-- มุมมองของโรน่า --
ณ ระเบียงของปราสาทเวลล่า ช่วงเวลาเช้ามืดของวันที่
11 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836
ชั้นกำลังสัมผัสและมองดูแหวนอัญมณีสีน้ำทะเลที่สะท้อนกับแสงของดวงจันทร์จนเกิดเป็นประกายบนนิ้วมือข้างซ้าย
วันนี้เป็นวันที่ 5
แล้วนับตั้งแต่กองทหารจากเมืองเอเกียเข้าปิดกั้นสะพานและถนนทุกเส้นที่เชื่อมต่อเมืองเวลล่ากับจักรวรรดิ
สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถึงแม้จะไม่รู้สาเหตุแต่มันก็ทำให้กองอัศวินที่ 1
และพวกเราที่อยู่ในเมืองเวลล่าถูกโดดเดี่ยว
ฝ่ายตรงข้ามนั้นอ้างว่าเป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านเคานต์เกรฟี่
วอน โรเซนเบิร์ก ผู้ปกครองเมืองกูสตาฟและอาณาเขตของจักรวรรดิเอลติซในทวีปอากัสเตรีย
ถึงแม้จะเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อแต่ตราประทับของท่านเคานต์เกรฟี่ที่อยู่ในเอกสารคำสั่งนั้นเป็นของจริง
กับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ท่านโรเดริกและท่านหญิงเซลฟีน่าได้ยื่นคำร้องขอให้ทหารจากเมืองเอเกียพวกนั้นกลับไปตรวจสอบคำสั่งอีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
เนื่องจากเมืองเวลล่านั้นเป็นป้อมปราการชายแดนที่ไม่มีพื้นที่สำหรับเพาะปลูก
พวกเราจึงจำเป็นต้องลำเลียงเสบียงอาหารมาจากเมืองเอเกีย
ดังนั้นการถูกปิดเส้นทางทั้งหมดทำให้ผู้คนในเมืองและบรรดาทหารต่างพากันกังวล
นอกจากนั้นพวกเรายังไม่ได้รับข่าวสารใดๆจากกลุ่มอัศวินที่ไปส่งข่าวเลยแม้แต่น้อย
เกิดอะไรขึ้นกับพวกเค้า เกิดอะไรขึ้นกับเมืองกูสตาฟกันแน่นะ.....
「ทัตสึยะซามะ......」
ชั้นพึมพำออกมาถึงชายอันเป็นที่รัก ชายหนุ่มที่ชอบทวงหนี้และกลั่นแกล้งชั้นอยู่เสมอ
ในคืนก่อนที่เค้าจะกลับไปนั้น
ทัตสึยะซามะได้มอบแหวนอัญมณีสีน้ำทะเลวงนี้ให้กับชั้น
มันเป็นแหวนต้องสาปที่จะคร่าชีวิตชั้นหากคิดจะหลบหนี
แต่ถึงแม้มันจะเป็นแหวนต้องสาป ชั้นก็ยังรู้สึกดีใจที่เค้าได้มอบมันให้กับผู้หญิงอย่างชั้น
และถึงแม้ชั้นจะตัดสินใจเอาไว้แล้วว่าจะอยู่เคียงข้างท่านหญิง แต่หากซักวันหนึ่ง
หากท่านหญิงไม่ต้องการชั้นแล้วล่ะก็....บางที........
「ทั้งๆที่ตัดสินใจไปแล้วแท้ๆ.......ทำไมกันนะ.......ทำไมชั้นถึงได้คิดถึงเค้ามากมายถึงขนาดนี้......」
「คิดถึงทัตสึยะซามะเหรอจ๊ะ โร น่า จางงง!」
「คะ คลอเดีย...!」
「ดีจังเลยนะ
ได้จูบกับผู้ชายที่ทั้งเก่งกาจและหล่อเหลาแบบนั้น
ชั้นเองก็อยากจะเจอผู้ชายดีดีแบบนั้นบ้างเหมือนกัน......」
「ดะ ดะ เด๋วสิ พูดอะไรของเธอ กะ กัน น่ะ」
ชั้นพยายามบ่ายเบี่ยงกับคำพูดของคลอเดีย ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงที่คืนนั้นขั้นถูกขโมยเอาจูบแรกไป
แต่หากจะให้ยอมรับกับเรื่องแบบนี้....มันก็น่าอายเกินไป....
「ไม่ใช่แค่ชั้นหรอกนะ ทั้งท่านหญิง
ทั้งพวกเมด คืนนั้นทุกคนก็มาแอบดูเธอกันทั้งนั้น......」
「วะ ว่า ไงนะ….!!? 」
「ตอนแรกน่ะนะ
ชั้นกับท่านหญิงคิดว่าเธอจะหนีไปตามทัตสึยะซามะไปแล้วซะอีกแหนะ......」
คลอเดียยังคงพูดต่อไปโดยไม่สนใจชั้นที่กำลังเขินจนหน้าแดงก่ำเลยแม้แต่นิด
「ใช่แล้วล่ะโรน่า
ชั้นน่ะคิดว่าเธอจะหนีไปแต่งงานซะอีกน๊า」
「ทะ ท่านหญิง!!?」
ไม่ทันรู้ตัว....ท่านหญิงเซลฟีน่าก็พูดขึ้นมาพร้อมกับโอบกอดตัวชั้นจากทางด้านหลัง
พอถูกท่านหญิงโอบกอดแบบนี้แล้ว ความกังวลมากมายในหัวใจของชั้นก็พอจะลดลงได้บ้าง
「ไม่ต้องห่วงหรอกนะโรน่า
ทัตสึยะซามะน่ะไม่มีทางปล่อยให้คนรักของเค้าต้องเป็นอันตรายหรอก เพราะงั้นเค้าจะต้องมาช่วยพวกเราแน่นอน
ไม่แน่ว่าบางทีอาจจะเป็นวันนี้ก็ได้นะจ๊ะ」
「วะ วันนี้.....ตะ...แต่พวกทหารของเมืองเอเกียปิดล้อมทุกเส้นทาง......」
ไม่สิ.....ต่อให้ถูกปิดล้อมทุกเส้นทางแต่ทัตสึยะซามะก็ยังสามารถใช้กริฟฟอนมาหาพวกเราได้
แต่ทำไมถึงต้องเป็นวันนี้ล่ะ.....
กับชั้นที่กำลังทำท่าทางสงสัยอยู่นั้น ท่านหญิงก็ยิ้มตอบ และเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ชั้นฟัง
ส่วนคลอเดียนั้นดูเหมือนจะรู้เรื่องทุกอย่างอยู่แล้ว เพราะงั้นเธอจึงไม่มีท่าทางแปลกใจเลยแม้แต่น้อย
ทั้งๆที่พวกเราแทบจะอยู่ด้วยกันตลอด แต่ชั้นกลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยงั้นเหรอ.....
เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวาน
หน่วยสอดแนมของพวกเราได้รายงานข้อมูลแปลกๆเข้ามา
ทหารของเมืองเอเกียที่ปิดกั้นเส้นทางอยู่ตามจุดต่างๆนั้น
ได้ถูกกองทหารลึกลับในชุดเกราะสีดำเข้าโจมตี
กองทหารลึกลับเหล่านั้นมีฝีมือที่เรียกได้ว่าน่าอัศจรรย์
ไม่แน่ว่าบางทีพวกนั้นอาจจะมีฝีมือเหนือกว่าอัศวินของกองอัศวินที่ 1 เสียอีก
พวกเค้าเพียงแค่ไม่ถึง 10 คนก็สามารถกวาดล้างกองทหารกว่า 100
คนที่ปิดกั้นเส้นทางอยู่ตามจุดต่างๆได้โดยไร้บาดแผล
มันเป็นเรื่องที่ยิ่งกว่าน่าเหลือเชื่อ
ราวกับเป็นเพียงเรื่องโกหกที่ถูกกุขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนหวาดกลัว ไม่เพียงแค่เก่งกาจแต่กองทหารพวกนั้นยังมีพาหนะสร้างจากเหล็กที่วิ่งได้รวดยิ่งกว่าเจลโล่ความเร็วสูงหลายเท่าตัว
ไร้ทางสู้ ไร้ทางหนี กองทหารของเมืองเอเกียถูกกำจัดไปคนแล้วคนเล่าจนหมดสิ้น
กับเรื่องที่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น
ท่านหญิงคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของทัตสึยะซามะ
มีเพียงพวกเค้าเท่านั้นที่น่าจะมีพลังมากพอจะทำเรื่องแบบนี้ได้.....
ไม่สินอกจากพวกเค้าแล้ว.....ก็คงจะมีเพียงเผ่าปีศาจที่มีตัวตนอยู่เพียงในหนังสือนิทานเท่านั้น.......
「ถ้าเป็นทัตสึยะซามะล่ะก็คงสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้ในวันเดียว.....」
ก่อนที่ท่านหญิงจะพูดจบพวกเราก็ได้ยินเสียงแตรสัญญาณดังขึ้น มันไม่ได้เป็นเสียงแตรสัญญาณเตือนภัยสงคราม
แต่เป็นเสียงสัญญาณสำหรับร้องขอการเจรจา
「แงงงงงงว----แงงงงงงว----แงงงงงงว----!!!」
「แงงงงงงว----แงงงงงงว----!!!」
กับเสียงที่ได้ยินนั้นร่างกายของชั้นก็ขยับไปเองโดยไม่รู้ตัว
และกว่าจะรู้สึกตัว ชั้นก็ได้มาอยู่ที่หน้าประตูเมืองเสียแล้ว
ที่หน้าประตูเมืองเวลล่า
มียานพาหนะรูปร่างประหลาด 2 คันจอดเอาไว้อยู่
มันเป็นยานพาหนะที่สร้างจากเหล็กสีดำตามที่ชั้นได้ฟังจากท่านหญิง
และเมื่อชั้นเดินเข้าไปใกล้ ยานพาหนะเหล่านั้นก็เปิดออก
เด็กสาวผมสีชมพูที่ดูคุ้นเคยกระโดดลงมาจากยานพาหนะคันนั้น
เธอเป็นเด็กสาวที่ข้ารับใช้ของตระกูลโรเซนเบิร์กอย่างชั้นไม่อาจจะลืมได้ลง
「ทะ ท่านหญิง ยูฟีน่า!!…..มาทำอะไร...เอ้ย....ขอโทษค่ะ.....ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะท่านหญิง
กลับมาจากเมืองมาลอฟตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย」
「โร น่า จางงงงง คิด ถึง จัง เลย น๊า !!!!」
เหมือนกับทุกครั้งที่ท่านหญิงกลับมาบ้านเธอจะพุ่งเข้ามากลั่นแกล้งชั้นก่อนเสมอ
ท่านหญิงตัวน้อยเมื่อหลายปีก่อนนั้น ในตอนนี้ได้เติบโตกลายเป็นหญิงสาวที่งดงาม แต่ทั้งที่กลายเป็นหญิงสาวที่งดงามก็ยังไม่เลิกนิสัยแปลกๆเสียที.....
「มะ ไม่ นะคะ! อย่าดึงกระโปรงชั้นสิคะ
ท่านหญิงโตแล้วนะคะ!!」
「เอ๋!! แต่ชั้นอยากจะเห็นชั้นในที่เคยซื้อให้เธอเมื่อปีก่อนนี่นา」
「ท่านหญิงคะ ทะ ที่นี่มันหน้าเมืองนะคะ
หน้าเมืองค่ะ!!」
「เอ๋......จะบอกว่าถ้าเป็นที่อื่นจะยอมโชว์ให้ทุกคนดูงั้นเหรอ
ชั้นไม่อยู่ด้วยแค่ไม่นาน ใจกล้าไม่เบาเลยนะเธอเนี่ย」
「มะ ไม่ใช่แล้วค่ะ
แล้วสรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะเนี่ย แล้วคนพวกนั้นเอ่อ....」
ที่ด้านหลังของท่านหญิงยูฟีน่านั้น
มีกลุ่มคนหน้าตาน่ากลัวในชุดเกราะเหล็กสีดำอยู่เกือบ 10 คน ซึ่งในบรรดาคนพวกนั้นไม่มีคนที่ชั้นรู้จักอยู่เลย…..
ไม่ใช่.......ทัตสึยะซามะ........งั้นเหรอ........
「กำลังคิดถึงชายอันเป็นที่รักอยู่งั้นเหรอ
เสียใจด้วยนะจ๊ะ ทัตสึยะซามะกำลังยุ่งอยู่กับการสร้างปราสาทก็เลย......」
「สร้างปราสาทอยู่นี่เอง.......เอ๋!!.....ทำไมท่านหญิงถึงรู้....!!??」
「เอาไว้ค่อยไปคุยกันต่อข้างในแล้วกันนะ….」
หลังจากนั้นท่านหญิงยูฟีน่าก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งเครียดและเดินเข้าไปภายในเมืองเวลล่า
แต่การมาเยือนใครนี้นั้นท่านหญิงไม่ได้มาในฐานะครอบครัว แต่เป็นการมาเยือนในฐานะราชทูตของประเทศศัตรู....
งงนิดหน่อยแหะ จะมายึดเมือง?
ตอบลบใช่แล้วครับ ยูฟีน่าต้องการเมืองแถบพื้นที่ทางเหนือทั้งหมด
ลบตีเมืองแย่งเมียคืน 555+ ไม่ใช่และ
ตอบลบจะไปเป็นเมืองขึ้นเค้าก็ต้องมีเมืองก่อนสินะยูจัง
ใช่แล้วครับ ต้องยึดเมืองก่อน -0-//
ลบตีเมืองแย่งเมียคืน 555+ ไม่ใช่และ
ตอบลบจะไปเป็นเมืองขึ้นเค้าก็ต้องมีเมืองก่อนสินะยูจัง
เด๋วตอนหน้าได้มีดราม่าในครอบครัว(แต่อยู่คนละฝ่าย)แน่ๆ
ตอบลบปล. ยังไงๆ โรน่าก็ยังน่าแกล้งมากที่สุดอยู่วันยังค่ำ เอิ๊กๆ
นั่นสิครับ ฮ่า ฮ่า
ลบไม่คิดเลยว่าแม้แต่ยูฟี่ก็ยังชอบแกล้งโรน่าจัง lllOrz
ตอบลบนั่นสิครับ ผมนี่ตกใจเลย
ลบมีฉากที่เทพทัตไปจูบกับโรน่าแล้วมอบแหวนไหมคับ ลองย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆแล้วไม่เจอคับ
ตอบลบรอตอนย้อนเนื้อเรื่องของโรน่าในช่วงบทที่ 3 ที่กำลังมาถึงในอีกไม่นานนี้ครับ ตอนนี้อ่านแบบงงๆ กับบางตอนที่ยังไม่บอกเนื้ิอหาบางส่วนไปก่อน
ลบตามนั้นเลยครับ เนื้อเรื่องของโรน่าจังอยู่ในบทที่ 3 ครับ
ลบเนื้อเรื่องช่วงนี้จะเป็นบทของยูฟีน่าเป็นหลักน่ะครับ ฮา.....
ขอบใจจร้า
ตอบลบ