ตอนที่ 51 ปราสาทฟีเรน่า

 
ช่วงบ่ายของวันที่ 11 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

ผมกำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยของปราสาทฟีเรน่า

ปราสาทฟีเรน่านั้นเป็นปราสาทที่พวกเราเริ่มสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวาน สถานที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำใหญ่กล้กับหมู่บ้านมิลัน พวกเราทำการสร้างสะพานขนาดใหญ่ขึ้นใหม่เพื่อให้ไอออนฮาวล์สามารถข้ามไปได้

จากสงครามที่เกิดขึ้นทำให้พวกเราจำเป็นต้องมีฐานที่มั่นให้การรบ นอกจากนั้นในอนาคตที่นี่จะถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรออร์ฟีน่าอีกด้วย

ส่วนเหตุผลที่เลือกที่นี่นั่นก็เพราะภูมิประเทศที่ง่ายต่อการป้องกัน แม่น้ำทางทิศเหนือและใต้เป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ไหลเชี่ยวจนยากต่อการที่คนทั่วไปจะสามารถว่ายข้ามไปได้

และพื้นที่แถบนี้ยังเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ภายในแม่น้ำก็มีปลาและสัตว์น้ำจำนวนมากทำให้ง่ายต่อการหาเสบียงอาหารในยามฉุกเฉิน

ให้ท่านหญิงยูฟีน่าไปคนเดียวจะไม่เป็นไรงั้นเหรอคะ.....

ในขณะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย มาเรียจังที่เดินอยู่ข้างๆก็ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

แผนการในครั้งนี้คือการยึดครองพื้นที่แถบทางเหนือทั้งหมด ดังนั้นเมืองเวลล่าจึงเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ  ถ้าหากสามารถครอบครองเมืองเวลล่าได้พวกเราก็จะไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของพื้นที่แถบตะวันอีกต่อไป

ยังไงยูฟีน่าก็เป็นคนของตระกูลโรเซนเบิร์ก เพราะงั้นต่อให้พวกนั้นไม่ยอมรับข้อเสนอ ก็คงไม่ทำร้ายคิดจะทำร้ายคนในครอบครัวเดียวกันหรอกน่า

การปล่อยให้ยูฟีน่าเป็นจัดการเรื่องทั้งหมดนั้นส่วนหนึ่งก็เพื่อทดสอบความตั้งใจจริงของยูฟีน่า ถ้าหากเธอไม่สามารถก้าวข้ามโรเดริกและเซลฟีน่าไปได้ล่ะก็ ความฝันในการสร้างอาณาจักรของตัวเธอเองคงไม่มีทางเป็นจริงได้

งั้นเหรอคะ.......

มาเรียจังตอบรับคำพูดของผมด้วยน้ำเสียงเหงาๆ นั่นสินะ.....สำหรับมาเรียจังที่ถูกครอบครัวทอดทิ้งนั้น ความเชื่อใจที่เธอมีต่อคนในครอบครัวคงจะไม่มากนัก นี่ผมทำให้เธอต้องเสียใจอีกแล้วสินะ.....

มาเรียจัง เธอน่ะถือเป็นคนในครอบครัวของผมนะ เพราะงั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะไม่มีทางทำร้ายเธออย่างแน่นอน

ผมพูดออกไปพร้อมกับดึงตัวมาเรียจังมาโอบกอดเอาไว้

ขะ ขอบคุณค่ะ....

แล้วพวกเราก็เดินมาถึงยังห้องใต้ดินของปราสาทฟีเรน่า ที่ห้องใต้ดินนั้นพวกสั่งให้สร้างห้องย่อยๆเอาไว้จำนวนมากเอาไว้สำหรับใช้งาน มีหลายห้องที่มีทางใต้ดินเชื่อมต่อออกไปยังหมู่บ้านมิลันและพื้นที่โดยรอบด้านนอก

มีห้องเก็บอาวุธ ห้องหลบภัย ห้องเก็บเสบียงอาหารและห้องปฏิบัติการต่างๆ นอกจากนั้นก็ยังมีห้องที่ติดตั้ง Warp Circle สำหรับวาปไปกลับไปยังชั้นใต้ดินของห้าง Seirien

ไงยูยะ การฝึกฝนพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ไปถึงไหนแล้ว

ผมเดินเข้าไปหายูยะที่กำลังฝึกฝนการใช้อาวุธสำหรับพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ที่มีความต้องการจะเข้าร่วมกับกองทัพของเรา

สุดยอดเลยล่ะครับ พวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ส่วนใหญ่มีพื้นฐานร่างกายที่แข็งแกร่งมาก แค่ฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็สามารถต่อสู้ได้แล้ว ถ้ามีเวลาให้ฝึกฝนเยอะหน่อยล่ะก็พวกเค้าต้องการเป็นกองทหารชั้นเยี่ยมได้อย่างแน่นอน

ยูยะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนหน้านี้แม้จะเคยได้ฝึกฝนพวกทาสเผ่ามนุษย์เสือมาบ้างแล้ว แต่ในครั้งนี้เรียกได้ว่าแตกต่างกันอย่างมาก เพราะ เผ่ามนุษย์สัตว์นั้น แต่ละเผ่าก็จะมีความสามารถทางร่างกายแตกต่างกันออกไป จึงทำให้พวกเค้าสามารถทำในสิ่งต่างๆที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้โดยง่าย

อย่างเช่นเผ่ากระต่ายขาว เผ่ากระต่ายขาวนั้นมีสายตาที่ไวต่อการตรวจจับความเคลื่อนไหวของศัตรู นั่นทำให้พวกเขามีความสามารถสูงในการซุ่มโจมตีศัตรูจากระยะไกลในทุกพื้นทีและทุกเวลา

หรือเผ่าหมาป่าหิมะที่มีจมูกที่ไวต่อกลิ่นของสิ่งมีชีวิตและมอนสเตอร์ จมูกของพวกเขาสามารถรับรู้ถึงกลิ่นได้ไกลหลายร้อยเมตร นั่นทำให้พวกเขาสามารถทำหน้าที่ระวังภัยหรือค้นหาเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

หลังตรวจดูสภาพและการฝึกฝนของพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์เรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินไปยังส่วนต่อไป

ซากิจัง ทางนี้เป็นยังไงบ้าง

ผมเดินมายังห้องสำหรับก่อสร้างยุทโธปกรณ์ นอกจากทาสเผ่ามนุษย์สัตว์แล้วพวกเรายังได้ช่วยเหลือทาสเผ่าคนแคระหลายคน ออกมาจากค่ายทหารของกองทัพกบฏอีกด้วย

พวกเธอทั้งน่ารักแล้วก็ขยันมากเลยค่ะ ชั้นเองก็ได้เรียบรู้วิธีตีดาบด้วย สุดยอดไปเลยค่ะ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้น่ะค่ะ

ซากิพูดออกมาด้วยแววตาเปล่งประกาย เท่าที่รู้ดูเหมือนเธอจะเป็นพวกคลั่งไคล้ดาบโบราณหรือยังไงเนี่ยล่ะ

น่ารักและก็ขยันงั้นเหรอ.....

ใช้แล้วค่ะ พวกเธอบอกว่าถ้าได้กินข้าวและเหล้าวันละ 3 มื้อล่ะก็ สามารถทำงานติดต่อกัน 7 วัน 7 คืนโดยไม่นอนยังได้เลยล่ะค่ะ

สิ่งที่ได้ยินนั้นทำเอาผมตกใจตัวแข็งทื่อ การที่พวกคนแคระสามารถทำงานหนักได้ติดต่อกันขนาดนั้นได้เนี่ยมันสุดยอดมากเลยล่ะ........แต่ถึงอย่างนั้นหากขาดเหล้าก็จะไม่มีแรงงานทำงานอย่างงั้นเหรอ........

ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีเลย พวกเราในตอนนี้จำเป็นจะต้องมีอาวุธที่แข็งแกร่งจำนวนมากสำหรับต่อสู้ เท่านี้ก็จะได้หมดปัญหาเรื่องขาดแคลนอาวุธซะที…….ส่วนเรื่องเหล้าก็จัดให้พวกเค้าตามสมควรละกันนะ.......

ไว้ใจได้เลยค่ะ ชั้นจะดูแลพวกเค้าทั้งหมดอย่างดีเอง

ซากิจังยืดอกตอบกลับมาด้วยสีหน้าเบิกบาน.....นี่ไม่ใช่ว่าเธอเองก็เป็นพวกกินเหล้าแล้วมีแรงด้วยใช่ไหม.......

หลังจากนั้นผมก็เดินตรวจตราอุปกรณ์ที่พวกคนแคระสร้าง และเดินไปตรวจสอบยังห้องใต้ดินอื่นๆจนครบทุกห้อง จากนั้นผมก็คิดว่าจะควรพักผ่อนเสียหน่อย จึงลองชวนมาเรียจังออกไปเดินเล่นที่หมู่บ้านมิลันดู

มาเรียจัง พวกเราออกไปเดินเล่นที่หมู่บ้านมิลันกันบ้างดีไหม

เอ๋!!?.....แต่.....ชั้นไม่ค่อยเป็นที่ต้อนรับของคนในหมู่บ้าน.......

กับคำพูดของผมนั้น มาเรียจังก้มหน้าและตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ถึงแม้เธอจะมีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักกับครอบครัวและผู้คนในหมู่บ้าน แต่นั่นมันก็หลายปีมาแล้ว ในตอนนี้ผมอยากจะให้เธอเผชิญหน้ากับมันและผ่านมันไปให้ได้

มาเรียจัง

คะ......

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอนะ

ผมดึงมาเรียจังเข้ามากอดและประทับริมฝีปากลงบนแก้มของเธอเบาๆ

ทะ ทัตสึยะซัง เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ!!

ในขณะที่ผมกำลังปลอบมาเรียจังอยู่นั้น เคย์โกะจังก็วิ่งมาหาผมด้วยท่าทางตื่นเต้น ดูเหมือนเธอจะไปเจออะไรเข้า

ใจเย็นๆสิ มีอะไรงั้นเหรอ เคย์โกะจัง

คุณแม่ค่ะ คุณแม่ของยูฟี่จังต้องการพบกับทัตสึยะซังค่ะ!!

ฮะ!!!

ผมเผลอส่งเสียงออกไปด้วยความตกใจ ถ้าพูดถึงแม่ของยูฟีน่าล่ะก็ เธอน่าจะกำลังต่อสู้อยู่ที่เมืองกูสตาฟ หรือไม่ก็กำลังอยู่ในระหว่างหลบหนี.....

นั่นสินะ.....บางทีเธออาจจะหลบหนีมาแถวนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกันนี่นะ ในอดีตที่ผ่านมานั้นถึงแม้ผมจะมีแฟนมาแล้วหลายคน แต่การได้พบเจอกับพ่อแม่ของพวกเธอนั้น ก็เป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

การพบกับพ่อแม่ของพวกเธอนั้น จะเรียกว่าเป็นเข้าต่อสู้กับลาสบอสก็เป็นได้ แล้วแถมยังเป็นเวลานี้อีก ผมน่ะยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยซะด้วย ถ้าหากถูกรู้ว่าผมเป็นคนขโมยความบริสุทธิ์ของลูกสาวไปล่ะก็........

ทัตสึยะซัง......

เอ๋!!? อ่ะ เอ่อ เข้าใจแล้ว เชิญเคานท์เตสเมลติน่า ไปที่ห้องรับรองก่อน ผมจะรีบไปพบเด๋วนี้แหละ

หลังจากนั้นผมก็รีบไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสียใหม่ กับคุณแม่ของว่าที่ภรรยานั้นจะให้มาเห็นผมในสภาพที่แต่งตัวสบายๆแบบนี้คงไม่ได้
 

14 ความคิดเห็น:

  1. เอาล่ะสิ งานงอกแล้วไงเทพทัต เทพยังไงก็ยังแพ้ว่าที่ขุ่นแม่ยายอยู่ดี ไปล้างคอรอเชือดซะเถอะ ข้อหามีสาวเยอะ+พลังหมีแอบแฝง
    เบิกตัวจำเลย... แว่... วู้วู่...

    ตอบลบ
  2. ชิหายแล้วววววว 555

    ตอบลบ
  3. บรรลัยแล้วงานนี้

    ตอบลบ
  4. อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด

    ตอบลบ
  5. ขุ่นแม่จะแน่ซักแค่ไหน ก็มิอาจขัดขวางพลังหมีได้หรอก .. ขอพลังหมีจงสถิตอยู่กับเจ้า เทพทัต

    ตอบลบ
  6. งานหยาบแน่นอน

    เก่งกล้าสามารถทั้งศึกรบศึกรัก แต่มาตายกะการเจอหน้าพ่อตาแม่ยายนี่เอง

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ27 มีนาคม 2559 เวลา 10:06

    อืม~ สร้างปราสาทกันได้ไวแท้ แค้ไม่นานก็สร้างห้องใต้ดินที่มีอุปกรณ์สำหรับใช้งานด้านต่างๆได้แล้ว
    ส่วนเทพทัต...ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าคุณแม่ยายยังสาวก็รวบไปด้วยซะอีกคนเลยสิ
    "แม่ยาย is fine too.

    ตอบลบ
  8. กลัวจะกินแม่ด้วยน่ะสิ

    ตอบลบ
  9. ชิบผายแล้ว.. เทพทัพได้กล่าวไว้

    ตอบลบ