ตอนที่ 53 เด็กสาวผู้มีดวงตาสองสี


ช่วงกลางดึกของวันที่ 11 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

เนื่องจากการประชุมได้จบลง ภายในห้องรับรองตอนนี้จึงเพียงผม ยูฟีน่า เคานท์เตสเมลติน่า และมาเรียจังเท่านั้น

มาถึงขั้นนี้แล้วผมก็ขอพูดตรงๆ ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะไม่ได้แจ้งให้ทราบ แต่หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว ผมจะจัดงานแต่งและรับยูฟีน่ามาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องแน่นอนครับ

กับคำพูดของผมนั้นเคานท์เตสเมลติน่าก็ยิ้มตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน แต่ลูกสาวของเธอกลับมีท่าทีลนลานและตอบรับกลับมาด้วยความเขินอาย

เอ๋!....ตะ....แต่ง...ค่ะ

อ๊าร่า หนุ่มสาวสมัยนี้ไฟแรงกันจังเลยนะจ๊ะ แค่รู้จักกันไม่นานก็คิดถึงอนาคตกันแล้ว ทำเอาดิชั้นนึกไปถึงคุณสามีในสมัยที่เค้ายังหนุ่มๆเลย

ถึงแม้จะเป็นคำพูดด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่อ่อนโยน แต่กับคำพูดของเคานท์เตสเมลติน่านั้น ทำเอาผมรู้สึกเย็นวูบไปทั่วทั้งร่างกายเลยทีเดียว

ถึงพวกเรารู้จักกันเพียงไม่นาน แต่ผมก็รักยูฟีน่าไม่น้อยไปกว่าคู่หมั้นคนอื่นเลยนะครับ

ทัตสึยะซัง.....

ผมพูดพร้อมกับกุมมือของยูฟีน่าเอาไว้ และบอกให้มาเรียจังนำเอากล่องเครื่องประดับที่ของได้เตรียมเอาไว้ออกมาให้ยูฟีน่าและเคานท์เตสเมลติน่าดู

มันอาจจะไม่ใช่ของมีราคานัก แต่ก็เป็นของที่ผมคัดเลือกมาอย่างดี ผมอยากจะมอบมงกุฎอัญมณีอันนี้ให้กับยูฟีน่าเป็นของหมั้นน่ะครับ

อ๊าร่า ช่างเป็นมงกุฎอัญมณีที่งดงามจริงๆ ลูกว่างั้นมั๊ยยูฟีน่า

เคานท์เตสเมลติน่าพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม มงกุฎอัญมณีตรงหน้าของพวกเราในตอนนี้เป็นมงกุฎเพชรที่ประดับประดาไปด้วยอัญมณีสีชมพูสดใสเป็นประกาย เนื่องจากฐานะของยูฟีน่าในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงบุตรสาวคนรองของตระกูลขุนนาง แต่เธอเป็นถึงผู้ปกครองอาณาจักร ดังนั้นของสำหรับใช้ในการหมั้นจึงต้องถูกยกระดับขึ้นตามไปด้วย

เอ๋...เอ่อ....แต่.....

ยูฟีน่ามองมาทางผมด้วยสายตาเป็นกังวล สำหรับเธอแล้วบางทีเธออาจจะคิดว่ามันมากเกินจนไป

เธอไม่ชอบงั้นเหรอ อัญมณีสีชมพูที่ประดับอยู่นี่มันดูเข้ากับสีผมของเธอมากเลยนะ แต่ถ้าเธอไม่ชอบผมจะลองไปหาของชิ้นอื่นดู.....

มะ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ชอบ ชั้นชอบมันมากเลยค่ะ แต่มอบของล้ำค่าแบบนี้ให้กับชั้นที่เป็นเพียงคู่หมั้นลำดับที่ 4 มันจะไม่ทำให้ยูเมะซามะโกรธเอาเหรอคะ....

ถึงยูฟีน่าจะพูดออกมาอย่างนั้น แต่ดวงตาของเธอกลับไม่อาจจะละสายตาไปจากมงกุฎอัญมณีแสนงดงามตรงหน้าไปได้

เมื่อก่อนแม่ยังเห็นลูกชอบเอาของในบ้านมาทำเป็นมงกุฎแล้วเล่นเป็นเจ้าหญิง.....

ทะ ท่านแม่คะ!!

ยูฟีน่ารีบเอามือไปปิดปากท่านแม่ของเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องในทันที

เรื่องงานหมั้นเอาไว้เท่านี้ก่อนเถอะค่ะ ทัตสึยะซามะชั้นได้รับคำตอบจากท่านพี่โรเดริกและท่านพี่หญิงเซลฟีน่ามาแล้วค่ะ

ตอบกลับในวันเดียวเลยงั้นเหรอ....

การไปเมืองเวลล่าของยูฟีน่าในวันนี้ก็เพื่อเจรจาและทำข้อตกลงกับทางโรเดริกและเซลฟีน่าผู้ที่ปกครองเมืองเวลล่าอยู่ในขณะนี้

สำหรับผลของการเจรจานั้นทางโรเดริกไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆของทางเราแม้แต่อย่างเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเค้าก็ยังยอมถอนทหารออกจากเมืองเวลล่า และทิ้งท้ายคำพูดเอาไว้ว่า

หากทางจักรวรรดิมีคำสั่งลงมาล่ะก็ พี่จะเป็นคนนำกองทัพอัศวินบุกไปทำสงครามกับอาณาจักรของเธอด้วยตัวเอง

การที่โรเดริกยอมถอนทหารและยกเมืองเวลล่าให้เรากับโดยง่ายนั้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะข่าวของเมืองกูสตาฟที่ยูฟีน่านำไปแจ้ง อีกทั้งโรเดริกนั้นยังเป็นอัศวินที่ถูกแต่งตั้งโดยตรงจากจักรพรรดิ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่เค้าจะยอมเข้าร่วมกับพวกเรา หลังจากถอนทหารออกไปแล้วเค้านำกำลังทั้งหมดไปบุกยึดเอาเมืองกูสตาฟกลับคืนมาด้วยมือของเค้าเอง

ส่วนเซลฟีน่านั้นหลังจากใช้เวลาทบทวนดูแล้วเธอก็ตอบตกลงรับข้อเสนอของทางเรา โดยข้อเสนอที่พวกเรามอบให้กับเซลฟีน่านั้น คือตำแหน่งดยุคหญิงของอาณาจักรออร์ฟีน่า และอาณาเขตพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้านมิลัน โดยพวกเราจะไปสร้างเมืองป้อมปราการขึ้นให้กับเธอในบริเวณนั้นด้วยเช่นกัน

แบบนี้พวกเราก็มีโอกาสได้เจอกับทัตสึยะซามะบ่อยขึ้นแล้วนะจ๊ะโรน่า

อ่ะ เอ๋! เด๋วสิคะ! ทำไมถึงมองชั้นด้วยสายตาแบบนั้นล่ะคะ!!

และก่อนที่ยูฟีน่าจะเดินทางกลับมานั้น เธอก็ได้มอบชุดชั้นในที่ผมฝากไปให้กับโรน่าจังแบบลับๆเรียบร้อยแล้วด้วย และตอนที่เธอเห็นของนั้นก็ดูเหมือนยัยโรน่าจะเขินจนหน้าแดงก่ำเลยทีเดียว

หลังจากพูดคุยกันจบก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เคานท์เตสเมลติน่าจึงบอกลากับพวกเราและกลับไปยังห้องของเธอ

นี่ก็ดึกมากแล้ว..... ยังไงก็อย่าหักโหมจนเกินไปนะจ๊ะทั้งสองคน

ทะ ท่านแม่!! พูดอะไรกันคะ!!

เคานท์เตสเมลติน่าพูดทิ้งท้ายเอาไว้แบบนั้นก่อนจะรีบปิดประตูหนีไป

เห้อ.....นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว…..

หลังเคานท์เตสเมลติน่าออกจากห้องไปผมก็ล้มตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรง การพบกับท่านแม่ของยูฟีน่านั้น บางทีอาจจะทำให้สูญเสียพลังงานมากกว่าไปต่อสู้กับเผ่ามังกรก็เป็นได้

ยินดีด้วยนะคะ นายท่าน ท่านหญิงยูฟีน่า

มาเรียจังแสดงความยินดีกับพวกเราและเข้ามานวดไหล่ให้ผม

ขอบใจนะมาเรียจัง

เธอก็ด้วยนะมาเรียจัง ผมเองก็รักเธอไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงคนอื่นเหมือนกันนะ

ผมพูดพร้อมกับดึงมาเรียจังเข้ามาใกล้และประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากอันเย้ายวนและอ่อนนุ่มของเธอ แต่เนื่องจากในวันนี้พวกเราเหนื่อยกับมามากแล้วผมจึงพาพวกเธอทั้งสองคนไปสนุกกันที่ห้องอาบน้ำและรีบเข้านอน

เช้าวันถัดมาผมก็ได้มาพบกับเด็กสาวน่ารักที่มีกิริยาท่าทางเหมือนกับพวกลูกคุณหนู เธอมีชื่อว่า อาเรีย เมลริส เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลอัศวินเมลริส เธอมีเรือนผมสีทองเป็นประกาย และเธอยังแต่งกายด้วยชุดโกธิคโลลิ ซึ่งมันเป็นสไตล์ชุดในแบบที่ผมชอบมากเลยทีเดียว

แต่ส่วนสำคัญที่สุดที่ดึงดูดสายตาของผมนั้นคือดวงตาของเธอ ดวงตาข้างขวาของเธอเป็นสีม่วงส่วนข้างซ้ายนั้นเป็นสีคราม

เมื่อเด็กสาวตาสองสีที่ผมชื่นชอบมากเวลาดูอนิเมะมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า หัวใจของผมจึงเต้นอย่างรุนแรงเพราะความตื่นเต้น กับเด็กสาวตรงหน้าคนนี้ผมคงจะไม่สามารถปล่อยให้เธอไปเป็นของคนอื่นได้ ดังนั้นถึงแม้จะต้องใช้วิธีขี้โกงผมก็คงต้องทำให้เธอมาเป็นของผมให้ได้

เอ่อคือ.....เป็นอะไรหรือคะ ทัตสึยะซามะ....

คุณหนูอาเรียถามขึ้นมาเพราะผมมัวแต่ตกตะลึงกับดวงตาสองสีของเธอ

อ่ะ.....โทษทีนะ เมื่อครู่ผมถูกดวงตาที่สุดแสนจะงดงามของเธอสะกดเอาไว้น่ะ

เอ๋! ขะ ขอโทษจริงๆค่ะ ดิชั้นไม่คิดว่าดวงตาของชั้นจะส่งผลแบบนั้นกับทัตสึยะซามะ

ดูเหมือนเธอจะเข้าใจผิดไปซักหน่อยจึงรีบก้มหัวและพูดขอโทษออกมา แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้วผมก็คงจะต้องใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ล่ะนะ

นั่นสินะ ถ้าเธอยอมมาเป็นของผมล่ะก็ จะยกโทษให้ก็แล้วกัน แน่นอนว่าผมไม่ยอมให้เธอไปไหนแน่ถ้าคิดจะปฏิเสธน่ะนะ.....

ผมแสยะยิ้มแล้วพูดกดดันออกไป ในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดของผมนั้น เธอเป็นคนแรกที่ทำให้ผมคิดจะใช้วิธีชั่วร้ายแบบนี้

อ่ะ เอ๋............เอ๋!!!!!!!!!!!?????????

ฮะ ฮะ ผมล้อเล่นน่ะ ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ดันมาเจอกับเด็กสาวแสนสวยอย่างเธอเข้า ถ้าปล่อยเธอไปเป็นของผู้ชายคนอื่นล่ะก็ผมคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่เลยล่ะ.....

ผมรีบเปลี่ยนมาพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน กับผมที่เป็นถึงผู้ปกครองของอาณาจักรออร์ธรอสนั้น ไม่ว่ายังไงเธอก็มีแต่ได้ประโยชน์ ดังนั้นพูดไปเพียงแค่นี้เธอก็น่าจะเข้าใจ และยอมเป็นของผมแล้วล่ะนะ

.........เอ่อคือ........ถ้าดิชั้นยอมเป็นของทัตสึยะซามะ........

กังวลเรื่องของครอบครัวงั้นเหรอ หรือเรื่องของจักรวรรดิกันล่ะ

ค....แค่เล็กน้อย แค่เพียงเล็กน้อยก็ได้ ช่วยแบ่งเสบียงอาหารและอาวุธให้กับพวกชาวบ้านที่กำลังลำบาก........ขอร้องล่ะค่ะจะให้ชั้นเป็นของเล่นหรือเป็นทาสก็ได้ ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราด้วยเถอะค่ะ

คุณหนูอาเรียยืนขึ้นและก้มหัวขอร้อง ดูเหมือนหมู่บ้านของเธอจะประสบปัญหาอย่างหนักจากเรื่องที่กองทัพกบฏได้ทำการปิดกั้นเส้นทาง แต่ถึงพวกกองทัพกบฏจะทำให้ผู้คนเดือดร้อนไปมาก.........ในใจลึกๆของผมกลับรู้สึกขอบคุณพวกมันที่ทำให้ผมได้มีโอกาสเจอกับเด็กสาวคนนี้.......

13 ความคิดเห็น:

  1. แน่ะ หาโอกาสอย่างไวเลย

    ตอบลบ
  2. เย้ๆมาแล้ว ขอบคุณจ้า
    เทพทัตก็ยังไม่เข็ดสินะ555

    ตอบลบ
  3. เย้ๆมาแล้ว ขอบคุณจ้า
    เทพทัตก็ยังไม่เข็ดสินะ555

    ตอบลบ
  4. สมาชิกฮาเร็มเพิ่ม 1ea

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กว่าจะจบเรื่องสงสัยมีเป็น 100 คนแหงมๆ

      ลบ
  5. ชิ สุดท้ายเทพทัตก็ยังรอด เติมทรูไปเยอะล่ะสิ ถึงรอดเขียงบั่นคอลูกเขยมาได้ แถมไม่วายรีบคว้าสาวเพิ่มอีกคนแถมใช้แผนตะล่อมอีกต่างหาก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขุ่นแม่ใจดีกว่าที่คิดเอาไว้ซะได้ วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

      ลบ
  6. หวังว่าตอนจบ คงไม่โดนเมียตัวเองเอามีดปักอกหรอกนะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อันนี้ก็ไม่แน่นะครับ คงต้องรอติดตามกันต่อไป.....แต่ยังอีกนานมากเลยครับ
      เพราะกะว่าเนื้อเรื่องหลักจะจบลงในบทที่ 5
      แล้วต่อเนื้อเรื่องเสริมในบทที่ 6 อีกหน่อยล่ะมั้งครับ...

      ลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ29 มีนาคม 2559 เวลา 10:56

    เห็นสาวตาสองสีที่สุดจะแฟนตาซีอย่างนี้ นึกว่าจะเสร็จเจ้าอากิซะอีก หรือที่เทพทัตรีบเพราะกลัวเจ้าอากิมาเจอ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นั่นสิครับอากิมาเจอเด๋วจะยุ่งต้องรีบจัดก่อน

      ลบ
  8. เสร็จหมีอีกนึงคน ตำรวจคับทางนี้คร้าบบบบบบบ......

    ตอบลบ