป็นแค่เจลโล่
ดังนั้นพวกมันจึงถูกกระเหล็กสังหารจนล้มตายไปมากมาย แต่ทางฝ่ายศัตรูเองก็ไม่ได้โง่นัก
พวกนั้นรีบจัดขบวนทัพใหม่แล้วนำรถโล่เหล็กกล้าหลายคันขึ้นมาด้านหน้า
กระสุนเหล็กของ beater
นั้นไม่สามารถเจาะทะลุรถโล่เหล็กกล้าไปได้
หลังจากเคลื่อนทัพอย่างช้าๆโดยใช้รถโล่เหล็กกล้านำหน้าไม่นานนัก
ในตอนนี้พวกนั้นก็หยุดทัพลงแล้ว
「เครื่องยิงก้อนหินสินะ.....สั่งการออกไปยังทหารที่กำแพงให้หลบเข้าที่กำบังในทันที!!」
แล้วมันก็เป็นไปตามที่ชั้นคิด
พวกนั้นใช้รถโล่เหล็กกล้าป้องกันเอาไว้ด้านหน้าและใช้เครื่องยิงก้อนหินที่มีพลังทำลายสูงโจมตีใส่ประตูทิศใต้และทิศตะวันตก
และถึงแม้พวกเราจะยิงโต้ตอบกลับไปด้วยเครื่องยิงก้อนหินเช่นเดียวกัน แต่ด้วยจำนวนที่แตกต่างจึงทำให้ฝ่ายเราตกเป็นรองอย่างชัดเจน
และเมื่อศัตรูเห็นกองทัพของเราเริ่มแตกตื่น
หน่วยเจลโล่ที่ย้ายไปหลบด้านหลังก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
พวกนั้นจัดขบวนโดยใช้หน่วยที่มีโล่เหล็กกล้าเป็นแถวหน้าและเริ่มวิ่งฝ่าดงกระสุนเข้ามายังกำแพง
ก่อนจะใช้แท่นกระโดดในการบุกขึ้นมายังกำแพงเมืองของพวกเรา
「ลูฟัส กระสุนสำรองของ Beater ที่ผลิตเสร็จแล้วพร้อมใช้งานยังมีเหลืออยู่อีกเท่าไหร่」
ชั้นหันไปถามกับนายทหารช่างคนหนึ่งในระหว่างมองดูการสู้รบของทหารทั้งสองฝ่ายบนกำแพง
「4,000 นัด สำหรับตอนนี้ ในช่วงเย็นของวันนี้น่าจะมีมาเพิ่มอีก 6,000 นัดครับ」
น้อยมาก.....แบบนี้กระสุนเหล็กคงมีไม่พอจัดการศัตรูที่จะมาเสริมหลังจากนี้แน่ๆ
คงถึงเวลาที่จะต้องใช้『บทเพลงแห่งหายนะ 』จริงๆแล้วสินะ
「ถ้าชั้นเป็นอะไรไปล่ะก็
ฝากที่เหลือด้วยนะคะท่านพี่........」
「ซิสติน่าจัง...」
ยังไม่ทันได้พูดจบ ท่านพี่หญิงก็วิ่งเข้ามาโอบกอดร่างกายของชั้นในทันที
「ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ถะ
ถ้าพี่สาวคนนี้สามารถเป็นคนใช้งานมันได้ล่ะก็.....」
「ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกค่ะท่านพี่หญิง
ก็มันเป็นโชคชะตาของชั้นนี่คะ......」
ชั้นยิ้มและตอบคำขอโทษของท่านพี่หญิงเฮเลน่ากลับไปโดยฝืนยิ้มเอาไว้
『บทเพลงแห่งหายนะ 』นั้นเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิที่สืบทอดต่อกันมาของราชวงศ์แอสกรัม
แต่ถึงอย่างนั้นในแต่ละรุ่นก็จะมีเพียงคนเดียวที่สามารถบรรเลงมันได้
ผลของ『บทเพลงแห่งหายนะ 』นั้นจะเข้าแทรกแซงความคิดและหัวใจของศัตรู
ความเจ็บปวดที่ไดรับนั้นก็เหมือนดังเช่นชื่อของมัน
แม้จะไม่ทำให้ถึงตายแต่มันก็เป็นความเจ็บปวดทรมานในระดับที่ไม่อาจจะอดทนเอาไว้ได้
มันเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของราชวงศ์แอสกรัม
แต่ค่าตอบแทนในการเอามันมาใช้นั้นค่อนข้างหนักเอาการ
เพราะความเจ็บปวดทรมานส่วนหนึ่งที่ศัตรูได้รับนั้นจะสะท้อนกลับมายังผู้ใช้
แต่ในเมื่อมันเป็นโชคชะตาของชั้นก็คงจะหลีกเลี่ยงมันไปไม่ได้
ชั้นเดินออกจากศูนย์บัญชาการหลักเข้ามายังอีกห้องหนึ่งที่ได้เตรียมเอาไว้พร้อมกับเมดสาวอีก
2 คน พวกเธอทั้งสองคนช่วยปลดเปลื้องชุดเกราะและเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนร่างกายของชั้นออก
「สั่งการไปยังหน่วยเจลโล่ที่ประจำการอยู่ที่กำแพงทั้งหมด
เมื่อ『บทเพลงแห่งหายนะ Song of Direful』เริ่มทำงานก็ให้บุกออกไปทำลายเครื่องยิงก้อนหินและบรรดาผู้บัญชาการกองทัพของศัตรูในทันที」
ไม่มีเวลาให้คิดอีกแล้ว ชั้นปลดผ้าที่คลุมอยู่บนเครื่องดนตรีแห่งหายนะออกและเริ่มบรรเลงมันในทันที
เสียงดนตรีที่ไพเราะราวกับเสียงนกที่ขับขานในยามเช้าดังกังวาลขึ้น
แต่สำหรับกองทัพของศัตรูแล้วมันคงเป็นดังเสียงเรียกจากนรกที่ไม่อาจจะหลีกหนีไปได้
「อรั่ก!!」
เพราะในครั้งนี้ใช้บรรเลงใส่กองทหารของศัตรูกว่า 20,000
นายจึงทำให้ความเจ็บปวดที่สะท้อนกลับมานั้นมากขึ้นไปด้วย
「「ซิสติน่าซามะ!!」」
เมดสาวทั้งสองเข้ามาช่วยพยุงร่างกายที่บอบช้ำ และพวกเธอก็ยังช่วยซับเลือดที่ค่อยๆไหลรินออกมาจากบาดแผลตามร่างกาย....ยังไหว.....ชั้นยังทนไหว......
ความเจ็บปวดที่แสนสาหัสถาถมเข้ามายังร่างกาย
แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็ยังหยุดบรรเลง『บทเพลงแห่งหายนะ 』ไม่ได้ เร็วขึ้นอีก ดังขึ้นอีก
ชั้นต้องทำให้กองทัพของศัตรูถอยร่นออกไปให้เมืองของเราให้ได้
「ซิสติน่าจัง!! พะ พวกเราทำได้แล้ว พวกเราทำได้แล้วนะ!! ศัตรู ศัตรูถอยทัพแล้ว!!! ซะ ซิสติน่าจัง!!!!」
เหมือนจะได้ยินเสียงท่านพี่หญิงเฮเลน่า
เหมือนท่านพี่หญิงจะพูดว่าทำสำเร็จแล้วรึเปล่านะ
........ชั้นค่อยๆทรุดลงกับพื้นและไม่รู้สึกถึงสิ่งใดอีก.......
หลังจากนั้นไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าใด แต่เมื่อชั้นลืมตาขึ้นมานั้น
สิ่งแรกที่ปรากฏให้ชั้นได้เห็นก็คือ เรือเหาะสีดำเป็นมันวาวที่สลักตราหมาป่าสองหัวสีทอง
เรือเหราะสีดำขนาดใหญ่โตหลายลำกำลังลอยอยู่ทั่วน่านฟ้าของเมืองแอสคาล........
เเละเเล้วก็จบลงด้วยดี ไม่ใช่ล่ะ XD
ตอบลบก็ใกล้จะจบบที่ 3 แล้วล่ะครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบแต่ว่าทำไมใช้อาวุทแล้วต้องถอดชุด
ตอบลบชุดก็เละหมดสิครับ ถ้าไม่ถอดออกน่ะ
ลบ