ตอนที่ 55 อดีตพี่สะใภ้และการขยายอาณาเขต


-- มุมมองของยูฟีน่า --

ช่วงบ่ายของวันที่ 7 เดือน 4 ศักราชเอลติซปีที่ 837             
                                          
ชั้น ยูฟีเนส ออร์แกรม เวล ออร์ฟีน่า ผู้ปกครองอาณาจักรออร์ฟีน่า ในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเอกสารรายงานภายต่างๆของอาณาจักรอยู่ภายในห้องทำงาน

นี่ก็ผ่านมามากกว่า 4 เดือนแล้วตั้งแต่ที่ชั้นและพวกท่านจอมเวทได้ทำสงครามกับกองทัพกบฏของจักรวรรดิเอลติซ อาณาจักรออร์ฟีน่าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วเคียงคู่ไปกับอาณาจักรออร์ธรอสบนผืนแผ่นดินที่ได้แย่งชิงเอามา

ที่พัฒนาไปมากที่สุดนั้นก็คงไม่พ้นด้านกำลังทหาร ชั้นมีความมั่นใจมากเลยว่ากองทหารของอาณาจักรออร์ฟีน่าสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนหากต้องทำสงครามกับอาณาจักรต่างๆบนทวีปอื่นๆ
                                                                               
กองทัพทหารราบติดเกราะของอาณาจักรออร์ฟีน่าในตอนนี้มีมากกว่า 10,000 นายแล้ว ทั้งอาวุธและชุดเกราะเองก็เป็นของระดับสูงที่ผลิตขึ้นมาจากเหล็กดำ
                                                         
นอกจากนั้นอาณาจักรของเรายังได้ฝึกฝนกองทหารที่สามารถทำการรบบนฟากฟ้าอีกมากกว่า 3,000 นาย โดยที่ความเร็วในการเคลื่อนทัพและพลังในการสู้รบของพวกเค้านั้นเรียกได้สูงกว่ากองพันอัศวินไวเวิร์นของจักรวรรดิเอลติซแล้วด้วย

ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้ชื่อเสียงของอาณาจักรออร์ฟีน่าในตอนนี้เรียกว่าโด่งดังไปทั่วโลก และถึงแม้เรื่องราวส่วนใหญ่ของอาณาจักรเราจะถูกบดบังเพราะความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรออร์ธรอส แต่ในเวลาก็มีอาณาจักรเล็กๆมากมายได้ส่งราชทูตเดินทางเข้ามาเจรจาแลกเปลี่ยนและเริ่มสร้างความสัมพันธุ์อันดีต่อกัน

นอกจากด้านกำลังทหาร อาณาจักรออร์ฟีน่าในตอนนี้ก็ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องผลิตผลทางการเกษตรและเหมืองแร่ ทั้งเมล็ดพันธ์รุนปรับปรุง ทั้งความรู้ ทั้งอุปกรณ์เวท และยังสิ่งของอีกหลายๆอย่างที่พวกท่านจอมเวทและพวกคนแคระช่วยกันพัฒนาขึ้นนั้นล้ำหน้าไปกว่าอาณาจักรบนทวีปอื่นๆมากนัก

ผลผลิตทางการเกษตรของอาณาจักรออร์ฟีน่าในตอนนี้มีขนาดใหญ่กว่าของจักรวรรดิเอลติซกว่าสองเท่า ตัวคุณภาพเองก็เรียกได้ว่าสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก

ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาณาจักรของเราได้ปรับเปลี่ยนที่ราบเกือบทั้งหมดภายในอาณาจักรได้ให้เป็นพื้นที่สำหรับทำการทำไร่และเพาะปลูก ตามหุบเขาที่มีแหล่งแร่ต่างๆก็ได้ส่งช่างฝีมือระดับสูงและพวกท่านจอมเวทไปช่วยกันก่อสร้างเหมืองแร่และเส้นทางสำหรับทำการขนส่งขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดหย่อน

แต่ไม่ว่าจะเพิ่มพื้นที่ในการเกษตรกรรมและเหมืองแร่มากเท่าไหร่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในปัจจุบัน

นั่นก็เพราะทางอาณาจักรออร์ธรอสนั้นมีความต้องการผลผลิตคุณภาพสูงจำนวนมากสำหรับการแปรรูป พ่อค้ารายใหญ่จากนานาประเทศที่มาติดต่อหาซื้อสินค้าที่เมืองท่าออร์วิสในตอนนี้ก็แทบจะกลายเป็นสงครามกลางเมืองเพื่อแย่งชิงสินค้าระหว่างพ่อค้าของแต่ละประเทศกันแล้ว

ถึงแม้ฟังดูแล้วเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ผลประโยชน์และรายได้การที่อาณาจักรออร์ฟีน่าได้รับมาอย่างไม่ขาดสายนั้นก็ถือว่าคุ้มค่า นั่นก็เพราะมันทำให้สามารถหล่อเลี่ยงผู้คนทั่วทั้งอาณาจักรได้โดยที่ไม่มีผู้ใดต้องมาอดทนต่อสู้กับความอดอยากเหมือนกับสมัยที่ยังถูกปกครองโดยจักรวรรดิเอลติซอีก

ท่านหญิงยูฟีเนสคะ ท่านหญิงวิคตอเรียได้เดินทางมาถึงเรียบร้อยและกำลังรอการเข้าพบอยู่ที่ห้องรับรองแล้วค่ะ

รีน่าซังเคาะประตูพร้อมกับรายงานมาจากอีกด้านหนึ่งของประตูห้องทำงาน

เข้าใจแล้วค่ะ รีน่าซังช่วยไปบอกท่านพี่หญิงวิคตอเรียให้รออีกซักครู่นะคะ

ชั้นตอบกลับไปพร้อมกับจัดการเก็บเอกสารสำคัญต่างๆให้เข้าที่ แขกที่มาขอเข้าพบในวันนี้คือท่านพี่หญิงวิคตอเรีย อดีตภรรยาของท่านพี่โรเดริกที่ได้หย่าร้างกันไปเมื่อ 2 ปีก่อน

เหตุผลที่ท่านพี่หญิงวิคตอเรียถูกบังคับให้หย่าร้างนั้นก็เป็นเพราะท่านพี่หญิงไม่มีบุตรเสียที ตามจริงแล้วท่านพี่โรเดริกนั้นไม่ได้มีความต้องการหย่าร้างกับท่านพี่หญิงวิคตอเรียเลยแม้แต่น้อย

แต่การที่ภรรยาของผู้ที่จะมารับหน้าที่สืบทอดตระกูลคนต่อไปไม่มีบุตรนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลโรเซนเบิร์กต้องเสื่อมเสีย เพราะเหตุนั้นเองจึงทำให้ท่านพี่หญิงวิคตอเรียถูกบังคับให้หย่าร้างและถูกส่งกลับไปยังตระกูลเวลิส

ท่านหญิงยูฟีเนส ออร์แกรม ที่ให้ดิชั้นได้โอกาสเข้าพบในเวลาที่กำลังยุ่งเช่นนี้ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก.....

เมื่อชั้นมาถึงยังห้องรับรอง ท่านพี่หญิงวิคตอเรียก็โค้งตัวลงอย่างสง่างามเพื่อทักทาย แต่การที่ท่านพี่หญิงกล่าวทักทายด้วยท่าทางเหินห่างแบบนี้ทำให้ชั้นรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก

อะไรกันล่ะคะ ไอ้ท่าทางสุภาพแบบนั้นน่ะ!!!

ชั้นโผเข้าหาท่านพี่หญิงวิคตอเรีย โอบกอดและซุกหน้าเข้าที่หน้าอกขนาดใหญ่ของท่านพี่หญิงด้วยความดีใจ นี่ก็ผ่านมาตั้ง 2 ปีแล้วที่พวกเราไม่ได้เจอกัน

ทะ ท่านหญิงยูฟีเนส.....!!!

เมื่อถูกชั้นพุ่งเข้ากอด ท่านพี่หญิงวิคตอเรียจึงแสดงอาการตกใจออกมาในทันที

เรียกยูฟี่เหมือนเดิมก็ได้นะคะ

จะ ดีเหรอคะ แบบนั้นมัน......

พูดอะไรกันคะ ชะ ชั้นน่ะ คิดถึง คิดถึงท่านพี่หญิงมาตลอด คิดถึงมากที่สุดเลยนะคะ ท่านพี่หญิงวิคตอเรีย

สมัยที่ท่านพี่หญิงวิคตอเรียอาศัยอยู่ที่ตระกูลโรเซนเบิร์กนั้น ท่านพี่หญิงได้คอยช่วยเหลือและดูแลชั้นอยู่เสมอ ตัวชั้นนั้นรักท่านพี่หญิงวิคตอเรียราวกับพี่สาวๆแท้ๆ เพราะงั้นในวันที่ชั้นได้รู้ว่าท่านพี่หญิงถูกบังคับให้กลับไปยังตระกูลแต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยนั้น เป็นเรื่องที่ชั้นรู้สึกเสียใจเสมอมา

พี่เองก็คิดถึงเธอเหมือนกันนะ ยูฟี่จัง ผ่านมาแค่สองปีโตเป็นสาวสวยแล้วนี่นา

ท่านพี่หญิงพูดพร้อมกับโอบกอดและค่อยๆลูบผมของชั้นอย่างอ่อนโยน

ตกใจสินะคะ ตอนนี้ชั้นกลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวแล้ว ทัตสึยะซามะอ่อนโยนกับชั้นมากเลยล่ะค่ะ

ชั้นยืดอกพูดออกไปด้วยความภาคภูมิใจ คุณว่าที่สามีของชั้นทัตสึยะซามะนั้นอ่อนโยนกับชั้นมาก เค้าไม่เคยที่จะบังคับหรือใช้อำนาจมาสั่งให้ชั้นทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ คอยเอาอกเอาใจและคอยคิดถึงความรู้สึกของชั้น เป็นคุณว่าที่สามีที่ชั้นรักมากที่สุด

อาร๊า วิเศษไปเลยนะจ๊ะ พี่เองก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับทัตสึยะซามะและพวกท่านจอมเวทมามากเลยเหมือนกันนะ

จากนั้นพวกเราก็พูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน ชั้นเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นภายในอาณาจักรให้กับท่านพี่หญิงได้ฟัง ท่านพี่หญิงเองก็เล่าเรื่องในช่วงสองปีมานี้ให้กับชั้นฟังเช่นเดียวกัน

จะว่าไปแล้ว วันนี้ท่านพี่หญิงมีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่าคะ......

เพราะพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจึงทำให้ลืมเรื่องสำคัญไป พอนึกขึ้นได้ว่าการที่ท่านพี่หญิงมาพบกับชั้นนั้นอาจจะมีเรื่องสำคัญจึงได้ถามออกไป

เรื่องนั้น....เอ่อมันก็........

ท่านพี่หญิงวิคตอเรียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นก่อนจะหยิบเอาของสิ่งหนึ่งออกมาจากห่อผ้าขึ้นมา

มีดสั้นเล่มนี้......หรือว่าจะเป็น.....สมบัติประจำตระกูลเวลิส.....

มีดสั้นที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะเป็นมีดสั้นสองคมขนาดปานกลางที่มีการสลักลวดลายอันงดงามอยู่บนด้ามจับ

พี่เข้าใจว่ามันคงทำให้ลำบากใจ.....แต่สถานการณ์ของพวกเราในตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก.......เพราะงั้นจึงอยากจะให้ช่วยพิจารณาและรับเอาตระกูลเวริสและพวกชาวเมืองเข้าไปอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรออร์ฟีน่าด้วยได้ไหมจ๊ะ.....

ท่านพี่หญิงวิคตอเรียพูดพร้อมกับคุกเข่าลุกกับพื้นและยกมีดสั้นขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง การมอบสมบัติประจำกูลให้นั้นถือเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจในการเข้าเป็นข้ารับใช้ของผู้ที่มีบรรดาศักดิ์สูงกว่า แต่ในกรณีนี้แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย นั่นก็เพราะตระกูลเวริสนั้นไม่ได้เป็นขุนนางของอาณาจักรออร์ฟีน่าแต่เป็นขุนนางของจักรวรรดิเอลติซ

ลุกขึ้นก่อนเถอะค่ะ ท่านพี่หญิง…..

แต่ถึงชั้นจะพูดออกไปแบบนั้นท่านพี่หญิงก็ยังคงคุกเข่าอยู่ แววตาของท่านพี่หญิงนั้นแสดงออกถึงความมุ่งมั่น แต่หากชั้นรับเอาไว้แบบนี้ล่ะก็ ทั้งท่านพี่หญิงวิคตอเรียและตระกูลของเธอจะต้องเสื่อมเสียเกียรติและถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศของจักรวรรดิ กับตระกูลขุนนางที่ยอมไปเข้าร่วมกับอาณาจักรของศัตรูง่ายๆนั้นจะไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ

ไม่ต้องห่วงไปหรอกจ๊ะยูฟี่ พวกเราทุกคนในตระกูลเวริสได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว เพราะงั้นต่อให้หลังจากนี้ต้องทำสงครามจักรวรรดิ ต่อให้ต้องถูกลอบสังหาร หรือแม้แต่ถูกประหารทั้งตระกูลพวกเราก็ไม่คิดที่จะเสียใจ ขอเพียงแค่สามารถปกป้องผู้คนในเมืองเวริสเท่านั้น เพราะงั้นก็ขอร้องล่ะจ๊ะยูฟี่.....

ท่านพี่หญิงวิคตอเรียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ภายในแววตานั้นแสดงออกถึงความเจ็บปวด ชั้นเองไม่รู้ว่าสถานการณ์ของตระกูลเวริสเป็นอย่างไร แต่หากมันทำให้ท่านพี่ต้องยอมทำถึงเพียงนี้ชั้นก็พอเดาได้ว่าสถานการณ์คงแย่มาก

ท่านพี่หญิงวิคตอเรียคะ ถึงแม้ตัวชั้นจะเป็นผู้ปกครองอาณาจักรออร์ฟีน่าก็ตามที แต่อำนาจในการเจรจาหรือการยึดครองพื้นที่ของขุนนางต่างประเทศนั้นเป็นของอาณาจักรออร์ธรอสค่ะ

เป็นเช่นนั้นหรือจ๊ะ......

ท่านพี่หญิงวิคตอเรียก้มหน้าลงพึมพำในทันทีที่ได้ยินคำพูดของชั้น

เพราะงั้นก็ช่วยลุกขึ้นก่อนนะคะ ตามกำหนดการที่ชั้นได้รับแจ้งมา คิดว่าทัตสึยะซามะน่าจะเดินทางกลับมาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิแอสกรัมในวันนี้…..จะว่าไปแล้ว.....ตระกูลเวริสยังมีเด็กสาวที่ยังไม่แต่งงานเหลืออยู่กี่คนงั้นเหรอคะ.....?

ชั้นถามออกไปด้วยรอยยิ้ม ถ้าหากคิดจะเจรจากับทัตสึยะซามะล่ะก็ คงต้องเตรียมของขวัญที่ทำให้ถูกใจเอาไว้ให้ซักหลายคน......

5 ความคิดเห็น:

  1. ทางนี้ก็มีคนดำเนินแผนการเพิ่มสาวอีกคนด้วยครับ ท่าน ผบ. !!! //ขอตัวไปซ้อมยิงไรเฟิลไว้เก็บใครบางคนในเรื่องแปบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไรเฟิลมันเบาไป ต้องเครื่องบินทิ้งระเบิดสิ

      ลบ
    2. ระเบิดกันเลยทีเดียว

      ลบ
  2. อีก 3 ตอนจบบท ผมอด รอไม่อ่านมาตั้งแต่ตอนเริ่มสงคราม ทนต่อไป T^T อีกแค่ 3ตอนจะได้อ่านแล้ววว

    ตอบลบ