ตอนที่ 58 ข่มขู่




ช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 19 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 836

แต่ละปาร์ตี้เริ่มทำการรายงานผลเข้ามา ปาร์ตี้ของฮารุกะจังและยูเมะจังที่เข้าโจมตีกองทหารรักษาการณ์บนกำแพงเมืองทิศตะวันออกนั้น พวกเธอได้เข้ายึดหอควบคุมและคลังอาวุธเอาไว้ได้ทั้งหมด พวกทหารที่ยอมแพ้ต่างก็ถูกจับมัดและขังรวมกันเอาไว้

จากนั้นพวกเธอก็ทำการปิดผนึกประตูเมืองที่ถูกยูกะจังทำลายไปด้วยเวทมนต์ Create Stone และปล่อยให้ทหารเผ่ามนุษย์สัตว์ 100 คนทำการเฝ้าเอาไว้ ก่อนจะรีบรุกคืบไปยังประตูเมืองทิศใต้

ที่ประตูทิศใต้ของเมืองในตอนนี้มีพวกชาวเมืองจำนวนมากกำลังพากันอพยพเพื่อหนีออกไปจากเมือง สำหรับพวกที่สามารถหนีออกไปได้แล้วก็คงต้องปล่อยไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่พวกที่เหลือนั้นผมได้ฝากให้ยูเมะจังสั่งให้ทุกคนกลับไปที่บ้าน นั่นก็เพราะพวกเรามีความจำเป็นที่จะต้องสำรวจและจัดการเรื่องต่างๆอีกมากมาย

ซึ่งก็แน่นอนว่าหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็ยินดีที่ปล่อยชาวเมืองทุกคนที่ต้องการจะอพยพ ให้สามารถย้ายออกไปยังเมืองอื่นๆได้โดยไม่มีการบังคับ

จากนั้นเพียงไม่นานประตูเมืองทิศใต้ก็ถูกปิดผนึกด้วยเวทมนต์ Create Stone เช่นเดียวกับประตูทางทิศตะวันตก และถ้าหากรวมกับทางลับใต้ปราสาทเอเกียที่ยูกะจังและนานามิจังคอยเฝ้าอยู่แล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าในตอนนี้เมืองเอเกียถูกพวกเราปิดเส้นทางเข้าออกทางบกโดยสมบูรณ์

ส่วนทางปาร์ตี้ของไอริจังและเคย์โกะจังนั้น ดูเหมือนพวกเธอจะมีปัญหานิดหน่อยในการเจรจากับเรือบรรทุกสินค้าของพวกพ่อค้า

ถึงแม้ว่าจะท่าเรือของเมืองเอเกียจะเป็นท่าเรือสำหรับกองทัพ แต่ดูเหมือนจะมีพวกพ่อค้าบางส่วนที่มีเส้นสายกับพวกขุนนางเข้ามาใช้งานอยู่ด้วย และพ่อค้าพวกนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ยอมให้พวกเธอเข้าไปตรวจค้น

ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก่อน ดังนั้นผมจึงได้ฝากเรื่องนี้ให้กับไอโกะจังเป็นคนไปจัดการ ถ้าหากเป็นไอโกะจังล่ะก็ ผมไม่คิดว่าจะมีใครกล้าขัดขืนหรือคิดเล่นตุกติกอะไรกับเธออย่างแน่นอน

ไอโกะจังนั้นหน้าที่ของเธอคือการรวบตัวพวกขุนนางคนสำคัญที่อยู่ในเมือง ซึ่งเธอก็สามารถเข้าไปควบคุมตัวขุนนางทุกคนที่ยูฟีน่ามอบรายชื่อไปให้ และนำตัวมาเข้าพบพวกเราที่ปราสาทเอเกียได้อย่างครบถ้วน สำหรับการทำงานของเธอนั้น เรียกว่าไร้ที่ติเลยทีเดียว

สุดท้ายก็คือปาร์ตี้ของอากิโอะและยูยะ ในการบุกเข้ายึดทำการกองอัศวินในครั้งนี้นั้น เจ้าอากิโอะได้บุกเข้าไปถล่มซะราบ ถึงแม้พวกนั้นจะพยายามต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ สุดท้ายก็ล้มตายกันนับไม่ถ้วน

แต่เจ้าอากิโอะก็ยังพอออมมือเอาไว้บ้าง จึงยังเหลือพวกอัศวินสาวๆหลายคนที่ยังรอดชีวิต และถูกส่งมาให้ผมที่ปราสาท แต่ในตอนนี้ผมยังไม่มีเวลาไปดูแลพวกเธอ ดังนั้นจึงยกเรื่องนี้ให้ยูฟีน่าช่วยจัดการให้

ในตอนนี้น่ะผมกำลังจัดการเรื่องสำคัญอยู่ เรื่องสำคัญที่ว่านั้นก็เกี่ยวข้องกับเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับผม

เด็กสาวคนนี้ก็คือ เวลล่า ลูกสาวของบรารอนวิลเลี่ยม และภรรยาอย่างถูกต้องของบารอนเอลเก้น ผู้ปกครอง.....ไม่สิ คงจะต้องเรียกว่าอดีตผู้ปกครองเมืองเอเกียแล้วล่ะนะ

ไม่ชอบงั้นเหรอ ผมคิดว่าเด็กสาวน่ารักอย่างเธอจะชอบน้ำผลไม้แบบนี้ซะอีกนะ

ตั้งแต่ถูกพาตัวเข้ามาในห้องรับรอง เธอก็เอาแต่นั่งหน้าบึ้งอยู่ตลอด เธอไม่ยอมดื่มน้ำผลไม้ และยังไม่ยอมทานคุ๊กกี้ช็อคโกแลต ที่ผมให้คาโอริจังช่วยเตรียมมาให้เลยแม้แต่นิดเดียว

อยากจะทำอะไรก็ทำเลยสิ!! จะมัวมาเสียเวลาทำเรื่องไร้สาระอยู่ทำไมล่ะ!!

เวลน่าตะคอกใส่ผมด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะเชิดหน้าใส่ ดูเหมือนเธอจะพอเข้าใจ ว่าทำไมเชลยศึกอย่างเธอถึงได้ถูกพาตัวมาหาผมในเวลาแบบนี้

จริงอยู่ว่ากับเด็กสาวน่ารักอย่างเธอนั้น ผมก็อยากจะได้มาครอบครอง ไหนๆก็ได้มีโอกาสมาอยู่ในโลกที่สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจ ผมจึงอยากจะครอบครองเด็กสาวทุกคนที่ผมต้องการ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่ชอบที่จะไปบังคับหรือขืนใจพวกเธอ

เห......ทั้งๆที่เธอยังอายุแค่ 13 ปี แต่กลับคิดถึงแต่เรื่องอย่างว่างั้นเหรอ......

ก แกว่าไงนะ!! ไอพวกชั้นต่ำ!! ผู้ชายอย่างแกมันก็ดีแต่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นไม่ใช่เหรอไง!!

ผมแค่จะพูดล้อเล่นนิดหน่อย แต่ดันถูกเธอด่ากลับมาซะขนาดนั้น ทั้งๆที่หน้าตาก็ออกจะน่ารักแท้ๆ ถ้ายอมเป็นเด็กดีล่ะก็ ผมคิดว่าจะให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขแท้ๆ

ทั้งๆที่ในตอนนี้เธออยู่ในฐานะเชลยศึกที่จะถูกฆ่าทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ยังกล้าพูดกับผมขนาดนี้ ใจกล้าไม่เบานี่นา....

ผมพูดพร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม แน่นอนว่าที่พูดไปนั้นก็เพื่อจะขู่เด็กสาวอย่างเธอ แต่ทั้งๆที่ได้ยินแบบนั้น เธอกลับไม่มีสีหน้าหวาดกลัวความตายที่กำลังจะถูกมอบให้เลย

......เอาเลยสิ จะฆ่าชั้นก็ทำได้เลย!! ดีเหมือนกัน ชั้นเองก็เบื่อที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่เพื่อเป็นของเล่นให้กับพวกผู้ชายอย่างนายแล้ว!!

ผมเองก่อนหน้านี้ก็เคยได้ฟังเรื่องราวของเธอมาจากยูฟีน่าอยู่บ้าง ดูเหมือนเธอจะถูกพ่อบังคับให้มาแต่งงาน เพื่อเป็นตัวประกันในการขอความสนับสนุนด้านกำลังทหารจากบารอนเอลเก้น

และดูจากท่าทางของเธอก็ทำให้ผมพอเข้าใจ เธอคงจะต้องฝืนใจและอดทนมามาก สำหรับโลกใบนี้นั้น ลูกสาวขุนนางส่วนใหญ่แทบจะไม่มีทางเลือกในการแต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก พวกเธอมักจะถูกบังคับให้แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลเป็นส่วนใหญ่

เห.....เธอไม่เสียดายชีวิตเลยงั้นสินะ.......อืมม.....งั้นผมจะส่งเธอไปขายเป็นทาส...........ไม่สิ ส่งเธอไปให้พวกมอนสเตอร์น่าเกลียดบนภูเขาน่าจะดีกว่าล่ะมั้ง......

พอได้ยินคำพูดของผมในครั้งนี้สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

...........ข...เข้าใจแล้ว..........

เวลน่าใช้มือข้างหนึ่งปาดน้ำตาก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ กับภาพของเด็กสาวที่กำลังปาดน้ำตรงหน้านั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกต้องการเธอมากขึ้น

ทั้งๆที่พยายามฝืนทำตัวเข้มแข็ง แต่ภายในกลับเปราะบาง เป็นเด็กสาวน่ารักที่ผมอยากจะได้เธอมาครอบครอง

.......ผมแค่ล้อเธอเล่นน่ะ…….พวกเราจะมาคุยกันดีดีหน่อยไม่ได้เหรอ......

ผมเดินเข้าไปใกล้และยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับเธอ

.................ต้องการ...............อะไร......................

เวลน่าเงยหน้าขึ้นมามองผมช้าๆ ใบหน้าของเด็กสาวที่เคยงดงามในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

ผมค่อยๆยื่นมือไปลูบเรือนผมของเธอช้าๆอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดออกไปว่า

นั่นสินะ....สิ่งที่ผมต้องการ..............ก็คงเป็นหัวใจอันแสนบริสุทธิ์ของเธอ..........

อย่ามาพูดบ้าๆนะ!! ใครจะไปชอบคนที่คิดจะส่งชั้นไปให้กับพวกมอนสเตอร์กัน!!

แล้วผมก็ถูกเธอตะคอกใส่อีกครั้ง กับเด็กผู้หญิงเอาใจยากคนนี้ เห็นทีคงจะต้องใช้เวลาอีกมาก กว่าจะสามารถทำให้เธอยอมเปิดใจให้ได้

ดังนั้นผมจึงปล่อยเธอไว้ตามลำพัง และลงไปหายูกะจังที่กำลังเฝ้าทางลับใต้ดินที่เชื่อมต่อกับภายนอก

ไม่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นสินะ ยูกะจัง

เรื่องแปลกๆไม่มีหรอกค่ะ แต่พอลองสำรวจห้องต่างๆดู ชั้นก็เจอหนังสือแปลกๆที่น่าสนใจเข้าน่ะค่ะ

ยูกะจังพูดพร้อมกับยื่นหนังสือเล่มหนึ่งมาให้กับผม ภายในทางลับใต้ดินนั้น นอกจากจะมีทางเชื่อมออกไปด้านนอกเมืองแล้ว มันก็ยังมีห้องเก็บของอยู่อีกหลายห้อง และหนึ่งในนั้นก็มีห้องหนึ่ง ที่ได้เก็บรวบรวมหนังสือจำนวนมากเอาไว้

ในโลกนี้หนังสือเป็นสิ่งมีค่าที่หาได้ยากมาก หนังสือทุกเล่มถูกผลิตขึ้นมาด้วยการเขียนมือ ดังนั้นถึงแม้จะเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเหมือนกันแต่มันก็อาจจะมีหลายส่วนที่แตกต่าง

เห....แปลกงั้นเหรอ........นี่มัน!!

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ค่อนข้างจะเก่ามาก ตัวอักษรในแต่ละหน้านั้นเลือนรางจนแทบจะอ่านไม่ออก.....แต่หลังจากเปิดดูด้านในแล้วผมก็พบว่ามันแปลกจริงๆ

แปลกใช่มั๊ยล่ะคะ ถึงแม้ตั้งแต่มาอยู่ในโลกนี้จะไม่เคยเห็นหนังสือมาก่อน แต่พวกตัวอักษรในใบปลิวโฆษณา หรือเมนูอาหารตามร้านค้าต่างๆก็จะใช้อักษรเฉพาะที่มีแต่ในโลกนี้ แต่ว่าในหนังสือเล่มนี้กลับถูกเขียนด้วยภาษาอังกฤษ...............อุ!!

ทำได้ดีมากเลยยูกะจัง แบบนี้ผมก็ต้องให้รางวัลเธอสินะ........

ผมพูดพร้อมกับดึงยูกะจังเข้ามาในอ้อมกอด ซึ่งมันก็ทำให้เธอตกใจเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดจะขัดขืน และพูดออกมาเบาๆ

........เอ่อ......คือ..........จะดีเหรอคะ............ยังมีเด็กสาวที่สวยกว่าชั้นอีกหลายคนกำลังรออยู่นะคะ.........

เธอไม่ชอบผมเหรอ ยูกะจัง

กับผู้ชายที่เอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยง เพื่อช่วยชั้นออกมาจากขุมนรก กับทัตสึยะซังแล้ว........ไม่มีทางที่ชั้นจะไม่ชอบหรอกค่ะ

ยูกะจังตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ และนั่นก็ทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นมา ผมจึงอุ้มยูกะจังเข้าไปในห้องมืดๆแห่งหนึ่ง และนั่นก็ทำให้เช้าวันนี้ กลายเป็นรุ่งเช้าที่สดใสไปในทันที
 

9 ความคิดเห็น:

  1. ตอนหน้าจะเป็นบทสรุป หรือก็คือตอนสุดท้ายของบบที่ 2 นี้แล้วนะครับ
    ซึ่งหลังจากเขียนตอนหน้าแล้ว คงจะต้องหายตัวยาวไปเตรียมพลอตเรื่องของบทที่ 3 อีกครับ

    ตอบลบ
  2. ชิ เทพทัตมันไม่ใช่สาย NTR เต็มขั้นรึนี่ แต่ไม่เป็นไร เพราะยังไงก็เก็บ 1 ในนางเอกได้อีกคนแล้ว

    ปล. หายไปนานมากจนเกือบลงแดงตาย รีบกลับมาลงต่อไวๆ นะครับ

    ตอบลบ
  3. นี่ก็หายไปนานนะตัว ยังจะหายไปอีกเหยอ

    แต่ว่าทัตซึหมีกะอากิหื่นนี่ มันแข่งเกมส์ล่าแต้มกันอยู่หรือเปล่าหว่า

    ไม่มีการยอมกันแม้แต่น้อย

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณจ้า อย่าหายไปนานนะ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณจ้า อย่าหายไปนานนะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ13 เมษายน 2559 เวลา 14:50

    ขอบคุณครับ เจ้าอากิ...พวกตัวผู้ฆ่าซะเหี้ยนเลย ยังดีที่ในนั้นมีสาวๆถึงได้มีคนรอดมาบ้าง ไม่งั้นก็ตายทั้งหน่วย

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ครับ เตรียมพลอตเรื่องของ บทที่3 แต่อย่าหายไปนานนะครับ เดียวคนอ่านลงแดงแย่ครับ

    ตอบลบ
  8. เทพอากิเน้นสายสัดเวท เทพทัตเน้นโลลิ

    ตอบลบ