-- มุมมองของไอเชีย --
สงครามนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ
แม้แต่ในกลุ่มของขุนนางของจักรวรรดิด้วยกันเอง
ก็ยังมีอยู่หลายครั้งที่พวกเค้าจะก่อสงครามฆ่าฟัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเพราะผลประโยชน์ที่ไม่ลงรอยกัน
แต่ถึงแม้สงครามจะเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์
ถึงจะเป็นแบบนั้นชั้นก็ยังรู้สึกไม่ชอบช่วงเวลาที่เกิดสงครามนัก แต่ถึงแม้จะไม่ชอบซักแค่ไหน
ตัวชั้นที่เป็นเพียงบุตรสาวของพ่อค้าธรรมดาๆคนหนึ่ง คงจะไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือออกความเห็นใดๆ
「จดหมาย.....เหรอคะ......」
วันหนึ่งในช่วงปลายเดือน 12
ชั้นได้รับจดหมายจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ไม่ได้พบกันมานาน ยูฟีน่า วอน โรเซนเบิร์ก
ซึ่งเธอนั้นเป็นถึงบุตรสาวคนรองของตระกูลโรเซนเบิร์กที่ปกครองทวีปอากัสเตรียมาตั้งแต่สมัยก่อน
แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่เคยที่จะถือตัวหรือวางอำนาจแต่อย่างใด
จากสงครามระหว่างพวกขุนนางตั้งแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมานั้น
ชั้นได้ทราบข่าวมาว่าตระกูลของเธอได้พ่ายแพ้ให้กับบารอนวิลเลี่ยม
และนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ชั้นรู้สึกกังวลใจมาตลอดหลายวัน
เพราะงั้นการที่ได้รับจดหมายเชิญให้ไปพบเธอในเวลานี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ชั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อชั้นได้อ่านเรื่องราวในจดหมายและรู้ถึงสถานที่ที่ได้รับเชิญ
ชั้นก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก สถานที่ในจดหมายที่ว่านั้นก็คือ ปราสาทฟีเรน่า
ศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรออร์ฟีน่า
หากพูดถึงอาณาจักรออร์ฟีน่าแล้วล่ะก็
ผู้คนทั่วทั้งเมืองเวลิสในตอนนี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ผู้คนมากมายต่างพากันพูดถึงเรื่องราวของอาณาจักรใหม่แห่งนี้อยู่แทบทุกวัน
อาณาจักรออร์ฟีน่านั้นแม้จะเป็นอาณาจักรแห่งใหม่ที่พึ่งสร้างขึ้นไม่นาน
แต่ผู้คนก็รู้กันดีว่าเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่ง กำลังทหารของอาณาจักรออร์ฟีน่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นทหารฝีมือดี
ชุดเกราะและอาวุธที่พวกเค้าใช้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นของชั้นเลิศ หากเข้าปะทะกันล่ะก็ทหารจักรวรรดิคงไม่มีทางชนะ.....ไม่สิ....บางทีแค่จะสร้างความเสียหายให้ก็ยังถือเป็นเรื่องยาก.....
ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของกำลังทหาร
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารและขนมหวานที่แสนอร่อย
เรื่องราวของยานพาหนะเวทมนต์และอุปกรณ์เวทมนต์มากมายที่น่าเหลือเชื่อ หลายสิ่งหลายอย่างที่แม้แต่คิดถึงก็ยังไม่เคยนั้น
ได้กลายเป็นเรื่องเล่าลือไปทั่วทั้งทวีปอากัสเตรียในตอนนี้
และก็เป็นเพราะเรื่องราวเหล่านี้ จึงทำให้เหล่าคนหนุ่มสาวมากมายพากันออกเดินทางไปยังอาณาจักรออร์ฟีน่าเพื่อแสวงหาสิ่งใหม่ๆ
อาณาจักรออร์ฟีน่าตอนนี้ได้สร้างแรงผลักดันและกำลังใจให้กับผู้คนที่กำลังอดอยากได้เป็นอย่างมาก
「คุณแม่คะ........นู๋……」
「ไปทำในสิ่งที่ลูกอยากทำเถอะจ้ะ
แต่ถ้ามีเวลาว่างก็แวะกลับมาเยี่ยมกันบ้างนะจ๊ะ」
หลังจากเล่าเรื่องราวในจดหมายให้กับครอบครัวได้ฟัง
คุณพ่อและคุณแม่ต่างก็สนับสนุนให้ชั้นเดินทางไปหาท่านหญิงในทันที
ถึงแม้ครอบครัวของพวกเราจะทำการค้ามากมายมาหลายรุ่นแต่ในตอนนี้มันก็ถึงทางตันแล้ว
การเดินทางของชั้นในครั้งนี้จึงถือเป็นการค้นหาสิ่งใหม่ๆและเปิดโอกาสให้กับครอบครัวในอนาคต
หลังจากเก็บข้าวของและเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย
ชั้นก็ออกเดินทางในช่วงเช้าของวันถัดมา
อาณาจักรออร์ฟีน่านั้นอยู่ใกล้กับเมืองเวลิสมาก แถมตลอดเส้นทางยังเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นขบวนของพวกพ่อค้า หรือแม้แต่กลุ่มของนักผจญภัย
นั่นจึงทำให้ตลอดเส้นทางนั้นไร้ซึ่งอันตรายใดๆ
หลังจากผ่านไป 2 วัน ชั้นก็มาถึงยังชายแดนของอาณาจักรออร์ฟีน่าหรือก็คือป้อมปราสาทการที่สอง
ที่ป้อมปราการแห่งนี้ชั้นก็ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่มีจุดหมายเดียวกัน เธอเป็นเด็กสาวที่น่ารัก
ร่าเริงและใจดี
เธอรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรออร์ฟีน่ามากมายและคอยช่วยเหลือชั้นเวลาหลงทางอยู่เสมอ
เมื่อมาถึงยังปราสาทฟีเรน่า
เพื่อนสนิทของชั้นก็เข้ามาทักทายอย่างสนิทสนม ถึงแม้ในตอนนี้เธอจะมีตำแหน่งเป็นถึงผู้ปกครองอาณาจักร
แต่เธอก็ยังคงทำตัวเป็นเด็กเหมือนเมื่อสมัยที่พวกเรายังเรียนอยู่ในโรงเรียน
ตามจริงแล้วชั้นคิดว่าเธอน่าจะปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับฐานะซักหน่อยแต่ก็อดรู้สึกดีใจที่เธอยังปฏิบัติกับชั้นอย่างสนิทสนมไม่ได้
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง
แต่เรื่องที่ทำให้ชั้นตกใจมากที่สุดก็คือเรื่องที่เธอเสนอให้ชั้นและเด็กสาวอีกหลายคนไปดูตัวกับว่าที่สามีของเธอ
จริงอยู่ว่าพวกเรานั้นเป็นเด็กสาวในวัยที่ควรจะเริ่มหาคู่ครอง
แต่การที่จะมีสามีคนเดียวกับเพื่อนสนิทนั้นมันก็ทำให้ชั้นรู้สึกแปลกใจอยู่ดี
ถึงอย่างงั้นการดูตัวในครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับชั้นเช่นเดียวกัน
เพราะหากเลือกได้แล้วล่ะก็
การได้แต่งงานกับผู้ชายที่มีฐานะดีนั้นย่อมดีกว่าผู้ชายทั่วไปอย่างแน่นอน
แต่กับบุตรสาวพ่อค้าหน้าตาธรรมดาอย่างชั้นจะทำให้เค้าสนใจได้หรือเปล่านะ
เด็กสาวคนอื่นๆเองก็ดูจะมีความคิดใกล้เคียงกับชั้น
พวกเราทุกคนจึงตกลงยินยอมที่จะเข้าร่วมงานดูตัวและออกเดินทางไปหา ทัตสึยะซามะ
ว่าที่สามีของท่านหญิงยูฟีน่าคนนั้น
เมื่อมาถึงยังคฤหาสน์ของทัตสึยะซามะ
พวกเราก็ถูกพามารอยังห้องรับรองหรูหราแห่งหนึ่ง
ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทมนต์แปลกๆและขนมหวานที่ดูสวยงามมากมายวางเรียงรายอยู่
「เค้กช็อคโกแลตเนี่ยรสชาติเยี่ยมจริงๆเลยนะคะ
แม้แต่เค้กจากร้านเค้กชื่อดังในเมืองหลวงของจักรวรรดิก็ไม่มีทางสู้ได้แน่ๆเลยค่ะ」
เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
ชั้นเองก็ได้ชินเจ้าเค้กช็อคโกแลตไปแล้วเช่นเดียวกัน
มันเป็นรสชาติที่ไม่อาจจะบรรยายได้เลยว่าเป็นอย่างไร ไม่เพียงแค่เค้กช็อคโกแลตเท่านั้นแต่ของหวานและเครื่องดื่มอื่นๆก็เรียกได้มีรสชาติที่ล้ำลึกจนไม่อาจจะบรรยายได้เช่นเดียวกัน
「ทานมากไปจะอ้วนเอานะคะ
ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็มีหวังถูกทัตสึยะซามะรังเกียจเอาแน่ๆเลยค่ะ」
「ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็
ชั้นจะมาขอสมัครมาเป็นเมดของที่นี่แทนล่ะ」
「ถ้าท่านหญิงจะมาเป็นเมดล่ะก็
ดิชั้นมาสมัครเป็นคนสวนของที่นี่บ้างดีมั๊ยคะ」
「นั่นสินะคะ
ถึงแม้ฐานะและหน้าตาของดิชั้นจะสู้ท่านหญิงไม่ได้
แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดูแลบ้านล่ะก็ ดิชั้นไม่แพ้ใครแน่ๆค่ะ」
เด็กสาวแต่ละคนต่างพูดคุยในเรื่องที่ตัวเองถนัดออกมา
สำหรับพวกเราทุกคนแล้วนั้น
การได้มาทำงานรับใช้ทัตสึยะซามะอยู่ที่นี่ก็อาจจะดีกว่าไปแต่งงานกับพวกลูกขุนนางจอมปลอม
หรือการเป็นไปภรรยาน้อยของขุนนางชั้นสูงก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็ยังคงรู้สึกกังวล
เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาจะสู้คนอื่นไม่ได้แล้ว
ชั้นก็ยังไม่ได้มีความถนัดในด้านงานบ้านเหมือนเด็กสาวคนอื่น แล้วแบบนี้ทัตสึยะซามะจะยอบรับชั้นเอาไว้มั๊ยนะ
หลังจากทานขนมหวานและพูดคุยกันหลายเรื่องไปครู่หนึ่งประตูของห้องรับรองก็ถูกเปิดออก
อีกฝั่งของประตูนั้นมีชายหนุ่มหน้าตาดีที่เดินเข้ามาพร้อมกับโอบไหล่ท่านหญิงยูฟีน่าและโรน่าซัง
「ดิชั้น ไอเชีย โรสเบล
เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าพบในวันนี้ค่ะ」
เมื่อทัตสึยะซามะเดินมาถึง เด็กสาวทุกคนก็ลุกขึ้นเพื่อกล่าวคำทักทาย ชั้นเองลุกขึ้นจัดท่าทางและเสื้อผ้าของตัว
ก่อนจับชายกระโปรงทั้งสองข้างยกขึ้น ย่อตัวลง และกล่าวคำทักทายออกไปเช่นเดียวกัน
「เพื่อนๆของเธอเนี่ยน่ารักกันทุกคนเลยนะ
ยูฟี่」
ทัตสึยะซามะกล่าวชมเด็กสาวทุกคนด้วยรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยน การปฏิบัติตัวของเค้านั้น
เรียกได้ว่าแตกต่างจากบรรดาลูกขุนนางทั่วไปที่มักจะเย่อหยิ่งและถือตัวเป็นอย่างมาก
「ถ้าชอบล่ะก็ ช่วยรับพวกเธอทั้งหมดเอาไว้ได้มั๊ยล่ะคะ」
ท่านหญิงยูฟีน่าเองก็ตอบกลับทัตสึยะซามะด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน
ภาพของทั้งคู่ที่สบตากันและกันนั้น
ทำเอาหัวใจของชั้นเริ่มรู้สึกสั่นไหวไปด้วยความตื่นเต้น จากที่ได้ฟังเรื่องราวของท่านหญิงมานั้น
ในตอนแรกชั้นคิดว่าท่านหญิงทำดีกับเค้าเพราะมีความจำเป็น แต่ภาพที่เห็นในตอนนี้นั้น
กลับเป็นภาพของเด็กสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความรักอย่างแท้จริง
「เหหห
ทั้งหมดเลยงั้นเหรอ.......นั่นสินะจะให้ปฏิเสธคำขอของว่าที่ภรรยาที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักก็คงจะไม่ดีซะด้วย........เอ.....จะว่าไปแล้วช่วงนี้ผมก็กำลังขาดคนช่วยงานด้านการเงินอยู่พอดีเลย
พวกเธอมีใครถนัดทำบัญชีการเงิน หรือไม่ก็การจัดการดูแลสต็อกสินค้าบ้างไหมนะ」
「ด ดิชั่นทำเป็นค่ะ!.....อ๊ะ!....ขอโทษที่เสียมารยาทด้วยค่ะ」
เนื่องจากได้ยินคำพูดที่ไม่เคยคิดฝัน ชั้นจึงเผลอส่งเสียงดังออกไป
หากเป็นเรื่องของหน้าตาและงานบ้านชั้นอาจจะสู้ใครไม่ได้ แต่หากเป็นเรื่องธุรกิจหรือการค้าล่ะก็
ชั้นมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม
แต่ทั้งๆที่ชั้นจะทำตัวเสียมารยาทออกไป ทัตสึยะซามะก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าหรือมีท่าทีโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย
เป็นจริงอย่างที่โรน่าซังและท่านหญิงพูด ทัตสึยะซามะนั้นเป็นชายหนุ่มที่อ่อนโยนอย่างแท้จริง
「เห.......เธอเป็นลูกสาวของพวกพ่อค้างั้นสินะ
เคยช่วยงานพวกนี้มาก่อนงั้นเหรอ」
ทัตสึยะซามะเดินเข้ามาตรงหน้าและยื่นมือมาสัมผัสที่ปลายคางของชั้นอย่างนุ่มนวล
เพียงแค่นั้นก็ทำให้หัวใจที่ของชั้นเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา
นี่ตัวชั้นเองก็กำลังจะกลายเป็นเหมือนกันท่านหญิงยูฟีน่าอย่างนั้นเหรอ.....
「ค...ค่ะ ปะ...ปกติเวลาอยู่ที่บ้าน ชั้นก็คอยช่วยคุณแมะ
คอยช่วยคุณแม่ตรวจบัญชีและบันทึกค่าใช้จ่ายของร้านค้าอยู่บ่อยๆน่ะค่ะ」
ทัตสึยะซามะได้ถามเรื่องราวของชั้นอีกหลายเรื่อง
ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้า แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นชั้นกลับรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว......นี่ชั้น
เป็นอะไร กันนะ.....
แต่ในระหว่างที่ชั้นกำลังเล่าเรื่องของงานต่างๆที่เคยทำอยู่นั้น
เมดสาวผมสีแดงที่หน้าตาน่ารักจนหาใครเปรียบได้ยากก็เข้ามาในห้อง เมดสาวคนนั้นเดินตรงมาหาทัตสึยะซามะโดยไม่สนใจท่านหญิงยูฟีน่าและคนอื่นๆ

ถ้าหากชั้นเข้าใจผิดไม่เธอคงจะเป็นมาเรียซามะ เมดสาวคนโปรดของทัตสึยะซามะที่ท่านหญิงยูฟีน่าเคยพูดถึง ว่ากันว่าเธอนั้นมีทั้งอำนาจและความสามารถในการสั่งการกองทัพระดับเดียวกับท่านหญิงยูฟีน่าเลยทีเดียว
มาเรียซามะเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของทัตสึยะซามะด้วยสีหน้านิ่งเฉย
แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้สีหน้าที่แสนอ่อนโยนก่อนหน้านี้ของทัตสึยะซามะเปลี่ยนไปในทันที
ถึงแม้ชั้นจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่คิดว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
「ยูฟี่ เธอช่วยจัดการต่อทีนะ」
ทัตสึยะซามะพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะพาโรน่าซังและมาเรียซามะออกไปจากห้องอย่างเร่งรีบ
เกิดไรขึ้นฟะ ขอบคุณครับ
ตอบลบนั่นสิครับ อะไรกันนะ
ลบขอบคุณคร้าบบบ อยากรู้จังว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอบลบรอก่อนครับ ไม่เกิน 7 วันแน่นอน
ลบความคิดท่จะกลับโลกเดิมคงไม่เหลือแล้ว...
ตอบลบยังมีความคิดจะส่งบางคนที่อยากกลับไปบ้านกลับไปอยู่ครับ
ลบคำเดียวว่า ค้าง!!
ตอบลบตอนต่อไปอยู่หนายยยยย!!!
ตอบลบกำลังแต่งครับ
ลบค้างงะ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสงสัยงานจะเข้า
ตอบลบไม่น่ารอดนะ -0-
ลบมาเรียจังของพวกเรามาถึงขั้นนี้ได้แล้วรึนี่ ผมละปลื้มจริงๆ
ตอบลบสกิลเรียนรู้รวดเร็วแสดงผลได้สุดยอดเลยครับ
ลบสกิลมีดของมาเรียทะลุเวล 5 ไปแล้ว -0-