ช่วงเช้าของวันที่ 12 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836
「หมู่บ้านของเธอมีคนอยู่เท่าไหร่ล่ะ」
ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หากเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆล่ะก็แค่เพียงอาหารเล็กน้อยก็คงจะเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่คิดจะยกเสบียงอาหารของพวกเราให้กับคนอื่นเพียงเพื่อความต้องการส่วนตัว
「รวมพวกเด็กๆด้วยแล้วก็ 274 คนน่ะค่ะ....」
คุณหนูอาเรียตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
ดูเหมือนเธอจะลำบากใจที่จะพูดเรื่องพวกนี้ออกมา ไม่แน่ว่าบางทีเด็กๆที่เธอพูดถึงนั้นอาจจะกำลังอยู่ในอันตราย
「คนที่ไม่ทำงานก็ไม่สมควรจะได้รับอาหาร เธอเข้าใจเรื่องนี้รึเปล่า」
「..............ค่ะ」
เธอตอบรับคำพูดของผมออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
คงจะคิดว่าผมไม่ยอมแบ่งเสบียงให้แน่ๆงั้นสินะ
「นั่นก็หมายความว่า ถ้าผู้คนในหมู่บ้านของเธอยอมมาช่วยทำงานล่ะก็….」
「เอ๋!! ทำงาน มีงานที่พอจะให้พวกชาวบ้านและเด็กๆช่วยได้งั้นเหรอคะ」
「เรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลัง
ก่อนอื่นผมขอมัดจำก่อนก็แล้วกันนะ」
「..........อุ๊บ!!???」
ผมพูดพร้อมกับดึงคุณหนูอาเรียเข้ามากอด
แล้วค่อยๆลูบไล้เรือนผมอันงดงามของเธอก่อนจะบรรจงประทับริมฝีปากของผมลงไปบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ
「ไม่เลวเลยนะอาเรียจัง แต่ตอนนี้ต้องรีบจัดการเรื่องพวกชาวบ้านก่อน
เพราะงั้นพวกเราค่อยมาต่อกันคืนนี้นะ」
ความจริงผมก็อยากจะจับเธอกดลงบนเตียงในตอนนี้เลยเหมือนกัน
แต่พวกเรายังมีอีกหลายเรื่องให้ทำดังนั้นจึงจำเป็นต้องอดทนเอาไว้ก่อน
「ค......ค่ะ」
คุณหนูอาเรียตอบกลับมาด้วยท่าทางเขินอาย
ความน่ารักของเธอนั้นช่างเย้ายวนเป็นอย่างมาก
วันนี้ผมคงจะต้องรีบจัดการงานทั้งหมดให้เสร็จโดยเร็วเสียแล้ว
หลังจากนั้นผมก็ฝากให้ยูเมะจังและฮารุกะจังช่วยพาคุณหนูอาเรียกลับไปที่หมู่บ้าน
เนื่องจากในตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องรีบทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเตรียมการรบ
ผมจึงไม่ได้ติดตามไปด้วยเพราะต้องไปจัดการเรื่องอื่นๆ
สำหรับชาวบ้านและครอบครัวของคุณหนูอาเรียนั้นได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลืองานด้านจัดการเสบียง
ทำอาหาร ซักผ้า ทำความสะอาดและงานจิปาถะอื่นๆ
ในปราสาทฟีเรน่าตอนนี้มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมากทำให้งานมีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นพวกชาวบ้านจึงมีประโยชน์กับพวกเรามากทีเดียว
「มาเรียจัง ช่วยไปเตรียมที่พักกับคนจำนวน 274
คนให้ทีนะ」
「เข้าใจแล้วค่ะ」
เมื่อได้ยินคำสั่งของผม
มาเรียจังก็รีบไปจัดการให้ในทันที
ภายในปราสาทแห่งนี้มีห้องพักถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการหาที่พักให้กับคนจำนวน
274 คนจึงไม่ยากอะไรนัก และหากไม่เพียงพอพวกเราก็ยังสามารถสร้างที่พักเพิ่มขึ้นมาบริเวณใกล้ๆปราสาทได้อีก
แต่การที่ผมรับพวกชาวบ้านเข้ามาช่วยทำงานนั้น
ก็ทำให้เกิดข่าวลือต่างๆแพร่กระจายออกไปมากมาย ซึ่งก็แน่นอนว่าฝ่ายกองทัพกบฏเองก็ได้ข่าวนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ พวกกองทัพกบฏจะต้องคิดว่าพวกเรากำลังรวบรวมกำลังคนเพื่อมาใช้ในการทำสงคราม
ดังนั้นเพื่อไม่ให้พวกเราได้มีกำลังมากจนเกินไป
ฝ่ายกองทัพกบฏจึงรีบจัดเตรียมกองทัพ และเคลื่อนที่เข้ามาใกล้กับอาณาเขตของพวกเราในเวลาหลังจากนี้เพียงไม่กี่วัน
ช่วงกลางดึกของวันที่ 18 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836
กองทัพกบฏกว่า 4000 นายที่นำโดยบารอนเอลเก้นได้เคลื่อนที่เข้าประชิดแนวรบของเราซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทฟีเรน่าออกไปเพียง
20 กิโลเมตร พวกนั้นเลือกที่จะเคลื่อนทัพในเวลากลางคืนเพราะยากแก่การตรวจพบ แต่มันก็ไม่สามารถหลบพ้นสายตาของพวกเราที่สามารถมองเห็นในช่วงกลางคืนไปได้
「เริ่มโจมตีได้!!」
ผมส่งสัญญาณออกไปเพื่อเริ่มทำการโจมตี
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เพียงแค่กองทหาร
แต่พวกเรายังได้พัฒนาปืนกลอัตโนมัติพลังเวท ที่มีทั้งความแม่นยำและระยะยิงไกลมาติดตั้งเอาไว้บนไอออนฮาวล์
ระยะยิงหวังผลของปืนกลอัตโนมัติพลังเวทนั้นมากกว่า
1 กิโลเมตร
จึงทำให้พวกเราสามารถโจมตีใส่กองทัพกบฏได้โดยที่พวกนั้นไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้โต้ตอบ
ซึ่งก็ต้องขอบใจเอริจังและพวกเด็กสาวเผ่าคนแคระที่ช่วยกันคิดค้นจนสามารถเอามาใช้งานจริงได้ทันเวลา
ทหารกองหน้าของกองทัพกบฏร่วงลงไปจากนกเจลโล่คนแล้วคนเล่า
เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ เพียงไม่นานพื้นที่บริเวณนั้นก็กลายเป็นนรกที่เต็มไปด้วยกองซากศพของเหล่าทหารกบฏ
กับการโจมตีระยะไกลที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้นั้น
ทำให้พวกทหารที่ยังเหลือรอดไม่มีทางเลือกจึงต้องกระจายกำลังกันออกไปเพื่อหลบให้พ้นจากระยะของกระสุน
ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็อยู่ในเป็นไปตามแผนการของผม
ในกองทัพของศัตรูนั้น
มีพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์อยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากถูกพวกเราจู่โจมล่ะก็ พวกนั้นจะต้องสั่งให้พวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ออกมาเป็นแนวหน้า
เป็นโล่กำบังให้อย่างแน่นอน
และหลังจากนั้นไม่นาน
ยูเมะจังที่คอยดูสถานการณ์ด้วยกริฟฟอนอยู่บนฟากฟ้าก็ได้ส่งข้อความมาหาผม ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้
พวกนั้นเริ่มจัดรูปขบวนทัพเสียใหม่ โดยส่งพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์ออกมาด้านหน้า ซึ่งผมก็ออกคำสั่งให้หยุดยิงในทันที
ความเร็วของพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์สูงกว่าเผ่ามนุษย์อย่างมาก
นั่นจึงทำให้พวกเค้าใช้เวลาเพียงไม่นานก็วิ่งผ่านจุดที่พวกเราได้เตรียมพร้อมเอาไว้
「เริ่มสร้างกำแพงได้!!」
ผมออกคำสั่งไปยังหน่วยของอากาเนะจังที่ซุ่มอยู่บริเวณนั้น
ซึ่งพวกเธอก็ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีในการสร้างกำแพงหินขึ้นมาขวางกั้นและปิดล้อมพวกทาสเผ่ามนุษย์สัตว์
เพื่อแยกพวกนั้นออกมาจากกำลังหลักของกองทัพกบฏ
กับกำแพงหินขนาดสูงกว่า 5
เมตรที่ปรากฏขึ้นตรงหน้านั้นในไม่กี่วินาทีนั้น ทำให้พวกทหารกบฏที่ตามมาด้านหลังเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก
「ถึงเวลาของพวกนายแล้ว!! ไปเอาคืนกับสิ่งที่พวกมันได้ทำเอาไว้กับพวกนาย!!
ฆ่าอย่าให้เหลือ!!」
ผมออกคำสั่งไปยังเหล่าทาสมนุษย์สัตว์ที่ผมได้ช่วยเหลือพวกเค้าออกมาเมื่อหลายวันก่อน
จากการฝึกฝนตลอด 7 วัน 7 คืนที่ผ่านมานั้น
ในตอนนี้พวกเค้าได้กลายเป็นทหารชั้นยอดไปแล้ว
「「「「โอ้!!!」」」」
เสียงกู่ร้องของกองทหารมนุษย์สัตว์หลายเผ่าพันธุ์ดังก้องไปทั่วทุ่งราบเอลน่า
ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันที่พวกเค้าบางคนต้องตาย แต่ก็ไม่มีใครแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา
เพื่อความอยู่รอด เพื่ออิสรภาพ
เพื่อเผ่าพันธุ์ กองทหารมนุษย์สัตว์หลายร้อยนายที่เก็บกดทุกอย่างเอาไว้ในใจมาหลายปีได้บุกเข้าโจมตีกองทัพกบฏอย่างไร้ปราณี
เสียงดาบ เสียงหอก
เสียงโล่เข้ากระทบกันดังกึกก้องไปทั่ว
ด้วยกำลังใจกล้าแกร่งบวกกับอาวุธเหล็กกล้าชั้นดีที่พวกคนแคระช่วยกันทำขึ้นนั้น
ทำให้กองทหารของพวกมนุษย์สัตว์เป็นฝ่ายเหนือกว่า
ส่วนเหตุผลที่ในครั้งนี้พวกผมไม่ได้ลุยเป็นกองหน้านั้นก็เพื่อให้เหล่าทาสมนุษย์สัตว์ได้มีความรู้สึกภาคภูมิใจ
ความภูมิใจและเกียรติยศที่ได้สร้างประเทศขึ้นมาจากชัยชนะในสงครามด้วยมือของตัวเองนั้นมีค่ามากกว่าการรับมันมาจากผู้อื่น
ซึ่งหากพวกเค้าสามารถนำชัยชนะกลับมาได้ล่ะก็
ผมได้ให้สัญญาเอาไว้ว่าจะสร้างเมืองของพวกเค้าขึ้นมาให้ใหม่
เมืองแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ที่เคยถูกจักรวรรดิเอลติซทำลายลงเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
และเมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง กองทัพกบฏก็เริ่มทำการล่าลอย
กองทัพกบฏกว่า 4000 นายที่บุกมานั้นในตอนนี้มีกำลังเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 1000 นายเท่านั้น
และก็แน่นอนว่าผมไม่คิดจะปล่อยให้พวกทหารที่เหลือรอดรวมถึงตัวการในครั้งนี้หนีรอดไปได้
และเพื่อจับเป็นบารอนเอลเก้นผมจึงสั่งให้โอลิเวียและจอมเวทของเธอช่วยกันสร้างเส้นทางปลอมๆขึ้นมา
ในเวลากลางคืนที่มืดมิดแถมยังเป็นช่วงชุนละมุนนั้น
พวกกองทัพกบฏไม่มีทางแยกแยะหรือจำเส้นทางได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นแทนที่พวกนั้นจะหนีกลับไปยังเมืองเอเกียก็จะถูกล่อลวงไปตามเส้นทางปลอมๆที่พวกเราได้เตรียมเอาไว้
และเส้นทางที่ว่านั่นก็มีปาร์ตี้ของเจ้าอากิโอะ
ปาร์ตี้ของไอโกะจัง และเหล่ากองทหารรักษาการณ์แห่งออร์ธรอสดักรออยู่ แต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบเพียงใด
บารอนเอลเก้นก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้
นั่นก็เพราะเจ้าหมอนั่นยังมีไพ่ตายเก็บซ่อนเอาไว้อยู่
『มังกรค่ะทัตสึยะซัง
เด็กสาวผมสีเงินที่อยู่ข้างกายบารอนเอลเก้นกลายเป็นมังกรสีดำขนาดใหญ่ไปแล้วค่ะ』
ยูเมะจังส่งข้อความมาให้ผมในทันทีที่เธอเห็นเหตุการณ์
และเมื่อได้รับข้อความผมก็สั่งให้ทุกปาร์ตี้รีบตามไปสมทบในทันที
พวกเราจำเป็นจะต้องเอาชนะเผ่าพันธุ์ดราเกียให้จงได้
วันนี้ขยันจังนะครับไรท์เตอร์ 2 ตอนกันหนำใจเลยทีเดียว เอาล่ะสิ มังกรสาวผมเงินออกมาแล้ว เทพทัตกับอากิโอะ ใครจะได้เด็กคนนี้ไปก่อนกันหน่อ?
ตอบลบรีบเขียนก่อนจะหายไปเล่นเกมนะครับ ฮ่า ฮ่า
ลบหลังตอนนี้คงช้าลงแล้ว
อย่าหายนานนะครับ ซัก 1-2 วันต่อตอนก็ยังดี ช่วงนี้หานิยายโดนใจอ่านยากมากๆ
ลบ1-2 วันต่อตอนนั่นไม่เรียกหายแล้วครับ 55555
ลบนี่มัน...การรบของจิเอไตกับกองทัพของจักรวรรดินี่นา
ตอบลบนั่นสิครับ นี่ถ้ามังกรเปนเป็นมังกรไฟนี่คงคิดว่า
ลบเอาไอเดียมาจากเกทเลยนะเนี่ย
หรืออากิมันจะได้เก็บแต้มกะมังกรอีก
ตอบลบขอบคุณจ้า :3
ตอบลบขอบคุณจ้า :3
ตอบลบจัดให้อากิโอะนะ ถ้ามีปีกและเขามังกรกะหางนะ ท่านอากิโอะไม่ปล่อยไปแน่นอน
ตอบลบ