ตอนที่ 52 ข่าวร้าย


-- มุมมองของยูฟีน่า --

ช่วงค่ำของวันที่ 11 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

ชั้นกำลังอยู่ในระหว่างเดินทางกลับไปยังปราสาทฟีเรน่าที่กำลังก่อสร้าง แต่ถึงจะบอกว่ากำลังก่อสร้าง ในวันนี้โครงสร้างส่วนใหญ่และห้องพักต่างๆก็คงจะสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว

พื้นที่ของปราสาทฟีเรน่าจะถูกใช้เป็นฐานที่มั่นหลักในการทำสงครามของพวกเราในครั้งนี้ เพราะเหตุนั้นทัตสึยะซามะจึงรับหน้าที่ในการตรวจสอบและควบคุมรูปแบบในการก่อสร้างด้วยตัวเอง

เจ้าไอออนฮาวล์นี่ยอดไปเลยนะคะ ทั้งๆที่เป็นช่วงกลางคืน แต่ก็ยังสามารถวิ่งผ่านทุ่งหญ้าได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้

เด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับชั้นพูดขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้น

เด็กสาวคนนี้มีชื่อว่า อาเรีย เมลริส เธอเป็นลูกสาวของตระกูลเมลริส ตระกูลของเธอนั้นเป็นตระกูลอัศวินที่ปกครองอาณาเขตของหมู่บ้านเล็กๆทางใต้ของเมืองเวลล่า ซึ่งเป็นทางผ่านในการเดินทางกลับของชั้นพอดี

จากการปิดกั้นเส้นทางของกองทัพกบฏเมื่อหลายวันก่อนนั้น หมู่บ้านของเธอได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงเป็นตัวแทนของตระกูลในการแสดงความขอบคุณและขอเจรจาต่อรองกับอาณาจักรของพวกเรา

กับ เด็กสาวน่ารักอย่างเธอนั้น ถ้าคุณว่าที่สามีสุดแสนเจ้าชู้ของชั้นได้เห็นก็คงจะต้องชอบเธอแน่ ดังนั้นหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีและได้ตระกูลเมลริสมาเข้าร่วมด้วยล่ะก็ นอกจากจะเป็นการเพิ่มกำลังรบแล้ว มันยังจะเป็นการแสดงให้พวกตระกูลขุนนางเล็กๆในพื้นที่แถบนี้ได้เห็นถึงพลังอำนาจของพวกเราอีกด้วย

แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ไอออนฮาวล์นั้นเป็นพาหนะชั้นยอดที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเวทมนต์ของอาณาจักรออร์ธรอส ในยุคนี้คงจะไม่มีพาหนะใดที่ยอดเยี่ยมไปกว่าเจ้านี่อีกแล้วล่ะค่ะ

ชั้นตอบกลับคุณหนูอาเรียออกไปด้วยความมั่นใจ หากเป็นในที่ราบแล้วล่ะก็ ต่อให้เอาไปเทียบกับเรือเหาะของกองทัพจักรวรรดิก็คงไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน

ใช้แล้วล่ะครับ เจ้าไอออนฮาวล์นี่น่ะเป็นทั้งดาบและโล่ เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคนเลยล่ะครับ

กัสต้าซังพูดขึ้นมาจากที่นั่งคนขับ ซึ่งเค้าก็คือเด็กหนุ่มที่เข้ามาปกป้องชั้นเอาไว้ในคืนนั้น การไปเมืองเวลล่าในวันนี้นั้นไอโกะซังได้ส่งเค้ามาทำหน้าที่หัวหน้าคนคุ้มกันให้กับชั้น เค้าเป็นเด็กหนุ่มที่มีความสามารถและไว้ใจได้มากเลยทีเดียว

ได้เป็นคู่ครองของผู้ปกครองประเทศที่สร้างของแบบนี้ได้เนี่ย สมแล้วที่เป็นท่านหญิงของตระกูลโรเซนเบิร์กเลยนะคะ

คุณหนูอาเรียพูดขึ้นมาด้วยแววตาเปล่งประกาย แต่กับคำพูดของเธอนั้นกลับทำให้ชั้นรู้สึกเจ็บปวด เพราะชั้นในตอนนี้น่ะ....ไม่ใช่คนของตระกูลโรเซนเบิร์กอีกต่อไปแล้ว.....

 ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ชั้นก็เป็นแค่คู่หมั้นคนที่ 4 เท่านั้นเองน่ะค่ะ

ชั้นพยายามฝืนยิ้มและตอบกลับไป หลังจากนั้นพวกเราก็พูดคุยกันเรื่อยเปื่อยจนกลับไปถึงยังปราสาทฟีเรน่า ถึงแม้ระยะทางจากเมืองเวลล่าไปถึงปราสาทฟีเรน่าจะไกลถึง 150 กิโลเมตร แต่ด้วยความเร็วของไอออนฮาวล์ พวกเราก็สามารถไปถึงได้ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

และเมื่อกลับมาถึงชั้นก็ได้ยินเรื่องที่น่าตกใจในทันที

ทะ ท่านแม่!!

เมื่อทราบเรื่องที่ท่านแม่มาหา ชั้นก็รีบวิ่งไปยังห้องรับรองแห่งนั้นโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง และโผเข้ากอดท่านแม่ในทันที

อ๊า ยูฟีน่า ทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นมันเสียมารยาทนะจ๊ะ

เอ๋!!?

พอได้ยินคำพูดของท่านแม่ชั้นจึงได้รู้สึกตัว ภายในห้องรับรองแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงท่านแม่ของชั้น แต่ยังมีทัตสึยะซามะ อากิโอะซามะ ยูเมะซามะ ฮารุกะซามะ ไอโกะซามะ และคนอื่นๆอีกมากมาย

ดิชั้นต้องขอโทษแทนลูกสาว กับเรื่องที่เสียมารยาทเช่นนี้ด้วยจริงๆค่ะ

ท่านแม่พูดขอโทษแทนชั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซึ่งโดยปกติแล้วทัตสึยะซามะคงจะไม่ถือโทษกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ แต่สีหน้าของทัตสึยะซามะในตอนนี้นั้นดูเคร่งเครียดแตกต่างจากเวลาปกติโดยสิ้นเชิง

ที่ทุกคนมารวมกันอยู่แบบนี้........เอ่อ.....กำลังประชุมเรื่องสำคัญสินะคะ.....

การที่บรรดาหัวหน้าของทุกฝ่ายมารวมตัวกันแบบนี้นั้น ไม่ต้องบอกชั้นก็พอจะทราบว่ามันคงจะต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ฟังแม่ให้ดีนะยูฟีน่า ท่านเคานต์เกรฟี่ ท่านพ่อของลูกน่ะได้เสียชีวิตลงแล้ว

ท่านพ่อ.....เสียชีวิต......ท่านพ่อที่แสนจะใจดีคนนั้น......ได้เสียชีวิตลงแล้ว......ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่การสละชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัวและประชาชนนั้นก็ถือเป็นการตายอันทรงเกียรติ และชั้นก็ได้เตรียมใจเอาไว้แล้วจึงพอที่จะยอมรับมันได้ แต่กับคำพูดต่อไปของแม่นั้น ทำให้ชั้นถึงกับพูดไม่ออกและทรุดลงไปกับพื้น

และถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก แต่ท่านพ่อได้ถูกลมหายใจของมังกรทมิฬคร่าเอาชีวิตไปโดยไม่มีแม้แต่โอกาสจะตอบโต้ มันเป็นเรื่องจริง แม่ได้เห็นมันมากับตาของตัวเอง.....

ไม่ใช่เพียงแค่ท่านพ่อเท่านั้น แต่ทุกคนในกองอัศวินที่ 2 ต่างเสี่ยงชีวิตเข้าต่อสู้กับมังกรเพื่อถ่วงเวลาให้ท่านแม่ เด็กและพวกผู้หญิงหนีออกจากเมือง

.......ดราเกีย........เผ่าพันธุ์.........มังกร.........ทุกคนถูกฆ่า........

กับตัวชั้นที่ไร้เรี่ยวแรงเพราะความหวาดกลัวนั้น ได้ทัตสึยะซามะว่าที่สามีของชั้นเข้ามาโอบกอดเอาไว้ ร่างกายที่กำลังสั่นเทาของชั้นได้ไออุ่นจากร่างกายของเค้าช่วยปลอบโยนเอาไว้

สีหน้าแบบนี้ไม่เหมาะกับเธอเลยนะยูฟีน่า

ทัตสึยะ ซามะ......

มังกรมันก็แค่กิ้งก่าตัวใหญ่เท่านั้นแหละน่า ยังไม่ทันได้ลองสู้ดูเลยเธอก็คิดจะยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ

ทัตสึยะซามะพูดพร้อมกับลูบผมของชั้นอย่างอ่อนโยน ใบหน้าที่ดูเคร่งเครียดจนถึงก่อนหน้านี้ของเค้าได้เปลี่ยนกลับไปเป็นใบหน้าที่ชั้นเคยรู้จัก เป็นใบหน้าของทัตสึยะซามะที่อ่อนโยนกับเด็กสาวอย่างชั้นอยู่เสมอ

ใช่แล้วล่ะยูฟีจัง จะกิ้งก่าหรือจะมังกร ท่านฮารุกะคนนี้ก็จะจับมันมาทำสเต๊กให้เอง

ข้าวหน้ามังกรก็ไม่เลวนะคะ

เอากระดูกมังกรไปลองทำซุบดูดีมั๊ยคะ

นู๋อยากได้มังกรอบชีสค่า....!!

ไม่เลวเลยนะนั่นน่ะ ผมเองก็อยากจะลองกินเนื้อมังกรดูซักครั้งเหมือนกันนะ

ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างพูดชื่ออาหารที่ตัวเองโปรดปรานออกมา บรรยากาศที่ตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นเผ่าพันธุ์ดราเกียที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับสองรองจากเผ่าพันธุ์วัลคีเรียแต่ทุกคนก็พร้อมจะร่วมมือและเดินหน้าเข้าต่อสู้กับมัน

ทุกคน…..

หลังจากนั้นพวกเราก็พูดคุยและวางแผนการเพื่อรับมือกับมังกรทมิฬ เพราะถึงแม้พวกเราจะไม่คิดไปบุกยึดเมืองกูสตาฟแต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรบ้าง ดังนั้นจึงต้องเตรียมการเอาไว้ก่อน

จากที่ท่านแม่ได้เล่าให้ฟังนั้น ดูเหมือนมังกรทมิฬจะถูกตัดปีกจึงทำให้มันไม่ให้สามารถบินไปไหนได้ ดังนั้นพวกเราจึงพอจะได้เปรียบหากโจมตีมันจากบนฟากฟ้า ส่วนบนดินนั้นจำเป็นจะต้องเสริมความหนาของเกราะให้กับไอออนฮาวล์ นอกจากนั้นก็ยังจำเป็นต้องทำให้สามารถทนความร้อนในระดับสูงได้

ซากิจัง ถ้ายังไงลองปรึกษากับพวกคนแคระดูนะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะได้โล่ขนาดใหญ่ที่สามารถทนความร้อนสูงได้ สำหรับให้พวกทหารราบใช้น่ะ

ดูเหมือนพวกเค้าจะรู้วิธีสร้างโล่เวทมนต์นะคะ ชั้นจะรีบไปดำเนินการเด๋วนี้เลยค่ะ

ซากิซังที่รับหน้าที่ด้านการสร้างอาวุธและยุทโธปกรณ์ตอบรับและวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

ถ้างั้นชั้นจะลองไปปรึกษากับไอริจังดูนะคะ บางทีเธออาจจะมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเผ่ามังกรก็ได้น่ะค่ะ

ไอโกะซามะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง กับไอริซังนั้นชั้นเองค่อยทราบรายละเอียดนัก แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นผู้รอบรู้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลและประวัติศาสตร์ของเผ่าต่างๆเป็นอย่างดี

ถ้างั้นวันนี้ก็แยกย้ายกันก่อน ถ้าใครมีเรื่องด่วนอะไรก็รีบติดต่อมาทันทีนะ

จากนั้นทุกคนก็ทยอยกันออกจากห้องไปเหลือเพียงชั้น ท่านแม่และทัตสึยะซามะเท่านั้น

ที่ได้ช่วยเหลือลูกสาวทั้งสองคนเอาไว้ต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะ

ท่านแม่ของชั้นก้มหัวลงและกล่าวขอบคุณออกไป ที่ผ่านมานั้นชั้นไม่เคยได้เห็นท่านแม่ก้มหัวให้กับใครมาก่อน บางทีในวันหนึ่งหากชั้นได้เป็นแม่คนล่ะก็ ชั้นคงจะพอเข้าใจถึงจิตใจของท่านแม่ได้

ไม่เป็นไรหรอกครับ.....ยูฟีน่าเองก็คอยช่วยเหลืองานของผมหลายเรื่อง เป็นเด็กสาวที่น่ารักมากเลยล่ะครับ

กับการขอบคุณของท่านแม่นั้น ทัตสึยะซามะยิ้มและตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

จะว่าไปแล้วดูเหมือนเมื่อครู่คุณจะใกล้ชิดกับยูฟีน่ามากเลยนะคะ ไม่ทราบว่าไปถึงขั้นไหนกันแล้วหรือคะ.....

หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่บรรยากาศภายในห้องที่เคยอบอุ่นกลับหนาววูบขึ้นมาในทันที.....

12 ความคิดเห็น:

  1. สนุกมากครับ ออกตอนใหม่ๆได้ไวดีชอบมากครับ หวังว่าจะออกไวแบบนี้ตลอดจะติดตามตลอดไปครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้วแต่ช่วงล่ะครับ บางช่วงก็เขียนยาก บางช่วงก็ติดงานน่ะครับ
      หลังจากนี้คงเริ่มออกช้าลงแล้วล่ะครับ

      ลบ
    2. ไม่เป็นไรครับอย่าหายไปก็พอ บางเรื่องผมอ่านอยู่ดีๆก็เลิกแปล แค่แปลออกมาให้ได้อ่านก็เป็นพระคุณมากแล้วครับ หวังว่าจะได้อ่านผลงานเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ

      ลบ
  2. เทพทัตงานเข้าแล้ว

    ตอบลบ
  3. เทพทัตกำลังขึ้นเขียงแล้ว เตรียมเติมทรูเยอะๆ ล่ะ จะได้รอด 555+

    ตอบลบ
  4. ทัตซึหมี ที่พักสุดหรูแห่งสน.ทุ่งมหาเมพรอท่านอยู่

    ตอบลบ
  5. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณมากครับ หรือท่านแม่จะสนใจเข้าร่วมด้วยน้อ อ่ะ อย่าลืมคุณพี่สาว กับ อัศวินหญิงอีกน่ะเทพทัต

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ29 มีนาคม 2559 เวลา 10:47

    ถ้าเครมแม่ยายได้คงต้องยกฉายา "พระยาเทครัว" ให้เทพทัตแล้วสินะ

    ตอบลบ
  9. เคมพีชายด้วยเลยมั้ยคับ

    ตอบลบ