ตอนที่ 54 การสู้รบที่ทุ่งราบเอลน่า บทที่ 1


ช่วงเช้าของวันที่ 12 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

หมู่บ้านของเธอมีคนอยู่เท่าไหร่ล่ะ

ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆล่ะก็แค่เพียงอาหารเล็กน้อยก็คงจะเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่คิดจะยกเสบียงอาหารของพวกเราให้กับคนอื่นเพียงเพื่อความต้องการส่วนตัว

รวมพวกเด็กๆด้วยแล้วก็ 274 คนน่ะค่ะ....

คุณหนูอาเรียตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ดูเหมือนเธอจะลำบากใจที่จะพูดเรื่องพวกนี้ออกมา ไม่แน่ว่าบางทีเด็กๆที่เธอพูดถึงนั้นอาจจะกำลังอยู่ในอันตราย

คนที่ไม่ทำงานก็ไม่สมควรจะได้รับอาหาร เธอเข้าใจเรื่องนี้รึเปล่า

..............ค่ะ

เธอตอบรับคำพูดของผมออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ คงจะคิดว่าผมไม่ยอมแบ่งเสบียงให้แน่ๆงั้นสินะ

นั่นก็หมายความว่า ถ้าผู้คนในหมู่บ้านของเธอยอมมาช่วยทำงานล่ะก็….

เอ๋!! ทำงาน มีงานที่พอจะให้พวกชาวบ้านและเด็กๆช่วยได้งั้นเหรอคะ

เรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลัง ก่อนอื่นผมขอมัดจำก่อนก็แล้วกันนะ

..........อุ๊บ!!???

ผมพูดพร้อมกับดึงคุณหนูอาเรียเข้ามากอด แล้วค่อยๆลูบไล้เรือนผมอันงดงามของเธอก่อนจะบรรจงประทับริมฝีปากของผมลงไปบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ

ไม่เลวเลยนะอาเรียจัง แต่ตอนนี้ต้องรีบจัดการเรื่องพวกชาวบ้านก่อน เพราะงั้นพวกเราค่อยมาต่อกันคืนนี้นะ

ความจริงผมก็อยากจะจับเธอกดลงบนเตียงในตอนนี้เลยเหมือนกัน แต่พวกเรายังมีอีกหลายเรื่องให้ทำดังนั้นจึงจำเป็นต้องอดทนเอาไว้ก่อน

ค......ค่ะ

คุณหนูอาเรียตอบกลับมาด้วยท่าทางเขินอาย ความน่ารักของเธอนั้นช่างเย้ายวนเป็นอย่างมาก วันนี้ผมคงจะต้องรีบจัดการงานทั้งหมดให้เสร็จโดยเร็วเสียแล้ว

หลังจากนั้นผมก็ฝากให้ยูเมะจังและฮารุกะจังช่วยพาคุณหนูอาเรียกลับไปที่หมู่บ้าน เนื่องจากในตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องรีบทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเตรียมการรบ ผมจึงไม่ได้ติดตามไปด้วยเพราะต้องไปจัดการเรื่องอื่นๆ

สำหรับชาวบ้านและครอบครัวของคุณหนูอาเรียนั้นได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลืองานด้านจัดการเสบียง ทำอาหาร ซักผ้า ทำความสะอาดและงานจิปาถะอื่นๆ ในปราสาทฟีเรน่าตอนนี้มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมากทำให้งานมีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นพวกชาวบ้านจึงมีประโยชน์กับพวกเรามากทีเดียว

มาเรียจัง ช่วยไปเตรียมที่พักกับคนจำนวน 274 คนให้ทีนะ

เข้าใจแล้วค่ะ

เมื่อได้ยินคำสั่งของผม มาเรียจังก็รีบไปจัดการให้ในทันที ภายในปราสาทแห่งนี้มีห้องพักถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการหาที่พักให้กับคนจำนวน 274 คนจึงไม่ยากอะไรนัก และหากไม่เพียงพอพวกเราก็ยังสามารถสร้างที่พักเพิ่มขึ้นมาบริเวณใกล้ๆปราสาทได้อีก

แต่การที่ผมรับพวกชาวบ้านเข้ามาช่วยทำงานนั้น ก็ทำให้เกิดข่าวลือต่างๆแพร่กระจายออกไปมากมาย ซึ่งก็แน่นอนว่าฝ่ายกองทัพกบฏเองก็ได้ข่าวนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ พวกกองทัพกบฏจะต้องคิดว่าพวกเรากำลังรวบรวมกำลังคนเพื่อมาใช้ในการทำสงคราม

ดังนั้นเพื่อไม่ให้พวกเราได้มีกำลังมากจนเกินไป ฝ่ายกองทัพกบฏจึงรีบจัดเตรียมกองทัพ และเคลื่อนที่เข้ามาใกล้กับอาณาเขตของพวกเราในเวลาหลังจากนี้เพียงไม่กี่วัน


ช่วงกลางดึกของวันที่ 18 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

กองทัพกบฏกว่า 4000 นายที่นำโดยบารอนเอลเก้นได้เคลื่อนที่เข้าประชิดแนวรบของเราซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทฟีเรน่าออกไปเพียง 20 กิโลเมตร พวกนั้นเลือกที่จะเคลื่อนทัพในเวลากลางคืนเพราะยากแก่การตรวจพบ แต่มันก็ไม่สามารถหลบพ้นสายตาของพวกเราที่สามารถมองเห็นในช่วงกลางคืนไปได้

เริ่มโจมตีได้!!

ผมส่งสัญญาณออกไปเพื่อเริ่มทำการโจมตี ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เพียงแค่กองทหาร แต่พวกเรายังได้พัฒนาปืนกลอัตโนมัติพลังเวท ที่มีทั้งความแม่นยำและระยะยิงไกลมาติดตั้งเอาไว้บนไอออนฮาวล์

ระยะยิงหวังผลของปืนกลอัตโนมัติพลังเวทนั้นมากกว่า 1 กิโลเมตร จึงทำให้พวกเราสามารถโจมตีใส่กองทัพกบฏได้โดยที่พวกนั้นไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้โต้ตอบ ซึ่งก็ต้องขอบใจเอริจังและพวกเด็กสาวเผ่าคนแคระที่ช่วยกันคิดค้นจนสามารถเอามาใช้งานจริงได้ทันเวลา

ทหารกองหน้าของกองทัพกบฏร่วงลงไปจากนกเจลโล่คนแล้วคนเล่า เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ เพียงไม่นานพื้นที่บริเวณนั้นก็กลายเป็นนรกที่เต็มไปด้วยกองซากศพของเหล่าทหารกบฏ

กับการโจมตีระยะไกลที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้นั้น ทำให้พวกทหารที่ยังเหลือรอดไม่มีทางเลือกจึงต้องกระจายกำลังกันออกไปเพื่อหลบให้พ้นจากระยะของกระสุน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็อยู่ในเป็นไปตามแผนการของผม

ในกองทัพของศัตรูนั้น มีพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์อยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากถูกพวกเราจู่โจมล่ะก็ พวกนั้นจะต้องสั่งให้พวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ออกมาเป็นแนวหน้า เป็นโล่กำบังให้อย่างแน่นอน

และหลังจากนั้นไม่นาน ยูเมะจังที่คอยดูสถานการณ์ด้วยกริฟฟอนอยู่บนฟากฟ้าก็ได้ส่งข้อความมาหาผม ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ พวกนั้นเริ่มจัดรูปขบวนทัพเสียใหม่ โดยส่งพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ออกมาด้านหน้า ซึ่งผมก็ออกคำสั่งให้หยุดยิงในทันที

ความเร็วของพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์สูงกว่าเผ่ามนุษย์อย่างมาก นั่นจึงทำให้พวกเค้าใช้เวลาเพียงไม่นานก็วิ่งผ่านจุดที่พวกเราได้เตรียมพร้อมเอาไว้

เริ่มสร้างกำแพงได้!!

ผมออกคำสั่งไปยังหน่วยของอากาเนะจังที่ซุ่มอยู่บริเวณนั้น ซึ่งพวกเธอก็ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีในการสร้างกำแพงหินขึ้นมาขวางกั้นและปิดล้อมพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ เพื่อแยกพวกนั้นออกมาจากกำลังหลักของกองทัพกบฏ

กับกำแพงหินขนาดสูงกว่า 5 เมตรที่ปรากฏขึ้นตรงหน้านั้นในไม่กี่วินาทีนั้น ทำให้พวกทหารกบฏที่ตามมาด้านหลังเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก

ถึงเวลาของพวกนายแล้ว!! ไปเอาคืนกับสิ่งที่พวกมันได้ทำเอาไว้กับพวกนาย!! ฆ่าอย่าให้เหลือ!!

ผมออกคำสั่งไปยังเหล่าทาสมนุษย์สัตว์ที่ผมได้ช่วยเหลือพวกเค้าออกมาเมื่อหลายวันก่อน จากการฝึกฝนตลอด 7 วัน 7 คืนที่ผ่านมานั้น ในตอนนี้พวกเค้าได้กลายเป็นทหารชั้นยอดไปแล้ว

「「「「โอ้!!!」」」」

เสียงกู่ร้องของกองทหารมนุษย์สัตว์หลายเผ่าพันธุ์ดังก้องไปทั่วทุ่งราบเอลน่า ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันที่พวกเค้าบางคนต้องตาย แต่ก็ไม่มีใครแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา

เพื่อความอยู่รอด เพื่ออิสรภาพ เพื่อเผ่าพันธุ์ กองทหารมนุษย์สัตว์หลายร้อยนายที่เก็บกดทุกอย่างเอาไว้ในใจมาหลายปีได้บุกเข้าโจมตีกองทัพกบฏอย่างไร้ปราณี

เสียงดาบ เสียงหอก เสียงโล่เข้ากระทบกันดังกึกก้องไปทั่ว ด้วยกำลังใจกล้าแกร่งบวกกับอาวุธเหล็กกล้าชั้นดีที่พวกคนแคระช่วยกันทำขึ้นนั้น ทำให้กองทหารของพวกมนุษย์สัตว์เป็นฝ่ายเหนือกว่า

ส่วนเหตุผลที่ในครั้งนี้พวกผมไม่ได้ลุยเป็นกองหน้านั้นก็เพื่อให้เหล่าทาสมนุษย์สัตว์ได้มีความรู้สึกภาคภูมิใจ ความภูมิใจและเกียรติยศที่ได้สร้างประเทศขึ้นมาจากชัยชนะในสงครามด้วยมือของตัวเองนั้นมีค่ามากกว่าการรับมันมาจากผู้อื่น

ซึ่งหากพวกเค้าสามารถนำชัยชนะกลับมาได้ล่ะก็ ผมได้ให้สัญญาเอาไว้ว่าจะสร้างเมืองของพวกเค้าขึ้นมาให้ใหม่ เมืองแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ที่เคยถูกจักรวรรดิเอลติซทำลายลงเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

และเมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง กองทัพกบฏก็เริ่มทำการล่าลอย กองทัพกบฏกว่า 4000 นายที่บุกมานั้นในตอนนี้มีกำลังเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 1000 นายเท่านั้น

และก็แน่นอนว่าผมไม่คิดจะปล่อยให้พวกทหารที่เหลือรอดรวมถึงตัวการในครั้งนี้หนีรอดไปได้ และเพื่อจับเป็นบารอนเอลเก้นผมจึงสั่งให้โอลิเวียและจอมเวทของเธอช่วยกันสร้างเส้นทางปลอมๆขึ้นมา

ในเวลากลางคืนที่มืดมิดแถมยังเป็นช่วงชุนละมุนนั้น พวกกองทัพกบฏไม่มีทางแยกแยะหรือจำเส้นทางได้อย่างแน่นอน ดังนั้นแทนที่พวกนั้นจะหนีกลับไปยังเมืองเอเกียก็จะถูกล่อลวงไปตามเส้นทางปลอมๆที่พวกเราได้เตรียมเอาไว้

และเส้นทางที่ว่านั่นก็มีปาร์ตี้ของเจ้าอากิโอะ ปาร์ตี้ของไอโกะจัง และเหล่ากองทหารรักษาการณ์แห่งออร์ธรอสดักรออยู่ แต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบเพียงใด บารอนเอลเก้นก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ นั่นก็เพราะเจ้าหมอนั่นยังมีไพ่ตายเก็บซ่อนเอาไว้อยู่

มังกรค่ะทัตสึยะซัง เด็กสาวผมสีเงินที่อยู่ข้างกายบารอนเอลเก้นกลายเป็นมังกรสีดำขนาดใหญ่ไปแล้วค่ะ

ยูเมะจังส่งข้อความมาให้ผมในทันทีที่เธอเห็นเหตุการณ์ และเมื่อได้รับข้อความผมก็สั่งให้ทุกปาร์ตี้รีบตามไปสมทบในทันที พวกเราจำเป็นจะต้องเอาชนะเผ่าพันธุ์ดราเกียให้จงได้

10 ความคิดเห็น:

  1. วันนี้ขยันจังนะครับไรท์เตอร์ 2 ตอนกันหนำใจเลยทีเดียว เอาล่ะสิ มังกรสาวผมเงินออกมาแล้ว เทพทัตกับอากิโอะ ใครจะได้เด็กคนนี้ไปก่อนกันหน่อ?

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รีบเขียนก่อนจะหายไปเล่นเกมนะครับ ฮ่า ฮ่า
      หลังตอนนี้คงช้าลงแล้ว

      ลบ
    2. อย่าหายนานนะครับ ซัก 1-2 วันต่อตอนก็ยังดี ช่วงนี้หานิยายโดนใจอ่านยากมากๆ

      ลบ
    3. 1-2 วันต่อตอนนั่นไม่เรียกหายแล้วครับ 55555

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ29 มีนาคม 2559 เวลา 11:05

    นี่มัน...การรบของจิเอไตกับกองทัพของจักรวรรดินี่นา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นั่นสิครับ นี่ถ้ามังกรเปนเป็นมังกรไฟนี่คงคิดว่า
      เอาไอเดียมาจากเกทเลยนะเนี่ย

      ลบ
  3. หรืออากิมันจะได้เก็บแต้มกะมังกรอีก

    ตอบลบ
  4. จัดให้อากิโอะนะ ถ้ามีปีกและเขามังกรกะหางนะ ท่านอากิโอะไม่ปล่อยไปแน่นอน

    ตอบลบ