ช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 เดือน 4 ศักราชเอลติซปีที่ 837 ในขณะที่ทัตสึยะกำลังมุ่งหน้าไปช่วยเหลือเจ้าหญิงทั้งสองบนดาดฟ้าของหอคอยรุ่งอรุณซึ่งเป็นศูนย์กลางการบัญชาการกองทัพเมืองแอสคาลของเจ้าหญิงทั้งสอง
-- มุมมองของยูเมะ --
「ยูเมะซามะ เรือเหาะของพวกเรากำลังลงจอดที่บริเวณลานกว้างทางทิศใต้ของปราสาทแอสคาลตามกำหนดการแล้วนะคะ」
มาเรียจังเมดสาวผมสีแดงคนโปรดของทัตสึยะซังเข้ามารายงานกับชั้นด้วยรอยยิ้ม
เธอนั้นเป็นเด็กสาวที่น่ารักอ่อนโยนและไว้วางใจได้
แต่การที่เธอสามารถอยู่เคียงข้างทัตสึยะซังได้แทบจะทุกเวลาก็ทำให้ชั้นรู้สึกอิจฉาเธอมากเหมือนกัน
「เข้าใจแล้วค่ะ..........ถ้างั้นชั้นกับมิฮารุซังจะออกไปช่วยอพยพพวกชาวเมืองเอง
ส่วนชิโอริซังกับฟูมิกะซังคอยคุ้มกันและรักษาพวกคนเจ็บที่ถูกพาตัวมาบนเรือเหาะนะคะ」
ชั้นหันไปคุยกับทุกคนเพื่อแบ่งหน้าที่กันในปาร์ตี้
หน้าที่มอบหมายของปาร์ตี้พวกเราในครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้
แต่เป็นการช่วยคุ้มกันชาวเมืองและพาพวกเค้าอพยพมายังเรือเหาะของพวกเรา
รวมไปถึงช่วยรักษาพวกทหารและผู้คนที่บาดเจ็บจากสงคราม
ดังนั้นเพื่อลดความเสียหายให้มากที่สุด
พวกเราจึงจำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงการเข้าปะทะกับศัตรู
และใช้ตัวเลือกที่ส่งผลดีต่อการป้องกันฐานที่มั่นให้มากที่สุด
「เข้าใจแล้วค่ะ
ถ้างั้นพวกเราจะช่วยกันปกป้องเรือเหาะร่วมกับพวกราชองค์รักษ์เอง ยูเมะซัง มิฮารุซัง
มาเรียจังก็ด้วย ระวังตัวด้วยนะคะ」
ชิโอริซังกับฟูมิกะซังพยักหน้าและตอบรับการสั่งการของชั้น ในเวลาปกติพวกเธอทั้งสองคนจะอยู่ในปาร์ตี้ของอากิโอะซัง
ชั้นจึงไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเธอมากนัก
แต่ในเมื่อทัตสึยะซังเป็นคนตัดสินใจที่จะพาพวกเธอมาช่วยในครั้งนี้
ชั้นจึงคิดว่าพวกเธอทั้งสองคนน่าจะไว้ใจได้
หลังจากเรือเหาะลำเลียงทั้ง 6
ลำของพวกเราลงจอดบริเวณลานกว้างได้สำเร็จ ที่ด้านนอกก็ได้เริ่มการต่อสู้ไปพร้อมกันในทันที
พวกทหารของศาสนจักรที่ได้เห็นเรือเหาะเหล็กสีดำทมิฬขนาดใหญ่ของพวกเราในตอนแรกได้แสดงความหวาดกลัวและพยายามถอยหนีออกไปจากบริเวณนี้อย่างแตกตื่น
แต่ก็สมแล้วที่พวกเค้าเป้นทหารฝีมือดี
เพราะหลังจากนั้นเพียงไม่นานพวกเค้าก็สามารถตั้งขบวนและหันกลับมาปะทะกับพวกเราได้ใหม่
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดเนื่องจากจำนวนที่แตกต่าง
แต่ถึงแม้จำนวนจะมากกว่าหลายเท่า พวกเค้าก็ไม่สามารถที่จะกดดันกองทัพของพวกเราได้
เนื่องจากความสามารถของพวกเค้าค่อนข้างจะห่างชั้นกับหน่วยราชองค์รักษ์ของพวกเราอยู่มาก
แถมทั้งอาวุธและชุดเกราะของพวกเราเองก็ยังเหนือกว่ามาก
ทั้งหอกและดาบที่หน่วยราชองค์รักษ์ใช้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธแรร์ที่ได้มาจากการฆ่าล้างพวกมอนสเตอร์ระดับบอส
ด้วยอาวุธพวกนั้นทำให้หน่วยราชองค์รักษ์สามารถถล่มกองทัพของศาสนจักรแตกพ่ายไปได้ในเวลาเพียงไม่ถึง
15 นาทีเท่านั้น
หลังจากจัดการกับศพของทหารศาสนจักรจำนวนมาก
ชั้นก็สั่งการให้พวกเมดทำการตั้งกองบัญชาการชั่วคราวขึ้น
พวกเราใช้อุปกรณ์เวทที่เอริจังพัฒนาขึ้นมาในการสร้างกำแพงเวทล้อมรอบกองบัญชาการ
รวมทั้งพื้นที่โดยรอบลานกว้างที่เรือเหาะลำเลียงทั้ง 6 ลำของพวกเราจอดอยู่
「มาเรียจัง
เธอช่วยแบ่งกำลังคนไปช่วยเหลือพวกทหารและชาวเมืองที่รอดชีวิตตามตำแหน่งที่พวกนี้ทีนะคะ」
ชั้นยื่นแผนที่เมืองแอสคาลที่มีการระบุตำแหน่งของพวกทหารและชาวเมืองแอสคาลไปรวมตัวกันอยู่หลายแผ่นให้มาเรียจังไปจัดการ
ด้วยสกิล Search
LVA ของมิฮารุซังที่สามารถค้นหาและแยกแยะมิตรศัตรูทั่วทั้งเมืองได้อย่างชัดเจน
มันจึงเป็นเรื่องง่ายในการเข้าช่วยเหลือผู้คนตามตำแหน่งที่ระบุเอาไว้
「รับทราบ! จะรีบไปจัดการให้ในทันทีเลยค่ะ」
มาเรียจังตอบรับกลับมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะรับเอาแผนที่และรีบวิ่งไปสั่งการหน่วยของเธอในทันที
ทั้งๆที่สถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างตึงเครียดแท้ๆ
แต่เธอก็ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าที่งดงามนั่นเสมอ
.....คงเป็นเพราะแบบนี้ล่ะมั้งถึงทำให้เธอเป็นเมดคนโปรด....ไม่สิ....นี่มันไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้เสียหน่อย.......
「ชั้นเองก็จะออกไปช่วยด้วย
ถ้าหากมีเรื่องด่วนก็รีบติดต่อมาได้เลยนะคะ มิฮารุซัง」
「ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกนะคะ
แล้วก็.....ระวังตัวด้วยนะคะยูเมะซัง」
มิฮารุตอบรับด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะมารับหน้าที่บัญชาการต่อจากชั้นไป
มิฮารุซังนั้นเป็นจอมเวทชั้นหนึ่ง เธอสามารถใช้ได้ทั้งเวทไฟและเวทรักษา
ชั้นสามารถพูดได้เลยว่าเธอนั้นเป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้แม้ในยามคับขัน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้
เธอยังคอยช่วยสนับสนุนชั้นและพวกเพื่อนๆอยู่เสมอ ฝีมือการต่อสู้ระยะใกล้เองก็เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมไร้ที่ติ
ดังนั้นไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ชั้นก็มั่นใจว่าเธอสามารถจะจัดการมันได้ด้วยตัวเอง
หรือหากเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้น ก็ยังมีชิโอริซังและฟูมิกะซังคอยช่วยเหลืออยู่
「Summon: Elecshion!! Flame Owl!! Aqua Hawk!!」
ชั้นเรียกอสูรรับใช้ Elecshy Luna Sole ออกมา ทักทายและลูบไล้พวกเค้าอย่างโอน
จากนั้นจึงขึ้นไปขี่หลังของ Elecshy และวิ่งออกไปจากลานกว้าง
ที่ด้านหลังของชั้นก็มีราชองค์รักษ์ฝีมือดีหลายคนขี่นกเกรูโด้ติดตามมาด้วย
ตลอดถนนหนทางที่พวกเราวิ่งผ่านนั้นเรียกได้ว่าเป็นดั่งนรก
ศพของผู้คนมากมายถูกทิ้งเอาไว้เกลื่อนกลาด
และซากศพพวกนั้นมันก็ไม่ใช่เพียงแค่พวกทหารแต่ยังรวมพวกชาวเมืองที่ไร้อาวุธและไร้ทางสู้
ผู้ชายถูกฆ่า ผู้หญิงถูกข่มขืน แม้แต่พวกเด็กตัวเล็กๆก็ยังไม่มีเว้น
มันเป็นภาพที่ชั้นได้เห็นมาบ่อยครั้งตั้งแต่มาถึงยังโลกใบนี้
แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งชั้นก็ยังไม่อาจจะรู้สึกชินชา
พวกเราพายามช่วยผู้คนที่รอดชีวิตให้มากที่สุด
ชั้นคอยรักษาผู้คนที่บาดเจ็บสาหัสในทันที ส่วนคนบาดเจ็บเล็กน้อยจะถูกพากลับไปรักษาที่กองบัญชาการ
「จะให้พวกเราทิ้งยูเมะซามะ เอาไว้คนเดียวไม่ได้หรอกนะคะ!!」
เนื่องจากมีคนบาดเจ็บจำนวนมากชั้นจึงสั่งให้ราองค์รักษ์และอสูรรับใช้น้องแกะนักรบ Schapen
Squad ทั้งหมดช่วยคุ้มกันพวกเค้ากลับไปยังกองบัญชาการ
เพราะงั้นจึงทำให้ชั้นไม่มีคนคุ้มกันเหลืออยู่ แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็ยังมีพวกอสูรรับใช้เหลืออยู่
「ชั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ก็ยังมีพวก Elecshy อยู่ด้วยนี่นา」
ชั้นตอบกลับไปพร้อมกับลูบหัว Elecshy รวมถึง Luna และ sole อย่างอ่อนโยน
「มะ ไม่ได้นะคะ!! นี่เป็นคำสั่งโดยตรงจากทัตสึยะ
ไม่สิ!!....ถึงจะไม่มีคำสั่งแต่พวกเราจะปล่อยให้ยูเมะซามะอยู่คนเดียวไม่ได้เด็จขาด」
แต่ดูเหมือนว่าพวกราชองค์รักษ์จะไม่ยินยอม คำสั่งโดยตรงจากทัตสึยะซัง......
ถึงแม้จะอยู่ห่างกันแต่ก็ยังคอยเป็นห่วงชั้นอยู่เสมอสินะคะ.....
「........นั่นสินะคะ....ถ้างั้นเธอก็ช่วยอยู่กับชั้นแล้วกันนะ เชียเร่จัง」
เมื่อตัดสินใจได้ชั้นก็รีบเดินทางต่อไปจนผ่านไปถึงตรอกแห่งหนึ่ง และในที่แห่งนั้นชั้นก็พบกับภาพที่ไม่อยากจะเห็นเป็นที่สุด
เด็กสาว.....ไม่สิจะเรียกว่าเด็กสาวก็คงไม่ได้ เด็กคนนั้นน่าจะยังอายุไม่ถึง
10 ปีเสียด้วยซ้ำ เธอในตอนนี้อยู่ในสภาพกึ่งเปลือย
ดูจากการที่ไม่ตอบสนองนักคงเป็นเพราะเธอถูกทำร้ายจนสลบไป ร่างกายของเธอเองก็มีบาดแผลบอบช้ำที่ดูเหมือนจะเกิดจากการพยายามขัดขืนอยู่หลายแห่ง
แม้แต่ในเวลานี้เองก็ยังไม่ยอมหยุด ชายคนนี้ก็ยังคงเล่นสนุกกับร่างกายของเธออย่างหื่นกระหายโดยไม่ใส่ใจชั้นที่ผ่านมา
และมันก็ไม่ใช่เพียงแค่เธอแต่บริเวณรอบๆชายคนนี้เองก็ยังมีเด็กผู้หญิงที่สภาพไม่น่าดูนักกองอยู่กับพื้นอีกหลายคน
「แกไอ้โรคจิต!! หยุดเด๋วนี้นะ!!!」
「หยุดก่อน!!! เชียเร่!!!」
เชียเร่ที่ทนไม่ไหวยกดาบขึ้นและกระโดดพุ่งเข้าไปโจมตีชายคนนั้นในทันทีโดยไม่รอคำสั่งจากชั้น
แต่ในพริบตาที่เธอกำลังจะเข้าถึงตัวของชายคนนั้น
เธอก็ถูกชายคนนั้นซัดกระเด็นไปด้วยกรงเล็บสีแดงสดรูปร่างประหลาด
เลือดสีแดงสดสาสกระเซ็นออกมา เชียเร่ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอลอยกระเด็นไปกระแทกกับกำแพง
ทั้งๆที่เธอใส่ชุดเกราะเหล็กที่ถูกสร้างขึ้นจากสกิล Create Armor LV9 ของเอริจัง
แต่มันก็ยังไม่สามารถป้องกันร่างกายของเธอเอาไว้ได้
「Sole!!!」
ชั้นรีบสั่งให้ Sole
เข้าไปรักษาเชียเร่จังที่ด้วยเวทมนต์รักษาในทันที
ถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
เพราะงั้นถ้าหากถูกรักษาในทันทีก็คงไม่เป็นอะไรแน่
「เฮ้ยพวกแกน่ะ!! เข้ามาขัดจังหวะคนกำลังเสพสุขแบบนี้ไร้มารยาทชะมัด」
ชายคนนั้นหันมาพูดกับชั้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
แต่ถึงขั้นนี้แล้วเจ้านั่นก็ยังไม่คิดจะหยุด เจ้านั่นดึงตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาพร้อมทั้งใช้ลิ้นสกปรกโลมเลียต้นคอและใบหน้าของเธอ
มือข้างหนึ่งของมันบีบเค้นหน้าอกเล็กๆของเธอราวกับเป็นของเล่น ช่วงล่างอันน่าขยะแขยงของมันก็ยังคงกระแทกใส่เธออย่างสนุกสนาน
「ปล่อยเธอซะ
อย่างน้อยชั้นก็จะให้แกได้ตายอย่างไม่ทรมาน」
ชั้นชักมีดสั้นออกจากฝัก เจ้ามองไปยังเจ้านั่น พยายามควบคุมอารมณ์
พายามใจเย็นให้มากที่สุดและพูดออกไป
จริงอยู่ที่สวะอย่างเจ้านี่ไม่สมควรที่จะได้รับความตายแบบสบายๆ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ชั้นจำเป็นจะต้องคิดถึงวิธีที่จะสามารถช่วยชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนี้เสียก่อน
「ฮ่า ฮ่า เป็นคนดีกันจริงนะไอ้พวกจอมเวทเนี่ย
แต่ว่านะ จะให้ผมปล่อยของเล่นให้หลุดมือไปในเวลาที่กำลังได้อารมณ์สุดๆเพื่อไปเล่นกับเธอแทนเนี่ย
คงจะไม่ได้หรอกนะจ๊ะ ก็ตามนั้นแหละนะ อย่างน้อยก็รอจนผมเสร็จก่อนสิจ๊ะ อ๊าสสสของเด็กคนนี้สุดยอดไปเลย
อ๊าสสส!!!」
นี่อาจจะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่ชั้นเคยพบเจอมา
ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเป็นพวกชั่วช้าสมควรตาย แต่ถึงงั้นก็ยังเป็นคนที่มีฝีมือสูง
เพราะงั้นหากเข้าไปต่อสู้ด้วยอารมณ์ก็อาจจะทำให้พลาดท่าได้ พวกอสูรรับใช้เองก็คงใช้ในสถานการณ์แบบนี้ยาก
เพราะพลังของพวกเค้าสูงเกินไปจึงอาจจะทำให้พวกเด็กๆที่อยู่รอบๆถูกลูกหลงได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะเอาแต่รออยู่ไม่ได้เช่นกัน
เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นชั้นก็กระโดดจาก Elecshy ถีบกำแพงเพื่อกลับตัวและพุ่งเข้าใส่เจ้านั่นจากทางด้านหลัง
ชั้นเล็งไปยังหลังคอของเจ้านั่นด้วยมีดสั้นในมือเพื่อเอาชีวิตเจ้านั่นในการโจมตีครั้งเดียว
แต่ทั้งๆที่จู่โจมจุดบอดด้วยความรวดเร็วแต่เจ้านั่นกลับรู้ตัวและหลบไปได้ แถมยังหันเอาตัวเด็กผู้หญิงขึ้นมาเป็นโล่ทำให้ชั้นไม่สามารถจะปิดฉากลงได้
การเคลื่อนไหวของเจ้านี่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับสูงมาก แต่ชั้นเองก็ไม่คิดจะยอมแพ้
ปรับรูปแบบการเคลื่อนไหวของตัวเอง พยายามหาโอกาสเข้าประชิดตัวโดยอาศัยความเร็วที่เหนือกว่าและตวัดมีดเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง
แต่ไม่ว่าจะลองซักกี่ครั้งก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลหนักๆให้ฝ่ายตรงข้ามได้เลย
「โฮ่!! ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ ว่าแล้วเชียวว่าต้องเลือกเด็กๆเอาไว้ก่อน
นี่มันสุดยอดจริงๆ อ่าสส!!!!」
จังหวะนี้แหละ
ชั้นใช้โอกาสที่เจ้านั่นกำลังเหลอและพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
「......!」
แต่ในครั้งนี้เจ้าสวะนั่นไม่คิดจะหลบ และยกเอากรงเล็บขึ้นมาเพื่อลับป้องกันคมมีดสั้นของชั้นเอาไว้
ถึงแม้ความเร็วในการโจมตีของชั้นจะเหนือกว่า แต่ดูเหมือนพลังในการโจมตีจะยังน้อยไปจึงไม่สามารถเอาชนะอย่างเด็จขาดได้
เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ในท้ายที่สุดก็เป็นตัวชั้นเองก็ถูกซัดกระเด็นออกไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมาชั้นจะพึ่งพาพลังของพวกอสูรรับใช้มาโดยตลอด เพราะงั้นจึงไม่ค่อยได้ฝึกฝนการต่อสู้ระยะประชิดมามากนัก
และคงเป็นเพราะแบบนั้นจึงทำให้ต้องมาลำบากในสถานการณ์แบบนี้
ชั้นในตอนนี้ไม่สามารถช่วยปกป้องเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเอาไว้ได้........
......ความลังเล.....ความเจ็บปวด.....ความหวาดกลัว......ความผิดหวังในความอ่อนแอของตัวเองเริ่มก่อตัวขึ้นมาในหัวใจ......นี่ชั้นกลับไปเป็นพวกไม่ได้เรื่องเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วอย่างนั้นเหรอ
ตัวชั้นในสมัยก่อน ตัวชั้นที่ไร้ซึ่งพลัง ตัวชั้นที่สามารถทำอะไรได้
ตัวชั้นที่ทำได้เพียงรอ รอแล้วก็รอ ทำได้เพียงแค่รอจนกระทั่งเค้าคนนั้นยื่นมือเข้ามาหา.......
ถ้าหากชั้นตั้งใจให้มากกว่านี้....ถ้าหากชั้นตั้งใจฝึกฝนทักษะในการต่อสู้ให้มากกว่านี้ล่ะก็.......
「อ๊าสสส!!! เสร็จซักที ฮ่า ฮ่า
ขอบคุณที่รอคิวนะคุณจอมเวทสาวสุดสวย เท่านี้พวกเราก็มาสนุกกันได้แล้วนะ......อ่ะ!!
ยัยนี่เกะกะชะมัดเลยวุ้ย ของเล่นที่พังแล้วผมไม่ต้องการหรอกนะ」
「อะ อย่านะ!!!!」
ชั้นพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ขาทั้งสองข้างกับก้าวไม่ออก และเจ้านั่นก็ใช้กรงเล็บเหล็กแทงหัวใจของเด็กผู้หญิงคนนั้นจากด้านหลังก่อนจะโยนเธอลงไปบนพื้นราวกับขยะ
เลือดสีแดงสดไหลนองออกมา
「S Sole ชะ........」
ชั้นพยายามจะสั่ง Sole
ให้เข้าไปช่วยเหลือเธอแต่ก็พูดไม่ออก ตามจริงแม้จะไม่ต้องสั่ง Sole
ก็จะเข้าไปรักษาเป้าหมายตามที่ชั้นต้องการได้เองอยู่แล้ว
แต่ในครั้งนี้แตกต่างกัน ซึ่งนั่นก็คงจะเป็นเพราะตัวชั้นในตอนนี้ได้รับบาดเจ็บ เพราะงั้น
Sole จึงไม่ฟังคำสั่งและเข้ามารักษาชั้นที่เป็นเจ้านายก่อน.......ราวกับจะบอกว่าเป็นตัวชั้นเองที่ต้องการแบบนั้น........
「ขอโทษที่ปล่อยให้รอนะคุณจอมเวทสุดสวย
เท่านี้พวกเราก็จะได้มาเล่นสนุกกันแล้วนะจ๊ะ!!!」
「ยะ อย่าเข้าม……..」
ถึงแม้จะไม่ต้องพูดก็เข้าใจกันได้ อสูรรับใช้ทั้งสองตอบรับกับความหวาดกลัวของชั้น
Elecshy รีบเข้ามาปกป้องชั้น
ส่วน Luna ก็โจมตีใส่เจ้านั่นด้วยกระสุนไฟ
แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เวทมนต์กระสุนไฟของ Luna กลับหายไปในทันทีที่กระทบเข้ากับกรงเล็บของเจ้านั่น
และมันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น แม้แต่ตัวของ Luna เองก็หายไปหลังจากรับการโจมตีของกรงเหล็กนั่นเพียงครั้งเดียว
Elecshy และ Sole ที่พยายามจะปกป้องชั้นเองก็ถูกทำให้หายไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเช่นกัน
「เอาล่ะ ตัวเกะกะก็หายไปหมดแล้ว ถ้างั้นพวกเราก็มาสนุกกันดีกว่านะจ๊ะ
คุณจอมเวทสุดสวย」
และในตอนนี้เจ้านั่นก็มาอยู่ต่อหน้าในสภาพเปลือยท่อนล่าง
ช่วงล่างอันน่าขยะแขยงของมันเข้ามาอยู่ตรงหน้าชั้น และเมื่อชั้นพยายามจะหยิบมีดสั้นขึ้นมาก็ถูกปัดกระเด็นไปอย่างง่ายดาย
「ยะ อย่าน……..อือ อือ!!」
ชั้นพยายามดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด แต่ความหวาดกลัวก็เข้ามาครอบงำจิตใจจนทำให้ร่างกายรู้สึกไม่มีแรง......ชั้นรู้สึกหวาดกลัวที่จะต้องกลับไปเป็นเหมือนตัวชั้นในสมัยก่อน...ในสมัยที่ชั้นยังไม่ได้พบกับเค้าคนนั้น......กลับไปเป็นตัวชั้นที่ไม่กล้าส่งเสียงพูดคุยกับใคร.....ตัวชั้นที่ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด.....ตัวชั้นที่ไม่กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ชอบ.......ตัวชั้นที่ไม่มีใครต้องการ......
......ความหวาดกลัวเริ่มทำให้ตัวของชั้นสั่นไหว......และสุดท้ายชั้นก็ปล่อยให้ร่างกายของชั้นถูกทำร้ายอีกครั้ง........ชั้นปล่อยให้เจ้าสวะนั่นใช้ลิ้นอันสกปรกของมันเข้ามาเลียริมฝีปาก
ใบหน้า ต้นคอและหน้าอกของชั้น ร่างกายของชั้น
ร่างกายที่ไม่ควรจะให้ชายอื่นได้สัมผัสมันอีก.....ร่างกายที่เป็นของเค้าคนนั้น......
「รสชาติเยี่ยมจริงเลยนะจ้ะ ผิวสวยๆขาวๆเนียนของคุณจอมเวทเนี่ยสุดยอดจริงๆเลยนะ
หน้าอกขนาดน่ารักพอดีมือนี่ก็สุดยอด ข้างล่างเองก็คงจะสุดยอดด้วยเหมือนกันสินะ」
ไม่สามารถขัดขืนหรือตอบโต้ทำอะไรกลับไปได้........ชุดเกราะและเสื้อผ้าก็ถูกปลดออกไปทีละชิ้น........ชุดชั้นในเองก็ถูกถลกออก.......
ชะ ชั้นไม่อยากกลับไปเป็นแบบนั้นอีกแล้ว ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ
ไม่อยากกลับไปเป็นตัวชั้นในสมัยนั้นอีกแล้ว ชั้นจะไม่กลับไปอีกแล้ว!!!
「ไม่นะ!!!!!!! หยุดนะ!!!! ทะ ทัตสึยะ.....ซัง!!!! ทัตสึยะซัง!!!!!!!!!!!」
และในท้ายที่สุดชั้นก็สามารถส่งเสียงออกไปได้ ชั้นตะโกนเรียกชื่อเค้าออกไปอย่างสุดเสียงและพยายามดิ้นรนผลักเจ้าสวะนั่นออกไปอย่างสุดแรงที่ชั้นมีจนทำให้เจ้าสวะนั่นตกใจและกระโดดถอยหลังออกไป
และในตอนนั้นชั้นก็รู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้น วงเวทสีม่วงขนาดใหญ่ยักษ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ปรากฏขึ้น
แต่เนื่องจากสติของชั้นในตอนนี้ยังไม่ค่อยดีนักจึงไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่
ที่รู้สึกได้มีเพียงแค่อสูรรับใช้ตัวหนึ่งที่หลับใหลอยู่นั้นได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
「โกรววววว กราซซซซซซ!!!」
อสูรรับใช้ขนาดใหญ่ยักษ์ตัวนั้นคำรามเสียงดังและเริ่มอาละวาด
มันทำการโจมตีเข้าใส่เจ้าสวะนั่นอย่างไม่สนใจรอบข้าง เพียงไม่นานก็ทำให้พื้นที่ในแถบนั้นหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่
.......หลังจากนั้นชั้นก็จำอะไรไม่ค่อยได้นัก แต่สุดท้ายแล้วชั้นก็รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดแสนอบที่คุ้นเคย..........อีกครั้งแล้วที่เค้าได้ช่วยชั้นเอาไว้........คนที่ชั้นรัก......คนที่ชั้นหลงรักหมดทั้งหัวใจ.....
「ทะ.....ทัตสึยะซัง..........」
ภาพสุดท้ายก่อนที่ชั้นจะหมดสติไปนั้นคือใบหน้าแสนอ่อนโยนของทัตสึยะซังที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง....และน้ำตาของเค้าที่ชั้นไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน.........
-- Extra --
ณ มุมหนึ่งของถนนสายหลักทางด้านทิศใต้ของเมืองแอสคาล ถนนเส้นนี้เป็นถนนสายหลักเพียงเส้นเดียวที่จะมุ่งตรงสู่เมืองท่าออสติน
เมืองท่าออสตินนั้นเป็นเมืองที่มีเรือใหญ่เล็กมากมายเข้ามาติดต่อค้าขาย
「เฮ้อ......เล่นซะเหนื่อยเลยแฮะ....ทั้งๆที่คิดว่าวันนี้จะได้ของเล่นชิ้นใหม่แล้วแท้ๆเชียวนะ.....」
ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของฉายา『ฆาตกรไร้เสียง Silent Killer』ได้หลบหนีการอาละวาดจากมังกรขนาดยักษ์ออกมาที่นอกเมืองแอสคาลได้สำเร็จ
ในครั้งนี้ชายหนุ่มได้ถูกว่าจ้างจากทางศาสนจักรให้เข้าร่วมกับกองทัพผสมเพื่อโค่นล้มราชวงศ์แอสกรัม
แต่เนื่องจากนิสัยของเจ้าตัวจึงทำให้ไม่ได้สนใจในภารกิจและเผลอเล่นสนุกมากเกินไป
「ทั้งๆที่ทำเรื่องเลวร้ายไปตั้งขนาดนั้นแต่กลับหลบหนีออกมาโดยลำพังเนี่ย
เป็นผู้ชายที่ไร้ความรับผิดชอบต่างจากที่เคยได้ยินชื่อเสียงมาเลยนะคะ」
ท่ามกลางท้องถนนที่ไร้ผู้คนแต่ชายหนุ่มกลับได้ยินเสียงของเด็กสาว น้ำเสียงของเธอนั้นหากฟังเพียงผิวเผินก็สามารถเรียกได้ว่าไพเราะน่าฟัง
แต่กับ『ฆาตกรไร้เสียง Silent Killer』ที่อยู่ท่ามกลางสนามรบมายมากตั้งแต่เด็กอย่างเค้านั้นสามารถรับรู้ถึงเบื้องหลังของเสียงไพเราะนี้ได้เป็นอย่างดี
แม้เสียงของเด็กสาวจะหยุดลงไปแล้วแต่รังสีฆ่าฟันก็ยังคงถาโถมเข้าใส่เขาอย่างไม่หยุดหย่อน
มันเป็นอีกครั้งแรกที่ตัวเค้าสามารถรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวเช่นเดียวกับสมัยที่ได้เข้าร่วมในสงครามครั้งแรก
「แก.....เป็นใคร.......ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกัน......」
ชายหนุ่มหันมองไปรอบตัวด้วยความระมัดระวัง เค้าพยายามเร่งประสาทสัมผัสให้สูงสุดและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อแม้จะรู้ตัวว่าเป็นเรื่องยากที่จะต่อกรกับคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถมองเห็นตัวได้
「ต้องขอโทษที่เสียมารยาทไปนะคะ
แต่ถึงจะบอกชื่อไปคุณก็คงจะไม่รู้จัก
นั่นก็เพราะดิชั้นนั้นเป็นเพียงแค่เมดรับใช้คนหนึ่งที่ได้รับคำสั่งให้มาทวงคืนสมบัติศักดิ์สิทธิรวมถึงกวาดสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อโลกใบนี้อีกแล้วเพียงเท่านั้น」
และในที่สุดเด็กสาวผู้มีผมสีเงินเป็นประกายก็ได้ปรากฏตัวออกมาเบื้องหน้าของชายหนุ่ม
เธอเป็นเด็กสาวที่งดงามจนยากจะหาใครในโลกนี้มาเทียบเทียมได้
เพียงแค่ได้สบตากับเธอชั่วครู่เดียว
ชายหนุ่มก็ได้ถูกความงดงามของเธอสะกดให้หลงใหล
ความคิดที่เคยเห็นผู้หญิงเป็นของเล่นตลอดมากลับแปรเปลี่ยนเป็นความรักแรกพบอันแสนบริสุทธิ์
「ทวงคืน.....เธออยากได้อะไรจากผมงั้นเหรอ
ไม่สิ คะ แค่เพียงเธอต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดผมก็ยินดีจะไปนำมาให้กับเธอทั้งนั้น.......」
「ต้องขอบคุณอย่างมากเลยนะคะ ถ้างั้นก็ช่วยมอบ『กรงเล็บจักรพรรดิมังกร Claw of Dragon Emperor』 กับ『กำไรนักฆ่าแห่งทราเคีย Bangle of Trakea Killer』มาให้กับดิชั้นด้วยนะคะ」
『กรงเล็บจักรพรรดิมังกร Claw of Dragon Emperor』นั้นเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิของจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์ดราเกียรุ่นแรก
พลังทำลายของมันจะส่งผลเสียหายโดยตรงกับร่างกายของคู่ต่อสู้โดยสามารถทะลุผ่านชุดเกราะไปได้อย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแค่การโจมตีเท่านั้นแต่การตั้งรับหรือปัดป้องการโจมตีของคู่ต่อสู้เองก็ยังส่งผลเช่นเดียวกัน
『กำไรนักฆ่าแห่งทราเคีย Bangle of Trakea Killer』นั้นเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิของราชันแห่งราชวงศ์ทราเคียผู้ที่แต่เดิมแล้วเป็นเพียงนักฆ่ารับจ้าง
โดยตัวกำไลนั้นจะค่อยๆสะสมพลังมานามาจากผู้ที่ได้สังหารไปและนำมาใช้ในการหักล้างเวทมนต์
ภูติรับใช้ อสูรรับใช้ หรือแม้แต่โกเลมเวทมนต์ที่มีระดับต่ำกว่าระดับกลางลงมา
ถึงแม้ทั้งสองชิ้นจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่ชายหนุ่มหามาได้อย่างยากลำบาก
แต่เค้าก็ได้มอบให้กับเด็กสาวตรงหน้าไปโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย
「เท่านี้ก็หมดธุระกันแล้วนะคะ......ไม่สิ.....ยังมีอีกอย่างหนึ่ง.....กับการที่คุณได้ช่วยปลดผนึกอสูรรับใช้ของยูเมะซามะ......การที่คุณช่วยปลุกพลังที่หลับใหลของจักรพรรดิมังกร
โวคาเลส ลอยเก้น ให้ฟื้นคืนชีพกลับมานั้น นับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากและมีคุณค่าต่อโลกใบนี้อย่างมาก
ดังนั้นชั้นจะขอมอบรางวัลให้กับคุณสักเล็กน้อย.....」
เด็กสาวจับชายกระโปรงขึ้นด้วยมือทั้งสองข้างและย่อตัวลงอย่างงดงาม
เธอยังกล่าวขอบคุณกับขายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานก่อนที่ร่างกายของเธอจะค่อยๆจางหายไปราวกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตน
และในเวลานั้น......ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของฉายา『ฆาตกรไร้เสียง』ก็ได้ถูกลบให้หายไปจากโลกลอสตาเซียโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย......
ยูเมะเกือบโดน NTR แล้วไหมละ
ตอบลบเกือบไปซะแล้ว.....
ลบอ่านตอนนี้แล้วเกือบได้ตับฟัง แค่นี้ก็สั่นแล้วครับ อูยส์...
ตอบลบหวาดเสียวกันเลยทีเดียว
ลบเซ็งเรย นึกว่ายูเมะจะโดน NTR ไม่สิ ต้อง MB ตะหาก
ตอบลบอย่างนี้ก็ไม่ค่อยปวดตับเท่าไรสิ อิๆ
ความปวดตับของเรื่องนี้ยังธรรมดานะถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ 5555
ลบเกือบได้ทำตับใหม่แล้วสิเนีย...
ตอบลบอ่านแล้วมีอารมร่วมในๆหลายๆหวามรู้สึกเลยครับ
ตอบลบเรื่องนี้ยังอีกยาวครับ ฮา.....
ลบอ่านแล้วมีอารมร่วมในๆหลายๆหวามรู้สึกเลยครับ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ-จะแก้ดันเผลอบซะได้-
ลบอ่านถึงนี้ซะที เห็นแล้วรู้สึกเสียดายชอบกล(ฮา)