ตอนที่ 4 ไอเชีย โรสเบล


-- มุมมองของไอเชีย --                    

สงครามนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้แต่ในกลุ่มของขุนนางของจักรวรรดิด้วยกันเอง ก็ยังมีอยู่หลายครั้งที่พวกเค้าจะก่อสงครามฆ่าฟัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเพราะผลประโยชน์ที่ไม่ลงรอยกัน

แต่ถึงแม้สงครามจะเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ถึงจะเป็นแบบนั้นชั้นก็ยังรู้สึกไม่ชอบช่วงเวลาที่เกิดสงครามนัก แต่ถึงแม้จะไม่ชอบซักแค่ไหน ตัวชั้นที่เป็นเพียงบุตรสาวของพ่อค้าธรรมดาๆคนหนึ่ง คงจะไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือออกความเห็นใดๆ

จดหมาย.....เหรอคะ......

วันหนึ่งในช่วงปลายเดือน 12 ชั้นได้รับจดหมายจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ไม่ได้พบกันมานาน ยูฟีน่า วอน โรเซนเบิร์ก ซึ่งเธอนั้นเป็นถึงบุตรสาวคนรองของตระกูลโรเซนเบิร์กที่ปกครองทวีปอากัสเตรียมาตั้งแต่สมัยก่อน แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่เคยที่จะถือตัวหรือวางอำนาจแต่อย่างใด

จากสงครามระหว่างพวกขุนนางตั้งแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมานั้น ชั้นได้ทราบข่าวมาว่าตระกูลของเธอได้พ่ายแพ้ให้กับบารอนวิลเลี่ยม และนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ชั้นรู้สึกกังวลใจมาตลอดหลายวัน เพราะงั้นการที่ได้รับจดหมายเชิญให้ไปพบเธอในเวลานี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ชั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อชั้นได้อ่านเรื่องราวในจดหมายและรู้ถึงสถานที่ที่ได้รับเชิญ ชั้นก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก สถานที่ในจดหมายที่ว่านั้นก็คือ ปราสาทฟีเรน่า ศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรออร์ฟีน่า

หากพูดถึงอาณาจักรออร์ฟีน่าแล้วล่ะก็ ผู้คนทั่วทั้งเมืองเวลิสในตอนนี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ผู้คนมากมายต่างพากันพูดถึงเรื่องราวของอาณาจักรใหม่แห่งนี้อยู่แทบทุกวัน

อาณาจักรออร์ฟีน่านั้นแม้จะเป็นอาณาจักรแห่งใหม่ที่พึ่งสร้างขึ้นไม่นาน แต่ผู้คนก็รู้กันดีว่าเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่ง กำลังทหารของอาณาจักรออร์ฟีน่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นทหารฝีมือดี ชุดเกราะและอาวุธที่พวกเค้าใช้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นของชั้นเลิศ หากเข้าปะทะกันล่ะก็ทหารจักรวรรดิคงไม่มีทางชนะ.....ไม่สิ....บางทีแค่จะสร้างความเสียหายให้ก็ยังถือเป็นเรื่องยาก.....

ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของกำลังทหาร ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารและขนมหวานที่แสนอร่อย เรื่องราวของยานพาหนะเวทมนต์และอุปกรณ์เวทมนต์มากมายที่น่าเหลือเชื่อ หลายสิ่งหลายอย่างที่แม้แต่คิดถึงก็ยังไม่เคยนั้น ได้กลายเป็นเรื่องเล่าลือไปทั่วทั้งทวีปอากัสเตรียในตอนนี้

และก็เป็นเพราะเรื่องราวเหล่านี้ จึงทำให้เหล่าคนหนุ่มสาวมากมายพากันออกเดินทางไปยังอาณาจักรออร์ฟีน่าเพื่อแสวงหาสิ่งใหม่ๆ อาณาจักรออร์ฟีน่าตอนนี้ได้สร้างแรงผลักดันและกำลังใจให้กับผู้คนที่กำลังอดอยากได้เป็นอย่างมาก

คุณแม่คะ........นู๋……

ไปทำในสิ่งที่ลูกอยากทำเถอะจ้ะ แต่ถ้ามีเวลาว่างก็แวะกลับมาเยี่ยมกันบ้างนะจ

หลังจากเล่าเรื่องราวในจดหมายให้กับครอบครัวได้ฟัง คุณพ่อและคุณแม่ต่างก็สนับสนุนให้ชั้นเดินทางไปหาท่านหญิงในทันที ถึงแม้ครอบครัวของพวกเราจะทำการค้ามากมายมาหลายรุ่นแต่ในตอนนี้มันก็ถึงทางตันแล้ว การเดินทางของชั้นในครั้งนี้จึงถือเป็นการค้นหาสิ่งใหม่ๆและเปิดโอกาสให้กับครอบครัวในอนาคต

หลังจากเก็บข้าวของและเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย ชั้นก็ออกเดินทางในช่วงเช้าของวันถัดมา อาณาจักรออร์ฟีน่านั้นอยู่ใกล้กับเมืองเวลิสมาก แถมตลอดเส้นทางยังเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขบวนของพวกพ่อค้า หรือแม้แต่กลุ่มของนักผจญภัย นั่นจึงทำให้ตลอดเส้นทางนั้นไร้ซึ่งอันตรายใดๆ

หลังจากผ่านไป 2 วัน ชั้นก็มาถึงยังชายแดนของอาณาจักรออร์ฟีน่าหรือก็คือป้อมปราสาทการที่สอง ที่ป้อมปราการแห่งนี้ชั้นก็ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่มีจุดหมายเดียวกัน เธอเป็นเด็กสาวที่น่ารัก ร่าเริงและใจดี เธอรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรออร์ฟีน่ามากมายและคอยช่วยเหลือชั้นเวลาหลงทางอยู่เสมอ

เมื่อมาถึงยังปราสาทฟีเรน่า เพื่อนสนิทของชั้นก็เข้ามาทักทายอย่างสนิทสนม ถึงแม้ในตอนนี้เธอจะมีตำแหน่งเป็นถึงผู้ปกครองอาณาจักร แต่เธอก็ยังคงทำตัวเป็นเด็กเหมือนเมื่อสมัยที่พวกเรายังเรียนอยู่ในโรงเรียน

ตามจริงแล้วชั้นคิดว่าเธอน่าจะปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับฐานะซักหน่อยแต่ก็อดรู้สึกดีใจที่เธอยังปฏิบัติกับชั้นอย่างสนิทสนมไม่ได้

หลังจากนั้นพวกเราก็ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ทำให้ชั้นตกใจมากที่สุดก็คือเรื่องที่เธอเสนอให้ชั้นและเด็กสาวอีกหลายคนไปดูตัวกับว่าที่สามีของเธอ

จริงอยู่ว่าพวกเรานั้นเป็นเด็กสาวในวัยที่ควรจะเริ่มหาคู่ครอง แต่การที่จะมีสามีคนเดียวกับเพื่อนสนิทนั้นมันก็ทำให้ชั้นรู้สึกแปลกใจอยู่ดี ถึงอย่างงั้นการดูตัวในครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับชั้นเช่นเดียวกัน

เพราะหากเลือกได้แล้วล่ะก็ การได้แต่งงานกับผู้ชายที่มีฐานะดีนั้นย่อมดีกว่าผู้ชายทั่วไปอย่างแน่นอน แต่กับบุตรสาวพ่อค้าหน้าตาธรรมดาอย่างชั้นจะทำให้เค้าสนใจได้หรือเปล่านะ

เด็กสาวคนอื่นๆเองก็ดูจะมีความคิดใกล้เคียงกับชั้น พวกเราทุกคนจึงตกลงยินยอมที่จะเข้าร่วมงานดูตัวและออกเดินทางไปหา ทัตสึยะซามะ ว่าที่สามีของท่านหญิงยูฟีน่าคนนั้น

เมื่อมาถึงยังคฤหาสน์ของทัตสึยะซามะ พวกเราก็ถูกพามารอยังห้องรับรองหรูหราแห่งหนึ่ง ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทมนต์แปลกๆและขนมหวานที่ดูสวยงามมากมายวางเรียงรายอยู่

เค้กช็อคโกแลตเนี่ยรสชาติเยี่ยมจริงๆเลยนะคะ แม้แต่เค้กจากร้านเค้กชื่อดังในเมืองหลวงของจักรวรรดิก็ไม่มีทางสู้ได้แน่ๆเลยค่ะ

เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ชั้นเองก็ได้ชินเจ้าเค้กช็อคโกแลตไปแล้วเช่นเดียวกัน มันเป็นรสชาติที่ไม่อาจจะบรรยายได้เลยว่าเป็นอย่างไร ไม่เพียงแค่เค้กช็อคโกแลตเท่านั้นแต่ของหวานและเครื่องดื่มอื่นๆก็เรียกได้มีรสชาติที่ล้ำลึกจนไม่อาจจะบรรยายได้เช่นเดียวกัน

ทานมากไปจะอ้วนเอานะคะ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็มีหวังถูกทัตสึยะซามะรังเกียจเอาแน่ๆเลยค่ะ

ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ชั้นจะมาขอสมัครมาเป็นเมดของที่นี่แทนล่ะ

ถ้าท่านหญิงจะมาเป็นเมดล่ะก็ ดิชั้นมาสมัครเป็นคนสวนของที่นี่บ้างดีมั๊ยคะ

นั่นสินะคะ ถึงแม้ฐานะและหน้าตาของดิชั้นจะสู้ท่านหญิงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดูแลบ้านล่ะก็ ดิชั้นไม่แพ้ใครแน่ๆค่ะ

เด็กสาวแต่ละคนต่างพูดคุยในเรื่องที่ตัวเองถนัดออกมา สำหรับพวกเราทุกคนแล้วนั้น การได้มาทำงานรับใช้ทัตสึยะซามะอยู่ที่นี่ก็อาจจะดีกว่าไปแต่งงานกับพวกลูกขุนนางจอมปลอม หรือการเป็นไปภรรยาน้อยของขุนนางชั้นสูงก็ได้

แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็ยังคงรู้สึกกังวล เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาจะสู้คนอื่นไม่ได้แล้ว ชั้นก็ยังไม่ได้มีความถนัดในด้านงานบ้านเหมือนเด็กสาวคนอื่น แล้วแบบนี้ทัตสึยะซามะจะยอบรับชั้นเอาไว้มั๊ยนะ

หลังจากทานขนมหวานและพูดคุยกันหลายเรื่องไปครู่หนึ่งประตูของห้องรับรองก็ถูกเปิดออก อีกฝั่งของประตูนั้นมีชายหนุ่มหน้าตาดีที่เดินเข้ามาพร้อมกับโอบไหล่ท่านหญิงยูฟีน่าและโรน่าซัง

ดิชั้น ไอเชีย โรสเบล เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าพบในวันนี้ค่ะ

เมื่อทัตสึยะซามะเดินมาถึง เด็กสาวทุกคนก็ลุกขึ้นเพื่อกล่าวคำทักทาย ชั้นเองลุกขึ้นจัดท่าทางและเสื้อผ้าของตัว ก่อนจับชายกระโปรงทั้งสองข้างยกขึ้น ย่อตัวลง และกล่าวคำทักทายออกไปเช่นเดียวกัน

เพื่อนๆของเธอเนี่ยน่ารักกันทุกคนเลยนะ ยูฟี่

ทัตสึยะซามะกล่าวชมเด็กสาวทุกคนด้วยรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยน การปฏิบัติตัวของเค้านั้น เรียกได้ว่าแตกต่างจากบรรดาลูกขุนนางทั่วไปที่มักจะเย่อหยิ่งและถือตัวเป็นอย่างมาก

ถ้าชอบล่ะก็ ช่วยรับพวกเธอทั้งหมดเอาไว้ได้มั๊ยล่ะคะ

ท่านหญิงยูฟีน่าเองก็ตอบกลับทัตสึยะซามะด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน ภาพของทั้งคู่ที่สบตากันและกันนั้น ทำเอาหัวใจของชั้นเริ่มรู้สึกสั่นไหวไปด้วยความตื่นเต้น จากที่ได้ฟังเรื่องราวของท่านหญิงมานั้น ในตอนแรกชั้นคิดว่าท่านหญิงทำดีกับเค้าเพราะมีความจำเป็น แต่ภาพที่เห็นในตอนนี้นั้น กลับเป็นภาพของเด็กสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความรักอย่างแท้จริง

เหหห ทั้งหมดเลยงั้นเหรอ.......นั่นสินะจะให้ปฏิเสธคำขอของว่าที่ภรรยาที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักก็คงจะไม่ดีซะด้วย........เอ.....จะว่าไปแล้วช่วงนี้ผมก็กำลังขาดคนช่วยงานด้านการเงินอยู่พอดีเลย พวกเธอมีใครถนัดทำบัญชีการเงิน หรือไม่ก็การจัดการดูแลสต็อกสินค้าบ้างไหมนะ

ด ดิชั่นทำเป็นค่ะ!.....อ๊ะ!....ขอโทษที่เสียมารยาทด้วยค่ะ

เนื่องจากได้ยินคำพูดที่ไม่เคยคิดฝัน ชั้นจึงเผลอส่งเสียงดังออกไป หากเป็นเรื่องของหน้าตาและงานบ้านชั้นอาจจะสู้ใครไม่ได้ แต่หากเป็นเรื่องธุรกิจหรือการค้าล่ะก็ ชั้นมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม

แต่ทั้งๆที่ชั้นจะทำตัวเสียมารยาทออกไป ทัตสึยะซามะก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าหรือมีท่าทีโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เป็นจริงอย่างที่โรน่าซังและท่านหญิงพูด ทัตสึยะซามะนั้นเป็นชายหนุ่มที่อ่อนโยนอย่างแท้จริง

 เห.......เธอเป็นลูกสาวของพวกพ่อค้างั้นสินะ เคยช่วยงานพวกนี้มาก่อนงั้นเหรอ

ทัตสึยะซามะเดินเข้ามาตรงหน้าและยื่นมือมาสัมผัสที่ปลายคางของชั้นอย่างนุ่มนวล เพียงแค่นั้นก็ทำให้หัวใจที่ของชั้นเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา นี่ตัวชั้นเองก็กำลังจะกลายเป็นเหมือนกันท่านหญิงยูฟีน่าอย่างนั้นเหรอ.....

ค...ค่ะ ปะ...ปกติเวลาอยู่ที่บ้าน ชั้นก็คอยช่วยคุณแมะ คอยช่วยคุณแม่ตรวจบัญชีและบันทึกค่าใช้จ่ายของร้านค้าอยู่บ่อยๆน่ะค่ะ

ทัตสึยะซามะได้ถามเรื่องราวของชั้นอีกหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้า แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นชั้นกลับรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว......นี่ชั้น เป็นอะไร กันนะ.....

แต่ในระหว่างที่ชั้นกำลังเล่าเรื่องของงานต่างๆที่เคยทำอยู่นั้น เมดสาวผมสีแดงที่หน้าตาน่ารักจนหาใครเปรียบได้ยากก็เข้ามาในห้อง เมดสาวคนนั้นเดินตรงมาหาทัตสึยะซามะโดยไม่สนใจท่านหญิงยูฟีน่าและคนอื่นๆ 



ถ้าหากชั้นเข้าใจผิดไม่เธอคงจะเป็นมาเรียซามะ เมดสาวคนโปรดของทัตสึยะซามะที่ท่านหญิงยูฟีน่าเคยพูดถึง ว่ากันว่าเธอนั้นมีทั้งอำนาจและความสามารถในการสั่งการกองทัพระดับเดียวกับท่านหญิงยูฟีน่าเลยทีเดียว

มาเรียซามะเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของทัตสึยะซามะด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้สีหน้าที่แสนอ่อนโยนก่อนหน้านี้ของทัตสึยะซามะเปลี่ยนไปในทันที ถึงแม้ชั้นจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่คิดว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

ยูฟี่ เธอช่วยจัดการต่อทีนะ

ทัตสึยะซามะพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะพาโรน่าซังและมาเรียซามะออกไปจากห้องอย่างเร่งรีบ
 

16 ความคิดเห็น:

  1. เกิดไรขึ้นฟะ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณคร้าบบบ อยากรู้จังว่าเกิดอะไรขึ้น

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รอก่อนครับ ไม่เกิน 7 วันแน่นอน

      ลบ
  3. ความคิดท่จะกลับโลกเดิมคงไม่เหลือแล้ว...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยังมีความคิดจะส่งบางคนที่อยากกลับไปบ้านกลับไปอยู่ครับ

      ลบ
  4. ตอนต่อไปอยู่หนายยยยย!!!

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ8 พฤษภาคม 2559 เวลา 15:14

    มาเรียจังของพวกเรามาถึงขั้นนี้ได้แล้วรึนี่ ผมละปลื้มจริงๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สกิลเรียนรู้รวดเร็วแสดงผลได้สุดยอดเลยครับ
      สกิลมีดของมาเรียทะลุเวล 5 ไปแล้ว -0-

      ลบ